มีตุ่มใสขึ้นที่ริมฝีปากช่วยทีครับ

สวัสดีครับ ผมมีอารการตุ่มใสขึ้นที่ริมฝีปากสมีอาการแสบร้อน ปากตึงบวม เมื่อขยับหรือ ยู่ปากแล้วตุ่มใสนั้นจะแตกครับ แล้วก็จะขึ้นใหม่เรื่อยๆ เป็นแบบนี้มา 4-5 ปี แล้วครับ
  ย้อนไปที่อาการเริ่มแรกนะครับ มีอยู่ช่วงหนึงผมแปรงฟันแล้วก็ขัดริมฝีปากไปด้วยครับ(ใช้แปลงสีฟันและยาสีฟันนั้นแหล่ะครับ *ทำเพราะอยากปากขาว*) ทำได้ประมาน1-2อาทิตย์ หลังจากนั้นผมก็ได้ไปเที่ยวน้ำตกก้มีการดำน้ำเล่นกันกับเพื่อนด้วย พอกลับมาก้พบตุ่มใสขึ้นที่ขอบริปฝีปาก1จุด ก็กดไปครับคิดว่าเป็นสิว หลังจากนั้นมันก็ขึ้นมาเรื่อยๆเลยครับมีอาการปวมของผิวหนัง แสบ ร้อนครับ ลามมาตรงมุมปากด้วย ก็เลยพยามหาวิธีรักษาและไปหาหมอผิวหนังหลายที่ก้ไม่หายครับ จนไปเจอที่คลินิกแพทย์ผิวหนังที่หนึ่ง ก็ได้ตรวจและบอกอาการกับหมอท่านไปครับ ตอนนั้นปากผมบวมมากๆแวก้มีสีคล้ำมาก หมอก้ให้ยาทาบรรเทาริมฝีปากดำ และยากินมาครับ **ถ้าจำไม่ผิด หมอบอกว่ายาตัวนี้กินมากไม่ดีกับตับหรืออะไรนี้แหล่ะครับ ** พอกลับมาถึงบ้านก็กินข้าวและยาที่ได้มา ก่อนนอนก็ทาครีมครับ พอตื่นเช้ามาปากผมดีขึ้นเลยครับ ปวมน้อยลง ตุ่มน้อยลง ผมก็เลยทามาเรื่อยๆเลยครับ จนปากกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม *ใช้เวลาประมาณ2-3อาทิตย์ได้ครับ* ก็เลิกใช้ไป ผ่านไปได้สัก1-2อาทิตย์ กลับมาเป็นอีกก้ทายาอีก ก็เป็นอย่างนี้มาเรื่อยๆครับ จนวันหนึ่งผมมีอาการคันที่หน้าเป็นอย่างมากครับ *ช่วงที่คันนี้ผมนอนด้วยนะครับ* ก็กลับไปหาหมอท่านเดิมเพราะคิดว่าการรักษาของที่นี่ดีครับ พอไปหาก็ได้ยาทาแก้ผื่นคันกลับมา ก็ใช้เลยครับก็เหมือนเดิมพอตอนเช้าอาการก็ดีขึ้น ผมก็ใช้ชีวิตมาเรื่อยๆ พอปากหรือหน้าเริ่มมีอาการผมก้ทายาทันที *ผิวหน้าดีขึ้นจนเพื่อนทักเยอะเลยครับแต่ไม่ได้เอะใจอะไรเลย* พอผ่านมาเรื่อยๆก็เกิดความสงสัยว่าผิวเราจะผิดสารอะไรหรือเปล่าเพราะเลิกใช้ครีมได้ไม่ถึงอาทิตย์ปากและหน้าผมก็จะเริ่มแสดงอาการทันทีเลยครับ ก็พยามเลิกมาตลอดก้ไม่ได้สักที ทนไม่ไหวกลับไปใช้คลีมทุกทีเลย จนมาวันที่ผมได้ศึกษาเรื่องผิวที่ติดสารเสตียรอยด์ม ทำให้ผมก็เลิกใช้ครีมแบบหักดิบเลย แล้วผ่านไปแค่4-5วันเองครับ หน้าไม่เท่าไหร่ทนได้แต่คันปากมากๆ ปวม ตุ่มใสขึ้น ยิ้มกว่าหรือยู่ปากไม่ได้ตุ่มใสนั้นจะแตกทันทีเลยครับรำคาญมากๆตอนนี้
เลยอยากถามหน่อยครับว่าควรทำอย่างไรดี
ตอนนี้เป็นหนักมากจริงๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่