เรียนรู้ในการเป็นแฟนกัน
การที่บุคคลสองคนจะมาเป็นแฟนกันนั้น ต้องศึกษาเรียนรู้ซึ่งกันและกัน หลักพื้นฐานในการเรียนรู้ซึ่งกัน มีดังนี้
๑. เขาเป็นคนเช่นไร คือ มีจริตยังไง อุปนิสัยใจคอเป็นเช่นไร มีพฤติกรรมยังไง สิ่งแวดล้อมที่ผ่านมาและปัจจุบันเขาเป็นยังไง ญาติพี่น้องคนรอบข้าง เป็นต้น
๒. จุดดีจุดเด่น จุดอ่อนจุดแข็ง จุดด้อยของเขาเป็นอย่างไร
๓. จุดที่เรารับได้และรับไม่ได้ คือ นิสัยเขาเป็นอย่างนี้เรารับได้แค่ไหนและรับไม่ได้แค่ไหน
บางอย่างเขายังเปลี่ยนแปลงไม่ได้ พอเราจู้จี้จุกจิกมากเขาก็จะยกภูเขาออกจากอก (ปฏิเสธเลยหรือแยกทางกันได้)
๔. เราต้องมีข้อวินิจฉัยว่าเรารับได้แค่ไหน เรายอมได้แค่ไหน รับได้ระดับใด ไม่ใช่ว่าจะทู่ซี้ให้แปรเปลี่ยนให้เต็มร้อย
๕. เขายังเด็กอยู่ แต่อย่าบ้าจี้ให้กินแต่นมเรา คือ อย่าให้กินแต่นมเรา เรารู้ว่าเขาเป็นเด็ก แต่เราจะให้เขามากินแต่นมเราไม่ได้ เขาอยากจะมองสิ่งอื่นก็ต้องให้เขาบ้าง เพราะเวลาให้กินแต่นมเราอย่างเดียว จริตธรรมชาติของมนุษย์จะต้องเบื่อ เขาอาจจะเบื่อถ้าเราไม่ยอมให้เขากินนมอื่น ถ้ามีคติอยู่ตัวหนึ่งว่า "เป็นของข้า" "ของข้าใครอย่าแตะ" ก็จะความหึงหวง ฉะนั้น อย่าบังคับเขาให้มากินแต่นมเรา ต้องแบ่งปันบ้าง
ถ้าเขาขอร้องให้กินนมค่อยให้กิน ไม่ยัดเหยียด แต่ถ้าเขาขอร้องถึงจะให้กิน แสดงว่าเราต้องทำให้ตัวเองให้มีคุณค่า
เขาขอร้องเราถึงจะให้กินแต่ก่อนกินต้องมีสัญญา เราสัญญาว่าจะให้แต่เขาต้องทำอะไร เช่น เขาต้องตื่นเช้าไหม? สัญญาอะไรก็ว่ากันไป
ถ้าไม่เช่นนั้นให้แล้วใส่ร้ายเขา เขาก็กลายเป็นเตลิดไป แต่นี่เราให้แล้ว เขารู้สำนึก (แล้วนมทุกหยดจะมีคุณค่า)
ทั้งหมดนี้เราต้องฝึกฝนและจะต้องทำให้ได้ เมียจะให้ผัวรักต้องมี ๕ ข้อนี้ เราจะเอาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันก็ได้ ไม่ใช่ว่าจะใช้กับผัวเมียเท่านั้น ใช้กับลูกน้องก็ได้ หลักนี้มาจากไหน มาจากหลักของพระโพธิสัตว์ที่จะนำพาสัตว์โลกพ้นจากวัฏฏะสงสาร
ทั้ง ๕ ข้อนี้ ข้างในมีทั้งกุศโลบาย ทั้งอะไรต่างๆ ไม่ใช่ทื้อๆ ไม่ใช่ใช้แต่อำนาจ แต่จะมีตัวกุศโลบายที่จะนำพา อย่างนี้เป็นบทบาทของพระโพธิสัตว์นำพาสัตว์โลกหลุดพ้นจากวัฏฏะสงสารได้
ถ้าในกรณีที่มีผัวสัญญากับเมียแล้ว รับปากแล้วไม่ชอบทำตามเราจะทำยังไง แล้วเราจะโทษผัวหรือโทษเมีย เราต้องโทษเมียเพราะไม่มีปัญญาบารมี แสดงว่าวิธีของเมียไม่ถูกถึงเอาผัวไม่อยู่ ไม่ใช่สายพระโพธิสัตว์แล้ว ถ้าเป็นสายพระโพธิสัตว์ต้องมีบารมีสิถึงจะคุมเขาได้ แล้วเรารู้จักผัวไหม? ถ้าเรารู้จักผัวของเรา เราใช้เทคนิควิธีให้ตรงกับจริตของผัวของเรา ผัวของเราก็ไม่หนีไปไหน เราต้องรู้จัก เราต้องเข้าใจ เราถึงจะควบคุมเขาได้ เราถึงจะบริหารเขาได้ ถ้าเราไม่รู้จักเขาเราจะคุมเขาได้อย่างไร หลักเอาแต่ได้ ได้ๆๆ แต่พอไม่ได้เอาแต่โมโหๆ ๆ ไม่เคยคิดว่าตนเองมีปัญญาไหม? สาเหตุเพราะว่าเราไม่มีปัญญาเลยทำอะไรเขาไม่ได้ แต่เรากลับไปยั่วะเขาแต่ไม่ยั่วะตัวเอง ถ้ายั่วะตัวเองเราต้องรีบศึกษาสิ เหมือนกับเฮียบางคนเอาแต่ด่าลูกน้องของตนเอง ที่จริงตัวเองทำผิด พอตัวเองเข้าใจ ทำถูก ลูกน้องก็ดีขึ้น
---------------------------
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เรียนรู้ในการเป็นแฟนกัน
การที่บุคคลสองคนจะมาเป็นแฟนกันนั้น ต้องศึกษาเรียนรู้ซึ่งกันและกัน หลักพื้นฐานในการเรียนรู้ซึ่งกัน มีดังนี้
๑. เขาเป็นคนเช่นไร คือ มีจริตยังไง อุปนิสัยใจคอเป็นเช่นไร มีพฤติกรรมยังไง สิ่งแวดล้อมที่ผ่านมาและปัจจุบันเขาเป็นยังไง ญาติพี่น้องคนรอบข้าง เป็นต้น
๒. จุดดีจุดเด่น จุดอ่อนจุดแข็ง จุดด้อยของเขาเป็นอย่างไร
๓. จุดที่เรารับได้และรับไม่ได้ คือ นิสัยเขาเป็นอย่างนี้เรารับได้แค่ไหนและรับไม่ได้แค่ไหน
บางอย่างเขายังเปลี่ยนแปลงไม่ได้ พอเราจู้จี้จุกจิกมากเขาก็จะยกภูเขาออกจากอก (ปฏิเสธเลยหรือแยกทางกันได้)
๔. เราต้องมีข้อวินิจฉัยว่าเรารับได้แค่ไหน เรายอมได้แค่ไหน รับได้ระดับใด ไม่ใช่ว่าจะทู่ซี้ให้แปรเปลี่ยนให้เต็มร้อย
๕. เขายังเด็กอยู่ แต่อย่าบ้าจี้ให้กินแต่นมเรา คือ อย่าให้กินแต่นมเรา เรารู้ว่าเขาเป็นเด็ก แต่เราจะให้เขามากินแต่นมเราไม่ได้ เขาอยากจะมองสิ่งอื่นก็ต้องให้เขาบ้าง เพราะเวลาให้กินแต่นมเราอย่างเดียว จริตธรรมชาติของมนุษย์จะต้องเบื่อ เขาอาจจะเบื่อถ้าเราไม่ยอมให้เขากินนมอื่น ถ้ามีคติอยู่ตัวหนึ่งว่า "เป็นของข้า" "ของข้าใครอย่าแตะ" ก็จะความหึงหวง ฉะนั้น อย่าบังคับเขาให้มากินแต่นมเรา ต้องแบ่งปันบ้าง
ถ้าเขาขอร้องให้กินนมค่อยให้กิน ไม่ยัดเหยียด แต่ถ้าเขาขอร้องถึงจะให้กิน แสดงว่าเราต้องทำให้ตัวเองให้มีคุณค่า
เขาขอร้องเราถึงจะให้กินแต่ก่อนกินต้องมีสัญญา เราสัญญาว่าจะให้แต่เขาต้องทำอะไร เช่น เขาต้องตื่นเช้าไหม? สัญญาอะไรก็ว่ากันไป
ถ้าไม่เช่นนั้นให้แล้วใส่ร้ายเขา เขาก็กลายเป็นเตลิดไป แต่นี่เราให้แล้ว เขารู้สำนึก (แล้วนมทุกหยดจะมีคุณค่า)
ทั้งหมดนี้เราต้องฝึกฝนและจะต้องทำให้ได้ เมียจะให้ผัวรักต้องมี ๕ ข้อนี้ เราจะเอาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันก็ได้ ไม่ใช่ว่าจะใช้กับผัวเมียเท่านั้น ใช้กับลูกน้องก็ได้ หลักนี้มาจากไหน มาจากหลักของพระโพธิสัตว์ที่จะนำพาสัตว์โลกพ้นจากวัฏฏะสงสาร
ทั้ง ๕ ข้อนี้ ข้างในมีทั้งกุศโลบาย ทั้งอะไรต่างๆ ไม่ใช่ทื้อๆ ไม่ใช่ใช้แต่อำนาจ แต่จะมีตัวกุศโลบายที่จะนำพา อย่างนี้เป็นบทบาทของพระโพธิสัตว์นำพาสัตว์โลกหลุดพ้นจากวัฏฏะสงสารได้
ถ้าในกรณีที่มีผัวสัญญากับเมียแล้ว รับปากแล้วไม่ชอบทำตามเราจะทำยังไง แล้วเราจะโทษผัวหรือโทษเมีย เราต้องโทษเมียเพราะไม่มีปัญญาบารมี แสดงว่าวิธีของเมียไม่ถูกถึงเอาผัวไม่อยู่ ไม่ใช่สายพระโพธิสัตว์แล้ว ถ้าเป็นสายพระโพธิสัตว์ต้องมีบารมีสิถึงจะคุมเขาได้ แล้วเรารู้จักผัวไหม? ถ้าเรารู้จักผัวของเรา เราใช้เทคนิควิธีให้ตรงกับจริตของผัวของเรา ผัวของเราก็ไม่หนีไปไหน เราต้องรู้จัก เราต้องเข้าใจ เราถึงจะควบคุมเขาได้ เราถึงจะบริหารเขาได้ ถ้าเราไม่รู้จักเขาเราจะคุมเขาได้อย่างไร หลักเอาแต่ได้ ได้ๆๆ แต่พอไม่ได้เอาแต่โมโหๆ ๆ ไม่เคยคิดว่าตนเองมีปัญญาไหม? สาเหตุเพราะว่าเราไม่มีปัญญาเลยทำอะไรเขาไม่ได้ แต่เรากลับไปยั่วะเขาแต่ไม่ยั่วะตัวเอง ถ้ายั่วะตัวเองเราต้องรีบศึกษาสิ เหมือนกับเฮียบางคนเอาแต่ด่าลูกน้องของตนเอง ที่จริงตัวเองทำผิด พอตัวเองเข้าใจ ทำถูก ลูกน้องก็ดีขึ้น
---------------------------
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์