สมเด็จพระสังฆราช มีพระดำรัสถวายพระพรแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๑ ความว่า
“อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ จึงขอตั้งกัลยาณจิต ร่วมกับปวงชนชาวไทย สำแดงความโสมนัสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษามาโดยสวัสดี นับถึงบัดนี้ได้ ๘๖ พรรษาบริบูรณ์
สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ทรงเปี่ยมด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงต่อปวงพสกนิกร ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระองค์ประดุจ ‘แม่ของแผ่นดิน’ ด้วยน้ำพระราชหฤทัยใสสะอาด ทรงมุ่งหวังประโยชน์สุขของทวยราษฎร์เป็นที่ตั้ง จึงเสด็จพระราชดำเนินไปยังความสวัสดีแก่ทุกชีวิต ทั่วทุกสารทิศในราชอาณาจักร ทรงแผ่พระบารมี เป็นที่พึ่งพำนักของผู้ตกทุกข์ได้ยาก สมดั่งที่เคยมีพระราชปรารภถึงพระราชสมัญญา ‘แม่’ ซึ่งประชาชนน้อมถวาย ว่า ‘คำว่าแม่นี่เป็นคำที่ศักดิ์สิทธิ์สูงส่งที่สุด การที่ใครเรียกคนคนหนึ่งว่าแม่ บุคคลที่ถูกเรียกจะต้องคิด และสำนึกในเกียรติยศอันนี้ และทำหน้าที่ให้ดีที่สุด’
สมเด็จพระสังฆราชถวายพระพร สมเด็จพระราชินีในรัชกาลที่ ๙
“อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ จึงขอตั้งกัลยาณจิต ร่วมกับปวงชนชาวไทย สำแดงความโสมนัสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษามาโดยสวัสดี นับถึงบัดนี้ได้ ๘๖ พรรษาบริบูรณ์
สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ทรงเปี่ยมด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงต่อปวงพสกนิกร ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระองค์ประดุจ ‘แม่ของแผ่นดิน’ ด้วยน้ำพระราชหฤทัยใสสะอาด ทรงมุ่งหวังประโยชน์สุขของทวยราษฎร์เป็นที่ตั้ง จึงเสด็จพระราชดำเนินไปยังความสวัสดีแก่ทุกชีวิต ทั่วทุกสารทิศในราชอาณาจักร ทรงแผ่พระบารมี เป็นที่พึ่งพำนักของผู้ตกทุกข์ได้ยาก สมดั่งที่เคยมีพระราชปรารภถึงพระราชสมัญญา ‘แม่’ ซึ่งประชาชนน้อมถวาย ว่า ‘คำว่าแม่นี่เป็นคำที่ศักดิ์สิทธิ์สูงส่งที่สุด การที่ใครเรียกคนคนหนึ่งว่าแม่ บุคคลที่ถูกเรียกจะต้องคิด และสำนึกในเกียรติยศอันนี้ และทำหน้าที่ให้ดีที่สุด’