สวัสดีค่ะทุกคน~ ก่อนอื่นต้องบอกเลยนะคะว่านี่คือการเขียนบันทึกเที่ยวของตัวเองครั้งแรกนะคะ หากผิดพลาดอย่างไรก็อย่าว่ากันเนอะ
สำหรับสถานที่เที่ยวของเราในครั้งนี้ก็คือ... จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยทริปนี้เราใช้เวลาทั้งหมด 5 วัน เพราะเป็นวันหยุดยาวและลาเพิ่มอีกด้วยค่ะ แบ่งเป็น ประจวบฯ 2 คืน หัวหิน 2 คืน ซึ่งเป้าหมายหลักของทริปเราคือ... *เขาล้อมหมวก* นั่นเองงง
มาเริ่มต้นการเดินทางของเรากันเถอะ Let's go~~~
29/07/2018
เราเลือกเดินทางโดยรถไฟ ออกตัวจากสถานีหัวลำโพง เวลา 15.35 น. มุ่งหน้าสู่สถานีประจวบฯ ใช้เวลาประมาณ 6 ชม. เราเลือกนั่งประเภทรถเร็ว ราคา 168 บาท/คน
เย้ๆๆๆๆๆ ถึงแล้วววว ค่ำแล้วด้วย 55+ เมืองเขาสงบมาก เอ้า! เดินหาที่พักสิคะ (เนื่องจากเราไม่ได้จองไว้ล่วงหน้า อาศัยดวงล้วนๆ
) เราเลือกเดินผ่านโรงแรมยุติชัยไปค่ะ เพราะตอนนั่งบนรถไฟเราโทรติดต่อห้อง แต่ห้องเต็ม เหลือแต่ห้องพัดลม ห้องน้ำรวม เราจึงขอบายค่ะ แต่ขณะที่นั่งเพื่อค้นหาที่พัก ว๊ายยย โชคดีอะไรเบอร์นี้[:อมยิ้ม17:] เจ้าของโรงแรมยุติชัยเดินผ่านมาพอดี เลยถามว่าเราหาที่พักหรือเปล่า เพราะทางโรงแรมมีห้องว่าง เนื่องจากหลุดจอง โอ๊ยยย จะรอช้าอยู่ใย จัดไปสิคะ สรุปคือเราได้ห้องพักของโรงแรมยุติชัย ราคาคืนละ 550 บาท มีรถให้เช่าด้วยนะเออ แต่เราถามแค่รถมอเตอร์ไซค์นะ แบ่งเป็นแบบเกียร์ 150 ออร์โต้ 200 ตลอด 24 ชม. แต่ตอนคืนรถ ต้องเติมน้ำมันให้เท่าเดิมด้วยนะ แต่ขอบอกเลยว่าห้องพักโอเคมากกก ส่วนตัวเราชอบนะ คือดี เป็นห้องแอร์ สะอาด เดินจากรถไฟมาแป๊บเดียวก็ถึงโรงแรม แถมใกล้ 7-11 และตลาดโต้รุ่งด้วยนะ ตอนไปถึงเราก็เก็บของ แล้วลงมาเดินโต้รุ่ง ดึกหน่อยก็เข้าห้องพัก เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับขึ้นเข้าล้อมหมวกในวันพรุ่งนี้กัน~~~
30/07/2018
ได้เวลามุ่งหน้าสู่'เขาล้อมหมวก' เป้าหมายหลักของเรานั่นเอง เราออกเดินทางด้วยมอไซค์ เวลาประมาณ 8 โมงกว่าๆ โดยถามเส้นทางจากคนในพื้นที่เนี่ยแหละ ที่สำคัญคือใกล้มาก (เมืองเขาเล็กๆอ่ะนะ) ขี่เข้าไปในกองบินเลยจ้า สามารถพึ่ง GPS ได้นะ(จขกท.ก็ใช้ตลอด
) พอไปถึงที่จะมีจุดลงทะเบียนด้านหน้าทางขึ้นเลย เราก็ไปลงทะเบียน(ฟรี) แต่หากอยากได้ประกาศนียบัตรก็มีค่าลงทะเบียนเพิ่มเติม 30 บาท (ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเปิดให้ลงทะเบียนถึง 10.00 น. ให้ขึ้นถึง 12.00 น. หลังจากนั้นจะปิดไม่ให้ขึ้น ซึ่งสามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมได้เองเลยจ้า เพราะเขาลงไว้ชัดเจนมาก) ที่นั้นมีของขายให้ซื้อก่อนขึ้นด้วยนะคะ มีทั้งน้ำ ขนม ถุงมือ เรียกได้ว่าซื้อตุนไว้กินระหว่างทางเลย👏🏻เอ้า! ลุยค่ะ
ทางขึ้นค่อนข้างชันมากค่ะ โดยส่วนตัวเราไม่ชอบตอนขึ้นบันไดเลย เหนื่อยมากกก ชอบแบบลุยๆไต่เชือกมากกว่า เอาเป็นว่าข้ามๆไปเลยนะคะ คือเมื่อไปถึงยอดแล้วจะหายเหนื่อยเลย วิวสวยมากกกก บวกกับวันที่เราไปอากาศก็ดีสุดๆ แดดไม่แรง หรือจะบอกว่าแทบไม่มีแดดเลยก็ได้ มันฟินมาก ลมเย๊นเย็น เราขึ้นไปถึงราวๆ 9 โมงครึ่ง ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ก็เดินกลับลงมา ตอนลงมาถึงฝนเริ่มปรอยๆแต่เราไม่หวั่น(เพราะแป๊บเดียวก็หยุด) เดินเหนื่อยๆก็หิวอะไรเย็นๆสิเนอะ จัดไปค่ะ หาร้านคาเฟ่น่านั่งใกล้ๆ เราก็เจอร้านหนึ่งในอินเทอร์เน็ต คือ one&only cafe' รีบสิคะ หิวแล้ว ขี่มอไซค์ไปกันเลยยยย
ร้านจะอยู่แถวหาดประจวบฯ ติดถนน ร้านเล็กๆแต่บรรยากาศและการตกแต่งโอเค อาหารก็ถือว่าโอเคนะคะ ยิ่งเมนูน้ำเนี่ย ยิ่งชอบเลย ข้างๆมีร้านยำด้วยนะ เราสั่งยำปูม้ามา 1 ที่ ราคา 200 บาท เผ็ดสะใจมาก เมื่ออิ่มท้องแล้ว เราก็แว๊นไปขึ้น 'เขาช่องกระจก' ต่อ อยู่ใกล้ๆแถวนั้นแหละ (ขึ้นอีกแล้วเหรออออ
) เหนื่อยค่ะบอกเลย ลิงเยอะมากกกกกก เราซื้อข้าวโพดไปด้วยนะ ตรงวัดข้างๆที่ให้เอารถไปจอดมีขายอยู่ค่ะ ถุงละ 20 บ. 3 ถุง 50 ไปถึงก็ไม่มีไรหรอก มีแต่ลิง คนไปขึ้นน้อยมาก เราจึงตกลงกันกลับที่พักดีกว่าแล้วค่อยออกมาอีกทีช่วงเย็นๆ (นอนเอาแรงแพร๊บ
)
ห้าโมงเย็นแล้ววว ได้เวลาออกล่าค่ะ เปลี่ยนชุดไปหาดประจวบฯกัน เดินเล่นถ่ายรูป เย็นๆก็มาเดินคนเดินตรงสะพาน 'สราญวิถี' ทานข้านเย็นอยู่ที่นี่เลย ค่ำๆก็กลับห้องพักเตรียมเดินทางไปหัวหินในวันพรุ่งนี้ค่ะ
31/07/2018
เดินทางด้วยรถไฟธรรมดา ประจวบฯ-หัวหิน ราคา 19 บ./คน ออกจากสถานีประมาณ 10 โมงเช้า ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.
พอไปถึงสถานีหัวหินเราก็หาที่พักที่ใกล้รถไฟที่สุด ไปเจอโรงแรมหัวหินยูโร ราคา 500 บ./คืน (แอบกระซิบว่าไม่โอเคแรงมากกกกก ห้อง เตียง ผ้าห่ม การบริการ แอร์ ไม่โอสุดๆ ถือเป็นประสบการณ์ล่ะกัน คืน 2 ค่อยเปลี่ยน รร.) เราติดต่อเช่ารถมอเตอร์ไซค์ โดยหาข้อมูลและเบอร์ติดต่อทางเน็ต ราคา 250 ตลอด 24 ชม. เติมน้ำมันเท่าเดิมก่อนคืนเหมือนกัน (เลทได้ ชม.ละ 20 บาท) เมื่อได้รถแล้วเราก็เดินทางแว๊นไปยังอุทยานราชภักดิ์ ขี่ไปค่อนข้างไกลนะ เมื่อไปถึงก็ถ่ายรูปบลาๆ กรณีใส่สั้นไปเขามีผ้าถุงให้ใส่อยู่นะ สบายใจได้ ฟรีหมด เสร็จแล้วเรามุ่งหน้าสู่เพลินวานกันเลยยยย บอกก่อนว่ามีอุปสรรคหน่อย คือฝนตก
โชคดีที่ไปถึงแล้วฝนค่อยตกหนัก ไม่งั้นได้เปียกปอนกันหมดแน่ๆ เราเดินเพลินวานไม่นานนะ กินข้าวเที่ยงที่นี่เลย พอฝนหยุดเราก็ไปต่อยัง For Art's Sake ค่าเข้า 180 บ./คน(ผู้ใหญ่) ข้างในก็จะเป็นภาพ 4 มิติ ให้เลือกถ่าย มี 2ชั้น จบจากนี้เราก็แว๊นไปต่อยัง The Venezia HuaHin ช่วงที่ไปมีโปรโมชั่นสำหรับคนไทย ค่าเข้าลดเหลือ 199 บ./คน คือดีงามม [:นานาชอบ:]
เดินไปเพลินๆก็เย็นล่ะ เปิด GPS มุ่งสู่ถนนคนเดินหัวหินกันเลยยย ~ ของถูกมาก ในความคิดเรานะ เราว่าเมืองเขาขายของถูกอ่ะ ช็อบสิคะรอไร ผลาญเงินกันไปโล้ดจ้าาา
01/08/2018
ตื่นๆๆๆ หาที่พักกันใหม่จ้า (แอบเปิดดูรีวิว+ถามพี่วินเจ้าของมอไซร์ พี่เขาแนะนำดีมาก ละเอียดยิบ
) เราตัดสินใจเลือกพักที่โรงแรมโคโคนัท เป็น รร.เปิดใหม่ อยู่ติดถนนเลย แต่ตอนเราไปเราหาไม่เจอ เพราะไม่ได้มองป้าย ขี่ผ่านแล้วผ่านอีก 555+ ราคาวันธรรมดา เริ่มต้น 790/คืน เสาร์-อาทิตย์ เริ่มต้น 990/คืน ห้องพักโอเคมาก สวย สะอาด ใช้การสแกนการ์ด คือเริ่ดมากค่ะ ชอบๆๆๆ แต่เรามาเช้ามากจึงต้องนั่งรอยาวไป (เนื่องจากเวลาเช็กอิน เริ่ม 14.00 น. เช็กเอ้าท์ก่อน 12.00 น.) ทาง รร.มีรถให้เช่าเหมือนกันนะ ใครสะดวกก็มาพักและเช่ารถที่เดียวได้เลยย (แต่ จขกท.แนะนําโทรเช่าแบบ จขกท.ดีกว่า เพราะนัดคืนได้ที่ 7-11 รถไฟ ซึ่งจะสะดวกกับเรามากค่ะ) เมื่อเอาของไปไว้เสร็จก็นอนสิคะ เนื่องจากแดดแรงมากกกกกก ไม่ขอสู้ค่ะ
ตกเย็นราว 4 โมง ตื่นค่ะๆ อาบน้ำแต่งตัวลัดเลาะชายหาดหัวหิน ชิวๆกันไป พอเริ่มหิวเราก็เดินทางหาของกิน เราเลือกไปกินบุฟเฟ่ต์ คือร้าน เมี่ยงปลาเผา หมูกะทะบุฟเฟ่ต์(สอบถามจากทางโรงแรม) บอกเลยว่าส่วนตัวเราชอบมากกกก ของกินหลากหลาย อร่อยด้วย ที่สำคัญ ราคาไม่แพงจ้าาา แค่หัวละ 299 เพิ่มเตา +50 ซึ่งร้านอยู่ซอย 102 ขี่เข้าไปในซอยก็ตรงอย่างเดียวเลย ข้ามทางรถไฟไปอีก ตรงไปเรื่อยๆร้านอยู่ขวามือ
เมื่ออิ่มกันแล้วก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับเส้นเดิม ระหว่างทางก็แวะช็อบต่อที่ตลาดอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ จำชื่อไม่ได้ รู้แค่มีป้ายใหญ่ๆเขียนว่า 'แกรนด์' เมื่อช็อบจนหน่ำใจเราก็เดินทางกลับที่พักทันทีจ้าาาา
02/08/2018
10.30 น. ตื่นๆๆๆ อาบน้ำแต่งตัวจ้าา เช็คเอาท์ 11.50 น. โอเคเรียบร้อย แว๊นมอไซค์มาซื้อตั๋วกลับ กทม. แท่นแท้นแท๊น~ รถด่วนพิเศษเต็มจ้า!!! เหอะ เลยจำใจต้องนั่งรถธรรมดา 555+ ไม่เป็นไรหาของฝากกันดีกว่า
พวกเราเอากระเป๋าวางไว้แถวที่นั่งตรงสถานีนั่นแหละ แล้วจึงแว๊นไปหาของฝากกัน โดยของฝากนั้น เราต้องการเน้นของกินจำพวกอาหารทะเล ซึ่งถามคนแถวนั้นเขาบอกให้ไปแถวตลาดใหญ่ จะมีอาหารทะเล ของฝากหลากหลาย(หรือคือแถวที่ตั้งถนนคนเดินนั่นแหละจ้าา) โอเค ได้ของฝากแล้วเดินทางไปสถานีรถไฟกันจ้าา นัดคืนรถที่ 7-11 ตรงรถไฟ เรียบร้อย ได้เวลากลับแล้วววววว เย้ๆๆๆๆๆๆ
สรุปค่าใช้จ่ายหลักๆ
-ค่ารถไฟกรุงเทพฯ-ประจวบฯ 168*2 = 336
-ค่าที่พัก รร.ยุติชัย 550*2 = 1100
-เช่ามอไซค์+น้ำมัน(ประจวบฯ) 150+30 = 180
-ค่ารถไฟประจวบฯ-หัวหิน 19*2 = 38
-ค่าที่พักหัวหินยูโร 500
-ค่ามอไซค์+น้ำมัน 250+40 = 290
-ค่าที่พักโคโคนัท 790
-ค่าเข้า For Art's Sake 180*2 = 360
-ค่าเข้า The Venezia 199*2 = 398
-ค่ารถไฟหัวหิน-กรุงเทพฯ 44*2 = 88
รวม 4,080/2 = 2,040/คน
สำหรับการเขียนกระทู้ท่องเที่ยวครั้งแรกนี้ก็มีเพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่ทริปหน้านะคะ
***เที่ยวประจวบฯ -เขาล้อมหมวก-หัวหิน- ฉบับสบายกระเป๋า***
สำหรับสถานที่เที่ยวของเราในครั้งนี้ก็คือ... จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยทริปนี้เราใช้เวลาทั้งหมด 5 วัน เพราะเป็นวันหยุดยาวและลาเพิ่มอีกด้วยค่ะ แบ่งเป็น ประจวบฯ 2 คืน หัวหิน 2 คืน ซึ่งเป้าหมายหลักของทริปเราคือ... *เขาล้อมหมวก* นั่นเองงง
มาเริ่มต้นการเดินทางของเรากันเถอะ Let's go~~~
29/07/2018
เราเลือกเดินทางโดยรถไฟ ออกตัวจากสถานีหัวลำโพง เวลา 15.35 น. มุ่งหน้าสู่สถานีประจวบฯ ใช้เวลาประมาณ 6 ชม. เราเลือกนั่งประเภทรถเร็ว ราคา 168 บาท/คน
เย้ๆๆๆๆๆ ถึงแล้วววว ค่ำแล้วด้วย 55+ เมืองเขาสงบมาก เอ้า! เดินหาที่พักสิคะ (เนื่องจากเราไม่ได้จองไว้ล่วงหน้า อาศัยดวงล้วนๆ) เราเลือกเดินผ่านโรงแรมยุติชัยไปค่ะ เพราะตอนนั่งบนรถไฟเราโทรติดต่อห้อง แต่ห้องเต็ม เหลือแต่ห้องพัดลม ห้องน้ำรวม เราจึงขอบายค่ะ แต่ขณะที่นั่งเพื่อค้นหาที่พัก ว๊ายยย โชคดีอะไรเบอร์นี้[:อมยิ้ม17:] เจ้าของโรงแรมยุติชัยเดินผ่านมาพอดี เลยถามว่าเราหาที่พักหรือเปล่า เพราะทางโรงแรมมีห้องว่าง เนื่องจากหลุดจอง โอ๊ยยย จะรอช้าอยู่ใย จัดไปสิคะ สรุปคือเราได้ห้องพักของโรงแรมยุติชัย ราคาคืนละ 550 บาท มีรถให้เช่าด้วยนะเออ แต่เราถามแค่รถมอเตอร์ไซค์นะ แบ่งเป็นแบบเกียร์ 150 ออร์โต้ 200 ตลอด 24 ชม. แต่ตอนคืนรถ ต้องเติมน้ำมันให้เท่าเดิมด้วยนะ แต่ขอบอกเลยว่าห้องพักโอเคมากกก ส่วนตัวเราชอบนะ คือดี เป็นห้องแอร์ สะอาด เดินจากรถไฟมาแป๊บเดียวก็ถึงโรงแรม แถมใกล้ 7-11 และตลาดโต้รุ่งด้วยนะ ตอนไปถึงเราก็เก็บของ แล้วลงมาเดินโต้รุ่ง ดึกหน่อยก็เข้าห้องพัก เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับขึ้นเข้าล้อมหมวกในวันพรุ่งนี้กัน~~~
30/07/2018
ได้เวลามุ่งหน้าสู่'เขาล้อมหมวก' เป้าหมายหลักของเรานั่นเอง เราออกเดินทางด้วยมอไซค์ เวลาประมาณ 8 โมงกว่าๆ โดยถามเส้นทางจากคนในพื้นที่เนี่ยแหละ ที่สำคัญคือใกล้มาก (เมืองเขาเล็กๆอ่ะนะ) ขี่เข้าไปในกองบินเลยจ้า สามารถพึ่ง GPS ได้นะ(จขกท.ก็ใช้ตลอด) พอไปถึงที่จะมีจุดลงทะเบียนด้านหน้าทางขึ้นเลย เราก็ไปลงทะเบียน(ฟรี) แต่หากอยากได้ประกาศนียบัตรก็มีค่าลงทะเบียนเพิ่มเติม 30 บาท (ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเปิดให้ลงทะเบียนถึง 10.00 น. ให้ขึ้นถึง 12.00 น. หลังจากนั้นจะปิดไม่ให้ขึ้น ซึ่งสามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมได้เองเลยจ้า เพราะเขาลงไว้ชัดเจนมาก) ที่นั้นมีของขายให้ซื้อก่อนขึ้นด้วยนะคะ มีทั้งน้ำ ขนม ถุงมือ เรียกได้ว่าซื้อตุนไว้กินระหว่างทางเลย👏🏻เอ้า! ลุยค่ะ
ทางขึ้นค่อนข้างชันมากค่ะ โดยส่วนตัวเราไม่ชอบตอนขึ้นบันไดเลย เหนื่อยมากกก ชอบแบบลุยๆไต่เชือกมากกว่า เอาเป็นว่าข้ามๆไปเลยนะคะ คือเมื่อไปถึงยอดแล้วจะหายเหนื่อยเลย วิวสวยมากกกก บวกกับวันที่เราไปอากาศก็ดีสุดๆ แดดไม่แรง หรือจะบอกว่าแทบไม่มีแดดเลยก็ได้ มันฟินมาก ลมเย๊นเย็น เราขึ้นไปถึงราวๆ 9 โมงครึ่ง ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ก็เดินกลับลงมา ตอนลงมาถึงฝนเริ่มปรอยๆแต่เราไม่หวั่น(เพราะแป๊บเดียวก็หยุด) เดินเหนื่อยๆก็หิวอะไรเย็นๆสิเนอะ จัดไปค่ะ หาร้านคาเฟ่น่านั่งใกล้ๆ เราก็เจอร้านหนึ่งในอินเทอร์เน็ต คือ one&only cafe' รีบสิคะ หิวแล้ว ขี่มอไซค์ไปกันเลยยยย
ร้านจะอยู่แถวหาดประจวบฯ ติดถนน ร้านเล็กๆแต่บรรยากาศและการตกแต่งโอเค อาหารก็ถือว่าโอเคนะคะ ยิ่งเมนูน้ำเนี่ย ยิ่งชอบเลย ข้างๆมีร้านยำด้วยนะ เราสั่งยำปูม้ามา 1 ที่ ราคา 200 บาท เผ็ดสะใจมาก เมื่ออิ่มท้องแล้ว เราก็แว๊นไปขึ้น 'เขาช่องกระจก' ต่อ อยู่ใกล้ๆแถวนั้นแหละ (ขึ้นอีกแล้วเหรออออ) เหนื่อยค่ะบอกเลย ลิงเยอะมากกกกกก เราซื้อข้าวโพดไปด้วยนะ ตรงวัดข้างๆที่ให้เอารถไปจอดมีขายอยู่ค่ะ ถุงละ 20 บ. 3 ถุง 50 ไปถึงก็ไม่มีไรหรอก มีแต่ลิง คนไปขึ้นน้อยมาก เราจึงตกลงกันกลับที่พักดีกว่าแล้วค่อยออกมาอีกทีช่วงเย็นๆ (นอนเอาแรงแพร๊บ)
ห้าโมงเย็นแล้ววว ได้เวลาออกล่าค่ะ เปลี่ยนชุดไปหาดประจวบฯกัน เดินเล่นถ่ายรูป เย็นๆก็มาเดินคนเดินตรงสะพาน 'สราญวิถี' ทานข้านเย็นอยู่ที่นี่เลย ค่ำๆก็กลับห้องพักเตรียมเดินทางไปหัวหินในวันพรุ่งนี้ค่ะ
31/07/2018
เดินทางด้วยรถไฟธรรมดา ประจวบฯ-หัวหิน ราคา 19 บ./คน ออกจากสถานีประมาณ 10 โมงเช้า ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.
พอไปถึงสถานีหัวหินเราก็หาที่พักที่ใกล้รถไฟที่สุด ไปเจอโรงแรมหัวหินยูโร ราคา 500 บ./คืน (แอบกระซิบว่าไม่โอเคแรงมากกกกก ห้อง เตียง ผ้าห่ม การบริการ แอร์ ไม่โอสุดๆ ถือเป็นประสบการณ์ล่ะกัน คืน 2 ค่อยเปลี่ยน รร.) เราติดต่อเช่ารถมอเตอร์ไซค์ โดยหาข้อมูลและเบอร์ติดต่อทางเน็ต ราคา 250 ตลอด 24 ชม. เติมน้ำมันเท่าเดิมก่อนคืนเหมือนกัน (เลทได้ ชม.ละ 20 บาท) เมื่อได้รถแล้วเราก็เดินทางแว๊นไปยังอุทยานราชภักดิ์ ขี่ไปค่อนข้างไกลนะ เมื่อไปถึงก็ถ่ายรูปบลาๆ กรณีใส่สั้นไปเขามีผ้าถุงให้ใส่อยู่นะ สบายใจได้ ฟรีหมด เสร็จแล้วเรามุ่งหน้าสู่เพลินวานกันเลยยยย บอกก่อนว่ามีอุปสรรคหน่อย คือฝนตก โชคดีที่ไปถึงแล้วฝนค่อยตกหนัก ไม่งั้นได้เปียกปอนกันหมดแน่ๆ เราเดินเพลินวานไม่นานนะ กินข้าวเที่ยงที่นี่เลย พอฝนหยุดเราก็ไปต่อยัง For Art's Sake ค่าเข้า 180 บ./คน(ผู้ใหญ่) ข้างในก็จะเป็นภาพ 4 มิติ ให้เลือกถ่าย มี 2ชั้น จบจากนี้เราก็แว๊นไปต่อยัง The Venezia HuaHin ช่วงที่ไปมีโปรโมชั่นสำหรับคนไทย ค่าเข้าลดเหลือ 199 บ./คน คือดีงามม [:นานาชอบ:]
เดินไปเพลินๆก็เย็นล่ะ เปิด GPS มุ่งสู่ถนนคนเดินหัวหินกันเลยยย ~ ของถูกมาก ในความคิดเรานะ เราว่าเมืองเขาขายของถูกอ่ะ ช็อบสิคะรอไร ผลาญเงินกันไปโล้ดจ้าาา
01/08/2018
ตื่นๆๆๆ หาที่พักกันใหม่จ้า (แอบเปิดดูรีวิว+ถามพี่วินเจ้าของมอไซร์ พี่เขาแนะนำดีมาก ละเอียดยิบ) เราตัดสินใจเลือกพักที่โรงแรมโคโคนัท เป็น รร.เปิดใหม่ อยู่ติดถนนเลย แต่ตอนเราไปเราหาไม่เจอ เพราะไม่ได้มองป้าย ขี่ผ่านแล้วผ่านอีก 555+ ราคาวันธรรมดา เริ่มต้น 790/คืน เสาร์-อาทิตย์ เริ่มต้น 990/คืน ห้องพักโอเคมาก สวย สะอาด ใช้การสแกนการ์ด คือเริ่ดมากค่ะ ชอบๆๆๆ แต่เรามาเช้ามากจึงต้องนั่งรอยาวไป (เนื่องจากเวลาเช็กอิน เริ่ม 14.00 น. เช็กเอ้าท์ก่อน 12.00 น.) ทาง รร.มีรถให้เช่าเหมือนกันนะ ใครสะดวกก็มาพักและเช่ารถที่เดียวได้เลยย (แต่ จขกท.แนะนําโทรเช่าแบบ จขกท.ดีกว่า เพราะนัดคืนได้ที่ 7-11 รถไฟ ซึ่งจะสะดวกกับเรามากค่ะ) เมื่อเอาของไปไว้เสร็จก็นอนสิคะ เนื่องจากแดดแรงมากกกกกก ไม่ขอสู้ค่ะ
ตกเย็นราว 4 โมง ตื่นค่ะๆ อาบน้ำแต่งตัวลัดเลาะชายหาดหัวหิน ชิวๆกันไป พอเริ่มหิวเราก็เดินทางหาของกิน เราเลือกไปกินบุฟเฟ่ต์ คือร้าน เมี่ยงปลาเผา หมูกะทะบุฟเฟ่ต์(สอบถามจากทางโรงแรม) บอกเลยว่าส่วนตัวเราชอบมากกกก ของกินหลากหลาย อร่อยด้วย ที่สำคัญ ราคาไม่แพงจ้าาา แค่หัวละ 299 เพิ่มเตา +50 ซึ่งร้านอยู่ซอย 102 ขี่เข้าไปในซอยก็ตรงอย่างเดียวเลย ข้ามทางรถไฟไปอีก ตรงไปเรื่อยๆร้านอยู่ขวามือ
เมื่ออิ่มกันแล้วก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับเส้นเดิม ระหว่างทางก็แวะช็อบต่อที่ตลาดอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ จำชื่อไม่ได้ รู้แค่มีป้ายใหญ่ๆเขียนว่า 'แกรนด์' เมื่อช็อบจนหน่ำใจเราก็เดินทางกลับที่พักทันทีจ้าาาา
02/08/2018
10.30 น. ตื่นๆๆๆ อาบน้ำแต่งตัวจ้าา เช็คเอาท์ 11.50 น. โอเคเรียบร้อย แว๊นมอไซค์มาซื้อตั๋วกลับ กทม. แท่นแท้นแท๊น~ รถด่วนพิเศษเต็มจ้า!!! เหอะ เลยจำใจต้องนั่งรถธรรมดา 555+ ไม่เป็นไรหาของฝากกันดีกว่า
พวกเราเอากระเป๋าวางไว้แถวที่นั่งตรงสถานีนั่นแหละ แล้วจึงแว๊นไปหาของฝากกัน โดยของฝากนั้น เราต้องการเน้นของกินจำพวกอาหารทะเล ซึ่งถามคนแถวนั้นเขาบอกให้ไปแถวตลาดใหญ่ จะมีอาหารทะเล ของฝากหลากหลาย(หรือคือแถวที่ตั้งถนนคนเดินนั่นแหละจ้าา) โอเค ได้ของฝากแล้วเดินทางไปสถานีรถไฟกันจ้าา นัดคืนรถที่ 7-11 ตรงรถไฟ เรียบร้อย ได้เวลากลับแล้วววววว เย้ๆๆๆๆๆๆ
สรุปค่าใช้จ่ายหลักๆ
-ค่ารถไฟกรุงเทพฯ-ประจวบฯ 168*2 = 336
-ค่าที่พัก รร.ยุติชัย 550*2 = 1100
-เช่ามอไซค์+น้ำมัน(ประจวบฯ) 150+30 = 180
-ค่ารถไฟประจวบฯ-หัวหิน 19*2 = 38
-ค่าที่พักหัวหินยูโร 500
-ค่ามอไซค์+น้ำมัน 250+40 = 290
-ค่าที่พักโคโคนัท 790
-ค่าเข้า For Art's Sake 180*2 = 360
-ค่าเข้า The Venezia 199*2 = 398
-ค่ารถไฟหัวหิน-กรุงเทพฯ 44*2 = 88
รวม 4,080/2 = 2,040/คน
สำหรับการเขียนกระทู้ท่องเที่ยวครั้งแรกนี้ก็มีเพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่ทริปหน้านะคะ