[หนังโรงเรื่องที่ 238] Along With The Gods 2 : ของเก่าเปลี่ยนสไตล์ ก็เด็ดไม่แพ้กัน
คะแนนความชอบ : A++ (จากสเกล D-A)
(Yong-hwa Kim, 2018)
by ตั๋วหนังมันแพง
*ไม่มีมีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ
รีวิวจากภาคแรก:
https://goo.gl/dwCMU3
เรื่องย่อ: ต่อเนื่องจากภาคแรก หลังจากที่คณะยมทูตนำโดย "กังลิม" ได้ส่งวิญญาณพี่ชายคนดีไปเกิดใหม่แล้ว เขาก็รับงานวิญญาณคนดีคนน้องอย่าง "คิมซูฮง" ทันที โดยมีเป้าหมายคือการทำให้อดีตวิญญาณอาฆาตตนนี้พ้นผิดและเกิดใหม่ให้ได้
ปัญหาแค่นั้นยังไม่พอ เจ้าตัวคิมซูฮงเกิดอารมณ์ติสแตกดันไม่อยากไปเกิดอีก ยิ่งไปกว่านั้นเหล่าลูกน้องยมทูตอย่าง "เฮวอนเม็ก" และ "อีด๊กชุน" ก็กำลังเข้าใกล้ความทรงจำในอดีตของตัวเองที่หายไป และความจริงทุกอย่างกำลังจะถูกเปิดเผยในบทสรุปฝ่านรกครั้งนี้
👍 จุดที่ชอบ 👍
1. ถือว่าหนังกล้าเสี่ยงพอสมควรที่เลือกสไตล์การเล่าเรื่องแบบใหม่ในหนังภาคต่อแบบนี้ คือถ้าใครที่เคยดูภาคแรกมาคงจำได้ว่าหนังมันซึ้งน้ำตาท่วมจอขนาดไหน แต่พอมาในภาคนี้หนังกลับฉีกตัวเองไปเน้นการเล่าเรื่องและขมวดปมที่เฉียบคมแทนโดยเน้นดราม่าน้อยลง ที่สำคัญคือทำออกมาได้ดีมากๆ ซะด้วย ถือว่าเป็นการเดิมพันที่คุ้มค่าเพราะกลายเป็นว่าหนังทั้งสองภาคต่างก็มีรสชาติที่แตกต่างกันออกไป แต่พอเอามันมาผสานต่อเนื่องกันแล้วมันเลยกลายเป็นรสกลมกล่อมไปเลย
.
2. มุกตลกของหนังพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น มีช็อตฮาที่อยู่ในระดับที่ขำจนเสียสติหลายฉากมากๆ โดยมีตัวละคร "เฮวอนเม็ก" เป็นเดอะแบกสายฮาเช่นเคย ซึ่งถ้าจะให้เจาะลึกลงไปอีกมุกของหนังภาคนี้มันจะได้กลิ่นอายแบบเอเชียนผสมผสานกับลูกกวนโอ๊ยแบบเกาหลี ผมเชื่อว่าสาวๆ คอเกาหลี น่าจะเอ็นจอยกับภาคนี้ได้เป็นพิเศษแน่นอน
.
3. ฉากแอคชั่นที่เคยเป็นจุดว้าวของภาคแรกก็ถูกนำมาสานต่อในปริมาณที่มากขึ้น แน่นอนว่าฟีลลิ่งดราก้อนบอลในภาคแรกก็ยังอยู่ครบไม่หายไปไหน เห็นได้ชัดถึงความละเอียดของการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องและดูสมจริงมากๆ เสียดายอย่างเดียวคือมันน้อยไปนิด อยากจะตะโกนว่า "We want more" จริงๆ ให้ดิ้นตาย
.
4. อันนี้ส่วนตัวนิดนึง ผมชอบในความกาวของหนังภาคนี้มาก คือมันจะมีฉากหนึ่งที่ยมทูตกังลิมถามคิมซูโฮว่า "นายกลัวอะไรมากที่สุด" และนรกก็รับรู้ได้ถึงความกลัวนั้นจึงส่งภูตพรายออกมาตามล่าวิญญาณในรูปแบบที่เขากลัว ... ความพีคมันอยู่ตรงนี้แหละ คือกลัวอะไรไม่กลัว กลัวของอลังการซะด้วย บอกตามตรงว่าผมหัวเราะพลางกุมขมับไป มันกาวจนบียอนด์ไปอีกขั้น ถ้าคุณอยากรู้ว่าอะไรทำให้ผมขำได้ขนาดนั้นคงต้องไปดูเองแล้วล่ะ (ไม่บอกหรอก แบร่)
5. หนังเล่าเรื่องเก่งมาก ถ้าจะให้อุปมาสภาพความสัมพันธ์ของตัวละครใหม่และเก่าในภาคนี้ ก็คงเหมือนหูฟังที่เก็บไว้ในกระเป๋านานๆ น่ะครับ คือพอเริ่มหยิบออกมาเล่าปุ๊บก็ยุ่งเหยิงเป็นพัลวันไปหมด อันโน้นเชื่อมกับอันนี้ อันนี้ดองกับอันนั้น แต่จุดที่สุดยอดที่สุดคือหนังดันเอาไอ้ความยุ่งเหยิงทั้งหลายมาขมวดให้เป็นเส้นเดียวได้อย่างสวยงามและมีเหตุมีผลใช้ได้ เป็นสไตล์การผูกเรื่องแบบเอเชียที่มีเสน่ห์มากๆ และไม่ทิ้งให้คนดูงงแน่นอน
6. หนังมีการแอบแทรกปริศนาพล็อตบางอย่างเข้ามาอย่างแนบเนียน ซึ่งมันสร้างสรรค์มากๆ เปรียบเสมือนโบนัสของคนที่อ่านตัวอักษรเกาหลีออกเลยล่ะ
👎 จุดที่ไม่ชอบ 👎
1. จะเรียกว่าข้อเสียก็พูดได้ไม่เต็มปาก แต่หนังมันออกตัวค่อนข้างช้าในความคิดของผมนะ กว่าที่มันจะเข้าจุดที่ "น่าสนใจ" ได้ก็ราวๆ กลางเรื่องเข้าไปแล้ว ช่วงต้นเรื่องนี่ให้ความรู้สึกยืดยาดพอสมควร อาจเป็นเพราะต้องปันฉากไปเซ็ตอัพมุกตลกที่หนังประเคนเข้ามาด้วย ผมคิดว่าสัดส่วนหนังมันน่าจะกระชับได้มากกว่านี้ ถือว่าเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ผมชอบภาคนี้น้อยกว่าภาคแรกเลย
.
2. หนังให้ความสำคัญกับนรกขุมต่างๆ น้อยมาก น้อยจนน่าเสียดาย ก็เข้าใจว่าอยากจะไปเน้นเรื่องราวปูมหลังของเหล่ายมทูตมากขึ้น แต่ผมคิดว่าเสน่ห์อย่างหนึ่งของหนังเรื่องนี้ก็คือสไตล์อันโดดเด่นของนรกขุมต่างๆ ที่เราได้ไปท่องมาในภาคแรกนี่แหละ พอสัดส่วนตรงนี้มันน้อยลง บวกกับช่วงเวลาการไต่สวนที่ดูมีความสำคัญน้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด ความรู้สึกมันเลยเหมือนขาดๆ อะไรบางอย่างไป
.
*ไม่เกี่ยวกับหนัง* ผมคิดว่าคำแปลดูงงๆ อยู่ มันมีหลายจุดที่แปลผิดเพี้ยนไปจากความหมายที่หนังจะสื่อแล้วก็ยังขาดอรรถบางอย่างกับความเป็นหนังเกาหลีไปบ้าง แต่ยังดีว่าโทนรวมๆ ยังถ่ายทอดออกมาได้เข้าท่าอยู่
✔ สรุป ✔
Along With The Gods 2 เป็นตัวอย่างของหนังที่กล้าเปลี่ยนสไตล์ของตัวเองเพื่อเล่าประเด็นที่อยากเล่าและทำออกมาได้ดี ตัวหนังอาจมีข้อบกพร่องในเรื่องจังหวะช้าเร็วที่ไม่ค่อยสม่ำเสมอสักเท่าไร แต่พอมองภาพรวมถึงการคลี่คลายปมเนื้อเรื่องทั้งหมดแล้วก็ถือว่าเป็นการเล่าที่ยอดเยี่ยม สำหรับบางคนที่รู้สึกว่า "เอ๊ะ ฉันไม่ชอบหนังภาคแรกเลย" นั้น สไตล์ที่แตกต่างนี้อาจเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคุณก็เป็นได้
#ตั๋วหนังมันแพง
ถูกใจรีวิวก็สามารถมาแสดงความคิดเห็นและกดไลค์ + แชร์ เพื่อสนับสนุนเพจได้ครับ:
https://www.facebook.com/expensivemovie/
[หนังโรงเรื่องที่ 238] Along With The Gods 2 : ของเก่าเปลี่ยนสไตล์ ก็เด็ดไม่แพ้กัน by ตั๋วหนังมันแพง
คะแนนความชอบ : A++ (จากสเกล D-A)
(Yong-hwa Kim, 2018)
by ตั๋วหนังมันแพง
*ไม่มีมีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ
รีวิวจากภาคแรก: https://goo.gl/dwCMU3
เรื่องย่อ: ต่อเนื่องจากภาคแรก หลังจากที่คณะยมทูตนำโดย "กังลิม" ได้ส่งวิญญาณพี่ชายคนดีไปเกิดใหม่แล้ว เขาก็รับงานวิญญาณคนดีคนน้องอย่าง "คิมซูฮง" ทันที โดยมีเป้าหมายคือการทำให้อดีตวิญญาณอาฆาตตนนี้พ้นผิดและเกิดใหม่ให้ได้
ปัญหาแค่นั้นยังไม่พอ เจ้าตัวคิมซูฮงเกิดอารมณ์ติสแตกดันไม่อยากไปเกิดอีก ยิ่งไปกว่านั้นเหล่าลูกน้องยมทูตอย่าง "เฮวอนเม็ก" และ "อีด๊กชุน" ก็กำลังเข้าใกล้ความทรงจำในอดีตของตัวเองที่หายไป และความจริงทุกอย่างกำลังจะถูกเปิดเผยในบทสรุปฝ่านรกครั้งนี้
1. ถือว่าหนังกล้าเสี่ยงพอสมควรที่เลือกสไตล์การเล่าเรื่องแบบใหม่ในหนังภาคต่อแบบนี้ คือถ้าใครที่เคยดูภาคแรกมาคงจำได้ว่าหนังมันซึ้งน้ำตาท่วมจอขนาดไหน แต่พอมาในภาคนี้หนังกลับฉีกตัวเองไปเน้นการเล่าเรื่องและขมวดปมที่เฉียบคมแทนโดยเน้นดราม่าน้อยลง ที่สำคัญคือทำออกมาได้ดีมากๆ ซะด้วย ถือว่าเป็นการเดิมพันที่คุ้มค่าเพราะกลายเป็นว่าหนังทั้งสองภาคต่างก็มีรสชาติที่แตกต่างกันออกไป แต่พอเอามันมาผสานต่อเนื่องกันแล้วมันเลยกลายเป็นรสกลมกล่อมไปเลย
.
2. มุกตลกของหนังพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น มีช็อตฮาที่อยู่ในระดับที่ขำจนเสียสติหลายฉากมากๆ โดยมีตัวละคร "เฮวอนเม็ก" เป็นเดอะแบกสายฮาเช่นเคย ซึ่งถ้าจะให้เจาะลึกลงไปอีกมุกของหนังภาคนี้มันจะได้กลิ่นอายแบบเอเชียนผสมผสานกับลูกกวนโอ๊ยแบบเกาหลี ผมเชื่อว่าสาวๆ คอเกาหลี น่าจะเอ็นจอยกับภาคนี้ได้เป็นพิเศษแน่นอน
.
3. ฉากแอคชั่นที่เคยเป็นจุดว้าวของภาคแรกก็ถูกนำมาสานต่อในปริมาณที่มากขึ้น แน่นอนว่าฟีลลิ่งดราก้อนบอลในภาคแรกก็ยังอยู่ครบไม่หายไปไหน เห็นได้ชัดถึงความละเอียดของการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องและดูสมจริงมากๆ เสียดายอย่างเดียวคือมันน้อยไปนิด อยากจะตะโกนว่า "We want more" จริงๆ ให้ดิ้นตาย
.
4. อันนี้ส่วนตัวนิดนึง ผมชอบในความกาวของหนังภาคนี้มาก คือมันจะมีฉากหนึ่งที่ยมทูตกังลิมถามคิมซูโฮว่า "นายกลัวอะไรมากที่สุด" และนรกก็รับรู้ได้ถึงความกลัวนั้นจึงส่งภูตพรายออกมาตามล่าวิญญาณในรูปแบบที่เขากลัว ... ความพีคมันอยู่ตรงนี้แหละ คือกลัวอะไรไม่กลัว กลัวของอลังการซะด้วย บอกตามตรงว่าผมหัวเราะพลางกุมขมับไป มันกาวจนบียอนด์ไปอีกขั้น ถ้าคุณอยากรู้ว่าอะไรทำให้ผมขำได้ขนาดนั้นคงต้องไปดูเองแล้วล่ะ (ไม่บอกหรอก แบร่)
5. หนังเล่าเรื่องเก่งมาก ถ้าจะให้อุปมาสภาพความสัมพันธ์ของตัวละครใหม่และเก่าในภาคนี้ ก็คงเหมือนหูฟังที่เก็บไว้ในกระเป๋านานๆ น่ะครับ คือพอเริ่มหยิบออกมาเล่าปุ๊บก็ยุ่งเหยิงเป็นพัลวันไปหมด อันโน้นเชื่อมกับอันนี้ อันนี้ดองกับอันนั้น แต่จุดที่สุดยอดที่สุดคือหนังดันเอาไอ้ความยุ่งเหยิงทั้งหลายมาขมวดให้เป็นเส้นเดียวได้อย่างสวยงามและมีเหตุมีผลใช้ได้ เป็นสไตล์การผูกเรื่องแบบเอเชียที่มีเสน่ห์มากๆ และไม่ทิ้งให้คนดูงงแน่นอน
6. หนังมีการแอบแทรกปริศนาพล็อตบางอย่างเข้ามาอย่างแนบเนียน ซึ่งมันสร้างสรรค์มากๆ เปรียบเสมือนโบนัสของคนที่อ่านตัวอักษรเกาหลีออกเลยล่ะ
1. จะเรียกว่าข้อเสียก็พูดได้ไม่เต็มปาก แต่หนังมันออกตัวค่อนข้างช้าในความคิดของผมนะ กว่าที่มันจะเข้าจุดที่ "น่าสนใจ" ได้ก็ราวๆ กลางเรื่องเข้าไปแล้ว ช่วงต้นเรื่องนี่ให้ความรู้สึกยืดยาดพอสมควร อาจเป็นเพราะต้องปันฉากไปเซ็ตอัพมุกตลกที่หนังประเคนเข้ามาด้วย ผมคิดว่าสัดส่วนหนังมันน่าจะกระชับได้มากกว่านี้ ถือว่าเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ผมชอบภาคนี้น้อยกว่าภาคแรกเลย
.
2. หนังให้ความสำคัญกับนรกขุมต่างๆ น้อยมาก น้อยจนน่าเสียดาย ก็เข้าใจว่าอยากจะไปเน้นเรื่องราวปูมหลังของเหล่ายมทูตมากขึ้น แต่ผมคิดว่าเสน่ห์อย่างหนึ่งของหนังเรื่องนี้ก็คือสไตล์อันโดดเด่นของนรกขุมต่างๆ ที่เราได้ไปท่องมาในภาคแรกนี่แหละ พอสัดส่วนตรงนี้มันน้อยลง บวกกับช่วงเวลาการไต่สวนที่ดูมีความสำคัญน้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด ความรู้สึกมันเลยเหมือนขาดๆ อะไรบางอย่างไป
.
*ไม่เกี่ยวกับหนัง* ผมคิดว่าคำแปลดูงงๆ อยู่ มันมีหลายจุดที่แปลผิดเพี้ยนไปจากความหมายที่หนังจะสื่อแล้วก็ยังขาดอรรถบางอย่างกับความเป็นหนังเกาหลีไปบ้าง แต่ยังดีว่าโทนรวมๆ ยังถ่ายทอดออกมาได้เข้าท่าอยู่
Along With The Gods 2 เป็นตัวอย่างของหนังที่กล้าเปลี่ยนสไตล์ของตัวเองเพื่อเล่าประเด็นที่อยากเล่าและทำออกมาได้ดี ตัวหนังอาจมีข้อบกพร่องในเรื่องจังหวะช้าเร็วที่ไม่ค่อยสม่ำเสมอสักเท่าไร แต่พอมองภาพรวมถึงการคลี่คลายปมเนื้อเรื่องทั้งหมดแล้วก็ถือว่าเป็นการเล่าที่ยอดเยี่ยม สำหรับบางคนที่รู้สึกว่า "เอ๊ะ ฉันไม่ชอบหนังภาคแรกเลย" นั้น สไตล์ที่แตกต่างนี้อาจเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคุณก็เป็นได้
#ตั๋วหนังมันแพง
ถูกใจรีวิวก็สามารถมาแสดงความคิดเห็นและกดไลค์ + แชร์ เพื่อสนับสนุนเพจได้ครับ: https://www.facebook.com/expensivemovie/