4 พ่อแม่ลูกตะลุยเยอรมันนี นั่งรถไฟไปทุกที่ - ตอน1

หลังจากใช้บริการข้อมูลจากพันทิปมาพอสมควร วันนี้ขอนำเสนอข้อมูลการท่องเที่ยวของตัวเองกับครอบครัวในเยอรมัน ที่เพิ่งจบไปสดๆ ร้อนๆครับ ทริปนี้ได้ประสบการณ์มาเยอะพอควร กับการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟในเยอรมัน หลังจากที่เคยไปตะลุยสวิสฯมาเมื่อ 4 ปีก่อน ก่อนไปคิดว่าน่าจะเหมือนกัน คิดผิดครับ ต่างกันพอสมควรเลย ใครอยากขอข้อมูลเที่ยวสวิสฯ โดยรถไฟบอกได้นะครับ  เป็นคนชอบเที่ยวเองโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งยุโรป ญี่ปุ่น
ทาิปนี้ไปทั้งหมด 10 วัน Frankfurt, Heidelberg, Cologne, Stuttgart, Berlin และ Munich โดยพยายามจองโรงแรมติดกับสถานีรถไฟหลัก (Central Station, Hauptbahnhof) โดยคิดว่าจะได้ไม่เสียเวลาเดินทางไปโรงแรม ซึ่งเป็นการวางแผนที่ผิดพลาดพอสมควร ในใจคิดว่าน่าจะเหมือนประเทศญี่ปุ่นที่อะไรก็อยู่รอบๆสถานี แต่ที่ไหนได้ มันเป็นคนละเรื่องเลย อย่างเช่น Frankfurt ไม่น่าพักเอามากๆ โดยเฉพาะบางฝั่งของสถานี เพื่อนเยอรมันบอกว่า ไม่ควรพักอย่างยิ่ง เพราะมีพวกแก้งค้ายาทำมาหากินแถวนั้น เพื่อนเพิ่งมาบอกตอนเดินทางแล้วว่า ไม่ควรพักแถวๆ สถานีรถไฟใน Frankfurt
ครอบครัวผมมีทั้งหมด 4 คน ผม ภรรยา ลูกชายกะลูกสาว ยังไม่บรรลุนิติภาวะทั้ง 2 คน เดินทางโดยสายการบิน Emirates ไฟลท์กลางคืน ไปปลี่ยนเครื่องที่ Dubai ถึง Frankfurt ตอนเช้า ขากลับออกจาก Munich กลางคืนถึงเมืองไทย ค่ำของอีกวัน แผนการท่องเที่ยววางไว้แบบนี้ครับ
วันแรก Frankfurt
วันทึ่ 2 Heidelberg
วันที่ 3 Cologne
วันที่ 4 Stuttgart
วันที่ 5-6 Berlin
วันที่ 7-8, 10 Munich
วันที่ 9 Nuremberg
พอไปเข้าจริงไม่ได้ไป Nuremberg เพราะอะไร คอยอ่านนะครับ เดี๋ยวจะบอกเหตุผล ใครอยากได้โปรแกรมเที่ยวฉบับเต็มบอกนะครับ ผมทำไว้เป็นเล่มเลย แต่เป็นภาษาอังกฤษนะครับ ไม่ได้กระแดะ แต่มีเหตุผลส่วนตัวครับ หลิ่วตาหลิ่วตา
ก่อนพาเที่ยว ขอนำเสนอเรื่องการทำวีซ่าก่อนนะครับ ค่อนข้างจะวุ่นวายใช้ได้ โดยเฉพาะถ้าไปทำเอง เพราะเป็นอะไรที่ยุ่งหัวใจพอสมควร สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ติดต่อกับสถานฑูตเองโดยตรงอย่างผม เมื่อก่อนให้เอเย่นต์ทำให้ แต่คราวนี้ขอลุยเอง ประสบการณ์ก็คงเหมือนกับหลายๆคนที่เคยขอวีซ่าเข้าเยอรมันนี วีซ่าที่เราต้องขอเป็นวีซ่า Schengen ประเภทท่องเที่ยว สำหรับคนที่ไม่เคยทำ อ่านดีๆนะครับไม่งั้นท่านจะต้องเสียเวลาเหมือนผม เอกสารที่ท่านต้องเตรียมมีดังนี้ครับ (ข้อมูลในเวปของสถานฑูตให้ไว้ไม่ค่อยสมบูรณ์)
1. พาสปอร์ตตัวจริงที่มีอายุการใช้งานได้เกิน 6 เดือน พร้อมเล่มเก่าที่มีวีซ่า Schengen อันนี้สำคัญนะครับ ผมมีวีซ่า Schengen อยู่หลายใบ ส่วนใหญ่เป็น Business Visa ใบสุดท้ายก่อนขอใหม่มีอายุ 2 ปี (ขอไปฝรั่งเศส) สถานฑูตเยอรมันให้มา 3 ปีเลย สบายผมหล่ะ แต่ครอบครัวได้แค่ เดือนเดียว เพราะมี  Schengen Visa แค่ใบเดียวตอนไปสวิสฯ
2. สำเนาหน้าพาสปอร์ตที่มีรูปถ่าย
3. แบบฟอร์มขอวีซ่า สามารถพิมพ์ online ได้เลย อย่าลืมใส่ที่อยู่ของ โรงแรมที่พักในช่อง Inviting Person(s) เพราะไม่งั้นอาจจะโดนบ่นจากเจ้าหน้าที่ พร้อมติดรูปถ่าย 1 ใบ พร้อมกับแนบรูปอีก 1 ใบ รายละเอียดของรูปถ่ายดูได้ตามลิงค์ข้างล่าง
https://bangkok.diplo.de/blob/1376432/a281a264654da28c5f64c8eed01ff062/fotomustertafel-downloaddatei-data.pdf
4. ใบลงนามรับทราบข้อกำหนดตามกฎหมายการพำนักในเยอรมนีมาตรา 54 วรรค 2  ข้อ 8  และมาตรา 53
5. ใบจองโรงแรม (ผมใช้ใบจอง Agoda)
6. ใบจองเที่ยวบิน (อย่าเพิ่งออกตั๋วถ้าไม่มั่นใจว่าจะได้วีซ่าหรือเปล่า)
7.หนังสือรับรองการทํางาน พร้อมสำเนาใบจดทะเบียนบริษัทฯ
8.หลักฐานทางการเงิน (ขอได้ที่ธนาคาร)
9.สูติบัตร (ของเด็กๆ) ผู้ใหญ่ไม่ต้องครับ
10.โฉนดที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อท่านเป็นเจ้าของ (เพื่อเป็นหลักฐานว่าท่านมีทรัพย์สิน ที่พักเป็นหลักแหล่งและไม่คิดที่จะไปเป็นโรบินฮูดในยุโรป ประมาณนั้น)
11. สำเนาทะเบียนสมรส
12. เอกสารเปลี่ยนช่ื่อ นามสกุล (ถ้ามี)
13. หนังสือรับรองจากสถาบันการศึกษาของเด็กๆ
14.หลักฐานการประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ

ค่าสมัครคนละ 2,300 บาท เตรียมไปให้พอดีนะครับ
อย่าลืมลงนามในสำเนาเอกสารทุกๆใบด้วยนะครับ ถ้าเป็นเด็ก พ่อแม่ ต้องลงนามในเอกสารทุกใบทั้งสองคนนะครับ
ลองเปรียบเทียบกับข้อมูลสถานฑูตดูนะครับว่าละเอียดพอไหม
https://bangkok.diplo.de/th-th/service/visa-einreise/touristenvisum/1678002
ท่านต้องเรียงลำดับเอกสารตามที่ผมเรียงให้นะครับ โดยเฉพาะลำดับที่ 1-6 และ 14 ที่เหลือสลับได้
เตรียมเอกสารเสร็จก็ต้องนัดยื่นใบสมัคร Online เท่านั้นนะครับ ทุกคนที่จะขอวีซ่า ต้องจองแยกทุกคนจะครับ จองแบบครอบครัวไม่ได้นะครับ ผมต้องเสียเวลาพาครอบครัวไปถึง 2 รอบเพราะเข้าใจว่าจองแค่คนเดียวก็พอ ครั้งที่ 2 ขาดใบรับรองจากโรงเรียน อ้อถ้าท่านเปลี่ยนใจเลือก โรงแรมใหม่ ท่านต้องไปแจ้งสถานฑูตให้เปลี่ยนข้อมูลใหม่นะครับ (ถ้าไม่เปลี่ยนก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรหรือเปล่าเพราะตอนไปถึงที่เยอรมัน ตม. ไม่ขอดูอะไรเลย)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่