สวัสดีคุณผู้อ่านนะครับ รีวิวนี้ถือว่าใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเขียนมา ดังนั้นจึงของแยกการ review ออกเป็น 4 part หลักๆ และ 1 extra เผื่อสะดวกต่อการอ่านตามความต้องการนะครับ คือ
Part1 : การตัดสินใจและการเตรียมตัว => กระทู้นี้
Part2 : ชีวิตและความเป็นอยู่ =>
https://medium.com/@BrightoJourney/internship-at-ntu-sg-part-living-c51f4917c1f4
Part3 : เที่ยวช้อปกิน
Part4 : ค่าใช้จ่ายและบทสรุป
Extra : รีวิว westwood hostel จากเพื่อนร่วมงาน =>
https://ppantip.com/topic/37939823/
Part1 : การตัดสินใจและการเตรียมตัว..
ความจริงแล้วตอนแรกที่ตั้งใจไว้คือ จะไปฝึกงานที่ มหาลัยในอเมริกา เพราะอยากหาที่ต่อโทไว้แล้วก็อยากลองสัมผัสกับสังคมต่างประเทศแล้วก็ถือว่าเป็นการฝึกภาษาไปในตัวด้วย แต่ด้วยความที่ปีนี้ เขาเปลี่ยน co-ordinator และปัญหาบางประการก็เลยทำให้ไม่ได้ไป .. ในใจก็แบบว่า เอาแล้วไงจะเอาไงต่อดี ที่ไทยหรอ .. ไม่ ๆๆๆ อยากไป ตปท. และด้วยความที่ว่า ที่ภาควิชา มีอีกหลายๆที่ที่เป็นฝึกต่างประเทศเหมือนกัน ก็เลยมานั่งชั่งใจ ซึ่งก็เหลือ เยอรมัน กับ สิงค์โปร์(NTU/NUS/IHPC/Nvidia(มาตอนติด NTU ไปแล้วเสียใจ TT)) แล้วก็ ออสเตรเลีย ..
สิ่งแรกที่ทำคือ เปิดเว็บ ranking มหาลัย ดู rank ว่าที่ไหนดีสุด แล้วก็เรียงๆตามนั้น ซึ่ง top rank นั้นก็คือ สิงค์โปร์นั่นเองงง ก็เลยตัดออก และนอกจากนี้ อีกเหตุผลนึงก็คือ ค่อนข้างรู้ผลเร็วว่าได้หรือไม่ได้ ทีนี้ก็เลยตัดช้อยอื่น ก็จะเหลือ NTU NUS IHPC(A-star) โดยที่ NTU NUS เป็นมหาลัย แต่ IHPC เป็นสถาบันวิจัย (ได้เงินเดือนด้วยย เยอะพอสมควร เอาเป็นว่าเงินเหลือแน่นอน แต่ expectation เขาก็สูงตาม) Nvidia ก็เป็นแลปนึงที่อยู่ใน NTU (แต่ไม่ได้สนใจหัวข้อฝึกงานนั้นเลยตัดทิ้ง)คำถามต่อมา เอาไงดีเพราะ NTU NUS จะรู้ผลไว แต่ถ้า IHPC คือถ้าไม่ติดเท่ากับว่าต้องฝึกงานไทย แล้วก็เกรดเฉลี่ยของคนที่ได้ไปนี่สูงริบ .. ลำพังเราก็อาจจะไม่ ก็เลยตัด IHPC ทิ้งเพราะไม่อยากเสี่ยง รวมถึงการทำงานที่ความคาดหวังค่อนข้างเยอะด้วย (มันกดดันง่ะ) .. ก็เหลือ 2 ที่ แต่เรื่องที่เราสนใจมีอยู่ที่เดียว(Machine learning & Big data) นั่นก็คือ NTU ดังนั้นก็เลย เลือกสมัครโดยไม่ลังเล .. แน่นอนว่าผลก็เป็นไปตามคาด ติดแบบสบายๆ .. อันนี้เขาคัดเกรดด้วยนะ แต่คนสมัครมันพอดีเลยรับหมด 55555 ประกาศเร็วมากก รับสมัครประมาณ กลางพฤศจิกา ต้นธันวา รู้ผลแล้ว อิอิ
ในช่วงประสานงานนั้นก็ใช้เวลาค่อนข้างพอสมควรในการทำเอกสาร ซึ่งในระหว่างนี้ก็สอบปลายภาคด้วยความสบายใจ แล้วปิดเทอมแบบชิวๆ ..
ภาพตัดมาช่วงได้เอกสารแล้วก็ ทำการจองตั๋วเครื่องบิน โดยนี่เลือกบินของ airasia เพราะว่ามันถูกแค่นั้นแหล่ะ และใช้เจ้านี้บ่อย 55555 .. อย่าลืมไปขอใบเสร็จจริงไว้เบิกที่สนามบินหรือโทรคอลเซ็นเตอร์ไปก็ได้
ส่วนที่พักนั้นมันก็จะมีประเด็นอยู่เพราะว่า สิงคโปร์เขาไม่มี short term period มีแต่ 3เดือนขึ้นไป และแน่นอนว่า พวกอสังหา นี่ทักไปเยอะมาก แต่หนีกันรัวๆ เพราะอยู่ไม่ถึง .. ดังนั้นก็เหลือไม่กี่ตัวเลือก หอใน(ตอนแรกไม่รู้ว่ามันรับคนนอกด้วย แต่ใกล้ๆเปิดเทอมก็ต้องออมาอยู่ดี เพราะเขาจะให้เด็กเขาอยู่) ต่อมา หอนอก มีเจ้านึงชื่อ westwood แต่ไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ ตามลิงค์เลยจ้าา
https://ppantip.com/topic/37939823/ และสุดท้ายคือ airbnb กับพวก room sharing(นายหน้าอสังหาฯ แนะนำมา บอกว่า no choice นาา) แต่อันนี้ขอให้ลองดูกฎหมายเรื่อยๆว่าจะเป็นยังไง
อย่าลืมทำประกันเดินทางถึงแม้มอที่นู้นจะทำให้แล้วด้วยก็เถอะ คิดซะว่าหลังฝึกงานเสร็จจะเที่ยวไรงี้ เอาหล่ะ เอกสารเรียบร้อย จองตํ่วที่พัก ทำประกันเรียบร้อย ก็มาถึงช่วงจัดเป๋าทำแผนที่
สำหรับใครที่ไม่คุ้นกับอาหารต่างประเทศหรืออยากประหยัดเงิน ก็แนะนำให้พกอาหารกระป๋องไปด้วย แต่เชื่อเถอะ เดี๋ยวก็จะลืมกิน ถถถถถ .. แล้วก็อย่าลืมของฝาก อาจารย์ คนที่นู่นด้วยหล่ะ ที่นุ้นชอบ ทุเรียน กับมะม่วง มากกกกกกก แล้วก็บัตรเงินสด ใช้จับจ่ายซื้อของหรือใช้ขึ้นรถไฟฟ้า ขึ้นรถเมล์ .. มีของ ez-link อันนี้ลายสวย กับของ NETS flash pay ก็เลือกเอาตามสะดวก หรือ จะรอบัตร นศ. ของ NTU ก็ได้ ใช้ได้เหมือนกัน
นี่ EZ-link
สุดท้ายเตรียมบอกลาเมืองไทย ส้มตำ น้ำตก จกกันเยอะๆ เพราะที่นู้น อาหารไทยแพงมากกกกก T_T
พอถึงที่สิงคโปร์นั้น เราก็จะยื่นไปเอกสาร เช่นพวก IPA ให้ตม. ดูบอกว่า ตรูมาทำงานะจ๊ะ แล้วก็จะผ่านมาง่ายๆ พร้อมตราประทับ 30 วัน .. นั่นก็เพราะว่า เราต้องเขาไปทำเอกสารอีกทีนึง เพื่อเปลี่ยนเป็น pass ทำงาน ซึ่งก็จะมีหน้าตาประมาณนี้ .. [รูป] โดยความพิเศาของมันคืออยู่ได้เกิน 30วัน และใช้เข้าออกสิงคโปร์ได้ไม่จำกัด ใช้ auto gate ฝั่งตม. สิงคโปร์ได้ด้วย ซึ่งจะได้มาจากการที่เราไปยื่นเอกสารกับพวกฝ่ายทะเบียนที่มหาลัยก่อน(One stop อยู่ตึก North spine) จากนั้นก็ไปที่ MOM อยู่แถวๆ คลากคลีย์ ไปแล้วก็อย่าลืมแวะกิน ซงฟา บากุเต๋ อร่อยมั่กกก และค่าใช้จ่ายนั้นก็โคตรจะแพงเลย $383 กระอั่กเลือดตายแพรพ ..
แผนที่ไป MOM และ บากุเต๋
หลังจากดำเนินเรื่องก็จะได้ใช้ สวัสดิการมอ เช่น เจ็บป่วย รักษาฟรี แต่ยาไม่ฟรี ถถถ เน็ตมอ(กากกว่าจะต่อติด) เมลมอ ยืมหนังสือ เข้าสัมมนาฟรี จองห้องอเนกประสงค์ได้ office365 และข่าวสารจากมอ จย้าาา
ส่วนเรื่องเงินแนะนำให้ใช้ กรุงไทย travel card ของเขาดีจริง กดได้ รู้สึกจะของ OCBC กับ POSB แบบที่ไม่เสียค่าธรรมเนียมนะ
เรื่องซิมมาซื้อที่นี่เอา ตอนมาได้ของแถมด้วย
และสุดท้ายที่นี่มีที่ฉีดตูด ค่อนข้างเยอะ ดังนั้นไอ่กระบอกฉีดล้างตูดไม่ต้องก็ได้
และรีวิวหน้าจะเป็นเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่นาจาาา ติดตามด้วยนาาาาา <3
ปล. Terminal4 สวยมากก แต่ถ้าไป MRT ต้องนั่ง shuttle bus ไปลง terminal2 ถ้ามาก็อย่าลืมตรวจสอบเวลาด้วยว่ามีรถไหมมม
ฝึกงานต่างแดน ณ Nanyang Technology University สิงคโปร์ [การตัดสินใจและการเตรียมตัว]
Part1 : การตัดสินใจและการเตรียมตัว => กระทู้นี้
Part2 : ชีวิตและความเป็นอยู่ => https://medium.com/@BrightoJourney/internship-at-ntu-sg-part-living-c51f4917c1f4
Part3 : เที่ยวช้อปกิน
Part4 : ค่าใช้จ่ายและบทสรุป
Extra : รีวิว westwood hostel จากเพื่อนร่วมงาน => https://ppantip.com/topic/37939823/
Part1 : การตัดสินใจและการเตรียมตัว..
ความจริงแล้วตอนแรกที่ตั้งใจไว้คือ จะไปฝึกงานที่ มหาลัยในอเมริกา เพราะอยากหาที่ต่อโทไว้แล้วก็อยากลองสัมผัสกับสังคมต่างประเทศแล้วก็ถือว่าเป็นการฝึกภาษาไปในตัวด้วย แต่ด้วยความที่ปีนี้ เขาเปลี่ยน co-ordinator และปัญหาบางประการก็เลยทำให้ไม่ได้ไป .. ในใจก็แบบว่า เอาแล้วไงจะเอาไงต่อดี ที่ไทยหรอ .. ไม่ ๆๆๆ อยากไป ตปท. และด้วยความที่ว่า ที่ภาควิชา มีอีกหลายๆที่ที่เป็นฝึกต่างประเทศเหมือนกัน ก็เลยมานั่งชั่งใจ ซึ่งก็เหลือ เยอรมัน กับ สิงค์โปร์(NTU/NUS/IHPC/Nvidia(มาตอนติด NTU ไปแล้วเสียใจ TT)) แล้วก็ ออสเตรเลีย ..
สิ่งแรกที่ทำคือ เปิดเว็บ ranking มหาลัย ดู rank ว่าที่ไหนดีสุด แล้วก็เรียงๆตามนั้น ซึ่ง top rank นั้นก็คือ สิงค์โปร์นั่นเองงง ก็เลยตัดออก และนอกจากนี้ อีกเหตุผลนึงก็คือ ค่อนข้างรู้ผลเร็วว่าได้หรือไม่ได้ ทีนี้ก็เลยตัดช้อยอื่น ก็จะเหลือ NTU NUS IHPC(A-star) โดยที่ NTU NUS เป็นมหาลัย แต่ IHPC เป็นสถาบันวิจัย (ได้เงินเดือนด้วยย เยอะพอสมควร เอาเป็นว่าเงินเหลือแน่นอน แต่ expectation เขาก็สูงตาม) Nvidia ก็เป็นแลปนึงที่อยู่ใน NTU (แต่ไม่ได้สนใจหัวข้อฝึกงานนั้นเลยตัดทิ้ง)คำถามต่อมา เอาไงดีเพราะ NTU NUS จะรู้ผลไว แต่ถ้า IHPC คือถ้าไม่ติดเท่ากับว่าต้องฝึกงานไทย แล้วก็เกรดเฉลี่ยของคนที่ได้ไปนี่สูงริบ .. ลำพังเราก็อาจจะไม่ ก็เลยตัด IHPC ทิ้งเพราะไม่อยากเสี่ยง รวมถึงการทำงานที่ความคาดหวังค่อนข้างเยอะด้วย (มันกดดันง่ะ) .. ก็เหลือ 2 ที่ แต่เรื่องที่เราสนใจมีอยู่ที่เดียว(Machine learning & Big data) นั่นก็คือ NTU ดังนั้นก็เลย เลือกสมัครโดยไม่ลังเล .. แน่นอนว่าผลก็เป็นไปตามคาด ติดแบบสบายๆ .. อันนี้เขาคัดเกรดด้วยนะ แต่คนสมัครมันพอดีเลยรับหมด 55555 ประกาศเร็วมากก รับสมัครประมาณ กลางพฤศจิกา ต้นธันวา รู้ผลแล้ว อิอิ
ในช่วงประสานงานนั้นก็ใช้เวลาค่อนข้างพอสมควรในการทำเอกสาร ซึ่งในระหว่างนี้ก็สอบปลายภาคด้วยความสบายใจ แล้วปิดเทอมแบบชิวๆ ..
ภาพตัดมาช่วงได้เอกสารแล้วก็ ทำการจองตั๋วเครื่องบิน โดยนี่เลือกบินของ airasia เพราะว่ามันถูกแค่นั้นแหล่ะ และใช้เจ้านี้บ่อย 55555 .. อย่าลืมไปขอใบเสร็จจริงไว้เบิกที่สนามบินหรือโทรคอลเซ็นเตอร์ไปก็ได้
ส่วนที่พักนั้นมันก็จะมีประเด็นอยู่เพราะว่า สิงคโปร์เขาไม่มี short term period มีแต่ 3เดือนขึ้นไป และแน่นอนว่า พวกอสังหา นี่ทักไปเยอะมาก แต่หนีกันรัวๆ เพราะอยู่ไม่ถึง .. ดังนั้นก็เหลือไม่กี่ตัวเลือก หอใน(ตอนแรกไม่รู้ว่ามันรับคนนอกด้วย แต่ใกล้ๆเปิดเทอมก็ต้องออมาอยู่ดี เพราะเขาจะให้เด็กเขาอยู่) ต่อมา หอนอก มีเจ้านึงชื่อ westwood แต่ไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ ตามลิงค์เลยจ้าา https://ppantip.com/topic/37939823/ และสุดท้ายคือ airbnb กับพวก room sharing(นายหน้าอสังหาฯ แนะนำมา บอกว่า no choice นาา) แต่อันนี้ขอให้ลองดูกฎหมายเรื่อยๆว่าจะเป็นยังไง
อย่าลืมทำประกันเดินทางถึงแม้มอที่นู้นจะทำให้แล้วด้วยก็เถอะ คิดซะว่าหลังฝึกงานเสร็จจะเที่ยวไรงี้ เอาหล่ะ เอกสารเรียบร้อย จองตํ่วที่พัก ทำประกันเรียบร้อย ก็มาถึงช่วงจัดเป๋าทำแผนที่
สำหรับใครที่ไม่คุ้นกับอาหารต่างประเทศหรืออยากประหยัดเงิน ก็แนะนำให้พกอาหารกระป๋องไปด้วย แต่เชื่อเถอะ เดี๋ยวก็จะลืมกิน ถถถถถ .. แล้วก็อย่าลืมของฝาก อาจารย์ คนที่นู่นด้วยหล่ะ ที่นุ้นชอบ ทุเรียน กับมะม่วง มากกกกกกก แล้วก็บัตรเงินสด ใช้จับจ่ายซื้อของหรือใช้ขึ้นรถไฟฟ้า ขึ้นรถเมล์ .. มีของ ez-link อันนี้ลายสวย กับของ NETS flash pay ก็เลือกเอาตามสะดวก หรือ จะรอบัตร นศ. ของ NTU ก็ได้ ใช้ได้เหมือนกัน
สุดท้ายเตรียมบอกลาเมืองไทย ส้มตำ น้ำตก จกกันเยอะๆ เพราะที่นู้น อาหารไทยแพงมากกกกก T_T
พอถึงที่สิงคโปร์นั้น เราก็จะยื่นไปเอกสาร เช่นพวก IPA ให้ตม. ดูบอกว่า ตรูมาทำงานะจ๊ะ แล้วก็จะผ่านมาง่ายๆ พร้อมตราประทับ 30 วัน .. นั่นก็เพราะว่า เราต้องเขาไปทำเอกสารอีกทีนึง เพื่อเปลี่ยนเป็น pass ทำงาน ซึ่งก็จะมีหน้าตาประมาณนี้ .. [รูป] โดยความพิเศาของมันคืออยู่ได้เกิน 30วัน และใช้เข้าออกสิงคโปร์ได้ไม่จำกัด ใช้ auto gate ฝั่งตม. สิงคโปร์ได้ด้วย ซึ่งจะได้มาจากการที่เราไปยื่นเอกสารกับพวกฝ่ายทะเบียนที่มหาลัยก่อน(One stop อยู่ตึก North spine) จากนั้นก็ไปที่ MOM อยู่แถวๆ คลากคลีย์ ไปแล้วก็อย่าลืมแวะกิน ซงฟา บากุเต๋ อร่อยมั่กกก และค่าใช้จ่ายนั้นก็โคตรจะแพงเลย $383 กระอั่กเลือดตายแพรพ ..
หลังจากดำเนินเรื่องก็จะได้ใช้ สวัสดิการมอ เช่น เจ็บป่วย รักษาฟรี แต่ยาไม่ฟรี ถถถ เน็ตมอ(กากกว่าจะต่อติด) เมลมอ ยืมหนังสือ เข้าสัมมนาฟรี จองห้องอเนกประสงค์ได้ office365 และข่าวสารจากมอ จย้าาา
ส่วนเรื่องเงินแนะนำให้ใช้ กรุงไทย travel card ของเขาดีจริง กดได้ รู้สึกจะของ OCBC กับ POSB แบบที่ไม่เสียค่าธรรมเนียมนะ
เรื่องซิมมาซื้อที่นี่เอา ตอนมาได้ของแถมด้วย
และสุดท้ายที่นี่มีที่ฉีดตูด ค่อนข้างเยอะ ดังนั้นไอ่กระบอกฉีดล้างตูดไม่ต้องก็ได้
และรีวิวหน้าจะเป็นเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่นาจาาา ติดตามด้วยนาาาาา <3
ปล. Terminal4 สวยมากก แต่ถ้าไป MRT ต้องนั่ง shuttle bus ไปลง terminal2 ถ้ามาก็อย่าลืมตรวจสอบเวลาด้วยว่ามีรถไหมมม