สวัสดีคะ
ฤดูฝนปีนี้คุณมีที่พักผ่อนในใจแล้วหรือยัง???
ถ้ายัง วันนี้เราจะพาไปเที่ยวบ้านเกิดของเราเอง หลายๆคนอาจจะเคยมาเที่ยวจ.กาญจนบุรีกันแล้ว แต่อาจจะไม่เคยเห็นมุมสวยๆแบบนี้
วันนี้เราเลยขออาสาพาเพื่อนๆไปเที่ยวกันนะคะ
ปล.เราไปมาวันที่ 28-30/07/61 คะ
จุดหมายปลายทางของเราคือ
- สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์ค อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี
- บ้านกกกอด อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
และอ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี (บ้านอีต่องและอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ)
บางที่อาจจะเคยได้ยินหรือเคยไปกันแล้ว ถือซะว่าวันนี้เราจะพาไปอัพเดทเส้นทางกันนะคะว่าปัจจุบันนี้เป็นยังไงแล้วบ้าง
เมื่อก่อนเราเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยชอบฤดูฝนเลย เดินทางลำบาก จะไปไหนก็เดาใจไม่ถูก ไม่รู้วันดีคืนดีฝนจะตกลงมาเมื่อไร วันนี้อากาศจะเป็นยังไง แล้วที่ที่เราจะไปจะสวยเหมือนในรูปไหม หลายสิ่งหลายอย่างทำให้เราเลือกที่จะไม่ไปเที่ยวไหนในฤดูฝน
วันหนึ่งที่เรารู้สึกว่า ร่างกายต้องการพักผ่อนอยากออกไปหาที่สบายใจอยู่สักพัก แล้วยังจะรออะไรละในเมื่อใจมันสั่งมาแบบนี้ งั้นก็ไปกันเถอะคะ
***ขอบอกก่อนว่า ถ้าไม่ทันระวัง คุณจะหลงรักฤดูฝนแบบไม่รู้ตัว***
เริ่มกันที่สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์ค อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี กันก่อนเลยคะ ที่นี่เป็นสวนสัตว์เปิดที่สามารถขับรถเข้าไปได้ หรือจะนั่งรถบัสของสวนสัตว์ก็ได้คะ ค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ใหญ่คนละ 200 บาท และอาหารสำหรับให้สัตว์ 4 ถัง 100 บาทคะ
***ถ้ามาช่วงเทศกาลหรือหยุดยาวก็ต้องรอขึ้นรถบัสสวนสัตว์นานหน่อยนะคะ วันที่เราไปเป็นวันหยุดยาว (ส. 28/07/61) รอกันไปเกือบชั่วโมงเลยคะ ส่วนคนที่ไม่อยากรอก็ขับรถเข้าไปเองได้เลย แต่ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับทรัพย์สินของท่าน ทางสวนสัตว์ก็จะไม่รับผิดชอบน้าาา
เราก็จะได้ใกล้ชิดกับสัตว์แบบนี้เลยคะ ยิ่งถ้ามาวันหยุดธรรมดาที่ไม่ใช่เทศกาลคุณจะได้ใกล้ชิดกับยีราฟแบบที่ยีราฟเอาหัวเข้ามาในกระจกรถเลยนะคะ แต่วันนี้ที่ไปคนเยอะมากกกกกกก สงสัยยีราฟจะอิ่ม ไม่เดินมาหาเราเลย TT
นี่เป็นเพียงบางส่วนนะคะ สัตว์ที่นี่ก็จะมีหลายประเภทมากๆ ทั้งหมีควาย นกฟามิงโก้ กวาง เนื้อทราย เสือดาว เสือโคร่ง สิงโต นกกระจอกเทศ ยีราฟ ม้าลาย ยังมีการแสดงโชว์จระเข้และช้างอีกด้วยนะคะ ถ้าใครได้มาเที่ยวอย่าลืมแวะไปให้อาหารน้องๆกันด้วยนะคะ
ต่อไปเราจะพาไปที่พักของเราในคืนที่ 1 เราพักกันที่บ้านกกกอดคะ เป็นที่พักหนึ่งที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงเลยทีเดียว และที่สำคัญคือเงียบสงบสมคำล่ำลือมากๆคะ ถ้าใครอยากมาพักผ่อน ขอแนะนำที่นี่เลยคะ
เราเลือกเป็นบ้านกระท่อมไม้ คืนที่เข้าพักราคาอยู่ที่ 1,712 บาท มีห้องน้ำในตัว มีแอร์ มีปลั๊กไฟ และรวมอาหารเช้าคะ
หลังจากเราไปพักกันที่บ้านกกกอดแล้ว 1 คืน วันนี้เราจะพาไปบุกเมืองหมอกกันถึงอ.ทองผาภูมิ ไปเที่ยวหมู่บ้านเล็กๆกลางหุบเขาอันโด่งดัง นั่นก็คือ บ้านอีต่อง ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรีคะ เอาจริงๆที่นี่ก็ฮิตมาพักใหญ่แล้ว แต่เราก็ยังไม่เคยไป ถึงเวลาแล้วแหละที่เราจะต้องไปดูให้เห็นกับตาบ้างว่ามันจะขนาดไหนกันเชียว
เริ่มต้นเราจะพาสำรวจระหว่างทางก่อนนะคะ เขาบอกว่ากว่าจะไปถึงบ้านอิต่อง ต.ปิล็อกนั้นต้องผ่านถึง 399 โค้งกันเลยทีเดียว เราก็ไม่รู้นะคะว่าถึงไหม เพราะนับไม่ไหวจริงๆ ทั้งโค้งทั้งหลุม เอาเป็นว่าใครเมารถเตรียมถุง ยาอม ยาดม ยาหม่องไว้ให้ดีละกัน ฮ่าๆๆๆ งั้นไปกันเลยคะ
ระหว่างทางที่เราไปตั้งแต่อ.ไทรโยคฝนก็ตกๆหยุดๆสลับกันไป มีวิวเขาที่มีหมอกบางๆปกคลุมตลอดทาง อากาศเย็นสบายมากเลยคะ
[CR] ชวนไปหลงเสน่กาญจนบุรีในฤดูฝน 3 วัน 2 คืน ที่บ้านกกกอด-บ้านอีต่อง-อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
ฤดูฝนปีนี้คุณมีที่พักผ่อนในใจแล้วหรือยัง???
ถ้ายัง วันนี้เราจะพาไปเที่ยวบ้านเกิดของเราเอง หลายๆคนอาจจะเคยมาเที่ยวจ.กาญจนบุรีกันแล้ว แต่อาจจะไม่เคยเห็นมุมสวยๆแบบนี้
วันนี้เราเลยขออาสาพาเพื่อนๆไปเที่ยวกันนะคะ
ปล.เราไปมาวันที่ 28-30/07/61 คะ
- สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์ค อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี
- บ้านกกกอด อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
และอ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี (บ้านอีต่องและอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ)
บางที่อาจจะเคยได้ยินหรือเคยไปกันแล้ว ถือซะว่าวันนี้เราจะพาไปอัพเดทเส้นทางกันนะคะว่าปัจจุบันนี้เป็นยังไงแล้วบ้าง
นี่เป็นเพียงบางส่วนนะคะ สัตว์ที่นี่ก็จะมีหลายประเภทมากๆ ทั้งหมีควาย นกฟามิงโก้ กวาง เนื้อทราย เสือดาว เสือโคร่ง สิงโต นกกระจอกเทศ ยีราฟ ม้าลาย ยังมีการแสดงโชว์จระเข้และช้างอีกด้วยนะคะ ถ้าใครได้มาเที่ยวอย่าลืมแวะไปให้อาหารน้องๆกันด้วยนะคะ
เราเลือกเป็นบ้านกระท่อมไม้ คืนที่เข้าพักราคาอยู่ที่ 1,712 บาท มีห้องน้ำในตัว มีแอร์ มีปลั๊กไฟ และรวมอาหารเช้าคะ
หมดไปแล้วหนึ่งวัน เช้าวันที่2 เราตื่น 6 โมงเช้าพอดีเลยขอออกไปสูดอากาศยามเช้า รอดูพระอาทิตย์ขึ้นหน่อยละกันนะ แต่ก็รออยู่เป็นชั่วโมงสุดท้ายเมฆมาก มองไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นคะ แต่บรรยากาศบอกเลยว่าฟินสุดๆ ไปดูกันคะ
ระยะทางก่อนขึ้นเขาก็จะเป็นถนนลาดยางดีๆ ผ่านหมู่บ้านที่อยู่บริเวณตีนเขา หากไปฤดูฝนก็จะเจอน้ำป่าไหลท่วมถนนเป็นช่วงๆคะ ขับรถก็ต้องระวังๆด้วยนะคะ
จากนั้นเราก็จะต้องขับวนขึ้นไปเรื่อยๆเป็นระยะทาง26 กิโลเมตรโดยประมาณ ทางก็จะเริ่มขลุขละ มีลาดยางสลับกับหินอัด มีหลุมบ่อ ดินสไลด์สลับกันไป แต่ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยเอารถเกลี่ยดินออกจากถนนให้ตลอดนะคะไม่ต้องห่วง
สำหรับรถเก๋งก็สามารถขึ้นไปได้คะ แต่อาจจะบู๊นิดหน่อยนะคะ ลองดูเส้นทางกันคะ
หลังจากที่เราผ่านช่วงถนนชำรุดมาแล้วระยะหนึ่ง เราก็จะเจอกับวิวสวยๆระหว่างทางตลอดการขับรถขึ้นเขาคะ
ยิ่งสูงหมอกก็ยิ่งหนาขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องเปิดไฟขับรถกันตลอดเส้นทางเลย จนไปถึงอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ก่อนเข้าไปเราก็เสียค่าเข้ากันคนละ 40 บาท
สำหรับคืนที่ 2 เราพักกันที่บ้านพักอุทยานแห่งชาติ โดยจองผ่านเว็บไซด์อุทยานมาเป็นบ้านทาร์ซาน คืนละ 1,500 บาทคะ มีห้องน้ำในตัว มีน้ำให้ 2 ขวด หมอน ผ้าห่ม ตะเกียงไฟแต่ต้องเอาไฟแช็กมาจุดเองนะคะ ส่วนไฟฟ้าก็มีให้คะ แต่เขาจะปั่นไฟให้ช่วง 18.00-21.00 น. เท่านั้น หากใครจะชาร์ตแบตโทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป จังหวะนี้แหละคะ รีบทำเวลาเลย และทีสำคัญไม่มีพัดลม/แอร์ให้นะคะ แต่ถ้าไปหน้าฝนหน้าหนาวเราว่าไม่ต้องเลยแหละคะ เพราะอากาศค่อนข้างเย็นสบายมากๆ เรียกว่าหนาวเลยก็ได้ ตอนที่เราไปอยู่ที่ประมาณ 20-22 องศาเอง ส่วนบ้านทาร์ซานก็จะประมาณนี้นะคะ
บ้านทาร์ซานมีทั้งหมด 6 หลังคะ เราได้พักที่บ้านทาร์ซาน 6 คะ แต่หลังที่วิวดีที่สุดคือ บ้านทาร์ซาน 1 ใครจองได้หน้าหนาวนี่เราว่าคุ้มมากๆ วิวหลักล้านก็ว่าได้เลยนะคะ
อันนี้เป็นบ้านทาร์ซาน 1 คะ จะเห็นว่าหน้าบ้านไม่มีต้นไม้บังเลย ถึงได้บอกว่าหลังนี้วิวดีที่สุดคะ
อันนี้เป็นบ้านทาร์ซาน 2 คะ หลังนี้จะอยู่ด้านบนสุดเพราะหลังอื่นค่อนข้างจะลงดงไปแล้วค่าาา ฮ่าๆๆๆ
อันนี้เป็นบ้านทาร์ซาน 3-4 คะ
และนี่คือบ้านทาร์ซาน 5-6 หลังที่เราอยู่คือหลังที่ 6 คะ
ด้านในบ้านก็ประมาณนี้นะคะ
วิวจากระเบียงหน้าห้องคะ มีต้นไม้บังวิว แต่ถ้ามาหน้านี้ก็ไม่ต้องถามหาวิวสวยๆหรอกคะ มีแต่หมอกขาววววววววว แค่ไปกินบรรยากาศสูดอากาศบริสุทธิ์ให้ชุ่มปอดก็พอเนอะ ^^
ต่อมาเราจะพาไปบ้านอีต่องกันคะ ซึ่งห่างจากอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิไป 8 กิโลเมตร หากใครอยากไปบ้านอีต่องแต่หาที่พักไม่ได้ เราแนะนำให้มาพักที่อุทยานก็ได้นะคะ เพราะเราก็หาที่พักบ้านอีต่องไม่ทัน เต็มหมดเลย เลยต้องมานอนที่อุทยานแทน แต่!!! ฤดูฝนไม่ควรนอนเต้นท์นะคะ ลมแรง ฝนตกตลอด หาที่พักอยู่จะดีกว่า
ทางไปบ้านอีต่องหมอกลงหนามากๆๆๆๆๆ และถ้าใครจะไปเหมืองสมศักดิ์บ้านป้าเกร็น บอกเลยว่า อย่า!!!!! เพราะตอนเราไปฝนตกๆหยุดๆตลอด หนักบ้างเบาบ้าง ไม่ควรลงไปเลยคะ แค่ฝนไม่ตกก็ต้องใช้รถ 4x4 แล้ว ยิ่งฝนตกแบบนี้ 4x4 ก็ไปไม่รอดคะ ต้องคนที่ชำนาญทางจริงๆ รวมถึงน้ำตกจ๊อกกระดิ่งเจ้าหน้าที่ก็ปิดทางไม่ให้ลงแล้ว น้ำป่าลงมามาก ทางอันตรายคะ สรุปถ้าจะไป 2 ที่นี้ไม่ใช่หน้าฝนน่าจะเข้าท่านะคะ
ขับเข้ามาก็หาที่จอดกันก่อนเลย หาค่ออนข้างยากหน่อยแต่ก็หาจนได้คะ ฮ่าๆๆๆ
ต่อไปเราจะพาไปชมเมืองหมอกกันนะคะ พร้อมแล้ว ลุยยยย!
ร้านอาหารขึ้นชื่อที่นี่น่าจะเป็นร้านครัวเจ๊ณีคะ ทีเด็ดคือปูพม่า ซึ่งเราไปคนเยอะมาก อดค่าาาาาา
บรรยากาศดีมากกกกก น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาเลยทีเดียว เราเดินถ่ายรูปเล่นไปไม่ทันไรก็ต้องรีบกลับไปอุทยานแล้ว เพราะระหว่างทางไม่มีไฟ เดี๋ยวมืดจะกลับลำบาก ส่วนอาหารเย็นก็ต้องหากินที่นี่เลยนะคะหรือร้านค้าที่อุทยานก็จะมีแค่พวกขนม น้ำ มาม่า อาหารสำเร็จต่างๆเท่านั้น
เดินกลับมาปรากฏว่าหมอกเริ่มจากลงแล้วคะ เราเลยได้เห็นบ้านหลังนี้ในม่านหมอกจางๆ มันดีมากเลยใช่มั้ยละคะ
ก่อนกลับก็ขออีกสักรูปเนอะ
ไปต่อในคอมเม้นนะคะ
ฝากติดตามรูปสวยๆทริปดีๆอีกมากมายได้ที่เพจนะคะ ><
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้