สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกกระทู้แล้ว
Fashion set ด้านล่างนะครับ แอบ สปอย
วันนี้จะมาพูดถึงประสบการ์ณ การใช้งานกล้อง Olympus OM-D E-M10 Mark lll ครับพ้มมมม
ขอเกริ่นคร่าวๆ ก่อนนะครับว่า ปรกติ เป็นคนไม่มีกล้อง mirrorless เป็นของตัวเองมาก่อนเลย
อย่างมากที่สุดก็แค่ถ่ายรูปเล่นให้เพื่อนตอนไปเที่ยว
ตอนทีได้กล้องมาใหม่ๆ ผมก็ลองอ่านเว็ปนั้นเว็ปนี้
อยากรู้ว่ามันดียังไง มันต่างกันตรงไหน
เลยอยากจะเอาข้อมูลมาแชร์ให้เพื่อนๆ กันนะครับ
( เขียนอะไรตกหล่นไปบ้างขออภัยด้วยนะครับ)
เริ่มกันเลยเนอะ เจ้ากล้อง E-M10 Mark lll เนี่ย เป็นกล้องที่พัฒนา ต่อเนื่องมาจาก OM-D EM10 Mark II
ที่ทาง Olympus ได้วางขายเมื่อปี 2015 หลังจากนั้น อีก 2 ปี ได้ถึงคราว เจ้า Mark III จะได้ออกมาโลดแล่นกับเค้าบ้าง
จุดเด่นแรกสุดที่ผมชอบก็คือ หน้าตากับรูปทรงครับ ดูวินเทจดี ทีนี้ลองมาศึกษาสเป็คคร่าวๆกันดูบ้าง
โดย จุดที่ค่อนข้างน่าสนใจครับ ก็คือ Video ที่พัฒนาจาก full-hd มาเป็น 4K
ใช้ระบบ ประมวลผล ตัวเดียว กับกล้องรุ่นใหญ่อย่าง EM-1 II ซึ่งแน่นอนว่า
คุณภาพรูปที่ได้ จะต้องดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมๆแน่นอนครับ
จุดที่ผมค่อนข้างประทับใจก็คือ จุดโฟกัส เพิ่มมาจากเดิม 40 จุด ( จาก 81 จุดเป็น 121 จุด )
(photo credit: https://mirrorlesscomparison.com/preview/olympus-omd-em10-ii-vs-omd-em10-iii/ )
ตอนใช้งาน ค่อนข้างชอบใจครับ โฟกัสได้เร็ว และแม่นยำมากจริงๆ
ส่วนเรื่องปุ่มกด การใช้งานต่างๆ ผมมองว่าไม่ต่างจากรุ่นก่อนเท่าไหร่นักครับ
แต่ที่จะเห็นชัดๆเลย ก็คือ กริปที่จับถือ ใหญ่ขึ้นอีกเล็กน้อย จับแล้วกระชับมือพอสมควรครับ
ตอนที่ได้กล้องมาใหม่ๆ นี่ผมได้มีโอกาส ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นกับครอบครัวมาครับ
เลยเอารูปมาฝากนิดหน่อย เพราะกะว่า จะลองเอากล้องนี้ไปใช้ทำงานจริงสักครั้งนึง
กะว่าต้องลองให้ถนัดมือเสียก่อน
( รูปที่ลง จะมาจากไฟล์ jpeg ของกล้อง ไม่ได้ตกแต่งภาพใดๆนะครับ )
เลนส์ ที่ได้นำไปใช้ก็จะมี M.Zuiko Digital ED 14-42mm f/3.5-5.6 EZ กับ M.Zuiko Digital 17mm f/1.8 Lens
ปรกติเวลาผมไปเที่ยว ผมจะพก กล้อง DSLR ไปด้วยครับ ซึ่งมันค่อนข้างหนักครับ
เดินเยอะๆ ไปหลายๆวันก็ปวดตัว เมื่อยไหล่กันไป หลังๆก็เลยไม่พกกล้อง ดิจิตอลไปเที่ยวเท่าไหร่
อาศัยกล้องฟิล์มตัวเล็กๆแทน ส่วน เจ้า E-M10 Mark lll นี่หายห่วงครับ เบามากๆ ( ประมาณ 500g เท่านั้นเอง )
เบากว่ากล้องฟิล์มผมซะอีก 5555555
ภาพจากไฟล์ค่อนข้างพอใจนะครับ ตอนที่ถ่าย ตอนนั้น Lightroom ยังเปิดไฟล์ raw ไม่ได้เลย ก็เลยถ่าย jpeg มันซะเลยครับ
E-M10 Mark lll จะมี Art filter มาให้สำหรับคนชอบขี้เกียจแต่งรูป
แต่อยากได้ ภาพสี โทนอื่นๆนะครับ แต่ผมไม่ได้ใช้นะ 555 (จะพูดเพื่อ)
อย่างสีเขียวๆ ที่เห็นในภาพนี่เกิดจากการ shift white balance ไปทางเขียว ฟ้า นิดๆ ครับ
แล้ว ปรับค่าที่ Curve ในกล้องอีกที ( Hilight -1 Shadow +2) เพราะปรกติ ผมใช้กล้องฟิล์มถ่ายรูปตลอดเวลา
ก็เลยมักจะชอบรูปที่เป็นโทนฟิล์มๆ สบายตาๆ หน่อยๆครับ
แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องปรับตามผมทุกอย่างนะครับ ต่างคนต่างก็มีสไตล์ที่ชอบต่างกัน
ลองเอาไปปรับเล่นกันดูครับ เผื่อจะได้ผลลัพธ์ที่ถูกใจมากกว่านี้ เนอะ
ส่วนโทนสีที่ผมลองปรับจากหลังกล้องแล้วผมว่า สวยดีแล้วสะดวกดีด้วยยยย เพราะว่า ส่งไฟล์ผ่านไวไฟ อัพโหลดไปอวดเพื่อนได้ทันที 555
ไปต่อกันที่เรื่องเลนส์ที่มาพร้อมกล้องนะครับ (M.Zuiko Digital ED 14-42mm f/3.5-5.6 EZ) กันต่อ
ค่อนข้างใช้ได้เลยนะ คือ คุณภาพโอเค แม้ว่าผมจะเป็นคนชอบใช้เลนส์ฟิกส์สุดๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่า
เลนส์ที่เหมาะกับการท่องเที่ยวก็คือเลนส์ซูมที่มีหลายช่วงนี่แหละ สะดวกที่สุด
ช่วงระยะ กว้างที่สุดของเลนส์ คือ 14mm เทียบเท่า 28mm บนกล้อง 35mm
ก็ถือว่ากว้างเพียงพอ ที่จะเก็บภาพวิวสวยๆ เวลาท่องเที่ยวได้แล้วครับ
อีกข้อที่ ชอบเกี่ยวกับกล้องนี้ก็คือ shutter แบบ touch screen คือจิ้มๆ ตรงที่อยากให้ชัดได้เลย
แล้วกล้องก็จะ โฟกัส ถ่าย ฉับๆ ไวมาก ผมว่าคนที่อยากลองถ่ายอะไรแบบ สแนบๆ หน่อยๆ น่าจะชอบฟีตเจอร์นี้น่าดู
คือในบางครั้งที่ผมพกกล้องตัวใหญ่ๆ ไปถ่ายรูป เวลาเที่ยว ปัญหาที่พบประจำคือ
คนมองหน้าตอนลั่นชัตเตอร์ประจำ !! ผมล่ะกลัวโดนทุบ ทุกที 555
แม้ว่าบางที จะแสนบถ่าย แต่ด้วยความที่กล้องมันเสียงดัง ฉับ ฉับ! เวลาถ่าย เค้าก็จะรู้ตัวอยู่ดี
ผมว่าประโยชน์ของกล้องเล็กๆนี่คือ เวลาไปถ่ายอะไร คนมักไม่ค่อยแตกตื่น แล้วก็เงียบซะด้วยสิ
ทีนี้เรามาลอง กันสั่น 5 แกน ของเจ้ากล้องตัวนี้กันบ้าง อันนี้ขอเกริ่นอีก ตามเคย ผมไม่เคยมีกล้องที่มีกันสั่นมาก่อน
ใช้แต่กล้อง DSLR อย่างมากที่สุดก็มี กันสั่นที่เลนส์ (โธ่วว)
ใช้ได้ทีเดียวนะครับ ทีนี้มือใหม่หลายๆคน คงไม่ต้องมากังวลว่า ถ่ายที่มืด รูปจะสั่นหรือเปล่า
เพราะ กันสั่นของ OMD EM10 mark iii ค่อนข้างใช้งานได้ดีทีเดียวครับ
หลังจากได้ลองกล้องอยู่หลายวัน ก็ค่อนข้างเข้ามือ ก่อนที่จะนำไปถ่ายงานจริง ก็เลยชวนคนรู้จักมาถ่ายรูปเล่นกันดูก่อนครับ
จะได้ลอง เซ็ตติ้งของตัวกล้องเอง แล้วก็ ลองเอาไฟ ที่คิดว่าจะใช้มาทดลองทำงานดูด้วย โดยมีจุดประสงค์ก็คือ
อยากดูเรื่องสีของไฟล์ภาพ อยากดูว่าคุณภาพไฟล์เป็นยังไงบ้าง ประมาณนั้นครับ
คุณภาพความละเอียดไฟล์ ค่อนข้างโอเคมากๆครับ ปรกติผมจะใช้กล้อง DSLR Full-frame ในการทำงาน
บางงานต้องการความละเอียดของไฟล์ค่อนข้างสูง เพื่อใช้รีทัช แต่พอดูไฟล์จากกล้อง OM-D EM10 Mark iii แล้วรู้สึกว่า กล้องตัวนี้ไม่ธรรมดา
คุณภาพไฟล์ค่อนข้างละเอียด พอซูมดูรายละเอียด ไม่คิดเลยครับว่ากล้องสมัยนี้ จะทำได้ออกมาดี แล้วก็ใช้งานง่ายมากๆครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้[ ขอบคุณ Riety (Model) และ @ofcourse.im.asian (Stylist) ]
( รูปนี้ ไม่ได้ตกแต่งใดๆนะครับ เป็นไฟล์ jpg จากตัวกล้องเลย )
ถัดมาขออนุญาตพูดถึงเรื่อง VDO 4K บ้างนะครับ พอดีระหว่างที่ถ่าย อยู่ก็เกิดไอเดียว่า
เอ้ ถ้าเกิดเราถ่าย VDO 4K แล้วเอามา ตัดเป็นรูปๆล่ะ ผลจะเป็นยังไงบ้าง ก็เลยลองถ่ายดูสักคลิปสองคลิปครับ
ถ้าผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ ผมว่า เราจะได้รูปสวยๆ มาใช้มากมาย จากการถ่าย VDO แค่ครั้งเดียวเลยล่ะครับ
อันนี้เป็นรูปที่ Capture มาจาก vdo นะครับ
อาจจะดูเบลอๆ เพราะว่าผมใส่ฟิลเตอร์ทับไปอีกทีครับ แต่ผมว่ารูปที่ได้ มาก็ละเอียดใช้ได้นะครับ
พอลองเอารูปที่ capture มาจัดเรียงดู ก็ดูสวยไปอีกแบบนะครับ วิธีนี้ผมว่าดีมากๆเลย สำหรับคนที่ อยากได้รูปสวยๆ
แต่ นางแบบเกร็ง จับจังหวะไม่ได้สักที ก็เลยให้นางแบบลองเคลื่อนไหวไปด้วย
ไอเดียนี้ผุดขึ้นมาตอนนั่งดูรูปครับ ปรกติงานที่ผมชอบดู มักจะมีรูปที่ฟิลลิ่งสวยๆ เยอะแยะมากมาย
ก็เลยคิดว่าเอ้ ทำยังไงดีที่จะถ่ายรูปนางแบบให้ได้ฟิลลิ่งที่เป็นธรรมชาติ และไม่ดูแข็งจนเกินไป
ก็เลย ให้นางแบบ เคลื่อนไหวไปมาซะเลย แล้วก็ถ่าย VDO มาตัดอีกที
ลองเอาไปใช้กันดูนะครับ
โอเคครับ พอคิดว่ากล้องเริ่มเข้าที่เข้าทาง เหมาะมือ เรียบร้อย อุปกรณ์ที่มีก็ครบเรียบร้อย
มาลองทำงานกันดูครับ อยากรู้เหมือนกันว่า กล้องตัวนี้จะตอบโจทย์ตัวผมเองแค่ไหน
การถ่าย Fashion set ครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ ทีมงาน แล้วก็ ทาง Olympus Thailand มากๆนะครับที่ให้โอกาสได้ลองใช้กล้องตัวนี้
อุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายก็มี
Camera
Olympus OM-D E-M10 Mark III
Lens
M.Zuiko Digital ED 14-42mm f/3.5-5.6 EZ
M.Zuiko Digital 17mm f/1.8
ตกแต่งภาพ จาก File raw ด้วย Adobe light room CC ครับผม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้before and after ครับ
เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับรีวิวชุดนี้ โดย ส่วนตัวผมว่า คุณภาพของกล้อง E-M10 Mark lll นี้
คุณภาพไฟล์ ถือว่าโอเคมาก ในระดับที่น่าพอใจเลยนะครับ ถ้าผมมีเพื่อนก็ คงจะแนะนำ กล้องตัวนี้แหละ
ให้ลองไปลองใช้งานดู เพราะว่า ผมก็ไม่คิดเหมือนกันที่ กล้อง mirrorless สมัยนี้ ได้พัฒนาเรื่องคุณภาพไปไกล
เกินกว่าที่ผมคาดไว้ซะอีกแหน่ะ เรื่องโฟกัส การควบคุมกล้อง ก็ค่อนข้างจะตอบโจทย์เรื่อง การถ่ายได้ดีมากๆ
อีกทั้งยัง ถ่าย vdo ได้สวยสุดๆ แถมยังเป็นมิตรกับมือใหม่ด้วยนะ
ถ้าเพื่อนๆคนไหนกำลังมองหากล้องตัวเล็กๆพกง่ายไว้ใช้งาน ผมว่า
OMD E-M10 Mark III นี่แหละครับ ค่อนข้างตอบโจทย์ใช้ได้เลยทีเดียวเลยหล่ะครับ
หากมีคำถามอะไร เกี่ยวกับการใช้งานกล้องตัวนี้ ทักมาถามในอินบ็อคได้นะครับ จะพยายามตอบเท่าที่จะตอบได้ครับผมมม
เจอกันรีวิวหน้านะครับ
ปล. เข้าไปติดตามผลงานส่วนตัวของผมได้ที่ ig : gongtairoop นะครับ
[SR] (SR) ถ่ายแฟชั่นด้วยกล้อง Olympus OM-D E-M10 Mark lll - Stop waitng for friday -
Fashion set ด้านล่างนะครับ แอบ สปอย
วันนี้จะมาพูดถึงประสบการ์ณ การใช้งานกล้อง Olympus OM-D E-M10 Mark lll ครับพ้มมมม
ขอเกริ่นคร่าวๆ ก่อนนะครับว่า ปรกติ เป็นคนไม่มีกล้อง mirrorless เป็นของตัวเองมาก่อนเลย
อย่างมากที่สุดก็แค่ถ่ายรูปเล่นให้เพื่อนตอนไปเที่ยว
ตอนทีได้กล้องมาใหม่ๆ ผมก็ลองอ่านเว็ปนั้นเว็ปนี้
อยากรู้ว่ามันดียังไง มันต่างกันตรงไหน
เลยอยากจะเอาข้อมูลมาแชร์ให้เพื่อนๆ กันนะครับ
( เขียนอะไรตกหล่นไปบ้างขออภัยด้วยนะครับ)
เริ่มกันเลยเนอะ เจ้ากล้อง E-M10 Mark lll เนี่ย เป็นกล้องที่พัฒนา ต่อเนื่องมาจาก OM-D EM10 Mark II
ที่ทาง Olympus ได้วางขายเมื่อปี 2015 หลังจากนั้น อีก 2 ปี ได้ถึงคราว เจ้า Mark III จะได้ออกมาโลดแล่นกับเค้าบ้าง
จุดเด่นแรกสุดที่ผมชอบก็คือ หน้าตากับรูปทรงครับ ดูวินเทจดี ทีนี้ลองมาศึกษาสเป็คคร่าวๆกันดูบ้าง
โดย จุดที่ค่อนข้างน่าสนใจครับ ก็คือ Video ที่พัฒนาจาก full-hd มาเป็น 4K
ใช้ระบบ ประมวลผล ตัวเดียว กับกล้องรุ่นใหญ่อย่าง EM-1 II ซึ่งแน่นอนว่า
คุณภาพรูปที่ได้ จะต้องดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมๆแน่นอนครับ
จุดที่ผมค่อนข้างประทับใจก็คือ จุดโฟกัส เพิ่มมาจากเดิม 40 จุด ( จาก 81 จุดเป็น 121 จุด )
(photo credit: https://mirrorlesscomparison.com/preview/olympus-omd-em10-ii-vs-omd-em10-iii/ )
ตอนใช้งาน ค่อนข้างชอบใจครับ โฟกัสได้เร็ว และแม่นยำมากจริงๆ
ส่วนเรื่องปุ่มกด การใช้งานต่างๆ ผมมองว่าไม่ต่างจากรุ่นก่อนเท่าไหร่นักครับ
แต่ที่จะเห็นชัดๆเลย ก็คือ กริปที่จับถือ ใหญ่ขึ้นอีกเล็กน้อย จับแล้วกระชับมือพอสมควรครับ
ตอนที่ได้กล้องมาใหม่ๆ นี่ผมได้มีโอกาส ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นกับครอบครัวมาครับ
เลยเอารูปมาฝากนิดหน่อย เพราะกะว่า จะลองเอากล้องนี้ไปใช้ทำงานจริงสักครั้งนึง
กะว่าต้องลองให้ถนัดมือเสียก่อน
( รูปที่ลง จะมาจากไฟล์ jpeg ของกล้อง ไม่ได้ตกแต่งภาพใดๆนะครับ )
เลนส์ ที่ได้นำไปใช้ก็จะมี M.Zuiko Digital ED 14-42mm f/3.5-5.6 EZ กับ M.Zuiko Digital 17mm f/1.8 Lens
ปรกติเวลาผมไปเที่ยว ผมจะพก กล้อง DSLR ไปด้วยครับ ซึ่งมันค่อนข้างหนักครับ
เดินเยอะๆ ไปหลายๆวันก็ปวดตัว เมื่อยไหล่กันไป หลังๆก็เลยไม่พกกล้อง ดิจิตอลไปเที่ยวเท่าไหร่
อาศัยกล้องฟิล์มตัวเล็กๆแทน ส่วน เจ้า E-M10 Mark lll นี่หายห่วงครับ เบามากๆ ( ประมาณ 500g เท่านั้นเอง )
เบากว่ากล้องฟิล์มผมซะอีก 5555555
ภาพจากไฟล์ค่อนข้างพอใจนะครับ ตอนที่ถ่าย ตอนนั้น Lightroom ยังเปิดไฟล์ raw ไม่ได้เลย ก็เลยถ่าย jpeg มันซะเลยครับ
E-M10 Mark lll จะมี Art filter มาให้สำหรับคนชอบขี้เกียจแต่งรูป
แต่อยากได้ ภาพสี โทนอื่นๆนะครับ แต่ผมไม่ได้ใช้นะ 555 (จะพูดเพื่อ)
อย่างสีเขียวๆ ที่เห็นในภาพนี่เกิดจากการ shift white balance ไปทางเขียว ฟ้า นิดๆ ครับ
แล้ว ปรับค่าที่ Curve ในกล้องอีกที ( Hilight -1 Shadow +2) เพราะปรกติ ผมใช้กล้องฟิล์มถ่ายรูปตลอดเวลา
ก็เลยมักจะชอบรูปที่เป็นโทนฟิล์มๆ สบายตาๆ หน่อยๆครับ
แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องปรับตามผมทุกอย่างนะครับ ต่างคนต่างก็มีสไตล์ที่ชอบต่างกัน
ลองเอาไปปรับเล่นกันดูครับ เผื่อจะได้ผลลัพธ์ที่ถูกใจมากกว่านี้ เนอะ
ส่วนโทนสีที่ผมลองปรับจากหลังกล้องแล้วผมว่า สวยดีแล้วสะดวกดีด้วยยยย เพราะว่า ส่งไฟล์ผ่านไวไฟ อัพโหลดไปอวดเพื่อนได้ทันที 555
ไปต่อกันที่เรื่องเลนส์ที่มาพร้อมกล้องนะครับ (M.Zuiko Digital ED 14-42mm f/3.5-5.6 EZ) กันต่อ
ค่อนข้างใช้ได้เลยนะ คือ คุณภาพโอเค แม้ว่าผมจะเป็นคนชอบใช้เลนส์ฟิกส์สุดๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่า
เลนส์ที่เหมาะกับการท่องเที่ยวก็คือเลนส์ซูมที่มีหลายช่วงนี่แหละ สะดวกที่สุด
ช่วงระยะ กว้างที่สุดของเลนส์ คือ 14mm เทียบเท่า 28mm บนกล้อง 35mm
ก็ถือว่ากว้างเพียงพอ ที่จะเก็บภาพวิวสวยๆ เวลาท่องเที่ยวได้แล้วครับ
อีกข้อที่ ชอบเกี่ยวกับกล้องนี้ก็คือ shutter แบบ touch screen คือจิ้มๆ ตรงที่อยากให้ชัดได้เลย
แล้วกล้องก็จะ โฟกัส ถ่าย ฉับๆ ไวมาก ผมว่าคนที่อยากลองถ่ายอะไรแบบ สแนบๆ หน่อยๆ น่าจะชอบฟีตเจอร์นี้น่าดู
คือในบางครั้งที่ผมพกกล้องตัวใหญ่ๆ ไปถ่ายรูป เวลาเที่ยว ปัญหาที่พบประจำคือ
คนมองหน้าตอนลั่นชัตเตอร์ประจำ !! ผมล่ะกลัวโดนทุบ ทุกที 555
แม้ว่าบางที จะแสนบถ่าย แต่ด้วยความที่กล้องมันเสียงดัง ฉับ ฉับ! เวลาถ่าย เค้าก็จะรู้ตัวอยู่ดี
ผมว่าประโยชน์ของกล้องเล็กๆนี่คือ เวลาไปถ่ายอะไร คนมักไม่ค่อยแตกตื่น แล้วก็เงียบซะด้วยสิ
ทีนี้เรามาลอง กันสั่น 5 แกน ของเจ้ากล้องตัวนี้กันบ้าง อันนี้ขอเกริ่นอีก ตามเคย ผมไม่เคยมีกล้องที่มีกันสั่นมาก่อน
ใช้แต่กล้อง DSLR อย่างมากที่สุดก็มี กันสั่นที่เลนส์ (โธ่วว)
ใช้ได้ทีเดียวนะครับ ทีนี้มือใหม่หลายๆคน คงไม่ต้องมากังวลว่า ถ่ายที่มืด รูปจะสั่นหรือเปล่า
เพราะ กันสั่นของ OMD EM10 mark iii ค่อนข้างใช้งานได้ดีทีเดียวครับ
หลังจากได้ลองกล้องอยู่หลายวัน ก็ค่อนข้างเข้ามือ ก่อนที่จะนำไปถ่ายงานจริง ก็เลยชวนคนรู้จักมาถ่ายรูปเล่นกันดูก่อนครับ
จะได้ลอง เซ็ตติ้งของตัวกล้องเอง แล้วก็ ลองเอาไฟ ที่คิดว่าจะใช้มาทดลองทำงานดูด้วย โดยมีจุดประสงค์ก็คือ
อยากดูเรื่องสีของไฟล์ภาพ อยากดูว่าคุณภาพไฟล์เป็นยังไงบ้าง ประมาณนั้นครับ
คุณภาพความละเอียดไฟล์ ค่อนข้างโอเคมากๆครับ ปรกติผมจะใช้กล้อง DSLR Full-frame ในการทำงาน
บางงานต้องการความละเอียดของไฟล์ค่อนข้างสูง เพื่อใช้รีทัช แต่พอดูไฟล์จากกล้อง OM-D EM10 Mark iii แล้วรู้สึกว่า กล้องตัวนี้ไม่ธรรมดา
คุณภาพไฟล์ค่อนข้างละเอียด พอซูมดูรายละเอียด ไม่คิดเลยครับว่ากล้องสมัยนี้ จะทำได้ออกมาดี แล้วก็ใช้งานง่ายมากๆครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
( รูปนี้ ไม่ได้ตกแต่งใดๆนะครับ เป็นไฟล์ jpg จากตัวกล้องเลย )
ถัดมาขออนุญาตพูดถึงเรื่อง VDO 4K บ้างนะครับ พอดีระหว่างที่ถ่าย อยู่ก็เกิดไอเดียว่า
เอ้ ถ้าเกิดเราถ่าย VDO 4K แล้วเอามา ตัดเป็นรูปๆล่ะ ผลจะเป็นยังไงบ้าง ก็เลยลองถ่ายดูสักคลิปสองคลิปครับ
ถ้าผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ ผมว่า เราจะได้รูปสวยๆ มาใช้มากมาย จากการถ่าย VDO แค่ครั้งเดียวเลยล่ะครับ
อันนี้เป็นรูปที่ Capture มาจาก vdo นะครับ
อาจจะดูเบลอๆ เพราะว่าผมใส่ฟิลเตอร์ทับไปอีกทีครับ แต่ผมว่ารูปที่ได้ มาก็ละเอียดใช้ได้นะครับ
พอลองเอารูปที่ capture มาจัดเรียงดู ก็ดูสวยไปอีกแบบนะครับ วิธีนี้ผมว่าดีมากๆเลย สำหรับคนที่ อยากได้รูปสวยๆ
แต่ นางแบบเกร็ง จับจังหวะไม่ได้สักที ก็เลยให้นางแบบลองเคลื่อนไหวไปด้วย
ไอเดียนี้ผุดขึ้นมาตอนนั่งดูรูปครับ ปรกติงานที่ผมชอบดู มักจะมีรูปที่ฟิลลิ่งสวยๆ เยอะแยะมากมาย
ก็เลยคิดว่าเอ้ ทำยังไงดีที่จะถ่ายรูปนางแบบให้ได้ฟิลลิ่งที่เป็นธรรมชาติ และไม่ดูแข็งจนเกินไป
ก็เลย ให้นางแบบ เคลื่อนไหวไปมาซะเลย แล้วก็ถ่าย VDO มาตัดอีกที
ลองเอาไปใช้กันดูนะครับ
โอเคครับ พอคิดว่ากล้องเริ่มเข้าที่เข้าทาง เหมาะมือ เรียบร้อย อุปกรณ์ที่มีก็ครบเรียบร้อย
มาลองทำงานกันดูครับ อยากรู้เหมือนกันว่า กล้องตัวนี้จะตอบโจทย์ตัวผมเองแค่ไหน
การถ่าย Fashion set ครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ ทีมงาน แล้วก็ ทาง Olympus Thailand มากๆนะครับที่ให้โอกาสได้ลองใช้กล้องตัวนี้
อุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายก็มี
Camera
Olympus OM-D E-M10 Mark III
Lens
M.Zuiko Digital ED 14-42mm f/3.5-5.6 EZ
M.Zuiko Digital 17mm f/1.8
ตกแต่งภาพ จาก File raw ด้วย Adobe light room CC ครับผม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับรีวิวชุดนี้ โดย ส่วนตัวผมว่า คุณภาพของกล้อง E-M10 Mark lll นี้
คุณภาพไฟล์ ถือว่าโอเคมาก ในระดับที่น่าพอใจเลยนะครับ ถ้าผมมีเพื่อนก็ คงจะแนะนำ กล้องตัวนี้แหละ
ให้ลองไปลองใช้งานดู เพราะว่า ผมก็ไม่คิดเหมือนกันที่ กล้อง mirrorless สมัยนี้ ได้พัฒนาเรื่องคุณภาพไปไกล
เกินกว่าที่ผมคาดไว้ซะอีกแหน่ะ เรื่องโฟกัส การควบคุมกล้อง ก็ค่อนข้างจะตอบโจทย์เรื่อง การถ่ายได้ดีมากๆ
อีกทั้งยัง ถ่าย vdo ได้สวยสุดๆ แถมยังเป็นมิตรกับมือใหม่ด้วยนะ
ถ้าเพื่อนๆคนไหนกำลังมองหากล้องตัวเล็กๆพกง่ายไว้ใช้งาน ผมว่า
OMD E-M10 Mark III นี่แหละครับ ค่อนข้างตอบโจทย์ใช้ได้เลยทีเดียวเลยหล่ะครับ
หากมีคำถามอะไร เกี่ยวกับการใช้งานกล้องตัวนี้ ทักมาถามในอินบ็อคได้นะครับ จะพยายามตอบเท่าที่จะตอบได้ครับผมมม
เจอกันรีวิวหน้านะครับ
ปล. เข้าไปติดตามผลงานส่วนตัวของผมได้ที่ ig : gongtairoop นะครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้