ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 2
๑. ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า "ยาเเก้อักเสบ เเละ ยาเเก้ปวด " อาจหมายถึง ยากลุ่มเดียวกัน คือ ยาบรรเทาอาการปวดลดการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ , เอนเสด ) ซึ่งบางท่านก็เรียกว่า ยาแก้ปวด ยาต้านการอักเสบ ยาแก้อักเสบ
๒. ถ้าเป็น ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ( เอนเสด ) เป็นยาบรรเทาอาการ ส่วนใหญ่ถ้าดีขึ้นก็สามารถปรับลดยาได้ ไม่จำเป็นต้องทานจนหมดเหมือนยาปฏิชีวนะ (ยาฆ่าเชื้อ)
๓. ยาปฏิชีวนะ ไม่ใช่ ยาแก้อักเสบ
ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไม่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัส และไม่มีฤทธิ์ลดการอักเสบ แก้ปวด ลดไข้ ใช้รักษาเฉพาะโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น เช่น ทอนซิลอักเสบเป็นหนอง
ยาแก้อักเสบ หรือ ยาต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory drugs) เป็นยาที่ออกฤทธิ์ลดการอักเสบ ลดไข้ บรรเทาปวด ลดบวมแดง เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไม่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
ปล. จากลิงค์ข่าว https://www.thairath.co.th/content/939998 ที่ลงไว้ว่า " สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการกินยาแก้ปวดเข่าหลังเตะบอลไม่หมด " น่าจะเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนระหว่าง ยาแก้ปวด(เอนเสด) กับ ยาปฏิชีวนะ (ยาฆ่าเชื้อ)
ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ( เอนเสด ) ... ไม่ใช่ขนมนะครับ จะได้กินกันไปเรื่อย ... https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=08-08-2008&group=28&gblog=3
ยาปฏิชีวนะ ยาฆ่าเชื้อ ไม่ใช่ ยาแก้อักเสบ ... นำมาฝาก https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=12-06-2017&group=28&gblog=4
ยาสเตียรอยด์ , สเตอรอยด์ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=21-02-2008&group=28&gblog=5
เคล็ดลับซื้อยาให้ปลอดภัย .. ความรู้จากเฟส Fda Thai https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=10-12-2015&group=28&gblog=9
ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการใช้ยา ..... ( นำมาฝาก ไม่ได้เขียนเอง ) https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=01-10-2009&group=28&gblog=8
ยาชุดคืออะไร https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=23-02-2008&group=28&gblog=6
ยาล้างไต มีจริง ??? ล้างไต ได้จริงหรือ ??? กินยาแล้วปัสสาวะสีเขียว ??? https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=15-08-2008&group=28&gblog=7
๑. ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า "ยาเเก้อักเสบ เเละ ยาเเก้ปวด " อาจหมายถึง ยากลุ่มเดียวกัน คือ ยาบรรเทาอาการปวดลดการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ , เอนเสด ) ซึ่งบางท่านก็เรียกว่า ยาแก้ปวด ยาต้านการอักเสบ ยาแก้อักเสบ
๒. ถ้าเป็น ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ( เอนเสด ) เป็นยาบรรเทาอาการ ส่วนใหญ่ถ้าดีขึ้นก็สามารถปรับลดยาได้ ไม่จำเป็นต้องทานจนหมดเหมือนยาปฏิชีวนะ (ยาฆ่าเชื้อ)
๓. ยาปฏิชีวนะ ไม่ใช่ ยาแก้อักเสบ
ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไม่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัส และไม่มีฤทธิ์ลดการอักเสบ แก้ปวด ลดไข้ ใช้รักษาเฉพาะโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น เช่น ทอนซิลอักเสบเป็นหนอง
ยาแก้อักเสบ หรือ ยาต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory drugs) เป็นยาที่ออกฤทธิ์ลดการอักเสบ ลดไข้ บรรเทาปวด ลดบวมแดง เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไม่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
ปล. จากลิงค์ข่าว https://www.thairath.co.th/content/939998 ที่ลงไว้ว่า " สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการกินยาแก้ปวดเข่าหลังเตะบอลไม่หมด " น่าจะเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนระหว่าง ยาแก้ปวด(เอนเสด) กับ ยาปฏิชีวนะ (ยาฆ่าเชื้อ)
ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ( เอนเสด ) ... ไม่ใช่ขนมนะครับ จะได้กินกันไปเรื่อย ... https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=08-08-2008&group=28&gblog=3
ยาปฏิชีวนะ ยาฆ่าเชื้อ ไม่ใช่ ยาแก้อักเสบ ... นำมาฝาก https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=12-06-2017&group=28&gblog=4
ยาสเตียรอยด์ , สเตอรอยด์ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=21-02-2008&group=28&gblog=5
เคล็ดลับซื้อยาให้ปลอดภัย .. ความรู้จากเฟส Fda Thai https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=10-12-2015&group=28&gblog=9
ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการใช้ยา ..... ( นำมาฝาก ไม่ได้เขียนเอง ) https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=01-10-2009&group=28&gblog=8
ยาชุดคืออะไร https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=23-02-2008&group=28&gblog=6
ยาล้างไต มีจริง ??? ล้างไต ได้จริงหรือ ??? กินยาแล้วปัสสาวะสีเขียว ??? https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=15-08-2008&group=28&gblog=7
แสดงความคิดเห็น
ยาเเก้อักเสบ เเละยาเเก้ปวด กินไม่ครบเป็นไรไหม?
1.ยาที่กินไม่หมดยังมีอยู่กับตัว ต้องเอากลับมากินไหมคะ หรือเลิกไปลเยเเล้วหลังจากนี้ต้องดูเเลเรื่องนี้ให้ดีอย่าให้บกพร่องอีก
2.ถ้าหลังจากนี้จะไม่ลืมยาเเบบนี้อีกเเล้ว เชื้อโรคจะดื้อยาไหมคะ
ขอขอบพระคุณล่วงหน้านะคะ