▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
เที่ยวต่างประเทศ
ประเทศรัสเซีย
[CR] ทริปนี้...รัสเซีย Ep.1
และแล้วรัสเซียก็ลอยเข้ามา เมื่อเข้าไปปรึกษาพี่ ๆ ในแชทไลน์ ก็ได้รับคำตอบว่า รัสเซียก็ยิ่งใหญ่ และสวยงามไม่แพงยุโรปตะวันออก ดวงมันจะได้ไปอะไร ๆ มันก็เลยสะดวกไปหมด ทริปนี้มีชื่อว่า “Discovery Russia” เที่ยว 2 เมือง คือ มอสโคว์ และเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ราคา 49,900 บาท รวมอาหารครบทุกมื้อ โอเคสุด ๆ เสียดายที่ไม่ได้ไปชมพระราชวังแคทเทอรีน
เมื่อจะเดินทางก็ต้องหาบัดดี้ ผู้ร่วมทริปนี้ ชื่อว่า “พี่น้อย” เราเจอกันในทริปอียิปต์ที่ผ่านมา
วันที่รอคอยก็มาถึง ....... “ฉันพร้อมเดินทางแล้ว เสื้อผ้ากับรองเท้าคู่เก่า หนังสือกับเพลงเหงาเพลงเดิม...”
วันเดินทางเป็นช่วงหยุดยาวติดต่อกัน 4 วัน เราเลยตัดสินไปเอง ขึ้น Shuttle Bus ของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ รอบเวลา 17.30 น. ต่อรถไฟฟ้าที่บางหว้า แล้วก็ถามทางกับเจ้าหน้าที่ที่สถานี แวะแลกเงินที่สถานีรถไฟฟ้าพญาไท วันนั้น ดอลล่าร์อยู่ที่ 33 บาท แลกเงินไปแค่ 200 ดอลล่าร์ แล้วก็เดินทางต่อจนสิ้นสุดที่สุวรรณภูมิ ถึงสนามบินประมาณ 2 ทุ่มกว่า ๆ
ไปถึงก็ไปนั่งรอบัดดี้ พี่เขามาถึงประมาณ 3 ทุ่มนิด ๆ คุยกันสักพักใหญ่ เคาเตอร์สายการบิน Emirates ก็เปิด เราก็เข้าไปเช็คอินเพื่อโหลดกระเป๋ากัน กะจะพาพี่เขาไปนั่งชิว ๆ กันต่อที่ King Power Lounge ก่อนจะเดินเข้าก็เตรียมหยิบบัตร โอ้... แม่เจ้า หยิบ SCB มาผิดใบ ทำไมมันเป็นจั่งซี้ไปได้ เวลามีให้เผาเล่นหลายชั่วโมง ซูปเปอร์เซ็งเลย ขอโทษพี่น้อยที่ทำให้เสียบรรยากาศ เราเลยเข้าไปถามน้องที่ยืนขายของอยู่ แล้วบ่นให้น้องเขาฟัง น้องเขาแนะนำว่าให้ลองไปเช็คกับเจ้าหน้าที่ที่ประจำ Lounge ดู อาจจะเข้าได้ เอาหวะไปลองดู เจ้าหน้าที่ใจดีมาก ขอพาสปอร์ตไป แล้วก็เช็คให้ มันมีประวัติอยู่ ก็บินต่างประเทศที่ไร เราก็จะมาฝากเนื้อฝากตัวกับ King Power Lounge ทุกครั้ง (จริง ๆ นะมาฝากท้อง) สรุป เราสองคนก็ได้เข้าไปเสนอกับคนอื่น ๆ ซัดข้าวต้ม 1 ถ้วย น้ำเก็กฮวย 3 แก้ว และขนมเค้กของโปรด หลักฐานบางส่วนตามภาพที่ปรากฏ
พอเที่ยงคืนนิด ๆ ก็ออกมา พี่เข้าหาสายชาร์ทโทรศัพท์ไม่เจอ คิดว่าคงลืมไว้ที่บ้าน เราเลยไปหาซื้อกัน พอจะซื้อคุณพี่ก็ค้นเจอสายชาร์ทพร้อมปลั๊กในกระเป๋าสะพาย พี่เขาเลยจะตัดสินซื้อ Universal Adapter มีส่วนลด เหลือประมาณพันต้น ๆ เราเลยเสนอให้พี่เขาสมัครเป็นสมาชิก King Power เลย เสีย 1,000 บาท แต่เงินตรงนี้เขาจะคืนเป็น Voucher สามารถนำไปใช้แทนเงินสดได้ บัตรสมาชิกก็ยังมีอายุตั้ง 5 ปี หลังจากนั้นเราก็เดินทางไปที่ Gate ซึ่งอยู่อีกฝั่งของ Lounge ที่เรานั่ง เจ้าหน้าที่บอกเราว่าอีกฝั่ง ก็จะมี Lounge แบบนี้ เพิ่งเปิดใหม่อยู่ Zone E ดีมาก ๆ เลย จะได้ไม่ต้องรีบ
การเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ไปยังสนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ ใช้เวลา 5 ชั่วโมง 45 นาที เครื่องบินเป็นเครื่องบินลำใหญ่ชั้นเดียว ที่นั่ง 3-4-3 เรื่องอาหารที่ทานบนเครื่อง ก่อนเสริฟแอร์โฮสเตสจะมีเมนูมาให้เลือก ว่าจะทานอะไร ดีกว่ามาถามตอนเสริฟ บางทีฟังไม่รู้เรื่อง และดีสำหรับเราที่ภาษาไม่ค่อยแข็งแรงด้วย
ลงต่อเครื่องที่ดูไบเพื่อเดินทางต่อไปยังสนามบินโดโมเดโดโว มอสโคว์ สหรัฐพันธรัฐรัสเซีย การเดินทางระหว่าง Gate A ไปยัง Gate C ที่ดูไบ ไกลมาก ใช้เวลาเดินทางด้วยเท้า รถไฟฟ้า และลิฟท์ 1 ชั่วโมง เหมือนบอกเป็นลางว่าไปรอบนี้ เดินลากเลือดแน่
ดูไบเร็วกว่ารัสเซีย 1 ชั่วโมง ที่นี่เราได้พักนานหน่อย มีเวลาเข้าห้องน้ำทำกิจส่วนตัว และเดินชมของสวย ๆ งาม ๆ
จากสนามบินดูไบไปยังสนามบินโดโมเดโดโว มอสโคว์ ใช้เวลา 4 ชั่วโมง 21 นาที สักพักแอร์ก็เอาเมนูมาดู มื้อนี้มีให้เลือก 2 อย่าง คือ ไก่กับเนื้อวัว ชอบอีกอย่างเสริฟไวน์เป็นขวดเลย ขวดเล็กคะไม่ใช่ขวดใหญ่ เราก็รักษาสิทธิ์ ขอไวน์เอาลงมาเป็นของฝากแทน ใครที่ต้องการเลียนแบบ เวลากลับก็เอาเสื้อหรือกางเกงห่อให้แน่น ๆ นะคะ เพราะเราไม่รู้ว่ากระเป๋าเดินทางคู่ใจของเราจะไปเป็นที่ระบายอารมณ์ของเจ้าหน้าที่ขนสัมภาระหรือเปล่า ถ้ามันเกิดแตกขึ้นมาจะช้ำใจ โดยเฉพาะไวน์แดง มันจะไปเปลี่ยนสีเสื้อผ้าของเราแทน
พอถึงสนามบินก็มีเหตุ กระเป๋าเดินทางของพี่ที่ร่วมทริปบาดเจ็บสาหัส แบบว่าแตกยับเยิน ดูแล้วอาการน่าจะเกินเยียวยา คุณเก๋ Guide Leader จึงพาพี่เจ้าของกระเป๋าไปคุยกับเจ้าหน้าที่สนามบินเพื่อเคลมกระเป๋า ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ขนสัมภาระลงจากเครื่องโกรธใครมา ถึงได้มาลงกับกระเป๋าได้ขนาดนั้น ใช้เวลาในการเจรจานานมาก น่าจะเป็นชั่วโมง เราเลยถือโอกาสแลกเงิน ไม่รู้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนแพงหรือถูก $100 ได้มา 4,000 รูเบิล ถ้าเมืองไทยได้อัตราฯ ดีกว่านี้ก็แลกจากเมืองไทยไปนะคะ
พอออกมาก็เดินมาเจอร้านขายซิมการ์ด ได้แต่มองด้วยความเสียดาย ไม่กล้าแวะเข้าไปซื้อ เพราะไกด์น่าตาโหดมาก ออกจากสนามบินก็ลากกระเป๋าข้ามถนน รอรถมารับ รถที่มารับเป็นรถบัสคันใหญ่ แต่ไม่มี Wifi บนรถเหมือนตุรกีนะคะ เรามัวแต่คิดแยะ มัวแต่เสียดาย ถือว่าเป็นบทเรียน เงินน๊ะมี ๆ ก็ใช้ ๆ ไปเถอะ ถ้ามันทำให้เรามีความสุข มีความสะดวกสบาย จำไว้นะยะ คราวหน้าซื้อซิมการ์ดจากเมืองไทยมาเลย....
ขึ้นรถเราก็เดินเข้าในเลย ไม่อยากไปเล่นเก้าอี้ดนตรีกับใคร แยกนั่งกับบัดดี้ เราจะเก็บภาพข้างทาง อยากให้คนที่ไม่ได้ไป ได้เห็นแบบที่เราเห็น ให้ภาพมันเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยตัวของมันเอง ...
สถานที่แรกของวันนี้คือ ถนนอารบัท ผู้คนเดินกันขวักไขว้ ของแพง เรากับพี่น้อยก็แชะภาพกัน พร้อมเก็บบรรยากาศ
ที่เห็นในตู้มันคืออำพัน (Amber) คะ ที่นี่มีแยะมาก เห็นขายทุกที่ที่ไปเที่ยว ราคาไม่ได้ถามคะ
พอถึงเวลานัดอาหารมื้อแรกเราทานกันที่ร้าน Hard Rock เป็นอาหารสไตล์รัสเซีย จานแรกเหมือนสลัดแตงกวา ถ้วยที่สองเป็นซุปอะไรสักอย่าง เห็นแล้วขอผ่านนะคะ มารอดตายไก่ย่างกับข้าวเนี่ยแระคะ และตบท้ายด้วยไอสครีม ดูดีแต่ขาดรสอูมามิ
ข้าง ๆ ถนนอารบัทจะมีตึกสูง ๆ ทำให้นึกถึงฉากในหนังฝรั่งสักเรื่อง แต่จำไม่ได้แล้ว
เวลาที่นี่ช้ากว่าเมื่องไทย 4 ชั่วโมง เมื่อคืนนอนบนเครื่องไม่ค่อยหลับ อยากเข้าที่พัก อยากอาบน้ำ วันนี้เราพักกันที่ Holiday Inn คะ ในห้องมีน้ำดื่มให้วันละ 2 ขวด มีไดร์ฟเป่าผม มีอุปกรณ์ห้องน้ำ แต่ไม่มีหมวกคลุมผมนะคะ ใครที่ต้องใช้หมวกเวลาอาบน้ำ อย่าลืมเตรียมไปด้วยหละ ที่โรงแรมมี Wifi ฟรี ที่นี่สามทุ่มยังสว่างอยู่เลย ไกด์บอกว่าชีวิตของคนที่นี่เขาจะเริ่มกันที่เวลา 09.00 น.
ที่นอนนุ่ม หลับสบายคะ พรุ่งนี้ไกด์จะพาไป Metro มันคืออะไร? เฉลยพรุ่งนี้คะ....[:เพี้ยนฝันดี]
รีวิวนี้ ขอขอบพระคุณพี่แนนมากๆ คะ ช่วยแก้ไขคำภาษาอังกฤษให้ น่ารักที่สุดเลย
โปรดติดตามตอนต่อไป >> https://ppantip.com/topic/37927401
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้