สวัสดีค่ะ เราเป็นเด็กเฟรชชี่ที่ขึ้นปี1 แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าอะไรหลายๆก็แย่เกินกว่าที่คิดเอาไว้ค่ะ
พื้นฐานเราเป็นเด็กที่ค่อนข้างจะอยู่ในกรอบ ถึงจะมีนอกกรอบไปบ้างแต่ก็ไม่เคยหลุดออกจากกรอบใหญ่เท่าไหร่
เพราะบ้านเราค่อนข้างที่จะเข้มงวดและอยู่ในแวดวงของนักธุรกิจ
ในส่วนของสายที่เราเลือกที่จะต่อในระดับมหาวิทยาลัยคือสายของทางนิเทศค่ะ
ตอนแรกที่บ้านก็ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่กับมหาวิทยาลัยที่เราเลือกเข้า แต่เราดื้อเองที่จะเข้า
ตอนที่จะต้องสอบสัมภาษณ์ครูที่เขามาสัมภาษณ์ก็เคยเปรยว่า เด็กแนวๆเราซิ่วไปหลายคนแล้ว
แต่ตอนนั้นเราไม่คิดอะไรเพราะคิดว่า เราอยากเข้า เราทำได้ ไม่ลองก็ไม่รู้ว่าทำได้มั้ย
แล้วถ้าให้ย้อนกลับไปซิ่วตอนนี้ก็คงทำไม่ได้เพราะที่บ้านก็คงจะไม่เห็นด้วยมากๆ
พอเริ่มเข้าสู่สเตปการเป็นเฟรชชี่มหาวิทยาลัย "รับน้อง" เราก็เริ่มจะอึดอัดเพราะว่าที่ที่เราอยู่ โซตัส ค่อนข้างแรง
ในขณะที่เราหันไปมองเพื่อนคนอื่นคือไม่เห็นจะต้องมานั่งทำอะไรที่มันแย่ๆแบบเรา แล้วคณะที่เราอยู่ค่าเทอมก็แพงกว่าเพื่อนบางคน
ทำไมเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ เราไม่นึกว่ามันจะรุนแรงได้ขนาดนี้
สังคมที่เราอยู่ค่อนข้างที่จะ ดื่มหนัก ในข้อนี้เรารับได้ค่ะ เราเองก็ดื่มหนักแต่เราจะดื่มแค่กับในบ้านกับเพื่อนที่สนิทจริงๆ นอกบ้านนี่2-3ครั้งแต่ส่วนใหญ่จะไม่ดื่มนอกบ้านหนักเพราะเราต้องดูแลตัวเองและดูแลเพื่อนด้วย แต่กับคนแปลกหน้าเราไม่ค่อยอยากจะดื่มด้วยเพราะเรารู้สึกว่า รู้หน้าไม่รู้ใจ หลายๆครั้งที่ถูกคะยั้นคะยอให้ดื่ม แล้วเราไม่ชอบให้คนมาบังคับให้ดื่ม เพราะ ยังไม่ถึงขั้นสนิทขนาดนี้ดื่มด้วยกันได้ แล้วมหาลัยเราค่อนข้างที่จะใกล้กับแหล่งมั่วสุมด้วยอันตรายมีอยู่เพียบถ้าเกิดเราพลาดขึ้นมาคนที่เสียใจที่สุดคือเราแล้วก็ครอบครัว
เรารู้สึกเบื่อที่จะต้องนั่งระวังตัวเองมากกว่าเดิม แถมช่วงนี้เราก็กลับบ้านค่อนข้างจะดึก เพราะงานที่มหาลัยเยอะ
ทำให้คนที่บ้านเรายิ่งผวา ยิ่งเป็นห่วงเพราะว่าที่ที่เราอยู่อันตราย เราก็เกรงใจเขาแล้วก็ไม่อยากให้เขาเป็นห่วงด้วย
ผู้ชายผู้หญิงสามารถพูดเรื่อง18+ได้ในที่สาธารณะทำให้เรารู้สึกว่ามันมากเกินไปหรือเปล่า
ซึ่งมันควรจะเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องพูดกันดังๆ หรือให้สังคมรับรู้ บางทีก็ทำท่าแบบเรื่องอย่างว่าในที่สาธารณะเลย
เข้ามาก็มีแต่เรื่องของเพื่อนทะเลาะกันไปกันมา เราเองก็รู้สึกเข้ากับเพื่อนไม่ค่อยได้ เพราะเราเป็นคนที่ค่อนข้างเงียบไม่ค่อยพูดจาอะไรมากมายอยู่แล้ว
เลยดูกลายเป็นคนที่เข้าถึงยาก ซึ่งเอาจริงๆแล้วเรามีความรู้สึกว่าที่นี่มันไม่ใช่ที่ของเรามาซักพักใหญ่
ยิ่งอยู่ก็ยิ่งอึดอัด เรากินข้าวไม่ค่อยลง พักผ่อนน้อยเพราะเครียดจนนอนไม่หลับ จากที่ทำงานหนักอยู่แล้วก็ยิ่งแย่
เพื่อนเราที่อยู่อีกมหาวิทยาลัยแนะนำมาว่ามหาลัยสามารถเทียบโอนไปเรียนปีสองได้แต่ติดอยู่ที่ว่าต้องเป็นคณะเดียวกัน
หรือชื่อคณะเดียวกัน แต่ชื่อคณะของเราไม่เหมือนกับที่อื่นเลย จะซิ่วก็ซิ่วยากเพราะที่บ้านก็คงไม่เห็นด้วย เราเครียดจนไม่รู้จะทำยังไง
จริงๆเองที่บ้านเองก็อยากให้ซิ่ว แต่ถ้าเราซิ่ว จะต้องซิ่วไปเรียนบัญชีหรือบริหารเท่านั้น ซึ่งเราก็สามารถเรียนได้นะคะ แต่เราเองที่ไม่ชอบ
จนตอนนี้กลายเป็นว่า ยิ่งเจอสังคมแบบนี้ยิ่งอยากเปลี่ยนความรู้สึกว่าซิ่วไปเรียนบริหารดีมั้ย แต่ว่าใจมันรักกับสายที่เราเรียนไปแล้ว เลยรู้สึกว่าถ้าต้องซิ่วไปเรียนในสายที่เราไม่ได้ชอบมากขนาดนั้นจะเสียเวลาหรือเปล่า คิดไปคิดมาทุกอย่างตีกันหมด
เราควรทำยังไงต่อไปดีคะ ในส่วนของสาเหตุที่ทำให้อยากซิ่วหรืออยากเทียบโอนคือ
1. มหาลัยใกล้แหล่งมั่วสุมเวลากลับบ้านดึกค่อนข้างอันตรายแล้วบ้านเราก็ไกล ไปกลับ2ชม.
2. เรารู้สึกว่าสังคมที่นี่มันยังไม่ใช่ยังไม่โดนสำหรับเราทำให้เรารู้สึกอึดอัด
3. เราไม่ค่อยชอบระบบและวิธีการจัดการของรุ่นพี่และมหาลัยสักเท่าไหร่
4. ถ้าเกิดเราสามารถฃเทียบโอนได้เราจะได้เรียนในมหาลัยที่ใกล้กับบ้านมากขึ้น
แต่ข้อเสียคือ
เราจะไม่ได้เรียนในสาขาหรือเอกที่เราอยากจะเรียนได้อีกต่อไป ต้องไปเรียนในสายที่เราไม่ได้รู้สึกว่าชอบมากขนาดนั้น
อึดอัดกับมหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่ ทำยังไงดีคะ?
พื้นฐานเราเป็นเด็กที่ค่อนข้างจะอยู่ในกรอบ ถึงจะมีนอกกรอบไปบ้างแต่ก็ไม่เคยหลุดออกจากกรอบใหญ่เท่าไหร่
เพราะบ้านเราค่อนข้างที่จะเข้มงวดและอยู่ในแวดวงของนักธุรกิจ
ในส่วนของสายที่เราเลือกที่จะต่อในระดับมหาวิทยาลัยคือสายของทางนิเทศค่ะ
ตอนแรกที่บ้านก็ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่กับมหาวิทยาลัยที่เราเลือกเข้า แต่เราดื้อเองที่จะเข้า
ตอนที่จะต้องสอบสัมภาษณ์ครูที่เขามาสัมภาษณ์ก็เคยเปรยว่า เด็กแนวๆเราซิ่วไปหลายคนแล้ว
แต่ตอนนั้นเราไม่คิดอะไรเพราะคิดว่า เราอยากเข้า เราทำได้ ไม่ลองก็ไม่รู้ว่าทำได้มั้ย
แล้วถ้าให้ย้อนกลับไปซิ่วตอนนี้ก็คงทำไม่ได้เพราะที่บ้านก็คงจะไม่เห็นด้วยมากๆ
พอเริ่มเข้าสู่สเตปการเป็นเฟรชชี่มหาวิทยาลัย "รับน้อง" เราก็เริ่มจะอึดอัดเพราะว่าที่ที่เราอยู่ โซตัส ค่อนข้างแรง
ในขณะที่เราหันไปมองเพื่อนคนอื่นคือไม่เห็นจะต้องมานั่งทำอะไรที่มันแย่ๆแบบเรา แล้วคณะที่เราอยู่ค่าเทอมก็แพงกว่าเพื่อนบางคน
ทำไมเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ เราไม่นึกว่ามันจะรุนแรงได้ขนาดนี้
สังคมที่เราอยู่ค่อนข้างที่จะ ดื่มหนัก ในข้อนี้เรารับได้ค่ะ เราเองก็ดื่มหนักแต่เราจะดื่มแค่กับในบ้านกับเพื่อนที่สนิทจริงๆ นอกบ้านนี่2-3ครั้งแต่ส่วนใหญ่จะไม่ดื่มนอกบ้านหนักเพราะเราต้องดูแลตัวเองและดูแลเพื่อนด้วย แต่กับคนแปลกหน้าเราไม่ค่อยอยากจะดื่มด้วยเพราะเรารู้สึกว่า รู้หน้าไม่รู้ใจ หลายๆครั้งที่ถูกคะยั้นคะยอให้ดื่ม แล้วเราไม่ชอบให้คนมาบังคับให้ดื่ม เพราะ ยังไม่ถึงขั้นสนิทขนาดนี้ดื่มด้วยกันได้ แล้วมหาลัยเราค่อนข้างที่จะใกล้กับแหล่งมั่วสุมด้วยอันตรายมีอยู่เพียบถ้าเกิดเราพลาดขึ้นมาคนที่เสียใจที่สุดคือเราแล้วก็ครอบครัว
เรารู้สึกเบื่อที่จะต้องนั่งระวังตัวเองมากกว่าเดิม แถมช่วงนี้เราก็กลับบ้านค่อนข้างจะดึก เพราะงานที่มหาลัยเยอะ
ทำให้คนที่บ้านเรายิ่งผวา ยิ่งเป็นห่วงเพราะว่าที่ที่เราอยู่อันตราย เราก็เกรงใจเขาแล้วก็ไม่อยากให้เขาเป็นห่วงด้วย
ผู้ชายผู้หญิงสามารถพูดเรื่อง18+ได้ในที่สาธารณะทำให้เรารู้สึกว่ามันมากเกินไปหรือเปล่า
ซึ่งมันควรจะเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องพูดกันดังๆ หรือให้สังคมรับรู้ บางทีก็ทำท่าแบบเรื่องอย่างว่าในที่สาธารณะเลย
เข้ามาก็มีแต่เรื่องของเพื่อนทะเลาะกันไปกันมา เราเองก็รู้สึกเข้ากับเพื่อนไม่ค่อยได้ เพราะเราเป็นคนที่ค่อนข้างเงียบไม่ค่อยพูดจาอะไรมากมายอยู่แล้ว
เลยดูกลายเป็นคนที่เข้าถึงยาก ซึ่งเอาจริงๆแล้วเรามีความรู้สึกว่าที่นี่มันไม่ใช่ที่ของเรามาซักพักใหญ่
ยิ่งอยู่ก็ยิ่งอึดอัด เรากินข้าวไม่ค่อยลง พักผ่อนน้อยเพราะเครียดจนนอนไม่หลับ จากที่ทำงานหนักอยู่แล้วก็ยิ่งแย่
เพื่อนเราที่อยู่อีกมหาวิทยาลัยแนะนำมาว่ามหาลัยสามารถเทียบโอนไปเรียนปีสองได้แต่ติดอยู่ที่ว่าต้องเป็นคณะเดียวกัน
หรือชื่อคณะเดียวกัน แต่ชื่อคณะของเราไม่เหมือนกับที่อื่นเลย จะซิ่วก็ซิ่วยากเพราะที่บ้านก็คงไม่เห็นด้วย เราเครียดจนไม่รู้จะทำยังไง
จริงๆเองที่บ้านเองก็อยากให้ซิ่ว แต่ถ้าเราซิ่ว จะต้องซิ่วไปเรียนบัญชีหรือบริหารเท่านั้น ซึ่งเราก็สามารถเรียนได้นะคะ แต่เราเองที่ไม่ชอบ
จนตอนนี้กลายเป็นว่า ยิ่งเจอสังคมแบบนี้ยิ่งอยากเปลี่ยนความรู้สึกว่าซิ่วไปเรียนบริหารดีมั้ย แต่ว่าใจมันรักกับสายที่เราเรียนไปแล้ว เลยรู้สึกว่าถ้าต้องซิ่วไปเรียนในสายที่เราไม่ได้ชอบมากขนาดนั้นจะเสียเวลาหรือเปล่า คิดไปคิดมาทุกอย่างตีกันหมด
เราควรทำยังไงต่อไปดีคะ ในส่วนของสาเหตุที่ทำให้อยากซิ่วหรืออยากเทียบโอนคือ
1. มหาลัยใกล้แหล่งมั่วสุมเวลากลับบ้านดึกค่อนข้างอันตรายแล้วบ้านเราก็ไกล ไปกลับ2ชม.
2. เรารู้สึกว่าสังคมที่นี่มันยังไม่ใช่ยังไม่โดนสำหรับเราทำให้เรารู้สึกอึดอัด
3. เราไม่ค่อยชอบระบบและวิธีการจัดการของรุ่นพี่และมหาลัยสักเท่าไหร่
4. ถ้าเกิดเราสามารถฃเทียบโอนได้เราจะได้เรียนในมหาลัยที่ใกล้กับบ้านมากขึ้น
แต่ข้อเสียคือ
เราจะไม่ได้เรียนในสาขาหรือเอกที่เราอยากจะเรียนได้อีกต่อไป ต้องไปเรียนในสายที่เราไม่ได้รู้สึกว่าชอบมากขนาดนั้น