สวัสดีค่าาา เรารู้สึกว่าเรื่องราวแบบนี้มันไม่ค่อยมีใครมาเล่าให้ฟัง เราเลยอยากมาแชร์ เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ทุกคนไม่มากก็น้อยจ้าาาา ขอโทษล่วงหน้าค่ะ อาจเขียนวกวน พอดีน้องเป็นมือใหม่ยังไม่โปรค่าาา
1. ข้อมูลของเรา : เราเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาคอลโทรลฯ ปี3 ฝึกช่วงปิดเทอมก่อนขึ้นปี 4 เกรดประมาณ 2.4
2. หาที่ฝึกงาน : เราก็ไม่รู้ว่าที่ฝึกงานเนี่ยมันต้องหายังไง ตอนแรกก็หาในอินเตอร์เน็ต ก็เจอนะ แต่มันเอาเกรดต่ำๆเลยก็ 2.5 โหหหห ดูเกรดเราที่ข้อ 1 สิ แงงงงง ที่งี้ทำไงดีอ่าาาา เราก็เคว้งเลย แล้วในอินเตอร์เนี่ย มันมีน้อยกว่าความเป็นจริงมาก ถ้าเป็นสายงานวิศวกรรม สุดท้ายเราก็ต้องใช้พวกเส้นสายเนี่ยแหละ แล้วเราก็ได้เขามาที่ PEA สำนักงานใหญ่นี้ (เพื่อนเรากว่า 70% ในสาขาก็จะใช้การเส้นสายกัน)
3. วันแรก : ก่อนหน้านี้ก็ส่งเอกสารให้กับ กองนี้แล้ว มี resume กับ transcript แล้วเอกสารคำร้องขอฝึกงานของมหาวิทยาลัย พอถึงวันฝึกวันแรกเราก็เข้าไปที่กองพัฒนาบุคลากร พร้อมเอสารใบส่งตัวของมหาวิทยาลัย จากนั้นเขาก็จะอธิบายว่าเราต้องทำอะไร และให้ใบมากรอก 1 ใบ แล้วเอกสารส่งตัวเนี่ยก็ให้เข้าหน้าที่กองนี้ไป จากนั้นเราก็เข้าไปที่กองเราได้เลย จากนั้นเขาก็จะส่งเอกสารส่งตัวที่กองพัฒนาบุคลากรเป็นคนออกให้กับกองที่เราไปฝึก จากนั้นเราต้องเอาใบนั้นที่ธุรการกองที่ไปฝึก แล้วไปที่กองการเงินเพื่อจ่ายค่ามัดจำบัตรพนักงาน จากนั้น ไปที่กองการเงินด้วยใบส่งตัว(ที่ กฟภ ออก)กับใบที่เขาให้กรอกตอนแรก จ่ายเสร็จก็ไปที่กองบริการ เอาบิลค่ามัดจำและใบต่างๆที่มีให้เขา อันนี้ต้องมีสำเนาบัตรประชาชนด้วยนะ 2 ใบ เมื่อทำตรงนี้เสร็จ ก็เริ่มฝึกเลย ไม่มีอะไร ปล. วันสุดท้ายที่เอามัดจำคืน เงินมัดจำต้องรอ 15 วันทำการนะ เห้อมมม
4. การฝึกงาน : ในกองที่เราไปฝึกมันเป็นกองที่มีงาน monitoring แล้วก็งานเอกสารนิดหน่อย ซึ่ฃเราก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรเลย นานๆที พี่จะมีงานมาให้ช่วยน้อยๆ ที่นี่ทำงานกัน 8.30-16.30 น. วันๆเลยนั่งไปเปล่าๆ แต่ช่วงแรกๆก็อ่านข้อมูลใน intranet ของ PEA นะ แต่ก็อ่านจนหมดเลย เพราะมันว่างจัด55555 เพราะที่นี่ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เขาไม่มีนโยบายให้นักศึกษาฝึกงานไปงานข้างนอก ซึ่งที่กองพี่ๆต้องออกไปกันบ่อยมาก เรานี่งงๆเหงาๆเลย555
5. บรรยากาศเปิดโลก : อย่างแรกคือ เห้ยยยย เลิกงานกันตรงเวลาม๊ากกกกมาก เราวิเคราะห์ว่าเป็นเพราะที่นี่มีรถบริการ ออกตามเวลาพอเลิกงานก็ต้องรีบไปขึ้นกันเพื่อกลับบ้าน สองคือที่นี่มีคนมีอายุมากเยอะ แต่ความน่ารักคือเขาเอ็นดูเราม๊ากกกมาก แต่พนักงานวัยรุ่นก็เป็นเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นพนังงานน้อยใหญ่หรือจนกระทั่งแม่ค้าแม่ขายใดๆ สามคือ พี่ๆ เขาเหมือนไม่ค่อยคุยกันเลย ต่างคนต่างมาทำงาน ในห้องทำงานเงียบมากเลย จะคุยกันก็เรื่องงานๆ วันวันนี่เราไม่ได้พูดเลย(เศร้าจริง5555) แต่พวกพี่เขาก็สนิทกันนะ
6. มาฝึกงานไกล นอนไหนดี : ตอนเรามาหาหออยู่ก็หาแค่ตรงที่ติดๆกับถนนงามวงศ์วาน ตอนนั้นมาหาช่วง 1 วีคก่อนเริ่มฝึก หาไม่ได้เลย เจอแบบกึ่งๆชุมชนแออัดฝั่งเรือนจำ ในห้องไม่มีอะไรน่าจะเป็นห้องเช่าไม่เชิงเป็นหอ ราคาก็ 4000+ หมด ส่วนฝั่งไฟฟ้าก็เต็มหมด มีบางทีถ้าอยู่ต่ำกว่า3เดือน ไม่ให้เช่า แล้วสุดท้ายไปได้ที่ J Park อยู่ซอยชินเขต 1 (งามวงศ์วาน 43) ราคา ฿7000 สำหรับเช่าสัญญาต่ำกว่า xxx (จำไม่ได้) อีกราคา ฿6500 เช่านาน ที่นี่ห้องน่าอยู่ ราคาน้ำไปก็เหมือนหอแถวมหาลัยทั่วไป แต่ไม่ใช่เรตไฟฟ้าประปานะ สภาพห้องก็สมราคาแหละ555 หลังจากเราฝึกงานไปก็เรียนรู้หนทางไปมาไฟฟ้า อ้าวมีซอยทะลุกันได้ หอเต็มเลยยยยย น้ำตาจะไหล ตรงประตูด้านหลังไฟฟ้าก็มีหอ มีนักเรียนช่างไฟฟ้าอยู่เต็มเลย แต่มันก็จะป่าหน่อยๆ แต่ในระแวกชินเขต ราชวินิตฯ ก็มีหอมาก ใครจะหาเข้ามาลึกๆหน่อยมีมากมาย
7. ดำรงชีวิตยังไงดี : ก็ระหว่างไฟฟ้าไปหอเนี่ย ก็จะต้องเดิน ย้ำ! “เดิน”จากประตูหลังออกไปหาสองแถวหรือวิน ซึ่งจะเจอที่ตลาดชินมณี เราก็มักจะแวะซื้อข้างเหนียวไก่ย่างร้านตรงหัวมุมตลอด ไก่ย่างเขาอร่อยชุ่มช่ำดี ราคาก็ ฿25-40 ต่อไม้ ส่วนไหนไม่รู้เรียกไม่ถูก ข้าวเหนียวร่วนไปหน่อย ก็เดินไกลอยู่จากไฟฟ้า พักหลังๆเราขี้เกียจแล้ว ถ้ามีวินมาส่งคนในซอยป่าๆที่จะเข้าไฟฟ้า พอเขาออกมาเราก็จะเรียกไปตลาด ฿10 ถ้าไปหอเลยก็ ฿20 ถ้านั่ง 2 แถวจากตลาดไปหอ ฿7 ถ้าพี่วินก็ ฿15 สองแถวถ้าพลาดไปรอนาน เขาวิ่งไม่ค่อยถี่ เวลามาทำงานเราก็ใช้บริการพี่วินเช่นกัน ฿30 กลัวลงรถเมล์ผิดป้าย แล้วรถบริการของไฟฟ้า มันใกล้เกินไป เขาไม่ได้จอดรับส่ง แต่เราว่าถ้ามาทางข้างหลังไฟฟ้าสามารถนั่งสองแถวมาลงที่ตลาดชินมณี แล้วต่อพี่วินเอา น่าจะดี คิดได้ตอนหลังๆแล้วตอนนั้นเราขี้เกียจตื่นเผื่อเวลา เลยไม่ได้ใช้วิธีนี้555 วันศุกร์เราเลิกงานก็จะกลับบ้านไม่ได้ไปหอ เคยไปเซนลาดที่นึง น้ำตาจะไหล หน้าไฟฟ้ารถเมล์ชอบจอดเลนนอก เราเลยเดินย้อนไปป้ายนึง หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ด้วยรถเมล์อีก เราเลยข้ามไปฝั่งเรียนจำแล้วนั่งแท็กไป mrt ศูนย์ราชการนนทบุรี ราคาประมาณ ฿60 แล้วไปตะแล่ดแต๊ดแตณไปทั่ว555 มันเร็วแล้วก็ไม่เสียอารมณ์ด้วย
8. ความเซงเซง : นอกจากรถเมล์จอดเลนนอกแล้ว ก็ยังมีความเสียอารมณ์อื่นๆ เช่นรถติดตลอดเวลา ขนาดวันอาทิตย์เราจะมาหอจากบ้านถนนเส้นนี้ก็ติด เราไปดูหนังที่เดอะมอลล์งาม เขาน่าจะกำลังประบปรุงอยู่ แต่มันเป็นห้างน่ากลัวมากๆเลย บันไดเลื่อนก็ที่จะเริ่มบิ่นๆ แล้วมีโซนปิดมากมาย แต่ร้านข้าวอะไรก็ยังมีเยอะอยู่นะ
9. ตลาด กฟภ : ที่นี่ก็มีตลาดนัดเหมือนกัน จะมีทุกวันศุกร์ พี่ๆบอกว่าของที่ตลาดไม่ได้ถูกเสมอไปนะ พอเราไปเดอนก็จริงอย่างพี่เขาว่า555 บางอันก็ไม่แพงนะ ถ้าเทียบปริมาณ แต่มันเยอะเกินไปอ่ะ ในตลาดก็จะมีทุกสิ่งของกินใช้นานาอย่าง ตลาดนี้ใหญ่กว่า ตลาดชินมณีอี๊กกก แต่บางร้านของเขาก็จะหมดก่อนกลางวัน รอกินกลางวันไม่ทันนะ
10. จบเถอะ : ขอขอบคุณพี่ๆทุกคนนะคะที่คอยดูแลสอนงานและเอ็นดูน้อง และเหล่าร้านค้าในนอก กฟภ สนญ นี้ที่เอ็นดูหนู แลคุณพนักงานเซเว่นที่ถามตลอดจ่ายบัตร ใส่ถุงไม่ใส่ได้เพิ่ม 10 แต้มนะ555 น้องจะใส่ค่าาาา น้องถือไม่ไหว555 ขอบคุณทุกๆอย่างที่เรียกว่าประสบการณ์ค่ะ
Sep 3rd, 2018
รีวิว การฝึกงาน @ PEA การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (สำนักงานใหญ่)
1. ข้อมูลของเรา : เราเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาคอลโทรลฯ ปี3 ฝึกช่วงปิดเทอมก่อนขึ้นปี 4 เกรดประมาณ 2.4
2. หาที่ฝึกงาน : เราก็ไม่รู้ว่าที่ฝึกงานเนี่ยมันต้องหายังไง ตอนแรกก็หาในอินเตอร์เน็ต ก็เจอนะ แต่มันเอาเกรดต่ำๆเลยก็ 2.5 โหหหห ดูเกรดเราที่ข้อ 1 สิ แงงงงง ที่งี้ทำไงดีอ่าาาา เราก็เคว้งเลย แล้วในอินเตอร์เนี่ย มันมีน้อยกว่าความเป็นจริงมาก ถ้าเป็นสายงานวิศวกรรม สุดท้ายเราก็ต้องใช้พวกเส้นสายเนี่ยแหละ แล้วเราก็ได้เขามาที่ PEA สำนักงานใหญ่นี้ (เพื่อนเรากว่า 70% ในสาขาก็จะใช้การเส้นสายกัน)
3. วันแรก : ก่อนหน้านี้ก็ส่งเอกสารให้กับ กองนี้แล้ว มี resume กับ transcript แล้วเอกสารคำร้องขอฝึกงานของมหาวิทยาลัย พอถึงวันฝึกวันแรกเราก็เข้าไปที่กองพัฒนาบุคลากร พร้อมเอสารใบส่งตัวของมหาวิทยาลัย จากนั้นเขาก็จะอธิบายว่าเราต้องทำอะไร และให้ใบมากรอก 1 ใบ แล้วเอกสารส่งตัวเนี่ยก็ให้เข้าหน้าที่กองนี้ไป จากนั้นเราก็เข้าไปที่กองเราได้เลย จากนั้นเขาก็จะส่งเอกสารส่งตัวที่กองพัฒนาบุคลากรเป็นคนออกให้กับกองที่เราไปฝึก จากนั้นเราต้องเอาใบนั้นที่ธุรการกองที่ไปฝึก แล้วไปที่กองการเงินเพื่อจ่ายค่ามัดจำบัตรพนักงาน จากนั้น ไปที่กองการเงินด้วยใบส่งตัว(ที่ กฟภ ออก)กับใบที่เขาให้กรอกตอนแรก จ่ายเสร็จก็ไปที่กองบริการ เอาบิลค่ามัดจำและใบต่างๆที่มีให้เขา อันนี้ต้องมีสำเนาบัตรประชาชนด้วยนะ 2 ใบ เมื่อทำตรงนี้เสร็จ ก็เริ่มฝึกเลย ไม่มีอะไร ปล. วันสุดท้ายที่เอามัดจำคืน เงินมัดจำต้องรอ 15 วันทำการนะ เห้อมมม
4. การฝึกงาน : ในกองที่เราไปฝึกมันเป็นกองที่มีงาน monitoring แล้วก็งานเอกสารนิดหน่อย ซึ่ฃเราก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรเลย นานๆที พี่จะมีงานมาให้ช่วยน้อยๆ ที่นี่ทำงานกัน 8.30-16.30 น. วันๆเลยนั่งไปเปล่าๆ แต่ช่วงแรกๆก็อ่านข้อมูลใน intranet ของ PEA นะ แต่ก็อ่านจนหมดเลย เพราะมันว่างจัด55555 เพราะที่นี่ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เขาไม่มีนโยบายให้นักศึกษาฝึกงานไปงานข้างนอก ซึ่งที่กองพี่ๆต้องออกไปกันบ่อยมาก เรานี่งงๆเหงาๆเลย555
5. บรรยากาศเปิดโลก : อย่างแรกคือ เห้ยยยย เลิกงานกันตรงเวลาม๊ากกกกมาก เราวิเคราะห์ว่าเป็นเพราะที่นี่มีรถบริการ ออกตามเวลาพอเลิกงานก็ต้องรีบไปขึ้นกันเพื่อกลับบ้าน สองคือที่นี่มีคนมีอายุมากเยอะ แต่ความน่ารักคือเขาเอ็นดูเราม๊ากกกมาก แต่พนักงานวัยรุ่นก็เป็นเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นพนังงานน้อยใหญ่หรือจนกระทั่งแม่ค้าแม่ขายใดๆ สามคือ พี่ๆ เขาเหมือนไม่ค่อยคุยกันเลย ต่างคนต่างมาทำงาน ในห้องทำงานเงียบมากเลย จะคุยกันก็เรื่องงานๆ วันวันนี่เราไม่ได้พูดเลย(เศร้าจริง5555) แต่พวกพี่เขาก็สนิทกันนะ
6. มาฝึกงานไกล นอนไหนดี : ตอนเรามาหาหออยู่ก็หาแค่ตรงที่ติดๆกับถนนงามวงศ์วาน ตอนนั้นมาหาช่วง 1 วีคก่อนเริ่มฝึก หาไม่ได้เลย เจอแบบกึ่งๆชุมชนแออัดฝั่งเรือนจำ ในห้องไม่มีอะไรน่าจะเป็นห้องเช่าไม่เชิงเป็นหอ ราคาก็ 4000+ หมด ส่วนฝั่งไฟฟ้าก็เต็มหมด มีบางทีถ้าอยู่ต่ำกว่า3เดือน ไม่ให้เช่า แล้วสุดท้ายไปได้ที่ J Park อยู่ซอยชินเขต 1 (งามวงศ์วาน 43) ราคา ฿7000 สำหรับเช่าสัญญาต่ำกว่า xxx (จำไม่ได้) อีกราคา ฿6500 เช่านาน ที่นี่ห้องน่าอยู่ ราคาน้ำไปก็เหมือนหอแถวมหาลัยทั่วไป แต่ไม่ใช่เรตไฟฟ้าประปานะ สภาพห้องก็สมราคาแหละ555 หลังจากเราฝึกงานไปก็เรียนรู้หนทางไปมาไฟฟ้า อ้าวมีซอยทะลุกันได้ หอเต็มเลยยยยย น้ำตาจะไหล ตรงประตูด้านหลังไฟฟ้าก็มีหอ มีนักเรียนช่างไฟฟ้าอยู่เต็มเลย แต่มันก็จะป่าหน่อยๆ แต่ในระแวกชินเขต ราชวินิตฯ ก็มีหอมาก ใครจะหาเข้ามาลึกๆหน่อยมีมากมาย
7. ดำรงชีวิตยังไงดี : ก็ระหว่างไฟฟ้าไปหอเนี่ย ก็จะต้องเดิน ย้ำ! “เดิน”จากประตูหลังออกไปหาสองแถวหรือวิน ซึ่งจะเจอที่ตลาดชินมณี เราก็มักจะแวะซื้อข้างเหนียวไก่ย่างร้านตรงหัวมุมตลอด ไก่ย่างเขาอร่อยชุ่มช่ำดี ราคาก็ ฿25-40 ต่อไม้ ส่วนไหนไม่รู้เรียกไม่ถูก ข้าวเหนียวร่วนไปหน่อย ก็เดินไกลอยู่จากไฟฟ้า พักหลังๆเราขี้เกียจแล้ว ถ้ามีวินมาส่งคนในซอยป่าๆที่จะเข้าไฟฟ้า พอเขาออกมาเราก็จะเรียกไปตลาด ฿10 ถ้าไปหอเลยก็ ฿20 ถ้านั่ง 2 แถวจากตลาดไปหอ ฿7 ถ้าพี่วินก็ ฿15 สองแถวถ้าพลาดไปรอนาน เขาวิ่งไม่ค่อยถี่ เวลามาทำงานเราก็ใช้บริการพี่วินเช่นกัน ฿30 กลัวลงรถเมล์ผิดป้าย แล้วรถบริการของไฟฟ้า มันใกล้เกินไป เขาไม่ได้จอดรับส่ง แต่เราว่าถ้ามาทางข้างหลังไฟฟ้าสามารถนั่งสองแถวมาลงที่ตลาดชินมณี แล้วต่อพี่วินเอา น่าจะดี คิดได้ตอนหลังๆแล้วตอนนั้นเราขี้เกียจตื่นเผื่อเวลา เลยไม่ได้ใช้วิธีนี้555 วันศุกร์เราเลิกงานก็จะกลับบ้านไม่ได้ไปหอ เคยไปเซนลาดที่นึง น้ำตาจะไหล หน้าไฟฟ้ารถเมล์ชอบจอดเลนนอก เราเลยเดินย้อนไปป้ายนึง หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ด้วยรถเมล์อีก เราเลยข้ามไปฝั่งเรียนจำแล้วนั่งแท็กไป mrt ศูนย์ราชการนนทบุรี ราคาประมาณ ฿60 แล้วไปตะแล่ดแต๊ดแตณไปทั่ว555 มันเร็วแล้วก็ไม่เสียอารมณ์ด้วย
8. ความเซงเซง : นอกจากรถเมล์จอดเลนนอกแล้ว ก็ยังมีความเสียอารมณ์อื่นๆ เช่นรถติดตลอดเวลา ขนาดวันอาทิตย์เราจะมาหอจากบ้านถนนเส้นนี้ก็ติด เราไปดูหนังที่เดอะมอลล์งาม เขาน่าจะกำลังประบปรุงอยู่ แต่มันเป็นห้างน่ากลัวมากๆเลย บันไดเลื่อนก็ที่จะเริ่มบิ่นๆ แล้วมีโซนปิดมากมาย แต่ร้านข้าวอะไรก็ยังมีเยอะอยู่นะ
9. ตลาด กฟภ : ที่นี่ก็มีตลาดนัดเหมือนกัน จะมีทุกวันศุกร์ พี่ๆบอกว่าของที่ตลาดไม่ได้ถูกเสมอไปนะ พอเราไปเดอนก็จริงอย่างพี่เขาว่า555 บางอันก็ไม่แพงนะ ถ้าเทียบปริมาณ แต่มันเยอะเกินไปอ่ะ ในตลาดก็จะมีทุกสิ่งของกินใช้นานาอย่าง ตลาดนี้ใหญ่กว่า ตลาดชินมณีอี๊กกก แต่บางร้านของเขาก็จะหมดก่อนกลางวัน รอกินกลางวันไม่ทันนะ
10. จบเถอะ : ขอขอบคุณพี่ๆทุกคนนะคะที่คอยดูแลสอนงานและเอ็นดูน้อง และเหล่าร้านค้าในนอก กฟภ สนญ นี้ที่เอ็นดูหนู แลคุณพนักงานเซเว่นที่ถามตลอดจ่ายบัตร ใส่ถุงไม่ใส่ได้เพิ่ม 10 แต้มนะ555 น้องจะใส่ค่าาาา น้องถือไม่ไหว555 ขอบคุณทุกๆอย่างที่เรียกว่าประสบการณ์ค่ะ
Sep 3rd, 2018