ศพอาจารย์ใหญ่

กระทู้สนทนา
" นี่เธอ โทรศัพท์หาญาติอาจารย์ใหญ่ยัง "
เสียงนิสิตสาวคนหนึ่งสอบถามเพื่อนในโรงเรียนแพทย์

" โทรแล้ว หมายเลขดังกล่าว ยังไม่เปิดให้บริการ
ส่วนอีกเบอร์ ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
สงสัยพวกเราน่าจะไปตามหาที่บ้านญาติท่านนะ "
นิสิตสาวอีกคนตอบ

" ดีเหมือนกัน ตามพวกเราอีก 2 คน
แล้วนัดไปหาญาติท่านพร้อม ๆ กันเลย "
นิสิตสาวคนแรกสรุป

เช้าวันอาทิตย์หลังจากขออนุญาตยามประจำหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
เพื่อเข้าไปหาบุคคลตามทะเบียนบ้านที่มีรายชื่อในหมู่บ้าน
Taxi ก็พามาจอดหน้าบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านแห่งนั้น
ที่พวกนิสิตได้บ้านเลขที่ญาติอาจารย์ใหญ่จากโรงเรียนแพทย์
และสืบค้นสถานที่จาก Google Maps ไว้ล่วงหน้าแล้ว

เสียงหมาเก่ากรรโชกดังลั่นในบ้าน
ขณะที่นิสิตสาวคนหนึ่งจ่ายเงินให้กับรถ Taxi
ส่วนอีกคนก็เดินไปกดกริ่งหน้าบ้าน
อีกสองคนก็หอบพวงมาลัยและกระเช้าดอกไม้

สักพักก็มีหญิงชราท่านหนึ่งเดินออกมาถามว่า
" มาหาใครเหรอ หนู "

" มาหาญาติอาจารย์ใหญ่ชื่อ .... คะ "
เสียงใส ๆ ของนิสิตคนหนึ่งตอบ

" อ๋อ ท่านตายไปนานแล้ว มีธุระอะไร " เสียงสตรีชราตอบ

" พวกหนูจะมาขอขมาญาติท่าน
เพราะจะเริ่มเรียนผ่าตัดศพท่านคะ
พอดีอาจารย์ท่านนี้ได้ทำเรื่องบริจาคศพไว้ที่โรงเรียน
และให้สถานที่ติดต่อกับเบอร์โทรศัพท์ไว้คะ "
นิสิตสาวอีกคนตอบ

" งั้น เข้ามาในบ้านก่อน "
เสียงเจ้าของบ้านเชิญชวนนิสิตทั้ง 4 คน

หลังจากที่นิสิตทั้ง 4 คนได้พูดคุย
จุดประสงค์ของเรื่องการมาหา
และได้ขอขมาญาติอาจารย์ใหญ่แล้ว
ซึ่งญาติอาจารย์ใหญ่ก็ยินดีและรับการขอขมาครั้งนี้แล้ว
นิสิตทั้งสี่คนก็กลับมาที่โรงเรียนแพทย์
เพื่อเตรียมการเรียนกายวิภาคศาสตร์
ที่เตียงผ่าศพอาจารย์ใหญ่จะมีการขอขมาอาจารย์ใหญ่ก่อน
และมีพวงมาลัยห้อยไว้ที่เตียงผ่าศพเป็นการแสดงความเคารพ

ในการเริ่มเรียนผ่าตัดเพื่อศึกษากายวิภาคของคน
จะแบ่งเป็นทีม ๆ ละ 4 คนร่วมมือกันทำงาน
ผลัดกันทำงานคือ คนแรกผ่าตัดชำแหละศพอาจารย์ใหญ่
ด้วยเครื่องมือผ่าตัดแบบของโรงพยาบาลที่ให้ยืมเพื่อการศึกษา
คนที่สองเปิดหนังสือกายวิภาคศาสตร์
อ่าน/ระบุชื่อเฉพาะทางการแพทย์ที่มักจะเป็นภาษาละติน/อังกฤษ
คนที่สามคอยฉีดน้ำไม่ให้ศพอาจารย์ใหญ่แห้งเกินไป
มีผลต่อการผ่าตัดและช่วยชำระล้างคราบสกปรกบางอย่าง
และคอยหยิบเครื่องมือที่ใช้ในการผ่าตัด
คนสุดท้ายคอยยืนช่วยเหลือในการหยิบข้าวของเครื่องใช้
กับคอยป้อนขนม/น้ำดื่ม ซับเหงื่อ ให้กับคนที่ลงมือผ่าตัดศพอาจารย์ใหญ่
บางครั้งก็ป้อนขนม/น้ำดื่มให้กับเพื่อนในทีมที่มือยังไม่ว่างอยู่

การเรียนวิชากายวิภาคศพอาจารย์ใหญ่นี้ต้องใช้เวลาเรียนรวม 1 ปี
โดยเรียนอาจารย์ใหญ่ชาย 1 ท่านกับอาจารย์ใหญ่หญิง 1 ท่าน
เพราะสรีระร่างกายและชื่อเรียกจะผิดแตกต่างกันในบางจุด
ต้องเรียนควบคู่ไปกับการเรียนวิชาอื่น ๆ ด้วยในโรงเรียนแพทย์




หลังจากผ่าตัดครบถ้วนกระบวนการแล้ว
นิสิตทั้งสี่คนก็เดินทางไปหาญาติอาจารย์ใหญ่อีกครั้ง

" อ้าว พวกหนูมาเยี่ยมป้าเหรอ
หายไปนานร่วมปีเลย
คราวนี้มีเรื่องอะไรจะมาบอกป้าละ "
เสียงหญิงชราถาม

" พวกหนูจะมาเรียนเชิญคุณป้า
ไปร่วมงานพระราชเพลิงศพอาจารย์ใหญ่
และมาสอบถามว่า คุณป้าจะเก็บกระดูกไว้มั้ยค่ะ
ถ้าไม่ขอเก็บกระดูก จะได้ทำพิธีลอยอังคารคะ "
เสียงนิสิตสาวคนหนึ่งตอบคำถาม

" คงไม่ไปละ ป้าเดินเหินไม่สะดวก
ต้องให้ลูกหลานพาไปและคนคงแน่นมาก
ทำตามคำสั่งเสียลุงก็แล้วกันให้ลอยอังคารไปเลยนะ
ส่วนศพของป้าก็คงทำตามลุงเหมือนกันละ
แม้ว่าลูกหลานจะโต้แย้งอย่างไร
ป้าก็ไม่ยอมซะอย่าง เพราะทำเรื่องบริจาคไว้แล้ว "
เสียงป้าตอบคำถามดังกล่าว

หลังจากพูดคุยสัพเพเหระเสร็จแล้ว
พวกนิสิตต่างลาคุณป้ากลับโรงเรียนแพทย์
เพื่อเตรียมการในวันพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่
ซึ่งมักจะเป็นพิธีใหญ่ที่เผาพร้อมกันร่วม 100 ศพ
บางปีเคยเผารวมกันถึง 200 กว่าศพเพราะมียอดสะสมข้ามปี

ศพส่วนมากก็แทบจะเหลือแต่กระดูกแล้ว
เพราะอวัยวะภายในถูกชำแหละออกมาเพื่อทำการศึกษา
แล้วรวบรวมใส่ถุงดำส่งเตาเผาขยะปลอดเชื้อ
ซึ่งส่วนมากดำเนินการโดยหน่วยงานเอกชนภายนอก
ที่มักจะมารับจ้างไปจัดการในเรื่องนี้

ดังนั้น ศพอาจารย์ใหญ่ที่ญาติไม่ได้ขอรับกระดูก
ก็มักจะใส่รวมกันในโลงศพราว 2-4 ร่างหรือมากกว่านั้น
ถ้าใส่รวมได้ แล้วก็เผารวมกันไป

ส่วนศพอาจารย์ใหญ่ที่ญาติขอมารับอัฐิ
ก็จะแยกเผาเป็นการเฉพาะรายไป

หลังจากทำพิธีเสร็จสิ้นในวันนั้นแล้ว
ในวันรุ่งขึ้นก็จะมีพิธีนำไปลอยอังคารต่อไป

แต่ที่มักจะเป็นปัญหาเกิดขึ้นเสมอมา
พอวันรุ่งขึ้นช่วงจะทำพิธีจะไปลอยอังคาร
ญาติผู้ตายบางรายเพิ่งจะคิดได้
มักจะมาขอรับอัฐิผู้ตาย
หลังจากวันพระราชทานเพลิงศพแล้ว

อาจารย์อาวุโสบางท่านก็ไปหยิบเศษกระดูก
จากเตาเผาศพรวมในโลงศพเดียวกัน
ซึ่งมีทะเบียนคุมรายชื่ออาจารย์ใหญ่ในการนำเข้าเตาเผา
แล้วก็สุ่ม ๆ หยิบส่งให้เพราะไม่รู้จะแยกแยะอย่างไรแล้ว
พร้อมกับส่งให้กับญาติผู้ตายในรูปห่อผ้าขาว
บางรายก็บอกความจริงไป ก็ทำใจได้ ไม่ขอแล้ว
บางรายก็ต้องหยิบสุ่ม ๆ ส่งให้ ตามความประสงค์
เพราะแจ้งให้ทราบแล้วว่ามีการเผารวมกันไปแล้ว

ศพอาจารย์ใหญ่ไม่ใช่เป็นกันง่าย ๆ
ต้องมีหนังสือบริจาคให้โรงเรียนแพทย์
ต้องเป็นศพที่มีอวัยวะครบ 32 ประการ
ต้องตายตามธรรมชาติด้วยโรคภัยไข้เจ็บ
ถ้าตายด้วยอุบัติเหตุร้ายแรงก็อาจจะไม่รับ
เพราะต้องดองศพเป็นเวลาร่วมหนึ่งปีขึ้นไป
ทราบว่าปัจจุบันมีน้ำยาลดเวลาลงเหลือราวครึ่งปี
จึงจะผ่าตัดเห็นเส้นเอ็น เนื้อเยื่อ อวัยวะภายใน ฯลฯ

ในอาคารสถานที่ดองศพอาจารย์ใหญ่
จะมีการก่ออิฐถือปูนปูกระเบื้อง+ผ้าใบหนาหรือหล่อขึ้นมา
เป็นบ่อสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่
ใส่น้ำยาดองศพและศพอาจาย์ใหญ่ไว้ภายในมีหลายบ่อมาก
หลายบ่อมักจะมีการวางศพซ้อน ๆ กัน
เพราะน้ำยาที่ดองศพเข้าที่มากแล้ว

ในอดีต ยังมีผู้บริจาคศพเพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่น้อยมาก
ทางโรงเรียนแพทย์จึงมักจะนำศพไร้ญาติมาทำการดองไว้
เพื่อให้นิสิตนักศึกษาแพทย์ได้ทำการศึกษากายวิภาคศาสตร์
แต่ช่วงหลังคนไทยนิยมบริจาคศพเป็นอาจารย์ใหญ่มากจนเกินพอในบางปี
ดังที่เคยตกเป็นข่าวว่า มีการ Export ศพอาจารย์ใหญ่ไปเมืองนอก
เพราะมีคนงานตรวจพบว่ามีการส่งศพดองยาที่ท่าเทียบเรือคลองเตย
โดยเฉพาะแถวตะวันออกกลางที่มักจะฝังศพทันทีภายใน 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้เป็นความร่วมมือและช่วยเหลือกันในด้านวิชาการ
การขาดแคลนศพอาจารย์ใหญ่มีมากในหลายประเทศ
จนตัองมีการออกกฎหมายบังคับใช้กับผู้ตายบางราย
เพื่อนำศพมาดองรักษาไว้เป็นอาจารย์ใหญ่

การเรียนวิชากายวิภาคศาสตร์
มีทั้งนิสิตนักศึกษาคณะแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัช
ต้องเรียนวิชากายวิภาคศาสตร์ด้วย
จะได้รู้ถึงกลไกลการทำงานของร่างกายคนเรา

ผลของการที่พวกนิสิตไปขอขมาญาติอาจารย์ใหญ่
ทำให้บางครอบครัวมีความผูกพันใกล้ชิดกับพวกนิสิตบางกลุ่มมาก
มักจะโทรศัพท์สอบถามหรือแวะมาเยี่ยมเยือนตามวาระโอกาส
จนบางคนผูกพันกันประดุจญาติพี่น้องที่ใกล้ชิดกัน




ส่วนศพหลวงพ่อคุณ วัดบ้านไร่
เท่าที่ทราบคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
รักษาไว้ในห้องที่มีการตรวจสอบความปลอดภัยระดับสูง
อนุญาตให้เฉพาะอาจาย์แพทย์และนักศึกษาผู้ช่วยอาจารย์
จึงจะเข้าไปผ่าตัดเพื่อเรียนรู้ศึกษาอาการโรคคนชราได้
เพราะกริ่งเกรงกันว่าอาจจะมีคนแอบหยิบอวัยวะบางส่วนของท่านไปข้างนอก
เนื่องจากมีใบสั่งจำนวนมากจากพวกเล่นของหลายรายมาก
อยากจะเก็บไว้เป็นเครื่องรางของขลังของบูชา/ของที่ระลึก
หรือนำไปทำพิธีทางไสยศาสตร์ นำไปทำมาหากิน/เก็บไว้บูชา




ศพของ พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ)
ท่านได้บริจาคโครงกระดูกของท่านให้โรงพยาบาลศิริราช
เพื่อทำหน้าที่เป็นอาจารย์ใหญ่จนกระทั่งทุกวันนี้




ส่วนอีกศพที่ถูกทางการบราซิลบังคับให้เป็นอาจารย์ใหญ่คือ
Dr. Josef Mengele นายแพทย์และเป็นหัวหน้าผู้คุมค่ายกักกัน Auschwitz
ผู้มีความวิปริตผิดมนุษย์ชอบทดลองนักโทษด้วยวิธีการต่าง ๆ เพื่อศึกษาทางวิทยาศาสตร์
และจับเด็กฝาแฝดชาวยิวไว้จำนวนมากเพื่อศึกษาด้านต่าง ๆ ที่อยากทดลองกับคู่แฝด
ในตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ใกล้ยุติลงแล้ว
Dr. Josef Mengele ได้ทำลายเอกสารหลักฐานทั้งหมดเท่าที่ทำได้
ตามมาด้วยการทำลายโดยไม่ตั้งใจของกองทัพรัสเซียหลังยึดค่ายกักกันได้
ศาลอาชญากรสงครามก็ต้องปล่อยตัว Dr. Josef Mengele ให้พ้นโทษไป
เพราะตามร่างกายไม่มีรอยสักนาซีเยอรมันนีที่นิยมชื่นชอบกัน
และพรรคพวกนาซีเยอรมันนีมักจะปิดปากเงียบไม่ซัดทอดกัน
รวมทั้งไม่พยานหลักฐาน/พยานบุคคลที่เป็นเชลย/นักโทษยิว
มากล่าวหา/เป็นพยานในตอนพิจารณาคดี Dr. Josef Mengele ด้วย

หลังจาก Dr. Josef Mengele พ้นโทษก็ไปหลบไปซ่อนตัวอยู่ที่เยอรมันนีตะวันออก
ซึ่งตอนนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียตรัสเซีย
ต่อมา Dr. Josef Mengele ก็หลบหนีเข้าสวิสเซอร์แลนด์
ประเทศที่เป็นแหล่งฟอกเงิน/คลังซ่อนเงินเก็บนาซีเยอรมัน
แล้ว Dr. Josef Mengele ก็ออกเดินทางจากสวิสเซอร์แลนด์เข้าไปที่สเปญ
แหล่งพักพิง/สถานที่จัดทำเอกสารปลอมในชื่อคนใหม่/ถิ่นที่อยู่ใหม่
ด้วยความร่วมมือที่ได้เงินและความโลภในประกายตาจอมเผด็จการฟรังโก
เอกสารเดินทางมักจะออกให้ในรูปนักบวชคริสต์ศาสนา
ทำให้ตรวจคนเข้าเมือง/ตำรวจระหว่างประเทศมักจะผ่อนผัน/อำนวยความสะดวก
จนมีบางคนสรุปว่าวาติกันมีส่วนรู้เห็น/สมคบคิดกับพวกนาซีเยอรมัน
ทั้งที่ความจริงส่วนหนึ่งคือ คนชั่วฉกฉวยโอกาสจากอาชีพนี้

Dr. Josef Mengele เข้าไปอยู่ที่อาร์เจนตินาก่อน
และต่อมาทำมาหากินในอีกหลายประเทศ
สุดท้าย Dr. Josef Mengele จมน้ำตายแล้วฝังในชื่อปลอมที่บราซิล
จนทางการเยอรมันนีกับยิวสืบสาวราวเรื่องนี้ได้
เลยจะขอนำศพ Dr. Josef Mengele กลับไปที่เยอรมันนี
แต่ทายาทผู้ตายไม่ยอมให้นำศพกลับไป
ทางการบราซิลเลยตัดปัญหาด้วยการบังคับทายาททุกคน
ให้ยินยอมให้นำโครงกระดูก Dr.Josef Mengele
ทำหน้าที่เป็นอาจารย์ใหญ่ในโรงเรียนแพทย์
รายละเอียดใน 70 ปีหลังการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว Holocaust

เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ
ร่วมกับคำบอกเล่าหลานสาว/เพื่อน
ก่อนที่จะเลือนหายไปกับกาลเวลา
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งเรื่องสั้น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่