สวัสดีเพื่อนชาวพันทิปทุกคนนค่ะ

ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนเลยว่าเราเพิ่งเคยได้มาเขียนกระทู้แชร์เรื่องราวเป็นครั้งแรก (แรกไม่แรกไม่รู้แต่รู้ว่าเขียนไปเยอะแล้ว กดผิดกดไปกดมาที่เขียนมายาวเหยียดหายหมดเลย ต้องมานั่งเขียนใหม่ แงงๆ TT)

เราแค่อยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเดินทางไปเที่ยวไม่ไกลมาก อย่างเช่นเกาหลี เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อย แต่อยากไปเที่ยวแบบหรูๆ บินดีๆ นอนดีๆ กินดีๆ ทำงานกันเหนื่อยแล้วครั้งนึงในชีวิตไปเที่ยวดีๆกันบ้างเนอะ ซึ่งหากเราเขียนผิดๆถูกๆ อธิบายไม่ค่อยเข้าใจก็ไม่ต้องสงสัย เพราะเราอ๊อง 5555

มาเริ่มกันตั้งแต่จองตั๋วเครื่องบินกันเลยดีกว่า (กว่าจะลงตัวก็ศึกษาข้อมูลมาเยอะเหมือนกันน้า)

- เราจองตั๋วเครื่องบินสายการบินไทย แบบแลกไมล์ โดยการแลกไมล์นี้ก็จะมีทั้งแลกจากคะแนนบัตรเครดิต หรือ สะสมจากไมล์การเดินทางของสายการบินไทยหรือ Star alliance สำหรับเราใช้วิธีการแลกจากคะแนนบัตรเครดิต ซึ่งบัตรเดรดิตที่แนะนำสำหรับคนเงินเดือนกลางๆ คือ บัตรเครดิต Citibank ROP Select (20 บาท = 1 ไมล์สะสม) ใช้จ่ายทุกสิ่งอย่างผ่านบัตรให้หมด ไม่ว่าจะเติมน้ำมัน ช้อปแช้ป กินอาหาร ก็สามารถนำคะแนนจากการที่เราใช้จ่ายนี้มาใช้ประโยชน์ได้ด้วย เลิศไปอีก ^^ (สำหรับความเห็นส่วนตัวเรา *ย้ำว่าความเห็นส่วนตัวน้า การนำคะแนนบัตรเครดิตไปแลกซื้อของ เราว่าไม่คุ้มน้า ลดอย่างมากก็ 10-15% สู้เก็บทีเดียวแล้วแลกเป็นตั๋วไปเที่ยวดีฝ่า)

- เข้าไปเช็คจำนวนไมล์ในการแลกตามเส้นทางที่เราอยากไปได้ที่ http://www.thaiairways.com/th_TH/rop/Redeeming/Redeeming_Award-Air_Awards_onTHAI-01-RoundTrip.page

- หลังจากที่ภาษีน้ำมันและสนามบินขึ้นมาอีกครั้งเมื่อช่วงกลางปี 2017 ทำให้ครั้งนี้เราต้องจ่ายค่าบริการแลกตั๋วสะสมไมล์ของการบินไทยเพิ่มคนละ 4,400 บาท (Business Class) ในเส้นทางไปเกาหลี ช่วงปี 2016 ลดลงเหลือแค่คนละ 1,700+ บาทต่อคน คือดีงาม แต่ตอนนี้ขึ้นราคาแล้ว และน่าจะขึ้นเรื่อยๆ TT แต่เราว่าเสียเพิ่มในราคาขนาดนี้ได้นั่ง Business ก็ยังคุ้มอยู่นะคะ

*สรุปค่าใช้จ่ายแลกไมล์การบินไทย Business Class 4,400 บาท/ คน
**ในกรณีที่คอนเฟิร์มตั๋วแล้วต้องการเปลี่ยนแปลงวันและเวลาในการเดินทาง ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม 1,200 บาทต่อคน
***หากยกเลิกเที่ยวบินและต้องการขอไมล์คืนจะเสียค่าใช้จ่าย 3,750 บาทตอคน (ภาษีที่จ่ายไปขอคืนได้เต็มจำนวน)

อะ อะ เข้าเรื่องการเดินทางกันเลยดีกว่า เพื่อนๆคงอาจจะเบื่อกันแล้ว เขียนอะไรของ ม_งวะยืดยาว 5555

เริ่มการเดินทาง Day 1  จากสนามบินสุวรรณภูมิ- สนามบินอินชอน

- สำหรับคนที่เดินทางด้วยสายการบินไทยชั้นธุรกิจ ก็จะง่ายหน่อยตรงไปที่ประตูทางเข้าที่ 1 ชั้น 4 เคาวน์เตอร์เช็คอิน A จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือพาไปเคาวน์เตอร์เช็คอิน คนที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นและเกาหลีจะมีเคาวน์เตอร์แยกนะคะ (ไม่แน่ใจในเหตุผลเหมือนกันค่ะ เพิ่งเห็นจัดกลุ่มปีนี้ปีแรก) ซึ่งเมื่อเราได้ Boarding pass เรียบร้อยแล้ว จะมีช่องทางพิเศษให้ผู้โดยสารชั้นธุรกิจผ่านเข้าไปช่องตม. ตรงนี้ก็จะเร็วปึ๊ดไม่ต้องไปต่อคิวยาวค่า

- พอผ่านตม.เรียบร้อยแล้ว คนที่ไม่ชอบเดินเล่นช้อปแช้ป ก็ไปนั่งที่เลานจ์การบินไทยได้เลย (สายช้อปทั้งหลาย หลังจากที่เราเดินทางไปหลายที่มาแล้ว เราว่าใน King power พวกเครื่องสำอาง น้ำหอม ถูกสุดแหล่ววข่า ถ้าจะซื้อแนะนำซื้อที่นี่แหละ ไม่อยากถือไปด้วยก็ฝากไว้ที่สนามบินได้เด้อ แต่ต้องซื้อไม่เกิน 20,000 บาท ขากลับก็เดินไปเอา สบ๊ายย) สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัดที่บินด้วยการบินไทยก็สามารถเข้าไปนั่งชิวๆในเลานจ์การบินไทยได้นะเออ แค่ถือบัตรที่ร่วมรายการ เช่นบัตร Citi bank ROP, บัตร K bank Platinum (สามารถเข้าไปใช้บริการได้ฟรีปีละ 2 ครั้ง) ยื่นพร้อม Boarding pass

มาดูบรรยากาศอันน้อยนิดและความสั่นของมือในการถ่ายภาพในเลานจ์การบินไทย

ไปค่ะ ขึ้นเครื่องกันเถ๊ออ พูดมากน้ำลายฝอยหมดแหล่ววข่า
- ขาไปนั่ง BOEING 777-300 เป็นลำไม่ค่อยใหญ่มาก ยังเป็นที่นังแบบเก่าอยู่
- ในชั้นธุรกิจขึ้นไปก็จะมีหมอน ผ้าห่มและกระเป๋ายังชีพ อิอิ (ข้างในกระเป๋าก็จะมี Slipper, earplugs, แปรงสีฟัน, ยาสีฟัน, น้ำยาบ้วน และผ้าปิดตา ค่า
- อาหารจะเป็น 3 คอร์ส จะมีออเดิร์ฟ main course และของหวาน ขาไปเราทานข้าวต้มเป็ด เสิร์ฟคู่กับไข่เจียว และผลไม้ ค่ะ (รูปไม่มี ณ ตอนนั้นคือตื่นมากินแบบงงๆ 555)

รูปคือ Realllll มากนะทุกคนนน คราวหน้าจะถ่ายมาให้สวยกว่านี้ ฮ่าๆๆ

ถึงสนามบินอินชอนนนแล้ววววววววววว~
- คนที่บินมาเที่ยวเองอย่าลืมเขียนเอกสารด้วยเด้อ มีใบ arrival card และใบ customs declaration นะคะ (ขอแอร์บนเครื่องได้น้า)
- ลงมาก็มาต่อแถวเข้าคิวไปเจอตม. ที่เค้าว่าโหดๆ ก็ไม่ได้โหดอย่างที่คิดเด้อ ส่วนใหญ่วันที่เราไปก็ไม่มีคนโดนเรียกเข้าห้องเย็นน้า คนที่เคยไปแล้วก็มักจะผ่านแหละ เราว่าเค้าดูรู้ว่าใครหนีไปทำงานหรือใครไปเที่ยว แต่จะให้ดีก็ติดเอกสารการจองที่พัก หรือตั๋วขากลับให้เรียบร้อยจะดีกว่าค่า (ข้างหน้าเราโดนถามเยอะ แต่ก้ผ่านน้า ส่วนเราไม่โดนถามอัลไลเลย อาจจะเพราะเดินทางมาเกาหลีหลายครั้งแล้ว น่าจะมี record อยู่ เดาเด้ออ 555)

พอออกมาได้แล้วก็ไปซื้อตั๋วรถเข้าเมืองกัน
- จริงๆมีรถหลายแบบให้เลือก แล้วแต่เพื่อนๆสะดวก มีทั้งรถแท็กซี่ (ราคาก็แล้วแต่รูปแบบแท๊กซี่ค่ะ คิดตามระยะทาง) รถไฟฟ้า Airport Railroad (ราคา~ 8,000 วอน) หรือรถบัสแบบ Deluxe Limousine (ราคา~ 16,000 วอน) ส่วนตัวเราชอบนั่งรถบัสมากกว่า เพราะมันลงใกล้ที่พักที่สุด ถ้าใครสนใจออกมาเคาวน์เตอร์ซื้อตั๋วรถบัสเข้าเมียงดงก็จะอยู่ที่ประตู 4 และ 9 สาย Myeong-Dong (6015) หรือ (6001) เวลานั่งอย่านอนเพลิน ลืมฟังป้ายที่เราจะลงนะคะ ไม่งั้นเลยแล้วจะย๊าววววปายย

* เอ้ออแรก ถ้าเราไปเที่ยวเองแนะนำให้ซื้อบัตร T-money ไว้ก็ดีนะคะ มันจะง่ายเวลาเราไปขึ้นรถบัส หรือ รถแท๊กซี่จะได้ไม่ต้องหาเศษเงินจ่าย ซึ่งถ้าเราซื้อบัตรตรงที่ซื้อตั๋วรถบัสเข้าเมือง จะได้ส่วนลด 10% สำหรับค่ารถบัสจากแอร์พอร์ตด้วยน้า (มัดจำบัตรใบละ 4,000 วอน)
** เอ้อที่ 2 สำหรับชาวโซเชี่ยนทั้งหลาย สามารถเช่า Pocket Wifi มาหรือจะใช้ Sim2fly ก็ร่ายยยน้า สำหรับ Pocket wifi เราเช่าของเจ้านี้ smile wifi ถูกดีและแชร์กับเพื่อนได้หลายคน ตกวันละ 170 บาท ส่วน Sim2fly คนที่มีซิมอยู่แล้วก็ซื้อแพกเกจเกาหลี 8 วัน 299 บาท ความเร็ว 4GB แต่ถ้าไม่เคยมีซิมก็ต้องซื้อซิมใหม่ราคา 399 บาทค่า


เดี๋ยวมาต่อ เล่ามายาววววววววววววยังไม่ได้เข้าไปทริปเลย เขียนเป็นพืดดก็จะไม่น่าอ่านหน่อยๆ แต่หวังว่าน่าจะมีประโยชน์ไม่มากก้น้อยเด้อ ถ้าเพื่อนๆมีอะไรแนะนำ หรืออยากอ่านอะไรก็บอกได้ค่า ;)

ปล. รูปไม่ค่อยมี มีก็ไม่สวย เน้นเล่าสู่กันฟังเด้อ เป็นทริปอืดที่แท้ทรู แห่ะๆ