บอลโลก 2018 ก็พึ่งจะจบไป โดยที่ฝรั่งเศสคว้าแชมป์ไป และที่สองตกเป็นของโครเอเชีย เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก เพราะประเทศนี้ไม่เคยเข้ารอบมาลึกขนาดนี้เลย เราได้โอกาศเดินทางไปช่วงที่เค้าเชียร์บอลกันอยู่ บรรยากาศครึกครื้นมากเลยขอบอก เราอยากลองมาแบ่งปันประสบการณ์ มีข้อมูลไรผิดพลาดก็ขออภัยนะฮะ
เอาตรงๆตอนวางแผนมาไม่ได้คาดหวังอะไรเยอะเลยอะ จุดหมายหลักๆคือจะไปเมือง Dubrovnik เพราะเป็นเมืองยอดนิยมสุดๆแล้ว แต่มันตั้งอยู่แบบปลายสุดของประเทศอะ5555 เลยตัดสินใจแวะเที่ยวที่อื่นด้วยจะได้คุ้มค่า คือเค้าไม่ได้มีดีแค่เมืองเดียวจริงๆเว้ย ทุกๆที่น่าสนใจไปหมดเลย ทั้งประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และธรรมชาติ เราประทับใจสุดๆ
เกริ่นนิดหน่อย.. ประเทศนี้แยกตัวออกมาจากยูโกสลาเวียในปี 1992 ถ้าใครไม่เคยได้ยิน ประเทศนี้ไม่มีแล้วนะ มันได้แตกเป็นประเทศย่อยๆ อย่างเช่น สโลวีเนีย เช็ค บอสเนีย เซอร์เบีย มอนเตนีโกร ไรพวกนี้ไปเรียบร้อยแล้ว และโครเอเชียก็กลายเป็นหนึ่งในประเทศยอดนิยมสำหรับการท่องเที่ยวมากๆ ไม่แปลกเลยอะ เค้าดี มีเมือง Dubrovnik กับ Plitvice Lakes ที่ UNESCO ยกให้เป็น world heritage sites สองที่นี้คือต้องไป!
ประเทศนี้ความจริงมันไม่แพงเท่าประเทศอื่นๆในยุโรป impression ที่เราได้คือ เค้าดูไม่เจริญมาก ตึกอาคารดูเก่าๆ แต่การท่องเที่ยวบูม เค้าเลยหาเงินจากตรงนี้ ช่วง high season คือ กรกฎาคมกับสิงหาคมนะ ใครอยากหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่สูง แนะนำมาช่วงมิถุนายนนะ อากาศกำลังดีและทุกอย่างยังไม่แพง(มากจนเกินไป555)
การเดินทางในประเทศนี้ เราเลือกนั่งรถบัสอย่างเดียว เนื่องจากรถไฟมันไม่ครอบคลุม เมืองท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็มีสนามบินนะ แต่เราเลือกประหยัดค่าเดินทาง นั่งไปอีกเมืองอย่างมากก็ 4 ชั่วโมงเอง นั่งชมภูมิประเทศสวยๆ ภูเขาเป็นลูกๆ น้ำทะเลฟ้าใส มันดีย์! ตั๋วซื้อได้ที่นี่เลย:
www.getbybus.com
เรามีโอกาสไปแค่ 3 เมือง
Zagreb, Split และ Dubrovnik แต่เค้ามีเมืองสวยๆอีกเพียบเลย เช่น Zadar, Rovinj, Pula ฯลฯ ถ้ามีเวลาก็อยากไปให้ครบๆ แต่วันนี้เรามารีวิวเท่าทีเราได้ไปแล้วกันนะ พร้อมแล้ว.. ลุย!
ZAGREB
(ซาเกร็บ)
First stop ของเราก็แวะเมืองหลวงเลยยย
Zagreb เป็นเมืองที่ไม่ติดทะเล บรรยากาศก็เลยค่อนข้างต่างจากเมืองอื่น ไม่ค่อย touristy จ๋าเหมือนเมืองตามชายฝั่งที่คนเค้าชอบไปพักร้อนกัน อารมณ์แบบเป็น creative hub ของประเทศ ที่นี่ค่าใช้จ่ายถือว่าถูกค่ะสำหรับยุโรป
การเดินทางในเมือง:
มีทั้งรถบัสและรถราง แต่แนะนำเดินเท้าดีสุดนะเพราะทุกอย่างมันไม่ได้ไกลจากกันเท่าไร นอกจากว่าจะไปบริเวณ new town ที่ห่างออกไปนิดหน่อย ก็จะมี contemporary art museum แต่เราอยู่แปปเดียวเลยไม่ได้แวะ
ตั๋ว bus กับ tram สามารถซื้อได้จากร้าน TISAK เป็น kiosk ที่กระจายอยู่ตามเมือง หรือซื้อจากคนขับได้โดยตรง แต่แพงกว่านิดหน่อย เป็นแบบนี้ทุกเมืองเลยจ้า
ที่พัก:
แนะนำ Hostel Swanky Mint เป็นโฮสเทลที่เราชอบและประทับใจที่สุดละ ดัดแปลงมาจากโรงงานเก่า ดีไซน์แบบ industrial คือโคตร unique มีบาร์ มี garden terrace แล้วก็สระว่ายน้ำ บรรยากาศแบบ lively มากเวอร์ ราคาตกอยู่คืนละประมาณ 900 บาท ช่วงเดือนกรกฎาคม ถือว่าสูงอะสำหรับโฮสเทล แต่เพราะเราให้ความสำคัญกับที่พักนิดนึง+เห็นรูปละชอบมากก็เลยยอมอย่างง่ายดาย555 มาก็ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะะะ
St. Mark's Church
น่ารักมากก เสียดายเข้าข้างในไม่ได้ ใกล้ๆกันจะมี Museum of Broken Relationships เราเข้าเพื่อฆ่าเวลา รอดูเค้ายิงปืนใหญ่ เพราะทุกวันตอนเที่ยง คนจะไปรวมที่ Lotrščak Tower เพื่อดูการยิงปืนใหญ่ เสียงดังมาก สะดุ้ง5555 แต่มิวเซียมแปลกดีนะ เราเอนจอยแหละ มีทั้งขำทั้งเศร้า
มุมนี้ถ่ายใต้ทางของรถรางที่ขึ้นไปบริเวณ upper town คือเป็น Funicular Railway ที่สั้นที่สุดในโลกอะ มันสั้นมากๆเว้ย ตอนแรกตะหงิดว่ามีทำไม สั้นขนาดนี้ แต่ก็พึ่งตรัสรู้ว่าน่าจะสำหรับคนพิการที่เค้าอยากขึ้นมาชมเมืองส่วน upper town ซึ่งก็ดีนะ โซนนี้เรียบง่ายดี สงบ มองเห็นวิวของ down town ด้วย
Zagreb Art Park
สนามเด็กเล่นเล็กๆ เราเห็นว่าน่ารักดี555
Grič Tunnel
ตรงสนามเด็กเล่นจะมีทางเข้าไปในอุโมงค์เก่าที่เค้าใช้หลบภัยสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ปัจจุบันเปิดให้คนเดินเข้าไปได้ และมีทางโผล่เข้าออกไปตามจุดต่างๆของเมือง
PLITVICE LAKES NATIONAL PARK
(อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่)
อุทยานที่โด่งดังที่สุดในประเทศแล้วแหละ ใหญ่และสวยมาก ใครมาโครเอเชียอย่าพลาดนะ
ที่นี่เค้าจะมี hiking trials ให้เลือกหลายเส้นทาง เราแนะนำ K trail นะ ให้เดินไปดู lower lakes ในตอนเช้าก่อนเพราะคนไม่เยอะ และมันสวยสุดแล้ว ไม่ใช่ว่า upper lakes ไม่สวยนะ มันแค่ไม่พิเศษเท่าอะ เราแนะนำให้ใช้เวลาเต็มวันที่นี่เพราะมันใหญ่มากๆ ดื่มด่ำกับธรรมชาติไปซะ
ไปยังไง:
เราสามารถทำ day trip จากเมืองใหญ่ๆไปได้ เช่น Zagreb, Split, Zadar นั่งรถบัสประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนใหญ่ก็สามารถหาซื้อทัวร์ได้ แต่เราอยากใช้เวลาเยอะๆเลยหาที่พักแถวนั้นเลย นั่งรถบัสจาก Zagreb ไปลงที่ Korenica เป็นหมู่บ้านใกล้ๆ
ที่พัก:
เราพักที่ Falling Lakes Hostel อยู่ในหมู่บ้านที่ห่างออกไปประมาณ 20 นาที มีรถตู้รับส่งเช้าเย็น ราคาเดือนกรกฎาคม ตกอยู่คืนละประมาณ 800 บาทเด้อ
ที่โฮสเทลมีกิจกรรมให้ทำเยอะนะเช่น hiking, kayaking น่าทำมากก แต่เราเวลาไม่พอเลยไม่มีโอกาส เพราะตั้งใจมาอุทยานอย่างเดียว
มุมนี้คือสวยอลังการที่สุดในอุทยานแล้วสำหรับเรา ของจริงสวยกว่าในรูปล้านเท่าา สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นเด้อ omg
น้ำใสแค่ไหน ดู! ปล. ค่าเข้า 160 Kuna ก็ 800 บาทอะ แต่สำหรับเราคือเป็นการจ่าย 800 บาทที่คุ้มสุดในประเทศนี้ละ
SPLIT
(สปลิท)
เมืองใหญ่อันดับสอง รองลงมาจากเมืองหลวง ที่นี่ทุกอย่างค่อนข้างครบครัน ได้บรรยากาศแบบเมดิเตอเรเนียนมากๆ ของก็เริ่มแพงขึ้นละ555 มีความ touristy ขึ้นเยอะ มานี่เราเดินเล่นในเมืองเก่า ไปอาบแดดที่หาด ไม่ได้ทำไรมาก คือเน้นพักผ่อนที่แท้ทรู เมืองบรรยากาศอย่างโรแมนติก เค้าอุ้มลูก อุ้มเมีย อุ้มหมามาเที่ยวกัน อีนี่มาคนเดียว เหงาไปอี้กกก
การเดินทางในเมือง:
มีรถบัสอย่างเดียวจ้าา แต่สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละอย่างก็ไม่ได่ห่างจากกันเลย เดินเท้าเอานั่นแหละ ดีแล้ว เว้นแต่ใครอยากไปชอปปิ้งที่ห้างก็นั่งบัสออกไปนะ ซื้อตั๋วจาก TISAK เหมือนเดิมจ้า
ที่พัก:
เราพักที่ Hostel Emanuel เป็นโฮสเทลค่ที่อนข้างเล็ก เงียบสงบมากก เป็นเครือของบริษัททัวร์นะ ถ้าจองทัวร์หรือเช่าจักรยานกับเค้าก็ได้ส่วนลดด้วย
Old town of Split
โซนเมืองเก่าเค้าอารมณ์คล้ายๆเวนิซเลย เป็นซอยเล็กๆ กับตึกเก่าๆ เราชอบมากกก
Riva Promenade
แถวนี้เหมาะมาเดินเล่นชิวๆ นั่งชมเมือง กินไอติม เสพบรรยากาศและ observe ผู้คน มีร้านอาหารตั้งเรียงราย
แผงขายของงง เค้าตั้งเป็นระเบียบมาก คุมโทน ชอบๆ
Diocletian's Palace
สร้างสมัยจักรวรรดิโรมันเด้อ ให้จักรพรรดิ Diocletian อยู่ในเมืองเก่า เป็นสถาปัตยกรรมที่ well preserved มาก ใครอินกับสถาปัตยกรรมเก่าๆ ประทับใจแน่นวลล
มีซาก ruins มากมาย ละเค้าเก็บรักษาดีมากกก บริเวณตึกเก่าๆก็ถูกดัดแปลงเป็นร้านขายของ ร้านอาหาร ถ้าตอนกลางคืนมาดินเนอร์ บรรยากาศมันโรแมนติกมากๆนะเออ
มาถึง highlight!
DUBROVNIK
(ดูบรอฟนิค)
เมืองนี้ดีงามจริงๆ ดูจากภาพคือ อห สวย แต่พอมาถึงจริงคือมัน beyond expectation ไปเลยย เหมือนหลุดไปอยู่ในนิยายอะ ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำ Kingslanding ด้วยนะะ ใครอินกับ Game of Thrones มาตามล่าโลเคชั่นได้
เราหมดตัวจริงๆกับเมืองนี้5555 มาผิดช่วงเวลานะเออ July-August คือแบบ high season ทุกอย่างโคดจะแพง ข้าวในร้านอาหารไม่แตะเลย อดจ้า ต้องซื้อมาทำกินเอง ค่าเข้าชมที่ต่างๆก็แพงหูฉี่ ก็เข้าใจนะว่าการท่องเที่ยวคงเป็นรายได้หลักของเค้า เมืองนี้นักท่องเที่ยวเยอะ busy สุดๆ
การเดินทางในเมือง:
เมืองนี้มีรถบัสอย่างเดียว แต่ในเมืองเก่า รถเข้าไม่ได้นะ สำหรับคนเดินเท้าอย่างเดียว ทุกอย่างอยู่ไม่ไกลกันเลยอะ เดินเท้าดีที่สุด ใครอยู่ไกลเมืองเก่าหน่อยแนะนำให้ซื้อ Dubrovnik card นะ จะได้ใช้ขนส่งฟรีแล้ว+มีส่วนลดในการเข้าชมพวกมิวเซียมกับแลนด์มาร์คต่างๆด้วย มีหลายแบบ 1 day, 3 days ก็ว่าไป
ที่พัก:
เราพักที่ Hostel Angelina Old Town อยู่ในเมืองเก่าราคาเลยไม่ย่อมเยาเท่าไร แต่สะดวก ใกล้ทุกอย่าง ไม่ต้องเสียเงินนั่งบัสเข้า-ออกทุกวัน ช่วงเดือนกรกฎาคมก็ตกคืนละ 1800 บาท.. (แพงมากสำหรับโฮสเทล) ใครอยากหาถูกกว่านี้ต้องไปนอกเมืองเก่าเท่านั้นจ้ะ
Fort Lovrijenac (or St. Lawrence Fortress)
เป็นป้อมกับ theater ในสมัยก่อน อยู่ข้างนอกเมืองเก่า ค่าเข้า 50 Kuna (250 บาท) ได้วิวเมืองเก่าสวยอยู่นะ เป็นโลเคชั่นใน Game of Thrones ด้วย
Old Town Wall (ถ่ายจาก Fort Lovrijenac)
สามารถซื้อตั๋วขึ้นไปเดินบนกำแพงรอบเมืองได้ ราคา 150 Kuna (ประมาณ 800 บาท) แต่สวย ฉันประทับใจ เตรียมหมวกไปด้วยนะ แดดเค้าร้อน
ถ้าแถวบ้านมีแบบนี้ หนูจะเล่นกีฬาทุกวันค่ะ
Srdj Mountain
บนเขานี้จะมีจุดชมวิวเมืองอยู่ สามารถนั่ง cable car ขึ้นไปได้ถ้าใครขี้เกียจเดิน ราคาอยู่ที่ 150 Kuna (ประมาณ 800 บาท) สัสแพงเกิน เดินเอาแล้วกัน55
ใครคิดจะเดินพกน้ำมาเยอะๆเด้อ น้ำหวานก็ดี ไม่ได้เหนื่อยจากทางนะ เหนื่อยจากแดดฮะ ร้อนมากสัส เกือบตาย ระยะเวลาที่ใช้เดินขึ้นประมาณ 1 ชั่วโมง+ นะ แต่เอาตรงๆพอขึ้นไปถึงจุดสูงสึดจริงๆมันก็สวยนะ แต่มันสวยไม่สุดอะ รู้สึกว่าเคยเจอที่อื่นที่ประทับใจกว่านี้ ประเด็นคือ สาย cable car มันบังวิวเมืองด้วย ทำจุดชมวิวทั้งที ทำไมต้องสร้างไรมาบังด้วย อิหยังวะ
ปล.รูปนี้ถ่ายระหว่างเดินขึ้น ไม่ได้ถ่ายบนจุดชมวิว เลยยังไม่มีอะไรบัง
[CR] บอลโลก 2018 ใครไม่เชียร์ แต่โครเอเชีย. รีวิวเดินทางคนเดียวแบบ(พยายาม)ประหยัด(ที่สุดแล้ว)
เอาตรงๆตอนวางแผนมาไม่ได้คาดหวังอะไรเยอะเลยอะ จุดหมายหลักๆคือจะไปเมือง Dubrovnik เพราะเป็นเมืองยอดนิยมสุดๆแล้ว แต่มันตั้งอยู่แบบปลายสุดของประเทศอะ5555 เลยตัดสินใจแวะเที่ยวที่อื่นด้วยจะได้คุ้มค่า คือเค้าไม่ได้มีดีแค่เมืองเดียวจริงๆเว้ย ทุกๆที่น่าสนใจไปหมดเลย ทั้งประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และธรรมชาติ เราประทับใจสุดๆ
เกริ่นนิดหน่อย.. ประเทศนี้แยกตัวออกมาจากยูโกสลาเวียในปี 1992 ถ้าใครไม่เคยได้ยิน ประเทศนี้ไม่มีแล้วนะ มันได้แตกเป็นประเทศย่อยๆ อย่างเช่น สโลวีเนีย เช็ค บอสเนีย เซอร์เบีย มอนเตนีโกร ไรพวกนี้ไปเรียบร้อยแล้ว และโครเอเชียก็กลายเป็นหนึ่งในประเทศยอดนิยมสำหรับการท่องเที่ยวมากๆ ไม่แปลกเลยอะ เค้าดี มีเมือง Dubrovnik กับ Plitvice Lakes ที่ UNESCO ยกให้เป็น world heritage sites สองที่นี้คือต้องไป!
ประเทศนี้ความจริงมันไม่แพงเท่าประเทศอื่นๆในยุโรป impression ที่เราได้คือ เค้าดูไม่เจริญมาก ตึกอาคารดูเก่าๆ แต่การท่องเที่ยวบูม เค้าเลยหาเงินจากตรงนี้ ช่วง high season คือ กรกฎาคมกับสิงหาคมนะ ใครอยากหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่สูง แนะนำมาช่วงมิถุนายนนะ อากาศกำลังดีและทุกอย่างยังไม่แพง(มากจนเกินไป555)
การเดินทางในประเทศนี้ เราเลือกนั่งรถบัสอย่างเดียว เนื่องจากรถไฟมันไม่ครอบคลุม เมืองท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็มีสนามบินนะ แต่เราเลือกประหยัดค่าเดินทาง นั่งไปอีกเมืองอย่างมากก็ 4 ชั่วโมงเอง นั่งชมภูมิประเทศสวยๆ ภูเขาเป็นลูกๆ น้ำทะเลฟ้าใส มันดีย์! ตั๋วซื้อได้ที่นี่เลย: www.getbybus.com
เรามีโอกาสไปแค่ 3 เมือง
Zagreb, Split และ Dubrovnik แต่เค้ามีเมืองสวยๆอีกเพียบเลย เช่น Zadar, Rovinj, Pula ฯลฯ ถ้ามีเวลาก็อยากไปให้ครบๆ แต่วันนี้เรามารีวิวเท่าทีเราได้ไปแล้วกันนะ พร้อมแล้ว.. ลุย!
(ซาเกร็บ)
First stop ของเราก็แวะเมืองหลวงเลยยย
Zagreb เป็นเมืองที่ไม่ติดทะเล บรรยากาศก็เลยค่อนข้างต่างจากเมืองอื่น ไม่ค่อย touristy จ๋าเหมือนเมืองตามชายฝั่งที่คนเค้าชอบไปพักร้อนกัน อารมณ์แบบเป็น creative hub ของประเทศ ที่นี่ค่าใช้จ่ายถือว่าถูกค่ะสำหรับยุโรป
การเดินทางในเมือง:
มีทั้งรถบัสและรถราง แต่แนะนำเดินเท้าดีสุดนะเพราะทุกอย่างมันไม่ได้ไกลจากกันเท่าไร นอกจากว่าจะไปบริเวณ new town ที่ห่างออกไปนิดหน่อย ก็จะมี contemporary art museum แต่เราอยู่แปปเดียวเลยไม่ได้แวะ
ตั๋ว bus กับ tram สามารถซื้อได้จากร้าน TISAK เป็น kiosk ที่กระจายอยู่ตามเมือง หรือซื้อจากคนขับได้โดยตรง แต่แพงกว่านิดหน่อย เป็นแบบนี้ทุกเมืองเลยจ้า
ที่พัก:
แนะนำ Hostel Swanky Mint เป็นโฮสเทลที่เราชอบและประทับใจที่สุดละ ดัดแปลงมาจากโรงงานเก่า ดีไซน์แบบ industrial คือโคตร unique มีบาร์ มี garden terrace แล้วก็สระว่ายน้ำ บรรยากาศแบบ lively มากเวอร์ ราคาตกอยู่คืนละประมาณ 900 บาท ช่วงเดือนกรกฎาคม ถือว่าสูงอะสำหรับโฮสเทล แต่เพราะเราให้ความสำคัญกับที่พักนิดนึง+เห็นรูปละชอบมากก็เลยยอมอย่างง่ายดาย555 มาก็ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะะะ
น่ารักมากก เสียดายเข้าข้างในไม่ได้ ใกล้ๆกันจะมี Museum of Broken Relationships เราเข้าเพื่อฆ่าเวลา รอดูเค้ายิงปืนใหญ่ เพราะทุกวันตอนเที่ยง คนจะไปรวมที่ Lotrščak Tower เพื่อดูการยิงปืนใหญ่ เสียงดังมาก สะดุ้ง5555 แต่มิวเซียมแปลกดีนะ เราเอนจอยแหละ มีทั้งขำทั้งเศร้า
มุมนี้ถ่ายใต้ทางของรถรางที่ขึ้นไปบริเวณ upper town คือเป็น Funicular Railway ที่สั้นที่สุดในโลกอะ มันสั้นมากๆเว้ย ตอนแรกตะหงิดว่ามีทำไม สั้นขนาดนี้ แต่ก็พึ่งตรัสรู้ว่าน่าจะสำหรับคนพิการที่เค้าอยากขึ้นมาชมเมืองส่วน upper town ซึ่งก็ดีนะ โซนนี้เรียบง่ายดี สงบ มองเห็นวิวของ down town ด้วย
สนามเด็กเล่นเล็กๆ เราเห็นว่าน่ารักดี555
ตรงสนามเด็กเล่นจะมีทางเข้าไปในอุโมงค์เก่าที่เค้าใช้หลบภัยสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ปัจจุบันเปิดให้คนเดินเข้าไปได้ และมีทางโผล่เข้าออกไปตามจุดต่างๆของเมือง
(อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่)
อุทยานที่โด่งดังที่สุดในประเทศแล้วแหละ ใหญ่และสวยมาก ใครมาโครเอเชียอย่าพลาดนะ
ที่นี่เค้าจะมี hiking trials ให้เลือกหลายเส้นทาง เราแนะนำ K trail นะ ให้เดินไปดู lower lakes ในตอนเช้าก่อนเพราะคนไม่เยอะ และมันสวยสุดแล้ว ไม่ใช่ว่า upper lakes ไม่สวยนะ มันแค่ไม่พิเศษเท่าอะ เราแนะนำให้ใช้เวลาเต็มวันที่นี่เพราะมันใหญ่มากๆ ดื่มด่ำกับธรรมชาติไปซะ
ไปยังไง:
เราสามารถทำ day trip จากเมืองใหญ่ๆไปได้ เช่น Zagreb, Split, Zadar นั่งรถบัสประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนใหญ่ก็สามารถหาซื้อทัวร์ได้ แต่เราอยากใช้เวลาเยอะๆเลยหาที่พักแถวนั้นเลย นั่งรถบัสจาก Zagreb ไปลงที่ Korenica เป็นหมู่บ้านใกล้ๆ
ที่พัก:
เราพักที่ Falling Lakes Hostel อยู่ในหมู่บ้านที่ห่างออกไปประมาณ 20 นาที มีรถตู้รับส่งเช้าเย็น ราคาเดือนกรกฎาคม ตกอยู่คืนละประมาณ 800 บาทเด้อ
ที่โฮสเทลมีกิจกรรมให้ทำเยอะนะเช่น hiking, kayaking น่าทำมากก แต่เราเวลาไม่พอเลยไม่มีโอกาส เพราะตั้งใจมาอุทยานอย่างเดียว
มุมนี้คือสวยอลังการที่สุดในอุทยานแล้วสำหรับเรา ของจริงสวยกว่าในรูปล้านเท่าา สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นเด้อ omg
น้ำใสแค่ไหน ดู! ปล. ค่าเข้า 160 Kuna ก็ 800 บาทอะ แต่สำหรับเราคือเป็นการจ่าย 800 บาทที่คุ้มสุดในประเทศนี้ละ
(สปลิท)
เมืองใหญ่อันดับสอง รองลงมาจากเมืองหลวง ที่นี่ทุกอย่างค่อนข้างครบครัน ได้บรรยากาศแบบเมดิเตอเรเนียนมากๆ ของก็เริ่มแพงขึ้นละ555 มีความ touristy ขึ้นเยอะ มานี่เราเดินเล่นในเมืองเก่า ไปอาบแดดที่หาด ไม่ได้ทำไรมาก คือเน้นพักผ่อนที่แท้ทรู เมืองบรรยากาศอย่างโรแมนติก เค้าอุ้มลูก อุ้มเมีย อุ้มหมามาเที่ยวกัน อีนี่มาคนเดียว เหงาไปอี้กกก
การเดินทางในเมือง:
มีรถบัสอย่างเดียวจ้าา แต่สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละอย่างก็ไม่ได่ห่างจากกันเลย เดินเท้าเอานั่นแหละ ดีแล้ว เว้นแต่ใครอยากไปชอปปิ้งที่ห้างก็นั่งบัสออกไปนะ ซื้อตั๋วจาก TISAK เหมือนเดิมจ้า
ที่พัก:
เราพักที่ Hostel Emanuel เป็นโฮสเทลค่ที่อนข้างเล็ก เงียบสงบมากก เป็นเครือของบริษัททัวร์นะ ถ้าจองทัวร์หรือเช่าจักรยานกับเค้าก็ได้ส่วนลดด้วย
โซนเมืองเก่าเค้าอารมณ์คล้ายๆเวนิซเลย เป็นซอยเล็กๆ กับตึกเก่าๆ เราชอบมากกก
แถวนี้เหมาะมาเดินเล่นชิวๆ นั่งชมเมือง กินไอติม เสพบรรยากาศและ observe ผู้คน มีร้านอาหารตั้งเรียงราย
สร้างสมัยจักรวรรดิโรมันเด้อ ให้จักรพรรดิ Diocletian อยู่ในเมืองเก่า เป็นสถาปัตยกรรมที่ well preserved มาก ใครอินกับสถาปัตยกรรมเก่าๆ ประทับใจแน่นวลล
มีซาก ruins มากมาย ละเค้าเก็บรักษาดีมากกก บริเวณตึกเก่าๆก็ถูกดัดแปลงเป็นร้านขายของ ร้านอาหาร ถ้าตอนกลางคืนมาดินเนอร์ บรรยากาศมันโรแมนติกมากๆนะเออ
DUBROVNIK
(ดูบรอฟนิค)
เมืองนี้ดีงามจริงๆ ดูจากภาพคือ อห สวย แต่พอมาถึงจริงคือมัน beyond expectation ไปเลยย เหมือนหลุดไปอยู่ในนิยายอะ ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำ Kingslanding ด้วยนะะ ใครอินกับ Game of Thrones มาตามล่าโลเคชั่นได้
เราหมดตัวจริงๆกับเมืองนี้5555 มาผิดช่วงเวลานะเออ July-August คือแบบ high season ทุกอย่างโคดจะแพง ข้าวในร้านอาหารไม่แตะเลย อดจ้า ต้องซื้อมาทำกินเอง ค่าเข้าชมที่ต่างๆก็แพงหูฉี่ ก็เข้าใจนะว่าการท่องเที่ยวคงเป็นรายได้หลักของเค้า เมืองนี้นักท่องเที่ยวเยอะ busy สุดๆ
การเดินทางในเมือง:
เมืองนี้มีรถบัสอย่างเดียว แต่ในเมืองเก่า รถเข้าไม่ได้นะ สำหรับคนเดินเท้าอย่างเดียว ทุกอย่างอยู่ไม่ไกลกันเลยอะ เดินเท้าดีที่สุด ใครอยู่ไกลเมืองเก่าหน่อยแนะนำให้ซื้อ Dubrovnik card นะ จะได้ใช้ขนส่งฟรีแล้ว+มีส่วนลดในการเข้าชมพวกมิวเซียมกับแลนด์มาร์คต่างๆด้วย มีหลายแบบ 1 day, 3 days ก็ว่าไป
ที่พัก:
เราพักที่ Hostel Angelina Old Town อยู่ในเมืองเก่าราคาเลยไม่ย่อมเยาเท่าไร แต่สะดวก ใกล้ทุกอย่าง ไม่ต้องเสียเงินนั่งบัสเข้า-ออกทุกวัน ช่วงเดือนกรกฎาคมก็ตกคืนละ 1800 บาท.. (แพงมากสำหรับโฮสเทล) ใครอยากหาถูกกว่านี้ต้องไปนอกเมืองเก่าเท่านั้นจ้ะ
เป็นป้อมกับ theater ในสมัยก่อน อยู่ข้างนอกเมืองเก่า ค่าเข้า 50 Kuna (250 บาท) ได้วิวเมืองเก่าสวยอยู่นะ เป็นโลเคชั่นใน Game of Thrones ด้วย
สามารถซื้อตั๋วขึ้นไปเดินบนกำแพงรอบเมืองได้ ราคา 150 Kuna (ประมาณ 800 บาท) แต่สวย ฉันประทับใจ เตรียมหมวกไปด้วยนะ แดดเค้าร้อน
บนเขานี้จะมีจุดชมวิวเมืองอยู่ สามารถนั่ง cable car ขึ้นไปได้ถ้าใครขี้เกียจเดิน ราคาอยู่ที่ 150 Kuna (ประมาณ 800 บาท) สัสแพงเกิน เดินเอาแล้วกัน55
ใครคิดจะเดินพกน้ำมาเยอะๆเด้อ น้ำหวานก็ดี ไม่ได้เหนื่อยจากทางนะ เหนื่อยจากแดดฮะ ร้อนมากสัส เกือบตาย ระยะเวลาที่ใช้เดินขึ้นประมาณ 1 ชั่วโมง+ นะ แต่เอาตรงๆพอขึ้นไปถึงจุดสูงสึดจริงๆมันก็สวยนะ แต่มันสวยไม่สุดอะ รู้สึกว่าเคยเจอที่อื่นที่ประทับใจกว่านี้ ประเด็นคือ สาย cable car มันบังวิวเมืองด้วย ทำจุดชมวิวทั้งที ทำไมต้องสร้างไรมาบังด้วย อิหยังวะ
ปล.รูปนี้ถ่ายระหว่างเดินขึ้น ไม่ได้ถ่ายบนจุดชมวิว เลยยังไม่มีอะไรบัง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้