1 วัน อิ่มบุญ พุงกาง ย่านเกาะรัตนโกสินทร์ (ฉบับแว๊นซ์) (รูปเยอะโคตร) [แพล่ม]

สวัสดีครับผม วันนี้ผมมีทริปสั้นๆมาแบ่งปันให้เพื่อนๆผู้ซึ่งโหยหาในการเที่ยวและพักผ่อน สำหรับทริปนี้ ผมใช้มอเตอร์ไซค์ในการเดินทางเป็นหลักครับ ทุกคนจะได้อิ่มบุญ แถมยังกินกันอย่างพุงกางกันอีกด้วย แต่ละร้านก็ราคาไม่ได้แพงมากมาย พร้อมกันรึยังล่ะออเจ้า ป่ะ... เรามาเริ่มทริปกัน !!!!!
(เริ่มทริป 11.00 - 20.00)

--ห้องอาหาร สอาด--
เวลา 11:00
ก่อนที่เราเริ่มทริปกัน ยังไง กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้องจริงมั้ยล่ะครับเพื่อนๆ เพราะงั้น เราก็ต้องมาเติมพลังกันที่นี่ก่อนเลย คือร้านนี้ ห้องอาหาร "สอาด เพ็ญรัตน์" ซึ่งร้านนี้เนี่ยนะ เป็นร้านเก่าแก่ที่อยู่ตรงสี่แยกบ้านแขก คือร้านนี้กำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1970 ใครที่ผ่านมาผ่านไปแถวนั้น ก็ต้องลองแวะเวียนกันไป ไม่งั้นจะถือว่าพลาดเลยนะ
ดูวันและเวลาเปิดปิดของร้านจากภาพบนได้เลยนะครับผม
ดูจากเมนูแล้วเนี่ย ก็รู้ได้เลยว่า มันเป็นอะไรที่ เวรี่กู้ดมาก มันค่อนข้างจะทีเด็ดอยู่นะ โกโก้ก็แก้วละแค่ 20 บาท เท่านั้นเอง ของหวานก็มีให้เลือกสรรค์ แถมมีทั้งข้าว สเต็กและอีกลหายๆอย่างเลย
ตอนเราไป เราก็สั่งสเต็กรวมมิตร กับโกโก้แล้วก็น้ำส้มคั้นมา สเต็กรวมมิตรมันก็จะประกอบด้วยไส้กรอก แฮม ไข่ดาว ขนมปัง สเต็กไก่ (อร่อยมาก) แล้วก็ผักลวก
ต่อมาเราก็มาชมบรรยากาศในร้านกันบ้างดีกว่า
ในร้านก็จะไม่มีแอร์ แต่ว่าก็ไม่ได้ร้อนมากครับ รู้สึกว่าบรรยากาศร้านค่อนข้างจะอบอุ่นดีครับ ก็เหมือนกับร้านอาหารครอบครัวทั่วๆไป แต่อาหารอร่อยสมราคาครับ

--วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร--
เวลา 12:00 (เที่ยง)
สถานที่ต่อมาที่เราไปหลังจากที่เราอิ่มกายกันแล้ว เราก็จะไปทำบุญให้อิ่มใจกัน สถานที่นี้ก็คือวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ที่มีหลวงพ่อโตองค์ใหญ่มากและสง่ามากครับ
ระหว่างทางเข้าไปก็จะพบเจอบรรยากาศดีๆแบบนี้ได้ครับ
เราสามารถมาลั่นระฆังเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตกันได้ด้วยนะครับ
ก่อนเราจะเข้าไป ก็ต้องไหว้ข้างหน้าตามปกติ ไหว้ฟ้าดินก่อน สถาปัตยกรรมของวัดกัลยาณมิตรก็จะมีการผสมผสานระหว่างไทยกับจีนค่อนข้างเยอะเลย
เข้ามาด้านในวิหารก็จะเจอหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ สง่า และสวยมากเลยครับ
พอเราออกมาจากวิหารแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ เราก็จะเจอกับที่ให้อาหารปลา ตอนเที่ยงก็ค่อนข้างจะร้อน ตอนบ่ายๆเย็นๆบรรยากาศน่าจะดีเลยทีเดียว แต่ตอนเราไปมันเป็นตอนเที่ยง ร้อนเหลือเกิน 55555 รู้สึกว่าตรงที่ให้อาหารปลาจะเป็นท่าเรือที่จะพาเราไป "วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร" ได้ด้วยนะ ใครที่ไม่ได้ขับรถหรือว่าไม่ได้แว๊นมา ก็ไม่ต้องเสียใจไปนะ การเดินทางแถวนี้มันสะดวกอยู่พอสมควร
พอหันหลังจากตรงที่ให้อาหารปลา ก็จะมีของขายตามทาง เป็นประเภทน้ำ ไอติม อะไรทำนองนี้ หลังจากนี้เราก็จะไปกันที่วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารกันต่อเลยครับ

--วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร--
เวลา 13:00
ต่อมาคือที่วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร แต่เราไม่ได้เข้าไปทำบุญกันอย่างจริงจัง เราแค่เดินเข้าไปพนมมือไหว้เฉยๆ
ที่วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารมีพระปรางค์วัดอรุณฯที่สวยงามมาก และสามารถขึ้นไปบนพระปรางค์ถ่ายรูปได้อีกด้วย สำหรับคนที่ไม่เคยมาน่าจะรู้สึกว้าวมากเลย เดินไปก็ไม่ค่อยเจอคนไทยเท่าไหร่หรอก เจอแต่ชาวต่างชาติเยอะมาก ต่อมาเรามาชมบรรยากาศของพระปรางค์กัน
พระปรางค์สวยมากจริงๆ ทุกคนแวะไปไหว้พระกันได้นะครับ แต่ลืมบอกไปว่า ต้องแต่งตัวเรียบร้อยนะ คือจริงๆแล้วไม่ว่าจะเข้าวัดไหน ก็ต้องแต่งตัวเรียบร้อย แต่ที่นี่ก็จะต้องเรียบร้อยเป็นพิเศษเพราะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจว่าใครแต่งตัวไม่เรียบร้อย ใครไม่เรียบร้อยก็ไม่ได้เข้า แถมถ้าไปถอดชุดด้านในก็จะโดนดุอยู่ดี ให้เกียรติสถานที่กันนิดนึงเน่อ พอเราไหว้พระทำบุญกันเหนื่อยแล้ว เราก็ต้องไปเติมพลังกับของหวานกันหน่อย ที่ต่อไปที่เราจะไปนั่นก็คือ ร้านมนต์นมสด สาขาอิสรภาพ แวะเติมน้ำตาลกันเล็กน้อย

--ร้านมนต์นมสด สาขาอิสรภาพ--
เวลา 14:30
คือไอ้เราก็ไม่เคยมาไง ก็ไม่คิดว่า ร้านมนต์นมสดจะเข้ามาอยู่ในร้านสวัสดิการกองทัพเรือซะได้ ก็ขับแว้นเลยไปเฉยเลยจ้า สำหรับที่นี่ก็จะไม่พูดเยอะเนอะ ส่วนใหญ่คนก็คงเคยไปกันอยู่แล้วแหละ แต่สาขานี้ก็ตกแต่งร้านได้น่ารักดี มันโซนนั่งข้างในและข้างนอก เราก็เก็บบรรยากาศมาฝากเล็กๆน้อยๆ
เมื่อเสร็จธุระการเติมพลังที่นี่แล้ว เราก็โลดแล่นไปต่อที่ "มิวเซียมสยาม" พอเราอิ่มบุญ พุงกางกันไปแล้ว เราก็ไปหาความรู้ใส่หัวกัน 55555

--มิวเซียมสยาม--
เวลา 15.30
ใครอยากรู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับมิวเซียมสยามก็เข้าไปที่เว็บไซต์ของมิวเซียมสยามได้เลยนะเดียวเราจะแปะไว้ให้ ข้างในเว็บก็จะมีบอกว่าตอนนี้มีงานอะไร มีนิทรรศการอะไร เราเคยมารอบนึงแล้วเมื่อหลายปีที่แล้วและก็ประทับใจ
https://www.museumsiam.org/index.php
ณ ตอนที่เราไป เขากำลังจัดงานที่ชื่อว่า "ถอดรหัสไทย" งานนี้ก็จะมีทั้งประวัติความเป็นมาของการเป็นไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆนาๆที่เราเคยใช้กันเมื่อครั้นรุ่นพระเจ้าเหาจนถึงปัจจุบัน เครื่องแต่งกาย ประเทศไทยกับยุคต่างๆ การสอดแทรกเกี่ยวกับความรู้สึกนึกคิดของคนในสมัยต่างๆ ประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อ และอื่นๆอีกมากมายภายในงาน ทำให้เรารู้สึกภูมิใจในความเป็นไทยขึ้นมาเลยทีเดียว แถมยังมีการจัดแสดงที่แปลกใหม่ เดียวจะมีรูปให้ดูเหมือนกัน ต่อจากนี้รูปจะค่อนข้างเยอะนะ เตรียมตัวกันไว้ให้ดี
เหมือนตรงนี้เค้าจะเอาชุดมาโชว์แล้วเค้าตั้งคำถามกับเราว่า นี่คือของๆไทยใช่มั้ย ไอ้เราก็ไม่มีความรู้เท่าไหร่ แต่ว่ารอบๆห้องก็จะมีเบาะแสอะไรให้อ่านเต็มไปหมด สนุกดีนะ
ตรงนี้ก็จะเป็นห้องจัดแสดงอย่างที่เราได้เกริ่นไปนิดนึง คือเค้าเอาประวัติตามยุคต่างๆในเรื่องวัฒนธรรมและค่านิยมในสมัยนั้นๆมาจัดแสดง ถ้าเห็นในภาพ มันจะเป็นเหมือนกับกล่องที่มีแสงค่อยๆขึ้นๆลงๆ ตื่นตามากอ่ะบอกเลย เราถ่ายคลิปมาให้ดูด้วยนะ แต่ถ่ายมาแค่ส่วนนึง ใครอยากดูต้องไปเองนะจ๊ะ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ในนิทรรศการมันก็จะมีอยู่หลายๆห้องให้เราเข้าชม ห้องต่อไปก็เหมือนจะเป็นเกมตอบคำถาม คือจะมีกล่องวางไว้อยู่บนแท่นแล้วก็ให้เราเอาไปวางในช่อง มันก็จะแสดงผลขึ้นบนจอ
ห้องจัดแสดงส่วนใหญ่ค่อนข้างจะเล่นกับคนชมนะ อย่างเช่นบางห้องก็จะมีให้เปิดลิ้นชักเพื่อดูประวัติศาสตร์หรือสิ่งต่างๆที่ผู้จัดต้องการจะสื่อ เป็นโอกาสดีที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆแถมยังไม่น่าเบื่ออีกด้วย
แม้แต่ทางเชื่อมที่จะเดินไปอีกห้องนึงก็ยังแทรกความรู้ให้เราไปอีก สุดยอดจริงๆ
ห้องนี้ก็จะมีวิทยากรคอยพูดอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่จัดแสดง ที่เราฟังก็จะเกี่ยวกับสวรรค์ชั้นต่างๆแล้วก็มีราชบัลลังก์จำลองที่สามารถเข้าไปดูใกล้ๆ สวยมากๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่