สวัสดีค่ะเพื่อนๆพันทิป เรามีปัญหาหนักใจและอึดอัดใจมาก อยากให้เพื่อนๆช่วยบอกวิธีการรับมือกับสถานการณ์นี้มากค่ะ
เราอายุ 25 เคยทำงานประจำ เลือกลาออกจากงานเพื่อมาช่วยแฟนทำร้านอาหาร
ไม่ได้ร่วมกันลงทุนค่ะ ทั้งร้านเป็นทุนของแฟนเราทั้งหมด ส่วนพ่อครัวของร้านคือน้าชายของแฟน อายุจะ 50
ที่แฟนดึงมาช่วยร้านตั้งแต่เปิด จนถึงตอนนี้ก็ร่วมๆ 8 เดือน (ซึ่งจริงๆแล้วเป็นคนที่รู้จักกัน
ดูแลแฟนเราสมัยเด็ก ตอนเป็นเด็กก้นครัวของร้านอาหารแห่งหนึ่ง)
ด้วยแฟนเป็นคนที่ห่วงคนอื่นมาก่อนเสอ และน้าคนนี้พิเศษสุดๆ ส่วนน้าเป็นคนชอบทำอาหาร
และถนัดเรื่องนี้มาก เขาเลยมาช่วยทำร้านแบบไม่ลังเล ตอนนั้นเรายังทำงานประจำ กว่าจะมาช่วยจริงๆก็ ร้านก็เปิดมา 3 เดือนแล้ว
ส่วนเงินที่น้าแกได้จากร้านไม่ใช่เงินเดือนค่ะ แฟนเราไม่อยากให้มองเป็นนายจ้าง กับลูกจ้าง
เลยวางเมนูเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเมนู ให้เป็นรายได้ของน้าเอง โดยที่น้าจะต้องซื้อวัตถุดิบเอง
ส่วนเรื่องค่าที่ ค่าไฟ ค่าแก๊ส และหลายๆอย่างแฟนจะจ่ายทั้งหมด
เราไม่สนิทกับน้าคนนี้ เคยเจออยู่ 2 ครั้ง ตอนที่ย้ายมาบ้านแฟน ต้องอยู่ร่วมกัน
แรกๆที่มาอยู่ทุกอย่างดีค่ะ ดีแค่เดือนเดียว หลังจากนั้นเราตกลงกับแฟน ว่าจะทำบัญชีรายรับรายจ่าย อุดรอยรั่ว
ส่วนนี้ไม่เกี่ยวกับวัตถุดิบของน้าเลย เราแต่อยากให้แฟนเห็นรายจ่ายของร้านอาหารว่ามันเยอะแค่ไหน ทำไมกำไรน้อย
เราแก้ไปเรื่อยๆจนทุกอย่างฟื้นตัว แฟนมีเงินเก็บมากขึ้น
ถึงเวลาเปิดร้านเพิ่มอีก 1 ร้าน เราตัดสินใจลงทุนทำกับแฟน ตั้งใจจะทำร้านราดหน้าเครื่องเยอะๆ ง่ายๆ
มีระบบสต๊อกของ ทำบัญชี และเครื่องเก็บเงินที่เราสามารถเช็คผ่านมือถือ
เรากับแฟนตั้งใจว่าถ้าทำได้ จะเปิดสาขา เพราะเราทำระบบได้ เช็คยอดบัญชีเป็น ทำสต๊อกของไม่ยาก
แต่น้าแกก็ขัดขึ้นมาเลยว่าไปไม่รอด อาหารจานละไม่กี่บาทจะขายได้เงินเยอะได้ยังไง
บอกเราโลภมาก คนสมัยก่อนไม่ทำกัน นี่คือจุดเริ่มต้น***
เราก็รับฟังแต่เราคิดว่ามันทำได้ เพราะน้องเราทำได้ เปิดร้านแบบที่ตัวเองบริหารผ่านมือถือ
แต่!!!! น้าแกไปพูดให้แฟนเราฟังแบบนี้ตลอด แฟนเราก็มาสับสนกับเราไม่รู้เอาไงต่อดี เราเคลียดมาก
เป็นแบบนี้หลายรอบจนร้านใหม่เริ่มทำไปเรื่อยๆ แล้วน้าก็พูดกับแฟนเราอีก ว่าอึดอัด
หวังดี อยากให้แฟนเราเปิดร้านอาหาร เมนูราคาหนักๆ ไปเลยทั้งๆที่ร้านอยู่ในตลาดเปิดแค่ช่วงเย็น
แกบอกว่าจะให้แฟนเราซื้อวัตถุดิบเองทั้งหมด แล้วแกจะยอมรับเงินเดือน
**ซึ้งในความคิดเราคือ ไม่อยากให้แกมายุ่งร้านนี้เลย แล้วที่น้าแกบอกจะรับเงินเดือน
เหมือนผลักภาระให้แฟนเรา ถ้าแฟนทำร้านอาหารอีก รับรองค่าใช้จ่ายเยอะ ส่วนน้าจะสบายตัวไปเลย
เราเลยอยู่คนละฝั่งกับน้า ที่เรามาลงทุนกับแฟน เพราะไม่อยากให้แกเอาไปพูดกับใครอีก
ว่าเราเอาแต่ได้ ซึ้งจริงๆทั้งร้านเก่าของแฟน เราไม่มีส่วนเลย แล้วน้าก็ไม่ได้ช่วยลงทุนเหมือนกัน
อยากแยกร้าน มาทำอีก 1 ร้าน หุ้นกับแฟนไปเลย ไม่อยากให้แกมายุ่ง มาทวงบุญคุณทีหลัง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราโดนน้าแขวะเราตลอด ทั้งๆทีนั่งรถเราไปไหนมาไหนด้วย
เราเงียบไม่คิดตอบโต้ ไว้หน้าแฟน แต่น้าแกก็ทำแบบนี้ตลอด
ชอบบรัพคนอื่น เรายิ่งหนักเลย เลยคิดว่าไม่ขอให้เขามายุ่งร้านใหม่ดีกว่า
จนวันนี้เราทนไม่ไหว เลยเรียกแฟนกับน้ามานั่งคุยกันแบบผู้ใหญ่เลย ว่าตกลงยังไง
แค่ไม่ให้มายุ่ง ทำไมต้องไปว่าเราให้คนอื่นฟังแบบนั้น ว่าเราเอาแต่ได้
ถ้าอยากทำด้วยก็เอาเงินมาลงทุนด้วยกันสิ แกก็ลุกหนี เราก็พูดว่า ไหนบอกคุยแบบผู้ใหญ่
นี่เป็นผู้ใหญ่มั้ย แล้วน้าแกก็โมโห ชี้หน้าเรากลางตลาดเลยจ้า ตะโกน ว่าไปทะเลาะกันที่บ้าน
มาทะเลาะแถวนี้อายคนอื่นเขา ???? เดี๋ยว!! เราทะเลาะกันแฟนหรอ เปล่าเลย
แล้วพอเราได้ยินเราก็โมโหเลย ว่าทำไมต้องอายพูดความจริงสิ แล้วเขาก็ตะโกนไล่เรา จนคนมอง
ดีที่ช่วงร้านกำลังทยอยปิดแล้ว แฟนเราเข้ามาห้าม จังหวะนั้นเลยดูเหมือนเราทะเลาะกับแฟน
อีกวันเรามาขายของ น้องพนักงานบอก น้าแกมาด่าพี่ให้หนูฟังว่า ผญ. อะไรเอาแต่ใจ
ทะเลาะกันกลางตลาดไม่อายคน ! เราก็ปรี๊ดเลย แต่ก็ทำงานร่วมกันเลยเงียบๆไว้ก่อน
เดี๋ยวแฟนเราเป็นคนกลางจะแย่ไปใหญ่ แล้วแกก็เหน็บแนม แขวะเราเหมือนเดิม
แค่เราไม่ทำตามแกบอก แล้วชอบยุให้แฟนมาทะเลาะกับเราแต่ละวันไม่ซ้ำเรื่อง
ส่วนตัวเองตีบทน่าสงสารต่อหน้าคนอื่นไปเลย ไปบอกเหตุผลคนอื่นว่าที่แนะนำไป เพราะเกรงใจ หวังดีกับแฟนเรา
เราปรึกษาคนที่ประสบความสำเร็จ คนที่ทำเงินล้านมาได้ เขาสนับสนุนเราที่ทำร้านราดหน้า
เพราะคนรุ่จัก กินง่าย ถ้าอร่อยคนก็จะบอกต่อ สภาพแวดล้อมคือโรงงาน คนที่ได้เงินเดือน ส่วนใหญ่
ถึงกลางเดือน สิ้นเดือนก็จะเลือกกินง่ายๆ วางระบบดีๆ มันก็ทำสาขาได้ เราเลยอยากลองทำดู
ส่วนน้า ตลอดชีวิตทำอาหารเป็นก็จริง แต่ไม่เคยมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย เป็นคนโสดที่ชอบนวด ลงอ่าง
ขับรถเก่าๆคันนึง แต่แกบอกว่าราดหน้ามันไปไม่รอด บลาๆ ๆ
ปล. น้าแกเคยบอกว่าอยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง แบบร้านอาหารแนวเพื่อชีวิต แต่แกไม่อยากกู้มาลงทุน
อยากถามค่ะ
1.เราต้องรับมือยังไงดี ? ให้ไม่แย่กับแฟนเราด้วย ไม่อยากให้เครียดเพราะเป็นคนกลาง
2.เราผิดหรอที่ไม่เชื่อเขา ?
มีวิธีรับมือกับผู้ใหญ่แบบนี้ยังไงคะ? หรือเราคิดมากไป
เราอายุ 25 เคยทำงานประจำ เลือกลาออกจากงานเพื่อมาช่วยแฟนทำร้านอาหาร
ไม่ได้ร่วมกันลงทุนค่ะ ทั้งร้านเป็นทุนของแฟนเราทั้งหมด ส่วนพ่อครัวของร้านคือน้าชายของแฟน อายุจะ 50
ที่แฟนดึงมาช่วยร้านตั้งแต่เปิด จนถึงตอนนี้ก็ร่วมๆ 8 เดือน (ซึ่งจริงๆแล้วเป็นคนที่รู้จักกัน
ดูแลแฟนเราสมัยเด็ก ตอนเป็นเด็กก้นครัวของร้านอาหารแห่งหนึ่ง)
ด้วยแฟนเป็นคนที่ห่วงคนอื่นมาก่อนเสอ และน้าคนนี้พิเศษสุดๆ ส่วนน้าเป็นคนชอบทำอาหาร
และถนัดเรื่องนี้มาก เขาเลยมาช่วยทำร้านแบบไม่ลังเล ตอนนั้นเรายังทำงานประจำ กว่าจะมาช่วยจริงๆก็ ร้านก็เปิดมา 3 เดือนแล้ว
ส่วนเงินที่น้าแกได้จากร้านไม่ใช่เงินเดือนค่ะ แฟนเราไม่อยากให้มองเป็นนายจ้าง กับลูกจ้าง
เลยวางเมนูเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเมนู ให้เป็นรายได้ของน้าเอง โดยที่น้าจะต้องซื้อวัตถุดิบเอง
ส่วนเรื่องค่าที่ ค่าไฟ ค่าแก๊ส และหลายๆอย่างแฟนจะจ่ายทั้งหมด
เราไม่สนิทกับน้าคนนี้ เคยเจออยู่ 2 ครั้ง ตอนที่ย้ายมาบ้านแฟน ต้องอยู่ร่วมกัน
แรกๆที่มาอยู่ทุกอย่างดีค่ะ ดีแค่เดือนเดียว หลังจากนั้นเราตกลงกับแฟน ว่าจะทำบัญชีรายรับรายจ่าย อุดรอยรั่ว
ส่วนนี้ไม่เกี่ยวกับวัตถุดิบของน้าเลย เราแต่อยากให้แฟนเห็นรายจ่ายของร้านอาหารว่ามันเยอะแค่ไหน ทำไมกำไรน้อย
เราแก้ไปเรื่อยๆจนทุกอย่างฟื้นตัว แฟนมีเงินเก็บมากขึ้น
ถึงเวลาเปิดร้านเพิ่มอีก 1 ร้าน เราตัดสินใจลงทุนทำกับแฟน ตั้งใจจะทำร้านราดหน้าเครื่องเยอะๆ ง่ายๆ
มีระบบสต๊อกของ ทำบัญชี และเครื่องเก็บเงินที่เราสามารถเช็คผ่านมือถือ
เรากับแฟนตั้งใจว่าถ้าทำได้ จะเปิดสาขา เพราะเราทำระบบได้ เช็คยอดบัญชีเป็น ทำสต๊อกของไม่ยาก
แต่น้าแกก็ขัดขึ้นมาเลยว่าไปไม่รอด อาหารจานละไม่กี่บาทจะขายได้เงินเยอะได้ยังไง
บอกเราโลภมาก คนสมัยก่อนไม่ทำกัน นี่คือจุดเริ่มต้น***
เราก็รับฟังแต่เราคิดว่ามันทำได้ เพราะน้องเราทำได้ เปิดร้านแบบที่ตัวเองบริหารผ่านมือถือ
แต่!!!! น้าแกไปพูดให้แฟนเราฟังแบบนี้ตลอด แฟนเราก็มาสับสนกับเราไม่รู้เอาไงต่อดี เราเคลียดมาก
เป็นแบบนี้หลายรอบจนร้านใหม่เริ่มทำไปเรื่อยๆ แล้วน้าก็พูดกับแฟนเราอีก ว่าอึดอัด
หวังดี อยากให้แฟนเราเปิดร้านอาหาร เมนูราคาหนักๆ ไปเลยทั้งๆที่ร้านอยู่ในตลาดเปิดแค่ช่วงเย็น
แกบอกว่าจะให้แฟนเราซื้อวัตถุดิบเองทั้งหมด แล้วแกจะยอมรับเงินเดือน
**ซึ้งในความคิดเราคือ ไม่อยากให้แกมายุ่งร้านนี้เลย แล้วที่น้าแกบอกจะรับเงินเดือน
เหมือนผลักภาระให้แฟนเรา ถ้าแฟนทำร้านอาหารอีก รับรองค่าใช้จ่ายเยอะ ส่วนน้าจะสบายตัวไปเลย
เราเลยอยู่คนละฝั่งกับน้า ที่เรามาลงทุนกับแฟน เพราะไม่อยากให้แกเอาไปพูดกับใครอีก
ว่าเราเอาแต่ได้ ซึ้งจริงๆทั้งร้านเก่าของแฟน เราไม่มีส่วนเลย แล้วน้าก็ไม่ได้ช่วยลงทุนเหมือนกัน
อยากแยกร้าน มาทำอีก 1 ร้าน หุ้นกับแฟนไปเลย ไม่อยากให้แกมายุ่ง มาทวงบุญคุณทีหลัง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราโดนน้าแขวะเราตลอด ทั้งๆทีนั่งรถเราไปไหนมาไหนด้วย
เราเงียบไม่คิดตอบโต้ ไว้หน้าแฟน แต่น้าแกก็ทำแบบนี้ตลอด
ชอบบรัพคนอื่น เรายิ่งหนักเลย เลยคิดว่าไม่ขอให้เขามายุ่งร้านใหม่ดีกว่า
จนวันนี้เราทนไม่ไหว เลยเรียกแฟนกับน้ามานั่งคุยกันแบบผู้ใหญ่เลย ว่าตกลงยังไง
แค่ไม่ให้มายุ่ง ทำไมต้องไปว่าเราให้คนอื่นฟังแบบนั้น ว่าเราเอาแต่ได้
ถ้าอยากทำด้วยก็เอาเงินมาลงทุนด้วยกันสิ แกก็ลุกหนี เราก็พูดว่า ไหนบอกคุยแบบผู้ใหญ่
นี่เป็นผู้ใหญ่มั้ย แล้วน้าแกก็โมโห ชี้หน้าเรากลางตลาดเลยจ้า ตะโกน ว่าไปทะเลาะกันที่บ้าน
มาทะเลาะแถวนี้อายคนอื่นเขา ???? เดี๋ยว!! เราทะเลาะกันแฟนหรอ เปล่าเลย
แล้วพอเราได้ยินเราก็โมโหเลย ว่าทำไมต้องอายพูดความจริงสิ แล้วเขาก็ตะโกนไล่เรา จนคนมอง
ดีที่ช่วงร้านกำลังทยอยปิดแล้ว แฟนเราเข้ามาห้าม จังหวะนั้นเลยดูเหมือนเราทะเลาะกับแฟน
อีกวันเรามาขายของ น้องพนักงานบอก น้าแกมาด่าพี่ให้หนูฟังว่า ผญ. อะไรเอาแต่ใจ
ทะเลาะกันกลางตลาดไม่อายคน ! เราก็ปรี๊ดเลย แต่ก็ทำงานร่วมกันเลยเงียบๆไว้ก่อน
เดี๋ยวแฟนเราเป็นคนกลางจะแย่ไปใหญ่ แล้วแกก็เหน็บแนม แขวะเราเหมือนเดิม
แค่เราไม่ทำตามแกบอก แล้วชอบยุให้แฟนมาทะเลาะกับเราแต่ละวันไม่ซ้ำเรื่อง
ส่วนตัวเองตีบทน่าสงสารต่อหน้าคนอื่นไปเลย ไปบอกเหตุผลคนอื่นว่าที่แนะนำไป เพราะเกรงใจ หวังดีกับแฟนเรา
เราปรึกษาคนที่ประสบความสำเร็จ คนที่ทำเงินล้านมาได้ เขาสนับสนุนเราที่ทำร้านราดหน้า
เพราะคนรุ่จัก กินง่าย ถ้าอร่อยคนก็จะบอกต่อ สภาพแวดล้อมคือโรงงาน คนที่ได้เงินเดือน ส่วนใหญ่
ถึงกลางเดือน สิ้นเดือนก็จะเลือกกินง่ายๆ วางระบบดีๆ มันก็ทำสาขาได้ เราเลยอยากลองทำดู
ส่วนน้า ตลอดชีวิตทำอาหารเป็นก็จริง แต่ไม่เคยมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย เป็นคนโสดที่ชอบนวด ลงอ่าง
ขับรถเก่าๆคันนึง แต่แกบอกว่าราดหน้ามันไปไม่รอด บลาๆ ๆ
ปล. น้าแกเคยบอกว่าอยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง แบบร้านอาหารแนวเพื่อชีวิต แต่แกไม่อยากกู้มาลงทุน
อยากถามค่ะ
1.เราต้องรับมือยังไงดี ? ให้ไม่แย่กับแฟนเราด้วย ไม่อยากให้เครียดเพราะเป็นคนกลาง
2.เราผิดหรอที่ไม่เชื่อเขา ?