5 Foot way inn Project Boat Quay Hostel โฮสเทลที่อยากแนะนำสำหรับคนที่ต้องการเที่ยวสิงค์โปร์แบบประหยัด เพียงนั่งรถไฟฟ้า MRT จากสนามบิน ชางงี มาลงที่ สถานี Raffle Place ทางออก G โผล่จากสถานีขึ้นมาจะเจอ หนุ่มสาวคนทำงานออฟฟิศเดินกันขวักไขว่ เพราะย่านนี้เป็นศูนย์กลางธุรกิจของสิงค์โปร์ เหมือนแถวสีลมบ้านเรา เดินผ่านตึกสำนักงานต่างๆออกมาไม่ไกลก็จะเจอถนนเส้นเล็กๆ ที่ด้านหนึ่งเป็นร้านอาหารซีฟู้ด อีกด้านหนึ่งเป็นที่นั่งทานอาหารชมวิวแม่น้ำสิงค์โปร์ ซึ่งช่วงเวลาเย็นแถวนี้จะครึกครื้นเป็นพิเศษเพราะพนักงานออฟฟิศจะมาแฮงค์เอ้าท์กันตามร้านอาหาร ผับ บาร์ ที่เริ่มเปิดประมาณสี่โมงเย็น

ในช่วงที่เราเดินทางคือเดือนกรกฏาคม 2018 บรรดาร้านอาหาร ผับบาร์ในย่านนี้จะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะมีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ประเทศสิงค์โปร์มีชาวต่างชาติเข้ามาทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นในช่วงเวลาพิเศษนี้ คนส่วนใหญ่จะออกมาเชียร์ฟุตบอลโลก ตามผับบาร์ในเวลาเย็นถึงดึก ใส่เสื้อตามสีของประเทศที่ลงแข่งวันนั้น จะมีเสียงเฮดังออกมาจากร้านเป็นระยะ แค่เราเดินผ่านยังรู้สึกสนุกตาม

เดินออกจากรถไฟฟ้าใต้ดิน MRTสถานี Raffle Place ไม่กี่นาที ก็ถึงที่พัก 5 Foot way inn Project Boat Quay แค่ตำแหน่งที่ตั้งของโฮสเทลก็เรียกว่า ดีเว่อร์ ใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง สีเขียว และสีแดง แค่ต้องมองหาป้ายโฮสเทลให้เจอ เพราะโฮสเทลตั้งอยู่ท่ามกลางร้านอาหารซีฟู้ด มีประตูทางเข้าเล็กๆและจะมีป้ายซ้อนป้ายเยอะมาก ต้องเงยหน้ามองบนเข้าไว้

หาโฮลเทลเจอ ก็กดกริ่งประตูเลย เพื่อให้พนักงานด้านบนเปิดประตูให้ก่อน เมื่อประตูเปิดด่านแรกเข้ามาจะเป็นทางเข้าจะเล็กๆ เดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง เพราะชั้นล่างเป็นร้านอาหาร ด้านบนดูสะอาด ไม่เหม็นกลิ่นอาหาร หรือกลิ่นอับเลย

ผ่านเข้าประตูมา ยังไม่เจอพนักงานจะเจอตู้บริการเช็คอินด้วยตัวเอง ซึ่งไอเดียดี เพราะลดพนักงานได้หนึ่งคนตรงจุดนี้ เรารู้สึกว่าสิงค์โปร์จะก้าวนำหน้าเราไปเรื่อยๆ ขั้นตอนเช็คอินกับเครื่อง Kiosk ไม่ยาก ใช้สแกนพาสปอร์ตเหมือนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเลย จากนั้นคอนเฟริมชื่อคนพัก วันทีเข้าพัก ตามขั้นตอนก็เสร็จเรียบร้อย แล้วเดินเข้ามาด้านใน เพื่อรับการ์ดเข้าห้องพักที่พนักงานต้อนรับ โฮลเทลที่นี่เค้าให้เช็คอินตอนบ่ายสองโมงเป็นต้นไป ถ้ามาถึงก่อนเวลา ก็สามารถเอากระเป๋ามาฝาก ไว้แล้วออกไป ตะลุยสิงค์โปร์ได้เลย

การเดินทางมาต่างบ้านต่างเมือง ห้องนอน ก็เหมือนที่ซุกหัวนอนเท่านั้น ที่โฮสเทลแห่งนี้คือที่ซุกหัวนอนในราคาไม่ถึงหนึ่งพันบาท ต่อคน ต่อคืนพร้อมอาหารเช้า เราเลือกห้องนอน 2 คน ที่นอนสะอาด มีผ้าเช็ดตัวให้ ที่ต้องเอามาเองคืออุปกรณ์อาบน้ำส่วนตัวเท่านั้น บริการอื่นๆใช้ระบบแชร์กัน ทั้งห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ห้องครัว เครื่องซักผ้า รวมถึงที่รีดผ้า


ป้ายคำแนะนำสำหรับการเข้าพักร่วมกันในโฮสเทล
- ฟรี Wi-Fi
- มีผ้าเช็ดตัวให้เช่าในราคา 2 เหรียญต่อผืน
- Check out เที่ยงตรง
- ฝากกระเป๋าไว้ก่อนได้ แต่ถ้า Check out แล้วต้องมารับคืนไม่เกินห้าทุ่ม
- แม่บ้านจะมาทำความสะอาดเริ่ม 9 โมงเช้า
- มีเครื่องซักผ้าให้บริการ
- ห้ามส่งเสียงดัง
- ห้ามสูบบุหรี่ในอาคาร
- ห้องอาบน้ำมีระบบ น้ำอุ่นและน้ำเย็น
- อาหารเช้า 7.30 ถึง 10 โมงเช้า
ราคาค่าที่พักรวมอาหารเช้า เป็นขนมปังปิ้ง เนย แยม กาแฟ ชา ซีเรียล แค่นี้ก็อิ่ม ห้องอาหารเปิด 7.30 โมงถึง 10 โมงเช้า พอสิบโมงปุ๊ป พนักงานเดินมาเก็บขนมปัง เก็บกาแฟใส่ตู้ ทำความสะอาดอุปกรณ์เลย ไม่มีการรอ ดังนั้นทุกคนต้องตรงเวลา ตอนเช้าถึงจะเห็นหน้าคนที่มาพักร่วมกันในโฮสเทล ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ เช้าวันนี้ที่เจอ เป็นนักท่องเที่ยวมาจากอเมริกาใต้ ได้ยินพูดภาษาสเปนกัน บางคนไม่รู้จักกัน ก็มาพูดคุยแชร์ประสบการณ์กันที่นี่


ในห้องครัว จะมีระเบียงสำหรับนั่งทานอาหารเช้า ดูวิวด้านนอก ซึ่งเป็นภาพแบบพานอรามา มากๆ ไม่มีสิ่งกีดขวางให้รกสายตา สมกับเป็นวิวหลักล้านจริงๆ ถ้าต้องการเที่ยวสิงค์โปร์แบบที่พักสะอาด การเดินทางสะดวก มีเงินเหลือไว้ช้อปปิ้ง ลองมาพักโฮลเทล ใช้ชีวิตแบบคนเดินทางรุ่นใหม่ดูบ้าง เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์การท่องเที่ยวที่กำลังฮิตในยุคสมัยนี้

https://www.smile-lee.com