ขอเกริ่นสำหรับคนที่เข้ามาอ่านก่อนนะคะ ว่า เราอาจจะเคยมีเพื่อนคนเดียวกัน เราขอเรียกอีเพื่อนคนนี้ว่า "นอ"

เมื่อก่อนบ้าน นอ ไม่ได้รวยมากขนาดทุกวันนี้ นอใช้เสื้อผ้ามือ2 เครื่องสำอางค์ถูกๆได้ ใช้กระเป๋า รองเท้าธรรมดาๆ ขึ้นรถเมล์ได้ ที่สำคัญ นอ ไม่พูดจาดูถูกใคร ไม่เหยียดใคร แต่ตั้งแต่ที่บ้าน นอ เริ่มรวย เริ่มมีเงินเยอะขึ้นมาก นอ ก็เปลี่ยนไป ตั้งแต่การใช้ของที่ต้องซื้อบนห้างแบรนด์ดังๆ แพงๆ และเริ่มพูดจาดูถูกคนอื่นมากขึ้น เอาคนมานินทาเรื่องการแต่งตัว กระเป๋า เสื้อผ้า แรกๆเราก็ เออ ออ ห่อ หมก สนุกไปกับ นอ แต่พักหลัง เริ่มมาถึงเพื่อนในกลุ่ม คนใกล้ตัวมากขึ้น แม้กระทั่ง เพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกัน กลุ่มอื่น จนเราเริ่มรู้สึกมันไม่ใช่แล้ว

ต่อหน้า นอ จะเป็นเพื่อนที่แสนดี น่ารัก รัก และ ห่วงใยเพื่อนทุกๆคน โดยที่ลับหลังเราโดนเอาไปพูดเอาไปนินทาต่อ ใส่สีตีไข่ เพิ่มเรื่องเข้าไปให้มันส์ปากนอ

เราเริ่มรู้สึกแปลกๆตอนที่เราปรึกษาเรื่องที่บ้านกับ นอ โดยเล่าให้ นอ กับ แม่ของ นอ ฟัง นอมักจะพูดกับเราว่า
"ชีวิตน่าสงสารเนอะ แต่เก่งมากที่ยังอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ เป็นกูคงฆ่าตัวตายไปแล้ว"
และมีคำพูดที่ทำให้เราฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง คือ การพูดให้เราเข้าใจว่าแม่ไม่รักเรา
"แม่ไม่ได้รักเค้ารักแค่เงินของ"
"แม่ไม่ได้รักจริง อย่างที่รักน้อง"
"ถ้ามีเงินให้เค้า เค้าถึงจะรัก แต่ถ้าไม่มีเค้าก็ไม่สนใจ"
นี่เป็นจุดที่เราเริ่มหยุดเล่าเรื่องส่วนตัวของที่บ้านให้ นอ ฟัง แต่จุดพีคจริงๆ คือหลังจากกลุ่มเรานัดกันไปเที่ยวหัวหิน โดยที่ นอ บอกว่า ที่บ้านจะไปด้วย พวกเราไม่ติดอะไรอยู่แล้ว เพราะเรารู้สึกเคารพที่บ้าน นอ และสนิทกับแม่นอ อยู่แล้ว เลยกลายเป็น ทริปครอบครัว เพราะก็มีเพื่อนๆ ชวนแม่ๆไปด้วย ทางแม่ นอ เคยบอกไว้ว่าขอไปแบบ บ้านพักสบายๆนะ เราเลยหาบ้านหลังใหญ่สะดวกสบาย มีสระว่ายน้ำ พวกเรากำลังนั่งปิ้งย่าง อาหารทะเล เล่นน้ำอย่างสนุกสนาน อยู่ๆ นอ นั่งร้องไห้ เราเลยไปดู นอไม่บอกอะไรบอกแค่ว่า "สงสารแม่" จนวันกลับพวกเราแวะกินข้าวก่อนกลับ ทางร้านต่อโต๊ะให้เป็นโต๊ะยาวเพราะพวกเราไปกันหลายคน แต่ที่บ้านของ นอ ไปนั่งอีกโต๊ะ ที่นั่งได้ไม่กี่คนก็คือแค่บ้านนอ เราเลยจะไปนั่งกับเพื่อนอีกโต๊ะนึง แต่ นอ มาดึงแขนเราให้ไปนั่งด้วยกันกับที่บ้าน นอ และพูดกับเราว่า "มานั่งโต๊ะนี้กับกู นั่งโต๊ะนั้นเดี๋ยวก็ได้กินแต่ขนมจีน เค้าไม่กล้าสั่งอย่างอื่นกินหรอก" เรายืนอึ้งกับคำพูด นอ อยู่แปปนึง เพราะโต๊ะที่ นอ หมายถึงคือโต๊ะของเพื่อนสนิทในกลุ่มที่แม่ไปด้วย 2 คน เรานั่งกินข้าวแบบมีอะไรติดอยู่ในใจ กินไม่อิ่ม แถมกลายเป็นว่าไม่กล้าสั่งอะไรเลยนอกจาก"ไข่เจียว" เราเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียวเพราะถ้าบอกเพื่อนๆไปมีปัญหาแน่ๆ เพราะมันเป็นการดูถูกเพื่อน และ แม่เพื่อนเลยก็ว่าได้

หลังจากกลับจากหัวหิน เรายังติดใจคำพูดนอวันนั้น บวกกับนิสัย นอ ที่ดูถูก เหยียดคนอื่นมากขึ้น เราเลยคุยกับเพื่อนในกลุ่มที่ทำงานอยู่ด้วยกัน ว่าเราจะบอก นอ นะ ว่าตอนนี้คำพูดมันเริ่มแรงขึ้น เพื่อนคนนี้เลยเปิดใจเล่าให้ฟังว่า นอ เคยบอกกับเพื่อนว่า "ถ้าไม่มีเงิน ก็หมาตัวนึง" นอไม่ได้พูดเล่น นอพูดจริงๆ เราเลยตัดสินใจคุยกับ นอ เพราะ นอ พูดในกลุ่มเสมอว่า "พวกเรามีอะไรก็พูดกันตรงๆนะ มีไร เตือนเลย บอกเลย อย่าปล่อยให้เพื่อนทำตัวไม่ดี" เราเลยโทรหา นอ เพื่อคุยกัน เรื่องราวกลับตัลปัตร นอ โกรธมาก ไม่พอใจมาก แล้วบอกกับเราว่า "อย่ามาใช้คำพูดแบบนี้กับกู" กลายเป็นทะเลาะกันไปเลย และ ไม่คุยกัน เราพยายามง้อแล้ว แต่เราก็คิดว่าเราไม่ได้ผิดอะไร เราแค่หวังดี และเราอธิบายไปหมดแล้ว ถ้าจะไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร เราเลยหยุดที่จะง้อต่อไป และในกลุ่มเริ่มเงียบกันไป นอบอกเพื่อนคนอื่นๆว่าทะเลาะกับเรา เพราะ เงิน เพราะ ปลากัด แต่ความจริงไม่ใช่เลย ....

ที่ผ่านมาเรามีครอบครัวและเรามีปัญหาเรื่องเงิน นอ จะคอยช่อยเหลือ ซัพพอร์ตเราในหลายๆครั้ง จากการที่ นอ "หยิบยื่น" มาให้เอง และบอกเราว่าไม่ต้องคิดมากมีค่อยให้ มันเลยมีการหยิบยื่นๆอยู่หลายครั้ง และมีครั้งนึง ที่เราจำฝังใจเลยคือ นอ โทรหาเรา ชวนไปเทอมินอล แต่เราบอกใกล้สิ้นเดือนแล้วเงินหมด (ตอนนั้น นอ กำลังอยู่บนรถกับพี่ที่ทำงาน นอ เพื่อติดรถเค้ามานั่งรถไฟใต้ดิน) นอบอกเราว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเอาของกูไปพันนึง เราบอก ไม่เอา เป็นหนี้เยอะแล้ว นอ บอกเออเอาไปเหอะ สิ้นเดือนค่อยคืน เราได้ยินคนที่อยู่กับนอพูดว่า "ให้เงินเพื่อนง่ายๆแบบนี้เลยหรอ" นอบอกว่า "ง่ายแบบนี้แหละ อยากให้เพื่อนมาหาก็ใช้เงินซื้อเพื่อน" เราจำคำนั้นฝังใจมาก เพราะเราไม่ได้เห็นความสำคัญของเพื่อนเพราะเงิน รวมถึง นอ เอาไปพูดว่า เราต้องมี นอ ในชีวิต เพราะเราต้องใช้เงิน ต้องพึ่งเงินของ นอ ถ้าไม่มี นอ เราจะเอาเงินจากไหนมาใช้ นอ ต้องคอยอยู่ซัพพอร์ตเราตลอด ไม่ได้บอกแค่คนอื่นนะ บอกแม่เราด้วย แล้วคิดดูว่าแม่เราจะรู้สึกยังไง ความจริงแล้ว นอมักจะคอยยื่นมาให้เสมอบางทีก็โอนเข้าบัญชีมาเลย เราก็คิดว่าเพื่อนรัก ห่วง และหวังดีกับเราจริงๆ แต่ความจริงคือทำแบบนี้เพื่อเอาเราไปพูดต่อ

เหตุการณ์โป๊ะแตกหลังจากมีปัญหากัน
นอโป๊ะแตก 1
เพื่อนกลุ่มนึงเฟดตัวออกไปจากเรา ผ่านมา 5 ปี เราเพิ่งรู้จากเพื่อนกลุ่มนี้ตอนที่เราเลิกคบกับ นอ ว่า
- นอบอกเพื่อนในกลุ่มว่าเราแอบชอบแฟนเพื่อนและจะทำทุกวิถีทางที่จะเอาเค้ามาเป็นแฟนเรา
- นอ โทรหาเราว่ามีเพื่อนในกลุ่มด่าแม่เราว่าเรื่องเยอะ ปัญหามาก เราเลยมีปัญหากับเพื่อนคนนี้
- น่าจะเป็นคนบอกเพื่อนว่าเราเป็นคนบอกแฟนเพื่อนว่าเราบอกความลับทุกอย่าง
ซึ่งเรา งง หนักมากกกกกกกกกกกกก เพราะเราไม่เคยพูด และเพื่อนก็ไม่เคยด่าแม่เราเลย และเราไม่ได้คิดจะแย่งแฟนเพื่อน แต่พวกเราไม่ได้คุยกัน เพราะเราดันเชื่อคำพูด นอ
นอโป๊ะแตก 2
นอ ชวนเราไปทำงานที่บริษัทเดียวกัน นอ นัดและเตี๊ยมกับเราว่าให้ไปช่วงไหนทำไง แต่ลับหลังไปบอกเพื่อนคนนึงว่า "กูไม่ให้มันมาทำกับกูหรอก เดี๋ยวมีปัญหา ไปทำที่ไหนก็มีเรื่องกับเค้าไปทั่ว" แต่เราไม่เคยมีปัญหากับใครเลย แต่เราไม่เคยมีปัญหากับใครเลย (น่าจะเป็นเพราะ นอ โกงเงินบริษัท แล้วมาบอกพวกเราเลย กลัว ไม่อยากให้เราไปทำงานด้วย)
นอโป๊ะแตก 3
บอกเพื่อนคนนึงว่า เราแอบชอบแฟนเพื่อน (คนที่2 แล้วค่ะ ที่บอกว่าเราแอบชอบแฟนเพื่อน ชอบมากกกก) แต่แฟนของเพื่อนคนนี้ คือ เพื่อนสนิทของแฟนเราที่เรารู้จักเค้ามาก่อน และรู้จักมานานมาก แถมเรายังเป็นคนแนะนำให้เค้ากับเพื่อนเราลองคบกัน งง กันเป็นไก่ตาแตกไปเลยค่ะ ทำไม_อแหลเบอร์นี้
นอโป๊ะแตก 4  
นอบอกเพื่อนคนนึงว่า เราเอาเพื่อนมาพูดในทางไม่ดี แต่ นอ แก้ตัวให้ตลอดเลยนะ เพราะเพื่อนกู ตอนเพื่อนคนนี้มาเล่าให้ฟังนี่อึ้งค้างไปเลย กูไม่เคยพูด คนที่พูดคือ อีนออออออออออ มีพยานหมด
นอโป๊ะแตก 5
นอ เอาเพื่อนคนนั้น คนนี้มาด่า โดยที่ใส่สีตีไข่ เติมแต่ง รวมถึงเล่าให้คนที่ไม่รู้จักเราฟัง ก็มีเพื่อนมาบอกเราว่า มันมาพูดเรื่องให้กูฟัง ทั้งๆที่กูก็กินข้าวสนุกกับเพื่อนๆกูอยู่ พอมันกลับไป เพื่อนกูถามเลยว่า ทำไมถึงคบคนแบบนี้ ถ้าเค้าบอกว่าเพื่อน เค้าจะไม่เอาเรื่องของเพื่อนมาพูดแบบนี้นะ และเพื่อนคนนี้แหละที่ นอ ก็ชอบเอามานินทาให้พวกเราฟัง เพื่อนเลยโทรไปเคลียร์และเปิดลำโพงให้พวกเราฟัง สิ่งที่ได้ยินคือ มันโยนทุกอย่างมาที่เรา บอกว่าเราเป็นคนพูด ทั้งๆที่เรามีหลักฐานในไลน์ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนพูด คนด่า และนี่คือการ #โป๊ะแตก อีกครั้ง
นอโป๊ะแตก 6
มีเพื่อนในกลุ่มโทรหาเรา(ช่วงที่มีปัญหากับ นอ ) เพื่อถามว่าเป็นไง แล้วเพื่อนคนนี้ก็บอกเราว่า "จริงๆ กูก็คิดแบบนะ ว่าหลังๆนี้ นอ เริ่มเยอะไป" เราเลยเปิดใจเล่าเรื่องที่เราเจอมาให้เกี่ยวกับนอให้กันและกันฟังก็๕อเรื่องเอาเราไปนินทา เอาเรื่องของเราไปพูดต่อ และตัดสินใจเล่าเรื่องวันกลับจากหัวหินให้ฟัง เพราะโต๊ะนั้นมีแม่ของเพื่อนคนนี้อยู่ด้วย นั่นเลยเป็นจุดพลิกผัน ให้เพื่อนคนนี้เล่าเรื่องของเรา เพื่อนคนนี้ก็ปรึกษาว่า ตอนนี้ทำบุญให้แม่ นอ ทุกเดือน แต่เริ่มไม่ไหวแล้ว เงินหลายบาทกูไม่ได้ให้พ่อกูเลย ต้องเอามาทำบุญ เราเลยถามว่าทำบุญอะไร สรุปก็คือ "ค่าทำสังฆทาน" ตอนที่พ่อของเพื่อนไม่สบายแล้วปรึกษาแม่ นอ ให้ช่วย (แม่นอดูดวงได้ ช่วยเหลือคนได้ แต่เรารู้สึกแปลกๆกับวิธีของเค้า) ค่าทำสังฆทานที่ว่านี้หลักหมื่นนะคะ 3-4 หมื่น เราเลยบอก พอ ไม่ต้องแล้ว ไม่ได้นับถือพุทธ มีแนวทางปฏิบัติตามศาสนาของ เอาเงินไปให้พ่อแม่ดีกว่า เพื่อนเลยหยุดให้ไป
นอโป๊ะแตก 7
เรื่องความรวยของที่บ้าน นอ พวกเริ่มจับสงสัยได้จาก เพื่อนๆหลายคนมาบอกว่า ทำบุญกับที่บ้าน นอ เดือนละ 6000 บ้าง 4000 และ 2000 บ้าง จากการที่ทางแม่ นอ บอกว่าต้องทำบุญนะไม่งั้นแม่จะบ้า ไม่งั้นบ้านจะมีปัญหา บลาๆ ซึ่งเค้าเคยมาบอกเรากับเพื่อนอีกคนทำนองว่าให้ทำสังฆทาน แต่เราตัดบทไปว่าไม่มีเงินค่ะ ฮ่าๆ และมีหลายคนที่เพื่อนๆชักชวนกันไปดูดวงบอกว่าทำไมต้องจ่ายเงินค่าสังฆทานเป็นหมื่นๆขนาดนั้น แล้วทำไมทำเองไม่ได้ ทำไมต้องจ่ายเงินให้เค้า พอถามเค้าว่าต้องทำกี่ถังก็ไม่ยอมบอก บอกแต่ว่าต้องให้เงินเค้าทำ เท่านั้น เท่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่หลักหมื่นทั้งนั้น และมีคนที่มาทำบุญ ทำสังฆทานที่บ้านเค้าเยอะมากกกก เราเลยอนุมานกันว่า การรวยขึ้นมาทั้งๆที่ไม่ได้มีกิจการ หรือ ธุรกิจอะไรที่บ้านเลย น่าจะมาจากเงินทำบุญนี่แหละ
นอโป๊ะแตก 8
นอโกงเงินบริษัท โดยตอน นอ ฝึกงานที่บริษัทสตูดิโอชื่อดังแห่งหนึ่งแถวพระโขนง นอโกงเงินด้วยการ เขียนใบ Quotation 2 ใบ ใบนึงให้ลูกค้าซึ่งคิดราคาเต็ม แต่อีกใบให้บริษัทเขียนราคามีส่วนลด นอ ทำแบบนี้ทุกครั้ง โดยได้แนะนำให้เพื่อนมาทำด้วยกัน แต่เพื่อนไม่ไปทำ จนกระทั่ง นอถูกจ้างให้ออก โดยนอนมาบอกเราว่าให้ออกเพราะ บริษัทขาดทุน เจ้าของเอาเงินไปซื้อรถให้ลูกชายหมดไม่มีเงินหมุนในบริษัท แต่พวกเราคิดว่าไม่ใช่เค้าต้องจับได้เรื่องโกงเงิน นอได้เงินจากการโกงนี้เดือนนึง 3-4 หมื่น

อีกบริษัทคือ ที่ นอ ทำอยู่ปัจจุบัน เป็นบริษัทเกี่ยวกับที่จอดรถโลโก้ สีเขียวตองอ่อน มีเลข 2 อยู่ในโลโก้
1. นอเริ่มจากการที่บริษัทเปิดใหม่ๆให้เช่าที่จอดรถตอนนั้นยังไม่มีระบบคอมพ์มีแต่ใบเสร็จ นอทำด้วยการรับเงินแต่ไม่ฉีกใบเสร็จ
2. นอไม่ไปทำงาน นอนอนอยู่บ้าน ตื่นมาก็ไปช็อปปิ้ง ทำเล็บ เข้าฟิสเนต แต่แช็คอินว่า ออกโลเคชั่น เหมือนว่าตัวเองทำงานนอกสถานที่อยู่
3. นอโกงเงินเบิกจ่ายค่ารถ เพราะนอใช้ค่ารถไปกับการทำเรื่องส่วนตัว รวมถึงให้เพื่อนถ่ายรูปมิเตอร์แท็กซี่ให้ด้วยเพราะ นอ จะเอาไปเบิกกับบัญชี
4. นอเคยบอกพวกเราว่า บอสมีเพื่อนเป็นหุ้นด้วยอีกคน และ นอ ได้คุยกับบอสคนนี้เรื่องที่บอสหุ้นส่วนอยากเปิด โรงเรียนสอนภาษา  จึงชวนนอมาทำด้วยกัน ซึ่งคุยกันเรียบร้อย จ่ายค่าเช่าห้อง หาครูมาสอนแล้ว(แต่ทุกวันนี้โรงเรียนก็ไม่เปิดซักที) แต่!! นอ ตีหน้าเศร้า เล่าความ_อแหลให้บอสอีกคนฟังว่า บอสหุ้นส่วนมาบอก นอ ว่าจะไปเปิดบริษัทแข่งกับบอส นอเสียใจมาก ไม่คิดว่าบอสหุ้นส่วนจะทำแบบนี้ซึ่ง 2 คนนี้เค้าเป็นเพื่อนกันมาเป็น 10 ปี อีนอทำเค้าทะเลาะกันได้ นับถือมันจริงๆ

เรื่องเล่าของนอนี่มีเยอะมากจนไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน เลยหยิบยกมาแค่บางเรื่องซึ่งไม่รู้เค้าถูกเลี้ยงดูมาแบบไหน และอาจจะเป็นโรคจิตชนิดนึง ทุกวันนี้มันไม่มีเพื่อนกลุ่มไหนแล้ว เหลือแต่คนที่ไม่รู้เรื่อง ที่รู้จักกันผ่านๆ เพราะกลุ่มเรา คือ "เพื่อนกลุ่มสุดท้ายของ นอ" ไม่แน่นะ เพื่อนที่รู้จักกันอยู่อาจจะเป็น นอ ก็ได้ ลองสำรวจดีๆ