แชร์ประสบการณ์เที่ยวเยอรมนี ... Munich-Frankfurt-Cologne-Heidelberg-Moselkern ...

มาแชร์ประสบการณ์เที่ยวเยอรมนีค่ะ จะเริ่มตั้งแต่ขอ Visa การเดินทางในเยอรมัน จากนั้นก็จะเป็นที่เที่ยวแต่ละที่ๆ ไปมาค่ะ จบด้วยของกินค่ะ

ขอเริ่มเลยนะคะ

Visa

1. การขอ Visa ต้องของตรงกับทางสถานฑูตตรงถนนสาธร ถ้าไปเที่ยวไม่เกิน 90 วัน ก็ขอ Shengen Visa แต่ถ้าไปนานกว่านั้นต้องยื่นขอแบบ National Visa  ค่ะ ถ้าไปเที่ยว 90 วันนี่ก็เหลือเฟือค่ะ

2. ยื่นขอ Visa ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วันก่อนวันเดินทาง ต้องทำการนัดหมายผ่านทางเวปของสถานฑูตก่อนนะคะถึงจะเข้าไปข้างในได้ Walk-in นี่หมดสิทธิ์เลยค่ะ

นัดหมาย
https://service2.diplo.de/rktermin/extern/choose_realmList.do?locationCode=bangk&request_locale=en

3. สถานฑูตเจ้าไม่อนุญาติให้นำโทรศัพท์เข้าไปข้างใน ด้านหน้าจะมีตู้รับฝากโทรศัพท์

4. ระยะเวลาในการพิจารณา Visa คือ 5 วันทำการ แต่บางกรณีอาจจะใช้เวลามากกว่านี้นะคะ

5. การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ถูกต้อง เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการขอ Visa ค่ะ โดยเฉพาะเยอรมนี จนท.ที่พิจารณาเขาจะทำความรู้จักเราผ่านทางเอกสารที่เรายื่น เห็นหน้าเราทางรูปที่เราถ่ายไปค่ะ ถ้าเอกสารเราไม่ครบ ไม่น่าเชื่อถือ โอกาสที่จะถูกปฏิเสธมีสูงค่ะ

6. นอกจากเอกสารต้องครบถ้วย ถูกต้องแล้ว เราจะต้องเรียงเอกสารตามลำดับที่สถานฑูตกำหนดไว้ด้วยนะคะ

7. สำหรับหลักฐานการจองที่พักควรจะใส่ชื่อผู้เข้าพักทุกคนลงไปตั้งแต่ตอนจองค่ะ อย่างกรณีของเราใบจองที่พักจะมีชื่อทั้งของเราและแฟน จะได้เพิ่มความมั่นใจให้กับทางสถานฑูตว่าเราไปเที่ยวจริง เราเดาว่าบางครั้งทางสถานฑูตอาจมีการสุ่มเช็คกับโรงแรมทางโน้นว่ามีชื่อของเราจองที่พักไว้จริงหรือเปล่า

8. ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุต้องทำกับบริษัทฯ ที่สถานฑูตฯ ให้การรับรองเท่านั้น (ดูได้จากเวปสถานฑูต) กรณีที่ถูกปฏิเสธ Visa เราสามารถขอเบี้ยประกันคืนได้ค่ะ ถ้าบริษัทประกันปฏิเสธให้โทรไปแจ้งสถานฑูตได้เลยค่ะ (แต่รอสายนานมาก ต้องทำใจนิดนึงนะคะ) วงเงินประกันต้องไม่ต่ำกว่า 30,000 € หรือ 1,500,000 บาท

ตรวจสอบรายชื่อบริษัทประกันภัยได้ที่

http://www.bangkok.diplo.de/contentblob/528222/Daten/6078718/Krankenversicherung.pdf

9. เอกสารบางตัวที่เป็นภาษาไทย เช่น ทะเบียนบ้าน ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล ทะเบียนสมรส ไม่ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ ต้องเอาเอกสารตัวจริงไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วยนะคะ ตอนเรายื่นฉบับแปลไปด้วยค่ะ กันเหนียว ไม่ได้จ้างเขานะคะ แปลเอง เซ็นชื่อกำกับ แล้วแนบไปด้วย ถ้าไม่ใช้เดี๋ยวจนท.เขาดึงออกเอง

ตรวจสอบรายชื่อผู้ให้บริการแปลเอกสารได้ที่

http://www.bangkok.diplo.de/contentblob/1526012/Daten/5834177/Uebersetzerliste.pdf

10. ด้านในมีบริการถ่ายเอกสาร (แผ่นละ 3 บาท) มีบริการถ่ายรูป (180 บาท) มีบริการกรอกแบบฟอร์มขอ Visa (150 บาท) ค่าธรรมเนียมการขอ Visa 60 € รับเป็นเงินบาทเท่านั้น ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะรับแต่เงินสดนะคะ ไม่ว่าจะได้ Visa หรือไม่ได้ ค่าธรรมเนียมนี้ไม่คืนนะคะ ดังนั้นเตรียมเอกสารให้ดีๆ นะคะ

11. กรณีที่มีปัญหา เช่น กรอกชื่อในใบนัดหมายผิด สามารถติดต่อไปที่สถานฑูตโดยตรงได้เลยค่ะ ต้องโทรช่วงบ่ายนะคะ จนท.ที่เกี่ยวข้องกับการขอ Visa จะให้บริการเฉพาะช่วงนี้ อย่างของเรา แฟนเรากรอกเลขที่ Passport ของเราในใบนัดหมายผิด เลยต้องโทรไปขอให้ทางจนท.ช่วยแก้ไขให้ รอสายนานนิดนึง แต่เจ้าหน้าที่ก็ยินดีให้บริการค่ะ

12. ถึงจะได้ Visa มาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเข้าประเทศเขาได้นะคะ จะเข้าได้หรือไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่โน่นอีกที ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาค่ะ

13. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางทั้งหมด เช่น แผนการเดินทาง ใบจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน ประกันสุขภาพ ฯลฯ ควรทำสำเนาพกไว้กับตัวชุดนึงค่ะ การณีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเช้าเมืองขอดูจะได้ควักออกมาให้เขาดูได้เลย

14. เวลาไปเที่ยวตปท. แฟนเราจะเป็นคนทำแผนเที่ยว เรารู้แค่คร่าวๆ ว่าไปเมืองไหนบ้าง ส่วนสถานที่เที่ยวนี่บางทีไปท่องเอาก่อนเครื่องลง เวลาจนท.ถามจะได้ตอบได้ เรียกว่าไปท่องหนังสือหน้าห้องสอบเลย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่