วันนี้จะมารีวิวเรื่อง การได้ตั๋วเครื่องบินที่ร้องว้าวมาก ของสายการบิน Jeju Air
ช่วงตอนนั้นคือ จะมีการโปรโมท SUPER SALE 1.2.1.7 ใช่ป่ะ
และเราก็คือหนึ่งในนั้นที่ตั้งหน้าตั้งตารอมาก

แต่!!!! คือบ้านเราไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพฯ ไง ต่อให้ได้ตั๋วราคาถูกที่สุด เช่น 4,400.-
ไปกลับ (ดอนเมือง-อินชอน-ดอนเมือง) เราต้องเสียค่าไปกลับ (อุดรฯ-ดอนเมือง-อุดรฯ)
ไหนจะค่าน้ำหนักกระเป๋าอีกเบ็ดเสร็จ ไม่น่าต่ำกว่า 9,000.- เนอะ

ปล. เราสามพี่น้องไปเที่ยวเกาหลีบ่อยมาก สลับกันไปพร้อมกันบ้าง
ไปคนเดียวบ้าง ไปเป็นคู่บ้าง ด้วยความชื่นชอบเนอะ
คนไปบ่อยน่าจะรู้แหละมันดียังไง (เราไม่ใช่ผีน้อยนะ) ฮ่าๆๆ

และล่าสุดนั้น เราอยากไปเจอหิมะมาก ช่วงต้นปีใหม่
กดจองตั๋วกระทันหัน ได้ของ Jin Air 9,900.-
ไปกลับ (สนามบินวัตไต(ลาว) - อินชอน - วัตไต) มีอาหารบนเครื่อง น้ำหนักฟรี
ซึ่งตอนนั้นเราว้าวแล้ว คือดีมาก คราวนี้คือบุกเบิกมาก เราไม่เคยข้ามลาวคนเดียว
เราไม่เคยรู้ว่าสนามบินลาวเป็นยังไง ต้องเริ่มต้นยังไง ตรงไหน
แต่ความโชคดีของเราคือ แฟนของพี่เราเป็นคนเกาหลี และทำงานที่ลาว
เลยได้มีคนพาไปสนามบินวัตไต

เริ่มจากศึกษาการเดินทางจากอุดรฯ ก่อนนะ
1. เราจะไปสนามบินลาวยังไง จากอุดรฯ
- ไป บขส. ค่ะ แถวเซ็นทรัลอุดรฯ เราไปรอบ 11.30 น. ก็ไปสักประมาณ 11.00 น.
รถออก 'ไม่ตรงเวลามาก' 555555. เลทนิดหน่อย
ค่าตั๋วรถบัส 80.- (แปดสิบบาทถ้วน) ส่งถึงตลาดเช้าในเวียงจันทน์เลยนาจาาาา
ส่วนการกรอกเอกสารเข้า-ออกเมือง ลองหาเพิ่มเติมนะ ในพันทิปก็มีบอกจ้า

2. จากตลาดเช้าจะไปสนามบินวัตไตยังไง?
- แค่ลงจากรถบัส ก็มีคนแห่มารอรับเรามากมาย เลือกตามความพึงพอใจได้เลย
ส่วนตัวเรานั้นมีแฟนพี่มารับค่ะ เลยไม่ทราบ แต่ทริปที่จะถึงนี้คงต้องได้ทราบแน่ๆ
เพราะทางนั้นเขาย้ายกลับบ้านเขาไปแล้วววว. แต่มันไม่ไกลกันนะ ไม่น่าเกิน 200.- นี่เดานะ

พอถึงสนามบิน เราก็แค่รอเวลาเช็คอิน เข้าเกท ทำตามขั้นตอนปกติ การออกนอกเมืองปกติจ้า
จะนั่งเล่น นอนเล่น ก็แล้วแต่สะดวกนะ สนามบินวัตไต ไม่ใหญ่ เล็กๆ
ตอนนั้นเราใช้ sim2fly เปิดเล่นที่ลาวได้เลย ที่จริงมีไวฟายให้ใช้ด้วยนะ แต่ช้า ไม่ทันใจ
ตอนนั้นสนามบินวัตไตก็มีการปรับปรุงละนะ ไม่รู้ว่าป่านนี้เป็นไง คงมีของกินมากกว่าเดิมแล้วมั้ง
(ตอนนี้มีแค่ ร้านไอติม diary queen และร้านกาแฟเล็กของลาวค่ะ)

อ่ะๆ เข้าเรื่องดีกว่า ที่เราจะพูดถึงนั่นก็คือ
"เราได้ตั๋วไปกลับ วัตไต-อินชอน 2,650 บาท"
(สองพันหกร้อยห้าสิบบาทถ้วน) คือราคาที่เรียกเก็บเบ็ดเสร็จตัดจากบัตรเครดิตนะคะ
ช่วงพีคที่เราเลือก นั่นก็คือ 12-18 ธันวาคม 2561 เราจะไปตามหาหิมะอีกจ้าาาา *


เราเห็นคนอัพเดตในเพจว่า ได้ตั๋วแล้วถูกมาก บางคนไม่ได้
กั๊กไว้ป่าว ทำไมจองไม่ได้ ของกรุงเทพฯนะ
มันทำให้เราลองเข้าเวปเจจู แล้วเลือกจากวัตไต ไปอินชอน
ตอนนั้น 22.00 น. แต่อยากลองจิ้มดู
ปรากฏว่า เจอตั๋ว ขาไป 18 USD : ขากลับ 18 USD : ภาษีน้ำมัน 40 USD
รวมแล้ว 76 USD
ก็เลยคุยกันในกลุ่มพี่น้องว่า 76 usd นี่มันเท่าไหร่กัน


จิตใจตอนนั้นคือ ไม่นะ!!! ทำไมถูก เอาไงดี
งานยังไม่ลา เงินยังไม่เก็บ แต่ราคานี้ปล่อยไม่ได้ *
จนเราสามคนพี่น้อง แยกกันจอง คนละบุ๊ค บุ๊คละ 1 คน
ได้ไปกลับมาพร้อมกันจ้าาาา แค่นี้ก็ดีใจมากกกกกก
คิดแค่ไม่อะไรมาก เราไปนั่งกินหมูย่าง มองอปป้า ชมบรรยากาศ เดินชิลๆ แค่นั้นพอเนอะ


ทุกอย่าง ก็เรียบร้อยภายในไม่กี่นาที.. ♥️

ปล. ตั๋วราคานี้ ไม่มีน้ำหนักขาไปและกลับ ไม่มีอาหาร ไม่เลือกที่นั่ง
(จะเลือกนั่งด้วยกันตอนเช็คอินอีกที)
...เราไม่ซีเรียสเรื่องนี้อยู่แล้ว แค่ไปถึงเกาหลีก็พอ
ใครสนใจสายการบินโลคอสเกาหลี เน้นถูก ถึงเกาหลีพอ ก็เจจูแอร์เลยนะจ้าาาา

ความประทับใจที่มีต่อสายการบินเจจู
          เราเกิดปัญหาอยากเปลี่ยนแปลงวันไป เราก็กดเปลี่ยนวันไป เรียบร้อย
ตัดบัตร แต่เกิดปัญหามันไม่ตัดบัตรให้อ่ะ เป็นแค่การกันวงเงินไว้
ตอนนั้นคืออยู่ไม่นิ่งแล้ว ทำไมในบุ๊คถึงไม่อัพเดต วันเวลาที่เปลี่ยนให้
เราติดต่อทั้งทางเพจเจจู เพจส่งต่อว่าอาจเกิดจากปัญหาของทางเกาหลี
ให้ติดต่อเองก็ให้เบอร์มา ให้เมลมา ปัญหามั้ยล่ะ!!!! จะคุยยังไง
แต่ก็ต้องคุย เริ่มจากส่งเมล ภาษาอังกฤษ แบบเบสิค ว่าเราเปลี่ยนแปลงแล้ว
แต่ทำไมไม่อัพเดตให้ ก็รอเมลตอบกลับมา ไม่นานก็ส่งมาให้รอนะ
ระบุวันที่มาด้วย ว่าจะอัพเกตให้เราวันไหน
คราวนี้มันนานอีก.. เราไม่อยากรอ เราเลยแชทคุยกับทางเกาหลี
จากหน้าเวป JEJU AIR นั่นแหละ เราคุยภาษาไทยนะ
ทางเวปจะแปลเป็นเกาหลีให้ทางฝั่งนู้นเอง
นั่นคือสิ่งที่เราประทับใจมาก มันไม่ยากเลยจริงๆ
กับการติดต่อ ไม่ว่าเราจะมีปัญหาอะไร ทุกทางพร้อมช่วยเหลือเราตลอด

และปีหน้า เราก็จะรอช่วงเวลานี้อีกเหมือนกัน 1 ปีมีครั้ง อิอิ

หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ ได้ตั๋วเครื่องบินถูก ๆ แบบเรานะ *
ติดตามการอัพเดต ราคาตั๋วถูกที่หน้าเพจเจจูนะ มีอัพเดตตลอดเลย