คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
คิดว่า SM จะแก้เกมด้านผลงานเพลงในปีนี้ได้ไหม >> ตอบได้ถ้านังคิดจะแก้ ก็คงต้องเอาตัวเลข ยอดทุกอย่าง โดยรวมมาหาดูล่ะ ว่าเน้นด้านเพลงแบบที่ฟังง่าย ได้ดิจิทัลดี สร้างความเชื่อมั่นกับเนติเซ็นกลับมาอีกครั้ง ชั่งน้ำหนักรอบด้านว่า คุ้มค่าพอกับการยอมเปลี่ยนไหม น่าจะมีคนเก็บสถิติยอดต่างๆ อยู่ แฟนคลับลดจำนวนมหาศาลจริงไหม หรือแนวโน้มว่าลด มากน้อย ในอนาคตแค่ไหน แฟนๆ ปัจจุบัน มาจากวงรุ่นพี่ทั้งหมดจริงไหม คงไม่ได้มาแค่ลมปากลอยๆ อาจต้องวิเคราะห์กันยาว ผ่านไม่ผ่านยังไง คงตัดสินใจร่วมกันกับผู้ถือหุ้นทั้งหมดของเขาล่ะ เบยองจุนก็อยู่นะ มีหลายคนเลย พวกนี้เขาใช้เงินลงทุนไปไม่น้อย น่าจะเก็บเรียบทุกเม็ด SNS แฟนๆ ชอบไม่ชอบอะไร ยังเก็บนับประสาอะไรกับยอดขายกับฟี้ดแบคแรงๆ ที่กระหน่ำด่าไปเวลาแฟนคลับไม่พอใจ
แต่ดูจากทรงแล้วตอนนี้ อาจจะหันไปทางขายของมากกว่าจริงๆ แต่ถ้ามีตั้งธงว่าเพลง เป็นจุดเริ่มต้น ใช้เป็น โมเดล อธิบายทั้งหมด ว่าธุรกิจเครือหนึ่งจะไปรอดไม่รอดได้ด้วยอาศัยเพลง > ได้แฟนคลับ> คนนอกในให้การยอมรับ คำชมจากเนติเซ็น > ได้ถ้วย ชื่อเสียง > เงิน > ต่อสัญญา > แฮปปี้กันถ้วนหน้าทั้งตัวบริษัทศิลปินและแฟนคลับ ที่จะทำให้เราสามัคคีและยังรักกันต่อไปได้และใช้ตรงนี้ เป็นรากฐานอธิบาย อาณาจักรบันเทิงยี่ห้อหนึ่ง ที่เรียกว่า SM
อันนี้ก็คือนานาจิตตัง แต่ถ้าเน้นเพลง เพราะเจ้าของกระทู้ให้โจทย์มาแบบนี้ ก็ตามนั้น แต่ก็เก็ตพอยต์อยู่ เกิร์ลกรุ๊ปถ้าไม่ดังพับลิคนี่ระยะยาวจะงานเข้า พวกนี้ในอนาคตเน้นงานเดี่ยวอยู่แล้วค่ะ สำหรับสาวๆ เป็นไอดอลช่วงนึง ก็จะเทิร์นไปเป็นนักแสดง นางแบบ งานเพลงชัดสุดในค่ายคือแทยอน ขนาดโบอายังผันตัวไปเป็นอย่างอื่น ทั้งเบื้องหนัา เบื้องหลัง วงชายยังไม่เท่าไหร่
จขกทคงต้องหวังเพลงกับฝั่งของเกิร์ลกรุ๊ปมากกว่าแล้วล่ะ ตอนนี้มีอยู่เบอร์เดียวในฐานะวงคือ Red Velvet ที่กำลังจะคัมแบค อาจจะกุมชี้ชะตาค่ายไว้เลยก็ได้ ถ้าตั้งโจทย์ไปที่เพลงเป็นหลักนะเพราะว่า Red Velvet ดีที่สุดของค่ายแล้วตอนนี้ ในเรื่องการทำเพลงเข้าถึงได้ และเป็นที่ยอมรับ ของสาธารณชน ไม่ได้ประชดนะแต่ให้โจทย์มาแค่ไหนก็อธิบายด้วยโจทย์ที่ตั้งไว้แค่นั้นแหละ แต่นั่นล่ะต้องทำใจเผื่อด้วยว่าถ้าเพลงที่ปล่อยออกมาล่าสุด ไม่แมสพอ ปังพอ ตามมาตรฐานที่ใครสักคนเซ็ตกันไว้ ก็จะมีคนมาตั้งคำถามวนไปอีกว่าทำไม?? ไม่ดังเปรี้ยง ไม่ได้เพลงชาติสักทีเหมือนกัน เดี๋ยวก็หัวร้อนตีกันอีก แต่ก็ยังมีลุ้นกว่าวงอื่นในค่ายมาก คอนเซปต์ซัมเมอร์ด้วย
ปีนี้ไม่น่าจะเดบิวเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ทันที อาจจะปีหน้า แต่พนันกันไหม ที่จะออกมาก็จะไม่ได้ฟังและแมสง่ายๆ เหมือนกัน คือคงไม่ขนาด nct ชาย แต่ไม่น่าจะฟังง่ายแน่ๆ ถ้าจำไม่ผิดฝรั่งที่มาไลฟ์ว่าเป็นหัวเรือทำเพลงให้จีจีใหม่ คือทำเพลงฟังยากอยู่หลายเพลง
F(x) นี่ต้องลุ้นนะว่าจะกลับมาทำงานวงอีกทีเมื่อไหร่ ดังนั้นก็ละเรื่องดิจิทัลไว้ก่อน
เพราะเอาจริงจากรุ่นพี่ก็มี Snsd ที่เด่นด้านนี้มากกว่าวงชายอื่นๆ ในค่าย ที่ต้องใช้กำลังภายในในการปั่นดิจิทัลจากแฟนคลับ มานานแล้ว ชายนี่หรือ Exo ดิจิทัลดีนะ แต่ก็ไม่ถึงขนาดค่ายอื่นอย่างที่จขกทยกมา ถ้าเทียบกับ YG ที่จุดแข็งเขาอยู่ตรงนั้น วงใน SM จะดีเท่าไหร่ก็ไม่พอหรอก
สำหรับตลาดเพลง ถ้าหมายถึง NCT ก็ตัดไปได้เลยถ้าเป็นยูนิต 127 นะ ตั้งแต่รู้จักยูนิตก็แทบไม่สัมผัสหรือกลิ่นอายความ MASS ได้แม้แต่นิดเดียว ถ้าสักวันจะดังขึ้นมาก็คงดังด้วยแนวเพลงที่ฟังยากที่สุดในค่ายนี้แหละ
ทัชมันแค่ Project หนึ่งใน 2018 ไม่ได้ออกแบบเพื่อให้ฟังง่ายแต่ให้ตัดกับ Go ของดรีมที่เป็นเพลง ฟังยากกว่า ถามว่ารู้ได้ไงก็ให้หันไปฟังเพลงเชนที่ใช้ตีตลาดญี่ปุ่น เป็นวงที่แสดง signature ของ nct 127 ชัดมากว่าเป็นเพลงที่ฟังยาก ไม่ใช่ใสใสแบบ Touch
SM ไม่เคยแคร์ตลาดเกาหลีเท่าตลาดญี่ปุ่น คือจะทำเพลงสำหรับตลาดนี้โดยเฉพาะเลย ให้เบาลง ฟังง่ายขึ้น อันนี้ล่ะปรับจริง Project 2018 จุดมุ่งหมายคือทำให้เห็นว่าแต่ละยูนิตสามารถสลับเพลงและเปลี่ยน Concept ได้ไปมา เท่านั้น ซึ่งมันก็เป็น keyword ของการตั้งวง nct อยู่แล้ว
ขนาดไป ตลาดญี่ปุ่นแล้วเดบิวด้วยเพลง chain นี่คือแนวทางที่ค่ายจะใช้เพลงสไตล์นี้กับยูนิต 127 แน่นอน
ส่วนยูนิตจีนที่กำลังจะปล่อย น่าจะดีกว่า แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปทำเพลงเน้นสไตล์จีนเลยรึป่าว แต่ก่อนอื่นเดบิวมาก่อนละกันเลื่อนหลายรอบเกินละ ซ้อมกันยาวนานละเกิน ข้ามปี
จีน นี่เหมือนเห็นว่าเซฮุนมั้ง บินไปถ่ายโฆษณาที่จีนเมื่อไม่นานมานี้ ใช่ปะนะ ได้ยินเค้าว่า แต่ก็คิดว่าวงเกาหลีที่เมมเบอร์ไม่ได้มีสัญชาติจีนก็น่าจะเริ่มทะยอยไปได้แล้ว แต่ไปจริงจังคงต้นปีหน้า แต่ก็ไม่รู้ว่า Sm จะเน้นให้ Exo โฟกัสไปที่งานเดียวหรืองานวงมากกว่ากัน แต่ดูจากสไตล์แล้ว น่าจะกระจายให้วงไปงานเดี่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วล่ะ เวลาค่ายนี้ให้งานเดี่ยว แพทเทิร์นจะคล้ายกันหมด คือ จะห่างจากความเป็นงานวงมากขึ้น คัมแบควงช้าลง แต่จะออกมาในแนวยูนิตแทน ส่งงานเดียวให้เมมเบอร์รายคนรัวๆ พอแต่ละคนเริ่มมีงานเดียว กว่าจะเคลียร์คิวมางานวงก็จะยากขึ้น อย่าว่าแต่วงชายเลย ปีหน้า RVV เองก็จะมีการโฟกัสไปที่งานเดี่ยวมากขึ้นเช่นกันสำหรับบางคน Red Velvet รอบนี้ควรแล้วล่ะที่จะต้องจัดหนักจัดเต็มที่สุดเท่าที่จะทำได้
แล้วอะไรอีกหว่า อ้อ ญี่ปุ่น ค่ายนี้สนตลาดญี่ปุ่นตลอดค่ะ แต่ขึ้นอยู่กับวง และขึ้นอยู่กับยูนิต อย่าง Exo ตลาดหลักก็ไม่ใช่ญี่ปุ่น ที่ยึดหัวหาดตลอดคือโทโฮชินกิ ชายนี่ เอสเจบางยูนิต และก็งานเดี่ยวกันตามอายุของไอดอล และพื้นที่ในวงการบันเทิงหลังออกจากกรม
ปัญหาจีน เกาหลีกระทบทุกวง ทุกค่ายค่ะ ที่ไม่กระทบจะมีแค่ไอดอลชาวจีนที่สังกัดแต่ละค่ายเท่านั้น ซึ่งแต่ละค่ายก็ส่งไปทำงานในเมนแลนด์หมด แล้วก็หักเปอร์เซ็นอะไรก็ว่าไป ตามแต่ที่แต่ละค่ายกับไอดอลนั้นๆ จะตกลงกัน
สรุปก็ ถ้าจะหาเพลงชาติจาก Sm ยุคนี้คงต้องฝากไว้กับวงเกิร์ลกรุ๊ปที่ดูมีโอกาสมากกว่าวงผู้ชาย ที่สำคัญติดแบรนด์ง่ายกว่า การใช้เสียงสังเคราะห์ก็จะไม่เยอะเท่า ที่สำคัญ อายุวงเกิร์ลกรุ๊ปไม่เหมาะกับทัวร์ต่างประเทศนานๆ การขายเชิงพับลิคในเกาหลีจำเป็นมาก
(ถ้าค่ายไม่เอาคอนเซปต์เฉพาะทางมาให้ รววเล่นอีกรอบ ) ส่วนวงผู้ชายก็ตามเดิม ขายของ ออกทัวร์อะไรก็ว่าไป
บางอย่างเราต้องยอมรับความจริงในด้านสถานการณ์ อายุ เพศ นโยบายของค่าย อดีตคืออดีตและดูแววแล้วก็ยากมากที่จะเป็นปัจจุบันหรืออนาคตที่จะเอาดีกับทางดิจิทัลได้น่ะค่ะ ถ้าไปเอาดีด้านขายของไลฟ์สด ช้อปปิ้งออนไลน์ ไทอินเนียนๆ ดูจะมีแววมากกว่าสำหรับ SM ยุคนี้
เห็นใจแฟนค่ายที่ชอบเพลงแมสในอดีตของค่ายนี้จริงๆ นะเพราะถ้าตัวเราหวังตรงนี้ไว้มากก็คงหงุดหงิดเหมือนกันล่ะ ออกเพลงมาที แต่ต้องมานั่งพนมมือวนไปทุกทีว่ามันจะออกมาแบบไหน ไต่ระดับชาร์ตได้สูงเท่าไหร่ เอาจริงมันอาจจะเป็นหน้าตา ศักดิ์ศรีด้วยล่ะ การมีเพลงปังไม่ปังเนี่ย ความคาดหวังมันเลยยิ่งสูงตาม เอาแค่ในนี้บางทีอ่านผ่านๆ ยังสนุกเลยดูลุ้นกันตลอดเวลากับกราฟ สร้างสีสัน มีทอปปิคในการพูดคุยในแต่ละครั้งด้วย คือเราก็คงจะไม่พูดถึงขนาดที่ว่าเพลงติดหูฟังง่ายมันไม่สำคัญนะหรือว่า SM จะอ้างว่าตัวเองอยากบุกเบิกแนวใหม่อะไรแบบนี้ ถึงค่ายมันจะใช้วิธีนี้ทุกครั้ง ก็เถอะ แต่มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้และค่ายมันได้เลือกแล้วไงเลยไม่รู้จะไปทำยังไงกับมันเหมือนกัน
เขาก็ต้องหาเหตุผลมารองรับการกระทำของเขาอยู่แล้วแหละยังไงมันก็ต้องโดนตั้งคำถามจากคนนอกหรือแม้แต่ตัวแฟนคลับเอง
เพราะยอดอัลบั้มมันโป้งเดียวก็ออกมาเป็นตัวเลขจบในตัวแล้ว มันแห้งๆ อ้ะค่ะ ไม่ค่อยมันส์ต้องยอมรับตรงๆ เห็นหลายคนลุ้น กราฟ Pak CAk ดุเดือดยิ่งกว่ากับอัตราชีพจรที่เต้นหรือกระดานหุ้นอีก อันนี้มันส์ จริงยิ่งเวลาเห็นคนเค้าขิง หรือตีกันนะ นี่ โหสุดยอด แต่นี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบถ้าเป็นฝ่ายมวยรองก็คงจะเถียงไม่สนุกเท่าไหร่
ด้วยความที่วงตามปัจจุบันไม่มีเพลงไรแบบนี้เลยไม่คาดหวังเลย เอาให้มันปกติกับหูชาวบ้านเขาหน่อยก็ดีแค่ไหนแล้ว 55555 แต่ถ้าถามว่าอยากได้เพลงแมสไหม ได้ก็ดีแต่ขอให้ถูกหูเราด้วย ก็สงสารเด็กนะ แต่ดันอยู่ค่ายนี้ด้วย ก็ทนกันไปจนกว่าจะหมดสัญญาแหละถ้าไม่พอใจจริงๆ
ส่วนอีกวง บางครั้งที่มันแมสได้เพราะคนร้องรึป่าวก็ไม่รู้เหมือนกัน พวกเพลงประสานเสียงเนี่ย ถามว่าเพลงชาติเพลงไหนยังตอบไม่เหมือนกันเลย ในแต่ละประเทศ แต่ละยุค ดังนั้นใครที่ยังหวังอยู่ก็ขอให้สู้นะคะ แต่สำหรับวงผู้หญิง Sm คงไม่จัดหนักเท่าเพราะการขายได้วงกว้างมันจำเป็นอยู่
ตอนนี้คิดว่าสิ่งที่ Sm stan ทั่วไปพูดกันบ่อยๆ และเหมือนจะกังวลมากกว่าเพลง น่าจะเป็น
1. F(x) ต่อสัญญาครบไหม มีงานวงเมื่อไหร่
2.Snsd จะมีโอกาสมาทำงานวงอีกครั้งเมื่อไหร่ หมายถึงเอาที่อยู่ในค่ายก่อนก็ได้
3. Exo จะคัมแบคชาติไหน
4. GG ใหม่เดบิวเมื่อไหร่
5.ส่วน Tvxq, Sj ก็คงตามผลงานที่กำลังมีอยู่และรอเมมเบอร์บางคนออกจากกรม Shinee อาจจะคล้ายกัน แต่อาจมีเรื่องเข้ากรมเพิ่มมา
6 Nct จีนเมื่อไหร่จะเดบิว และเมื่อไหร่ Nct จะดัง
โดยเฉพาะพวกวงที่รอเดบิว รอคัมแบค นี่คิดว่า ขอแค่ปล่อยทีเซอร์จากเอสเอ็มก็ดีใจมากแล้ว เรื่องเพลงเป็นเรื่องรอง คิดว่านะ
ขอให้มีเพลงที่ไอดอลที่เขาชอบได้ร้องนี่พอล่ะ กะคร่าวๆ ไม่ต่ำกว่า 3-4 วง เช่น f(x), snsd ตรงนี้มันเป็นวัฐจักรของวงที่มีการทำงานอายุมากน่ะค่ะ และขอให้ค่ายให้โอกาสนั้น
ถ้าโอกาสคัมแบคยังไม่ชัดเจน แล้วจะหวังอะไรกับเพลงที่จะปล่อย ว่าจะแมสไม่แมส ยิ่งค่ายมีหลายวง ไม่มีวงที่ถือว่าเป็นตัวหลักแค่วงเดียวมันก็ต้องรอคิววนไปน่ะ ไหนจะมีคิวทั้งรุ่นใหม่ รุ่นเก่า ลักษณะการคัมแบค ความถี่ ระยะเวลาต่างๆ ก็ต่างกันด้วย ถ้าให้แฟนคลับแต่ละวงบีบคอลุงหมานเลือกเพลงโดนๆ คงเลือกบีบคอให้แกรปล่อยคัมแบคและโปรโมตนานๆ มากกว่า
จุดอ่อนค่าย Sm ใหญ่ๆ มี 2 อย่าง
1 ตลาดเฉพาะกลุ่มโดยเฉพาะเพลง
2 ขยันทำร้ายจิตใจแฟนคลับที่ยังตั้งรับไม่ทันปรับตัวไม่ได้และโหยหา ความสำเร็จในอดีต
เอาง่ายๆก็คือเหมือนคุณเป็นแฟนกับคนนึงแล้ว เมื่อก่อนเขาดีมากแต่ตอนนี้มันชัดเลยว่าเขาไม่ดีกับคุณเหมือนเดิม ซึ่งก็แสดงออกทุกวิถีทางแล้วว่ามันไม่เหมือนเดิม แต่คุณก็ยังหวังทุกครั้ง ว่ามันน่าจะมีอะไรดีขึ้น แต่ก็ดีสามวันดี สี่วันไข้ ประมาณนั้นน่ะ มันก็จะมีคนอยู่ 3 จำพวกกว้างๆ ที่จะรีแอคต่อสิ่งที่เกิดต่างกันไป แต่ก็มีมากกว่านี้อีกล่ะ ขาเสี้ยมอันนี้ไม่นับ
1 คือฉันขอโบกมือลาไม่เอาแกแล้ว แฟนเฮงซวย ตัดเอง ไปหาคนใหม่ (ค่ายใหม่/เด็กใหม่) แล้วพอจบไม่สวยมันก็จะแบ่งออกเป็น ลาแล้วลาขาดไม่สนใจอีกเลย ไม่ก็ไปมาบ้างตามอารมณ์ แวะเวียนมาดูสารทุกข์สุขดิบบ้าง ว่ายังอยู่ดีไหม ถามจากคนนั้นคนนี้บ้าง นั่งอ่านเฟซของอีกฝ่าย ถึงจบไม่สวยแต่ก็ไม่พังพินาศ หรือ แค้น ขอให้อดีตคนเคยรัก (ค่าย) ไม่ประสบความสำเร็จ ล่มจม ถ้าแค้นหนักมาก บางทีก็อาจจะหางเลขมาโดนลูก หลาน (เด็กในค่าย) ของแฟนเก่า
2 อยากให้ปรับปรุงตัว ยังไงก็ยังรักอยู่ ก็จะไบโพล่าที ทำดีก็รักเอย แย่ใส่ก็บ่น จนไปถึงด่า วนไปวนมาที่เดิมๆ แต่ธรรมชาติของคนเรา มักจะเห็นของไกลตัวดีกว่าใกล้ตัว ประมาณสนามหญ้าบ้านคนอื่นมักจะเขียวกว่าบ้านตัวเอง เอาจริงก็ไม่มีใครจะดีไปหมดทุกอย่างหรอก ที่ผ่านมามันก็ไม่ใช่จุดเด่นอย่างเดียวในการมาบ่วงคนนี้ มันคือข้อดีหลายๆ ข้อที่ทำให้มาชอบต่างหาก
แต่ SM ก็เป็นแฟนที่ดูกวนทรีนด้วยล่ะ มันก็เลยจะเป็นความสัมพันธ์ที่อยู่ในลักษณะ love and hate ถ้าตีกัน คนนอกเข้ามาด่า มาใส่ พอเค้าคืนดีกันก็เสียแมวน่ะค่ะ แฟนชั้นชั้นด่าได้คนเดียว คนนอกอย่ายุ่ง ส่วนใหญ่มักจะเป็นประเภทนี้กัน
3 อันนี้จะเรียกว่าบรรลุแล้วหรือว่าปลงแล้วก็ไม่รู้นะ เอาที่สบายใจ อยากทำไรก็ทำ บ่นนิดหน่อยตามเรื่อง ด่าแต่ไม่ใส่อารมณ์ มีเงินถ้าอยากซื้อก็ซื้อ ไม่ซื้อ ไม่ถูกใจก็ไม่ซื้อ เซฟอารมณ์ การสะกดจิตให้ตัวเองชอบไม่ใช่เรื่องน่าสนุก กรุ๊ปนี้สุขภาพจิตจะดีสุด
แล้วเป็นแฟนคลับประเภทไหนกันอยู่
แต่ดูจากทรงแล้วตอนนี้ อาจจะหันไปทางขายของมากกว่าจริงๆ แต่ถ้ามีตั้งธงว่าเพลง เป็นจุดเริ่มต้น ใช้เป็น โมเดล อธิบายทั้งหมด ว่าธุรกิจเครือหนึ่งจะไปรอดไม่รอดได้ด้วยอาศัยเพลง > ได้แฟนคลับ> คนนอกในให้การยอมรับ คำชมจากเนติเซ็น > ได้ถ้วย ชื่อเสียง > เงิน > ต่อสัญญา > แฮปปี้กันถ้วนหน้าทั้งตัวบริษัทศิลปินและแฟนคลับ ที่จะทำให้เราสามัคคีและยังรักกันต่อไปได้และใช้ตรงนี้ เป็นรากฐานอธิบาย อาณาจักรบันเทิงยี่ห้อหนึ่ง ที่เรียกว่า SM
อันนี้ก็คือนานาจิตตัง แต่ถ้าเน้นเพลง เพราะเจ้าของกระทู้ให้โจทย์มาแบบนี้ ก็ตามนั้น แต่ก็เก็ตพอยต์อยู่ เกิร์ลกรุ๊ปถ้าไม่ดังพับลิคนี่ระยะยาวจะงานเข้า พวกนี้ในอนาคตเน้นงานเดี่ยวอยู่แล้วค่ะ สำหรับสาวๆ เป็นไอดอลช่วงนึง ก็จะเทิร์นไปเป็นนักแสดง นางแบบ งานเพลงชัดสุดในค่ายคือแทยอน ขนาดโบอายังผันตัวไปเป็นอย่างอื่น ทั้งเบื้องหนัา เบื้องหลัง วงชายยังไม่เท่าไหร่
จขกทคงต้องหวังเพลงกับฝั่งของเกิร์ลกรุ๊ปมากกว่าแล้วล่ะ ตอนนี้มีอยู่เบอร์เดียวในฐานะวงคือ Red Velvet ที่กำลังจะคัมแบค อาจจะกุมชี้ชะตาค่ายไว้เลยก็ได้ ถ้าตั้งโจทย์ไปที่เพลงเป็นหลักนะเพราะว่า Red Velvet ดีที่สุดของค่ายแล้วตอนนี้ ในเรื่องการทำเพลงเข้าถึงได้ และเป็นที่ยอมรับ ของสาธารณชน ไม่ได้ประชดนะแต่ให้โจทย์มาแค่ไหนก็อธิบายด้วยโจทย์ที่ตั้งไว้แค่นั้นแหละ แต่นั่นล่ะต้องทำใจเผื่อด้วยว่าถ้าเพลงที่ปล่อยออกมาล่าสุด ไม่แมสพอ ปังพอ ตามมาตรฐานที่ใครสักคนเซ็ตกันไว้ ก็จะมีคนมาตั้งคำถามวนไปอีกว่าทำไม?? ไม่ดังเปรี้ยง ไม่ได้เพลงชาติสักทีเหมือนกัน เดี๋ยวก็หัวร้อนตีกันอีก แต่ก็ยังมีลุ้นกว่าวงอื่นในค่ายมาก คอนเซปต์ซัมเมอร์ด้วย
ปีนี้ไม่น่าจะเดบิวเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ทันที อาจจะปีหน้า แต่พนันกันไหม ที่จะออกมาก็จะไม่ได้ฟังและแมสง่ายๆ เหมือนกัน คือคงไม่ขนาด nct ชาย แต่ไม่น่าจะฟังง่ายแน่ๆ ถ้าจำไม่ผิดฝรั่งที่มาไลฟ์ว่าเป็นหัวเรือทำเพลงให้จีจีใหม่ คือทำเพลงฟังยากอยู่หลายเพลง
F(x) นี่ต้องลุ้นนะว่าจะกลับมาทำงานวงอีกทีเมื่อไหร่ ดังนั้นก็ละเรื่องดิจิทัลไว้ก่อน
เพราะเอาจริงจากรุ่นพี่ก็มี Snsd ที่เด่นด้านนี้มากกว่าวงชายอื่นๆ ในค่าย ที่ต้องใช้กำลังภายในในการปั่นดิจิทัลจากแฟนคลับ มานานแล้ว ชายนี่หรือ Exo ดิจิทัลดีนะ แต่ก็ไม่ถึงขนาดค่ายอื่นอย่างที่จขกทยกมา ถ้าเทียบกับ YG ที่จุดแข็งเขาอยู่ตรงนั้น วงใน SM จะดีเท่าไหร่ก็ไม่พอหรอก
สำหรับตลาดเพลง ถ้าหมายถึง NCT ก็ตัดไปได้เลยถ้าเป็นยูนิต 127 นะ ตั้งแต่รู้จักยูนิตก็แทบไม่สัมผัสหรือกลิ่นอายความ MASS ได้แม้แต่นิดเดียว ถ้าสักวันจะดังขึ้นมาก็คงดังด้วยแนวเพลงที่ฟังยากที่สุดในค่ายนี้แหละ
ทัชมันแค่ Project หนึ่งใน 2018 ไม่ได้ออกแบบเพื่อให้ฟังง่ายแต่ให้ตัดกับ Go ของดรีมที่เป็นเพลง ฟังยากกว่า ถามว่ารู้ได้ไงก็ให้หันไปฟังเพลงเชนที่ใช้ตีตลาดญี่ปุ่น เป็นวงที่แสดง signature ของ nct 127 ชัดมากว่าเป็นเพลงที่ฟังยาก ไม่ใช่ใสใสแบบ Touch
SM ไม่เคยแคร์ตลาดเกาหลีเท่าตลาดญี่ปุ่น คือจะทำเพลงสำหรับตลาดนี้โดยเฉพาะเลย ให้เบาลง ฟังง่ายขึ้น อันนี้ล่ะปรับจริง Project 2018 จุดมุ่งหมายคือทำให้เห็นว่าแต่ละยูนิตสามารถสลับเพลงและเปลี่ยน Concept ได้ไปมา เท่านั้น ซึ่งมันก็เป็น keyword ของการตั้งวง nct อยู่แล้ว
ขนาดไป ตลาดญี่ปุ่นแล้วเดบิวด้วยเพลง chain นี่คือแนวทางที่ค่ายจะใช้เพลงสไตล์นี้กับยูนิต 127 แน่นอน
ส่วนยูนิตจีนที่กำลังจะปล่อย น่าจะดีกว่า แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปทำเพลงเน้นสไตล์จีนเลยรึป่าว แต่ก่อนอื่นเดบิวมาก่อนละกันเลื่อนหลายรอบเกินละ ซ้อมกันยาวนานละเกิน ข้ามปี
จีน นี่เหมือนเห็นว่าเซฮุนมั้ง บินไปถ่ายโฆษณาที่จีนเมื่อไม่นานมานี้ ใช่ปะนะ ได้ยินเค้าว่า แต่ก็คิดว่าวงเกาหลีที่เมมเบอร์ไม่ได้มีสัญชาติจีนก็น่าจะเริ่มทะยอยไปได้แล้ว แต่ไปจริงจังคงต้นปีหน้า แต่ก็ไม่รู้ว่า Sm จะเน้นให้ Exo โฟกัสไปที่งานเดียวหรืองานวงมากกว่ากัน แต่ดูจากสไตล์แล้ว น่าจะกระจายให้วงไปงานเดี่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วล่ะ เวลาค่ายนี้ให้งานเดี่ยว แพทเทิร์นจะคล้ายกันหมด คือ จะห่างจากความเป็นงานวงมากขึ้น คัมแบควงช้าลง แต่จะออกมาในแนวยูนิตแทน ส่งงานเดียวให้เมมเบอร์รายคนรัวๆ พอแต่ละคนเริ่มมีงานเดียว กว่าจะเคลียร์คิวมางานวงก็จะยากขึ้น อย่าว่าแต่วงชายเลย ปีหน้า RVV เองก็จะมีการโฟกัสไปที่งานเดี่ยวมากขึ้นเช่นกันสำหรับบางคน Red Velvet รอบนี้ควรแล้วล่ะที่จะต้องจัดหนักจัดเต็มที่สุดเท่าที่จะทำได้
แล้วอะไรอีกหว่า อ้อ ญี่ปุ่น ค่ายนี้สนตลาดญี่ปุ่นตลอดค่ะ แต่ขึ้นอยู่กับวง และขึ้นอยู่กับยูนิต อย่าง Exo ตลาดหลักก็ไม่ใช่ญี่ปุ่น ที่ยึดหัวหาดตลอดคือโทโฮชินกิ ชายนี่ เอสเจบางยูนิต และก็งานเดี่ยวกันตามอายุของไอดอล และพื้นที่ในวงการบันเทิงหลังออกจากกรม
ปัญหาจีน เกาหลีกระทบทุกวง ทุกค่ายค่ะ ที่ไม่กระทบจะมีแค่ไอดอลชาวจีนที่สังกัดแต่ละค่ายเท่านั้น ซึ่งแต่ละค่ายก็ส่งไปทำงานในเมนแลนด์หมด แล้วก็หักเปอร์เซ็นอะไรก็ว่าไป ตามแต่ที่แต่ละค่ายกับไอดอลนั้นๆ จะตกลงกัน
สรุปก็ ถ้าจะหาเพลงชาติจาก Sm ยุคนี้คงต้องฝากไว้กับวงเกิร์ลกรุ๊ปที่ดูมีโอกาสมากกว่าวงผู้ชาย ที่สำคัญติดแบรนด์ง่ายกว่า การใช้เสียงสังเคราะห์ก็จะไม่เยอะเท่า ที่สำคัญ อายุวงเกิร์ลกรุ๊ปไม่เหมาะกับทัวร์ต่างประเทศนานๆ การขายเชิงพับลิคในเกาหลีจำเป็นมาก
(ถ้าค่ายไม่เอาคอนเซปต์เฉพาะทางมาให้ รววเล่นอีกรอบ ) ส่วนวงผู้ชายก็ตามเดิม ขายของ ออกทัวร์อะไรก็ว่าไป
บางอย่างเราต้องยอมรับความจริงในด้านสถานการณ์ อายุ เพศ นโยบายของค่าย อดีตคืออดีตและดูแววแล้วก็ยากมากที่จะเป็นปัจจุบันหรืออนาคตที่จะเอาดีกับทางดิจิทัลได้น่ะค่ะ ถ้าไปเอาดีด้านขายของไลฟ์สด ช้อปปิ้งออนไลน์ ไทอินเนียนๆ ดูจะมีแววมากกว่าสำหรับ SM ยุคนี้
เห็นใจแฟนค่ายที่ชอบเพลงแมสในอดีตของค่ายนี้จริงๆ นะเพราะถ้าตัวเราหวังตรงนี้ไว้มากก็คงหงุดหงิดเหมือนกันล่ะ ออกเพลงมาที แต่ต้องมานั่งพนมมือวนไปทุกทีว่ามันจะออกมาแบบไหน ไต่ระดับชาร์ตได้สูงเท่าไหร่ เอาจริงมันอาจจะเป็นหน้าตา ศักดิ์ศรีด้วยล่ะ การมีเพลงปังไม่ปังเนี่ย ความคาดหวังมันเลยยิ่งสูงตาม เอาแค่ในนี้บางทีอ่านผ่านๆ ยังสนุกเลยดูลุ้นกันตลอดเวลากับกราฟ สร้างสีสัน มีทอปปิคในการพูดคุยในแต่ละครั้งด้วย คือเราก็คงจะไม่พูดถึงขนาดที่ว่าเพลงติดหูฟังง่ายมันไม่สำคัญนะหรือว่า SM จะอ้างว่าตัวเองอยากบุกเบิกแนวใหม่อะไรแบบนี้ ถึงค่ายมันจะใช้วิธีนี้ทุกครั้ง ก็เถอะ แต่มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้และค่ายมันได้เลือกแล้วไงเลยไม่รู้จะไปทำยังไงกับมันเหมือนกัน
เขาก็ต้องหาเหตุผลมารองรับการกระทำของเขาอยู่แล้วแหละยังไงมันก็ต้องโดนตั้งคำถามจากคนนอกหรือแม้แต่ตัวแฟนคลับเอง
เพราะยอดอัลบั้มมันโป้งเดียวก็ออกมาเป็นตัวเลขจบในตัวแล้ว มันแห้งๆ อ้ะค่ะ ไม่ค่อยมันส์ต้องยอมรับตรงๆ เห็นหลายคนลุ้น กราฟ Pak CAk ดุเดือดยิ่งกว่ากับอัตราชีพจรที่เต้นหรือกระดานหุ้นอีก อันนี้มันส์ จริงยิ่งเวลาเห็นคนเค้าขิง หรือตีกันนะ นี่ โหสุดยอด แต่นี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบถ้าเป็นฝ่ายมวยรองก็คงจะเถียงไม่สนุกเท่าไหร่
ด้วยความที่วงตามปัจจุบันไม่มีเพลงไรแบบนี้เลยไม่คาดหวังเลย เอาให้มันปกติกับหูชาวบ้านเขาหน่อยก็ดีแค่ไหนแล้ว 55555 แต่ถ้าถามว่าอยากได้เพลงแมสไหม ได้ก็ดีแต่ขอให้ถูกหูเราด้วย ก็สงสารเด็กนะ แต่ดันอยู่ค่ายนี้ด้วย ก็ทนกันไปจนกว่าจะหมดสัญญาแหละถ้าไม่พอใจจริงๆ
ส่วนอีกวง บางครั้งที่มันแมสได้เพราะคนร้องรึป่าวก็ไม่รู้เหมือนกัน พวกเพลงประสานเสียงเนี่ย ถามว่าเพลงชาติเพลงไหนยังตอบไม่เหมือนกันเลย ในแต่ละประเทศ แต่ละยุค ดังนั้นใครที่ยังหวังอยู่ก็ขอให้สู้นะคะ แต่สำหรับวงผู้หญิง Sm คงไม่จัดหนักเท่าเพราะการขายได้วงกว้างมันจำเป็นอยู่
ตอนนี้คิดว่าสิ่งที่ Sm stan ทั่วไปพูดกันบ่อยๆ และเหมือนจะกังวลมากกว่าเพลง น่าจะเป็น
1. F(x) ต่อสัญญาครบไหม มีงานวงเมื่อไหร่
2.Snsd จะมีโอกาสมาทำงานวงอีกครั้งเมื่อไหร่ หมายถึงเอาที่อยู่ในค่ายก่อนก็ได้
3. Exo จะคัมแบคชาติไหน
4. GG ใหม่เดบิวเมื่อไหร่
5.ส่วน Tvxq, Sj ก็คงตามผลงานที่กำลังมีอยู่และรอเมมเบอร์บางคนออกจากกรม Shinee อาจจะคล้ายกัน แต่อาจมีเรื่องเข้ากรมเพิ่มมา
6 Nct จีนเมื่อไหร่จะเดบิว และเมื่อไหร่ Nct จะดัง
โดยเฉพาะพวกวงที่รอเดบิว รอคัมแบค นี่คิดว่า ขอแค่ปล่อยทีเซอร์จากเอสเอ็มก็ดีใจมากแล้ว เรื่องเพลงเป็นเรื่องรอง คิดว่านะ
ขอให้มีเพลงที่ไอดอลที่เขาชอบได้ร้องนี่พอล่ะ กะคร่าวๆ ไม่ต่ำกว่า 3-4 วง เช่น f(x), snsd ตรงนี้มันเป็นวัฐจักรของวงที่มีการทำงานอายุมากน่ะค่ะ และขอให้ค่ายให้โอกาสนั้น
ถ้าโอกาสคัมแบคยังไม่ชัดเจน แล้วจะหวังอะไรกับเพลงที่จะปล่อย ว่าจะแมสไม่แมส ยิ่งค่ายมีหลายวง ไม่มีวงที่ถือว่าเป็นตัวหลักแค่วงเดียวมันก็ต้องรอคิววนไปน่ะ ไหนจะมีคิวทั้งรุ่นใหม่ รุ่นเก่า ลักษณะการคัมแบค ความถี่ ระยะเวลาต่างๆ ก็ต่างกันด้วย ถ้าให้แฟนคลับแต่ละวงบีบคอลุงหมานเลือกเพลงโดนๆ คงเลือกบีบคอให้แกรปล่อยคัมแบคและโปรโมตนานๆ มากกว่า
จุดอ่อนค่าย Sm ใหญ่ๆ มี 2 อย่าง
1 ตลาดเฉพาะกลุ่มโดยเฉพาะเพลง
2 ขยันทำร้ายจิตใจแฟนคลับที่ยังตั้งรับไม่ทันปรับตัวไม่ได้และโหยหา ความสำเร็จในอดีต
เอาง่ายๆก็คือเหมือนคุณเป็นแฟนกับคนนึงแล้ว เมื่อก่อนเขาดีมากแต่ตอนนี้มันชัดเลยว่าเขาไม่ดีกับคุณเหมือนเดิม ซึ่งก็แสดงออกทุกวิถีทางแล้วว่ามันไม่เหมือนเดิม แต่คุณก็ยังหวังทุกครั้ง ว่ามันน่าจะมีอะไรดีขึ้น แต่ก็ดีสามวันดี สี่วันไข้ ประมาณนั้นน่ะ มันก็จะมีคนอยู่ 3 จำพวกกว้างๆ ที่จะรีแอคต่อสิ่งที่เกิดต่างกันไป แต่ก็มีมากกว่านี้อีกล่ะ ขาเสี้ยมอันนี้ไม่นับ
1 คือฉันขอโบกมือลาไม่เอาแกแล้ว แฟนเฮงซวย ตัดเอง ไปหาคนใหม่ (ค่ายใหม่/เด็กใหม่) แล้วพอจบไม่สวยมันก็จะแบ่งออกเป็น ลาแล้วลาขาดไม่สนใจอีกเลย ไม่ก็ไปมาบ้างตามอารมณ์ แวะเวียนมาดูสารทุกข์สุขดิบบ้าง ว่ายังอยู่ดีไหม ถามจากคนนั้นคนนี้บ้าง นั่งอ่านเฟซของอีกฝ่าย ถึงจบไม่สวยแต่ก็ไม่พังพินาศ หรือ แค้น ขอให้อดีตคนเคยรัก (ค่าย) ไม่ประสบความสำเร็จ ล่มจม ถ้าแค้นหนักมาก บางทีก็อาจจะหางเลขมาโดนลูก หลาน (เด็กในค่าย) ของแฟนเก่า
2 อยากให้ปรับปรุงตัว ยังไงก็ยังรักอยู่ ก็จะไบโพล่าที ทำดีก็รักเอย แย่ใส่ก็บ่น จนไปถึงด่า วนไปวนมาที่เดิมๆ แต่ธรรมชาติของคนเรา มักจะเห็นของไกลตัวดีกว่าใกล้ตัว ประมาณสนามหญ้าบ้านคนอื่นมักจะเขียวกว่าบ้านตัวเอง เอาจริงก็ไม่มีใครจะดีไปหมดทุกอย่างหรอก ที่ผ่านมามันก็ไม่ใช่จุดเด่นอย่างเดียวในการมาบ่วงคนนี้ มันคือข้อดีหลายๆ ข้อที่ทำให้มาชอบต่างหาก
แต่ SM ก็เป็นแฟนที่ดูกวนทรีนด้วยล่ะ มันก็เลยจะเป็นความสัมพันธ์ที่อยู่ในลักษณะ love and hate ถ้าตีกัน คนนอกเข้ามาด่า มาใส่ พอเค้าคืนดีกันก็เสียแมวน่ะค่ะ แฟนชั้นชั้นด่าได้คนเดียว คนนอกอย่ายุ่ง ส่วนใหญ่มักจะเป็นประเภทนี้กัน
3 อันนี้จะเรียกว่าบรรลุแล้วหรือว่าปลงแล้วก็ไม่รู้นะ เอาที่สบายใจ อยากทำไรก็ทำ บ่นนิดหน่อยตามเรื่อง ด่าแต่ไม่ใส่อารมณ์ มีเงินถ้าอยากซื้อก็ซื้อ ไม่ซื้อ ไม่ถูกใจก็ไม่ซื้อ เซฟอารมณ์ การสะกดจิตให้ตัวเองชอบไม่ใช่เรื่องน่าสนุก กรุ๊ปนี้สุขภาพจิตจะดีสุด
แล้วเป็นแฟนคลับประเภทไหนกันอยู่
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
อ่านแล้วทำไมรู้สึกว่าคุณจขกท.กดSM จัง เป็นแสตนค่ายจริงป้ะ?
เหมือนคุณจำกัดความความสำเร็จของเพลงแค่คำว่าPak
และใช่ค่ะ คุณเลยมองว่าค่ายอยู่ในจุดที่ตกต่ำเพราะปีนี้ไม่มีเพลงจากSMที่ได้ Pak แต่คุณคงลืมว่าค่ายยังไม่เคยได้ Pak เลยซักเพลง ทั้งที่เพลงจากค่ายก็โด่งดังอยู่หลายเพลงและหลายๆเพลงก็ระดับ Song of the year แล้วคุณจขกท.ยังคิดว่า Pak คือทุกอย่างอีกก็สุดแล้วแต่ใจค่ะ
มองกลับมาที่ผลงานเพลงในปีนี้
RVV ก็ยังมี Bad Boy ที่ยอดกาออนทะลุ500ล้าน ยอดวิว123+ล้าน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเติบโตด้านผลงานเพลงที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของตัววงเอง และยังมีเพลง Rad flavor จากปีที่แล้วที่ยังเกาะชาร์ตอยู่ตลอด
EXO ที่ปล่อย Univers เพลงอัลบั้มวินเทอร์ที่ปรกติคงหลุดชาร์ตไปแล้ว แต่ตอนนี้ยังอยู่ในชาร์ต melonมา7เดือน และยังวนอยู่ในTop5 ชาร์ตsoribadaในปัจจุบัน และเกาะichartวนอยู่ใน top20มาหลายวันแล้ว
EXO-CBX ปล่อย Blooming day ทั้งแต่ต้นเมษา ก็ยังอยู่ในชาร์ตmelonมาตลอด3เดือน ทั้งที่เป็นเพลงจากยูนิตวงBB ด้วยซ้ำ
ส่วนNCT ก็เริ่มเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน เพราะปรกติเพลงไม่เข้าชาร์ตเลยด้วยซ้ำ แต่คัมล่าสุดก็ยังเจาะเข้ามาได้ ถึงจะไม่กี่วัน แต่ก็เป็นการเริ่มต้นในดิจิตอลชาร์ตที่ดี
ที่พิมพ์มาแค่จะสื่อให้เห็นว่าศิลปินของค่ายผลงานต่างเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้ดรอปลงขนาดที่คุณกังวลนักหนา และถ้าจะให้เอาไปเทียบกับค่ายอย่าง YG ที่ดิจิดอลดีตลอด คงต้องดูปัจจัยตรงนี้ด้วยนะคะว่าคนส่วนใหญ่เปิดใจให้กับเพลงจาก SM รึยัง อย่าเอาไปเปรียบเทียบเลยค่ะ ส่วนjyp ถ้ามองแค่ดิจิก็มีแค่ Twice ที่ยังพยุงค่ายอยู่ ซึ่งไม่ได้เกินไปกว่า SM มากโขขนาดนั้นด้วยซ้ำ
เลิกเอาความสำเร็จของคนอื่นมากดดันคนของตัวเองเถอะว่าเขาต้องทำได้ดีกว่า มองที่ความสำเร็จปัจจุบันเถอะว่าดีกว่าอดีตรึเปล่า
เหมือนคุณจำกัดความความสำเร็จของเพลงแค่คำว่าPak
และใช่ค่ะ คุณเลยมองว่าค่ายอยู่ในจุดที่ตกต่ำเพราะปีนี้ไม่มีเพลงจากSMที่ได้ Pak แต่คุณคงลืมว่าค่ายยังไม่เคยได้ Pak เลยซักเพลง ทั้งที่เพลงจากค่ายก็โด่งดังอยู่หลายเพลงและหลายๆเพลงก็ระดับ Song of the year แล้วคุณจขกท.ยังคิดว่า Pak คือทุกอย่างอีกก็สุดแล้วแต่ใจค่ะ
มองกลับมาที่ผลงานเพลงในปีนี้
RVV ก็ยังมี Bad Boy ที่ยอดกาออนทะลุ500ล้าน ยอดวิว123+ล้าน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเติบโตด้านผลงานเพลงที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของตัววงเอง และยังมีเพลง Rad flavor จากปีที่แล้วที่ยังเกาะชาร์ตอยู่ตลอด
EXO ที่ปล่อย Univers เพลงอัลบั้มวินเทอร์ที่ปรกติคงหลุดชาร์ตไปแล้ว แต่ตอนนี้ยังอยู่ในชาร์ต melonมา7เดือน และยังวนอยู่ในTop5 ชาร์ตsoribadaในปัจจุบัน และเกาะichartวนอยู่ใน top20มาหลายวันแล้ว
EXO-CBX ปล่อย Blooming day ทั้งแต่ต้นเมษา ก็ยังอยู่ในชาร์ตmelonมาตลอด3เดือน ทั้งที่เป็นเพลงจากยูนิตวงBB ด้วยซ้ำ
ส่วนNCT ก็เริ่มเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน เพราะปรกติเพลงไม่เข้าชาร์ตเลยด้วยซ้ำ แต่คัมล่าสุดก็ยังเจาะเข้ามาได้ ถึงจะไม่กี่วัน แต่ก็เป็นการเริ่มต้นในดิจิตอลชาร์ตที่ดี
ที่พิมพ์มาแค่จะสื่อให้เห็นว่าศิลปินของค่ายผลงานต่างเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้ดรอปลงขนาดที่คุณกังวลนักหนา และถ้าจะให้เอาไปเทียบกับค่ายอย่าง YG ที่ดิจิดอลดีตลอด คงต้องดูปัจจัยตรงนี้ด้วยนะคะว่าคนส่วนใหญ่เปิดใจให้กับเพลงจาก SM รึยัง อย่าเอาไปเปรียบเทียบเลยค่ะ ส่วนjyp ถ้ามองแค่ดิจิก็มีแค่ Twice ที่ยังพยุงค่ายอยู่ ซึ่งไม่ได้เกินไปกว่า SM มากโขขนาดนั้นด้วยซ้ำ
เลิกเอาความสำเร็จของคนอื่นมากดดันคนของตัวเองเถอะว่าเขาต้องทำได้ดีกว่า มองที่ความสำเร็จปัจจุบันเถอะว่าดีกว่าอดีตรึเปล่า
ความคิดเห็นที่ 9
เราไม่คิดว่า SM จะใส่ใจกับตรงนี้นะ เป้าหมายหลักคือการสร้างแบรนด์กับ loyal fandom เอามาหาเงินอยู่แล้ว ตั้งแต่เมื่อก่อน
PAK นี่ที่ในค่ายไม่เคยได้เมื่อก่อนก็เพราะไม่ขายเพลงในบางชาร์ตเอง เลยคิดว่าค่ายไม่ได้แคร์หรอก ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ได้เงินอ่ะ
ส่วนเรื่องตลาดต่างประเทศ ถ้าจีนเปิด EXO ก็กินรวบเหมือนเดิม แฟนจีนค่อนข้างมั่นคงมาก ถ้าคัมแบค 9 คนคงตื่นตัวกันอยู่
ตลาดญี่ปุ่น... ถ้ามองถึงการโปรโมตคนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่า TWICE นำมาเลย แต่เอาจริงๆโทโฮก็ยังขายดีสุดๆ ดูสเกลทัวร์นั่นสิ
ตรงจุดนี้คิดว่า SM ยังได้เงินเยอะอยู่ เลยไม่ได้ใส่ใจตรงนี้ ไม่ได้มองเรื่องเพลงหรืออะไรแล้ว เป็นองค์กรเน้นหาเงินเต็มสูบมากกว่า
PAK นี่ที่ในค่ายไม่เคยได้เมื่อก่อนก็เพราะไม่ขายเพลงในบางชาร์ตเอง เลยคิดว่าค่ายไม่ได้แคร์หรอก ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ได้เงินอ่ะ
ส่วนเรื่องตลาดต่างประเทศ ถ้าจีนเปิด EXO ก็กินรวบเหมือนเดิม แฟนจีนค่อนข้างมั่นคงมาก ถ้าคัมแบค 9 คนคงตื่นตัวกันอยู่
ตลาดญี่ปุ่น... ถ้ามองถึงการโปรโมตคนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่า TWICE นำมาเลย แต่เอาจริงๆโทโฮก็ยังขายดีสุดๆ ดูสเกลทัวร์นั่นสิ
ตรงจุดนี้คิดว่า SM ยังได้เงินเยอะอยู่ เลยไม่ได้ใส่ใจตรงนี้ ไม่ได้มองเรื่องเพลงหรืออะไรแล้ว เป็นองค์กรเน้นหาเงินเต็มสูบมากกว่า
ความคิดเห็นที่ 36
อ่านแล้วก็ไม่เห็นว่าจขกท.วัดความสำเร็จด้วยเพลงpakอย่างเดียว ถ้าไม่หลับหูหลับตาจนเกินไป จะรู้ว่าผลงานปีนี้มันดรอปมากจริงๆ ดรอปทุกด้าน ไม่มีวงไหนที่ปล่อยมาแล้วได้กระแสเลย โดนกลบหมด เลิกหลอกตัวเองได้แล้ว มันสู้เขาไม่ได้จริงๆ แล้วเลิกพูดเถอะว่าอย่าเอาไปเทียบกับค่ายอื่น มันต้องเทียบสิ ว่าเรามีดีหรือไม่ดีกว่าค่ายอื่นตรงไหน เพื่อเอายอดนั้นไปสู้เพื่อรางวัลปลายปี (ซึ่งปัจจุบันไม่มีเลย)
แล้วพวกโลกสวยทั้งหลายที่ชอบพูดว่ารางวัลไม่ใช่ทั้งหมด ก็ย้อนไปดูกันนะว่าหลายคนเลยร้องไห้กันตอนได้รางวัล ยังคิดว่ามันไม่สำคัญอีกมั้ย เขาทำงานมาเหนื่อยแทบตายก็ควรได้รางวัลตอบแทนบ้างเถอะ
แล้วพวกโลกสวยทั้งหลายที่ชอบพูดว่ารางวัลไม่ใช่ทั้งหมด ก็ย้อนไปดูกันนะว่าหลายคนเลยร้องไห้กันตอนได้รางวัล ยังคิดว่ามันไม่สำคัญอีกมั้ย เขาทำงานมาเหนื่อยแทบตายก็ควรได้รางวัลตอบแทนบ้างเถอะ
ความคิดเห็นที่ 15
ฟอร์บส์ ลงบทความเรื่อง SJ กับความสำเร็จในการทำเพลงเพื่อเจาะตลาดลาตินอเมริกา และเมมเบอร์อธิบายเหตุผลที่เลือกทำเพลงแบบนี้
ในบทความเรียก SJ ว่า "เป็นแบรนด์ มากกว่าแบนด์" คือไม่ใช่แค่วง แต่เป็นเครื่องหมายการค้าแล้ว และเมมเบอร์มีความสามารถหลากหลาย จะตัดตอนมาเฉพาะคำตอบของเมมเบอร์ เกี่ยวกับแนวเพลง
Super Junior's Push Into Latin America Continues The Group's Legacy As Industry Innovators
More of a brand than a band
ลีดเดอร์ อีทึก (ปาร์คจองซู) กล่าวว่า พวกเขาใช้เวลานานมากตลอดระยะเวลาที่ทำงานมา เพื่อตีโจทย์ที่จะ "หาวิธีที่แตกต่าง เพื่อเข้าถึงแฟนๆ แต่ละกลุ่มผ่านทางโปรเจคที่ไม่เหมือนกัน" และพวกเขายังไม่คิดจะหยุด ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมในปีนี้ อุตสาหกรรมเพลงเกาหลี จึงผลักดันตัวเองเข้าสู่ดินแดนใหม่ล่าสุด: ลาตินอเมริกา
การเจาะเข้าสู่ตลาดใหม่ เป็นงานถนัดของ SJ อยู่แล้ว พวกเขาไปมาทั่วโลก และทำเพลงอย่างน้อยห้าภาษา "เราอยากเป็นสะพาน เราอยากเป็นพื้นฐาน และเป็นนักบุกเบิกให้โลกรวมกันได้ด้วยเสียงเพลง" ชเว ซีวอนกล่าว "เราคิดว่าผู้คนเปิดกว้างขึ้น และรู้จักชื่นชมคนจากชาติพันธุ์อ่ื่นที่มีมรดก (ทางวัฒนธรรม) แตกต่างกัน นั่นคือวิถีทางที่คนยุคนี้ฟังเพลงกัน"
"เราหวังว่าเราจะสร้างเทรนด์ใหม่" ชินดงพูดถึงการเน้นแนวลาตินอเมริกา "เราไม่ตามใคร เรารักษาความเป็นเรา เป็นซูเปอร์จูเนียร์"
อีทึก: "เราพัฒนาไปในทางที่จะเป็นหลุยส์ วิตตอง สำหรับผู้ฟังเฉพาะกลุ่ม มีระดับขึ้น นั่นคือเป้าหมายของเรา" และดูเหมือนวิธีการนี้จะได้ผล Lo siento ทำสถิติใหม่เป็นเอ็มวีที่มีผู้ชมมากที่สุดของวง นับจากความสำเร็จของ Mamacita ที่เป็นเพลงแรกในแนวสแปนิชเมื่อปี 2014
SJ ก้าวต่อไปข้างหน้า ทำเพลงที่มีอิทธิพลต่ออนาคตของเคป๊อป โดยยังคงสร้างสรรค์ดนตรีเพื่อแฟนๆ และไม่ทิ้งอัตลักษณ์ของตนเอง "เราไม่อยากลอกคนอื่น หรือพยายามทำอะไรฉีกแนวออกไป" เยซอง (คิมจงอุน) หนึ่งในเมนร้องของวงกล่าว "เราแค่อยากให้SJ ทำสิ่งที่ทำอยู่ในตอนนี้"
https://www.forbes.com/sites/tamarherman/2018/07/15/super-juniors-push-into-latin-america-continues-the-groups-legacy-as-industry-innovators/#2f730ac46cae
ในบทความเรียก SJ ว่า "เป็นแบรนด์ มากกว่าแบนด์" คือไม่ใช่แค่วง แต่เป็นเครื่องหมายการค้าแล้ว และเมมเบอร์มีความสามารถหลากหลาย จะตัดตอนมาเฉพาะคำตอบของเมมเบอร์ เกี่ยวกับแนวเพลง
Super Junior's Push Into Latin America Continues The Group's Legacy As Industry Innovators
More of a brand than a band
ลีดเดอร์ อีทึก (ปาร์คจองซู) กล่าวว่า พวกเขาใช้เวลานานมากตลอดระยะเวลาที่ทำงานมา เพื่อตีโจทย์ที่จะ "หาวิธีที่แตกต่าง เพื่อเข้าถึงแฟนๆ แต่ละกลุ่มผ่านทางโปรเจคที่ไม่เหมือนกัน" และพวกเขายังไม่คิดจะหยุด ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมในปีนี้ อุตสาหกรรมเพลงเกาหลี จึงผลักดันตัวเองเข้าสู่ดินแดนใหม่ล่าสุด: ลาตินอเมริกา
การเจาะเข้าสู่ตลาดใหม่ เป็นงานถนัดของ SJ อยู่แล้ว พวกเขาไปมาทั่วโลก และทำเพลงอย่างน้อยห้าภาษา "เราอยากเป็นสะพาน เราอยากเป็นพื้นฐาน และเป็นนักบุกเบิกให้โลกรวมกันได้ด้วยเสียงเพลง" ชเว ซีวอนกล่าว "เราคิดว่าผู้คนเปิดกว้างขึ้น และรู้จักชื่นชมคนจากชาติพันธุ์อ่ื่นที่มีมรดก (ทางวัฒนธรรม) แตกต่างกัน นั่นคือวิถีทางที่คนยุคนี้ฟังเพลงกัน"
"เราหวังว่าเราจะสร้างเทรนด์ใหม่" ชินดงพูดถึงการเน้นแนวลาตินอเมริกา "เราไม่ตามใคร เรารักษาความเป็นเรา เป็นซูเปอร์จูเนียร์"
อีทึก: "เราพัฒนาไปในทางที่จะเป็นหลุยส์ วิตตอง สำหรับผู้ฟังเฉพาะกลุ่ม มีระดับขึ้น นั่นคือเป้าหมายของเรา" และดูเหมือนวิธีการนี้จะได้ผล Lo siento ทำสถิติใหม่เป็นเอ็มวีที่มีผู้ชมมากที่สุดของวง นับจากความสำเร็จของ Mamacita ที่เป็นเพลงแรกในแนวสแปนิชเมื่อปี 2014
SJ ก้าวต่อไปข้างหน้า ทำเพลงที่มีอิทธิพลต่ออนาคตของเคป๊อป โดยยังคงสร้างสรรค์ดนตรีเพื่อแฟนๆ และไม่ทิ้งอัตลักษณ์ของตนเอง "เราไม่อยากลอกคนอื่น หรือพยายามทำอะไรฉีกแนวออกไป" เยซอง (คิมจงอุน) หนึ่งในเมนร้องของวงกล่าว "เราแค่อยากให้SJ ทำสิ่งที่ทำอยู่ในตอนนี้"
https://www.forbes.com/sites/tamarherman/2018/07/15/super-juniors-push-into-latin-america-continues-the-groups-legacy-as-industry-innovators/#2f730ac46cae
แสดงความคิดเห็น
คิดว่า SM จะแก้เกมด้านผลงานเพลงในปีนี้ได้ไหม
อย่าง YG ที่จุดแข็งยังคงเป็นดิจิตอล ทำ PAK ไปได้ถึง 3 เพลง และ 2 ใน 3 เป็นตัวเต็งเพลงแห่งปี 2018 ได้เลย
ด้าน JYP ทไวซ์เองทำผลงานได้ดีครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ ดิจิตอล ยอดขายอัลบั้มอยู่ในระดับดีเยี่ยม และ Got7 ที่แม้จะไม่ได้ประสบความสำเร็จด้านดิจิตอลแต่กลับได้ไปไกลถึงฝั่งอเมริกา ได้ออกรายการดังๆที่นั่น ซึ่งก็คือผลงานที่น่าชื่นชมอีกอย่างหนึ่ง
แต่เมื่อมองกลับไปที่ SM ส่งมาแล้วแทบจะทุกเบอร์ แต่กลับมีแค่ Red velvet ที่ทำผลงานได้ในระดับดีแต่ไม่มากพอจะฟาดฟันกับอีก 2 ค่าย ด้านยอดอัลบั้ม NCT ก็ดีขึ้นแต่ไม่มีผลงานเพลงที่โดดเด่นเลย EXO-CBX ก็ยังคงรักษามาตราฐานของตัวเองอัลบั้มดี แต่ดิจิตอลไม่ดีเท่าไหร่ ส่วนศิลปินอื่นๆในค่ายผลงานก็บอกว่าไม่ได้การตอบรับในระดับดีเลย Shinee ดรอปลงจากเดิมไปเยอะมาก ว่าปีที่แล้วดรอปแล้วปีนี้หนักเข้าไปอีก
Gaon เพลงประจำเดือน 7 เดือน SM ก็ชวดหมด
SM ปีนี้ในต่างประเทศเองไม่ได้เด่นเลย จะมีแต่ไทยที่ยังทรงๆรักษาความนิยมไว้ได้อยู่ ตั้งแต่ปัญหาจีน-เกาหลี คิดว่ากระทบ SM เยอะระดับหนึ่งเลยเพราะหลังๆมาเหมือน SM จะไปจับตลาดจีนมากกว่าบุกญี่ปุ่น จะไปทางญี่ปุ่นตอนนี้ก็เหมือนไปเริ่มต้นกันใหม่อีก (เว้นดงบังชินกิที่มีฐานแน่นที่นั่นแล้ว) ตลาดหลักของ SM ช่วงที่ผ่านมาจึงเหมือนอยู่ที่เกาหลี แต่ปีนี้ไม่สามารถรักษาระดับผลงานที่เกาหลีไว้ได้อีกจึงเหมือนถูกกลืนหายไปกับหลายๆคลื่นที่ซัดเข้ามา
คิดว่าอีก 5 เดือนที่เหลือ SM จะแก้เกมอย่างไรเพื่อพลิกสถานการณ์ที่เป็นอยู่ การคัมแบคในครึ่งปีหลังของ Red Velvet และ Exo จะได้มากน้อยแค่ไหน ความจริงอยากให้ SM ส่ง New GG มาเติมสีสันในครึ่งปีหลังนี้แล้วมันน่าจะส่งให้ SM ถูกจับตามากขึ้นได้
รู้สึกว่าการตลาดของ SM เริ่มดรอปตั้งแต่หันไปทำสารพัดธุรกิจ ความสนใจในการทำงานเพลงมันเริ่มลดลงจริงๆ
[code]จากสแตนคนหนึ่งที่โคตรเป็นห่วงสถานการณ์ด้านงานเพลงของค่ายเลย[/code]