สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 34
เข้ามากระทู้นี้ตั้งแต่กระทู้ตั้งใหม่ๆยังไม่มีความเห็นเลย ปีที่แล้วไปธุระที่มาเลเซียขากลับได้เดินทางร่วมเที่ยวบินเดียวหญิงไทยจำนวนห้าคนที่จากการพูดคุยของพวกเขาเองทำให้รู้ว่ามาทำงานแบบผิดกฏหมายค้าประเวณีในมาเลเซียแล้วถูกจับติดคุก เพิ่งพ้นโทษและถูกส่งกลับโดยเที่ยวบินนี้แหละ เราก็รอให้เจ้าของกระทู้โพสให้หมดอยู่นะ เราจะได้มาแชร์ประสบการณ์ที่เราไม่อยากเจอถ้าเลือกได้ในอนาคตและคงลืมไม่ลงไปอีกนาน
เราไม่ได้ดูถูกในอาชีพแม้จะเป็นอาชีพค้าประเวณีก็เถอะ เราถือว่าทุกคนมีสิทธิ์จะเลือกชีวิตตัวเองแต่ก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเลือกไปแล้ว
อ่านความเห็นของเจ้าของกระทู้ทำไมมันให้ความรู้สึกว่าเจ้าของกระทู้เป็นผู้ถูกกระทำทั้งๆที่ก็รู้ว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่มันผิดกฏหมาย
คนที่โดยปฏิเสธการให้เข้าเมืองที่รอส่งกลับ คนพวกนั้นยังไม่มีความผิดใดๆด้วยซ้ำก็ยังต้องถูกควบคุม แต่กรณีของเจ้าของกระทู้นี้มีความผิดฐานหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน และยังค้าประเวณีซึ่งเป็นความผิดรุนแรงในประเทศศาสนาอิสลามด้วย
คุณกระทำความผิด คุณคือผู้ต้องหา ตมกับตำรวจเขาทำหน้าที่ของเขาก็ถูกต้องแล้ว ขั้นตอนต่างๆก็ไม่ได้ต่างจากประเทศอื่นเลย แม้แต่ประเทศไทย การสอบสวนหลายๆชั่วโมง การใส่กุญแจมือ การขังรวม ก็เหมือนกันหมด แต่เจ้าของกระทู้เรียกคนที่ทำหน้าที่ของเขาว่ามันและโพสในลักษณะเหมือนตัวเองถูกกระทำ มันคืออะไร มันคือเจ้าของกระทู้ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองทำผิดหรือเปล่า ผลมันเกิดจากเหตุไม่ใช่หรือ
ตอนที่ประสบเจอบนเครื่องบิน ฉันก็ไม่คิดเหมารวมนะว่าจะเหมือนกันทุกคน แต่เจอทัศนคติและนิสัยที่เจ้าของกระทู้เผยออกมาล่าสุดนี่ ทำไมมันเหมือนกันจังเลย
มาโพสให้จบนะคะ แล้วเราจะเล่าบ้างว่าการร่วมทริปในเวลาสองชั่วโมงนิดๆกับคนไทยห้าคนที่นั่งแถวหลังและตรงข้างมันนรกขนาดไหนสำหรับเรา
เราไม่ได้ดูถูกในอาชีพแม้จะเป็นอาชีพค้าประเวณีก็เถอะ เราถือว่าทุกคนมีสิทธิ์จะเลือกชีวิตตัวเองแต่ก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเลือกไปแล้ว
อ่านความเห็นของเจ้าของกระทู้ทำไมมันให้ความรู้สึกว่าเจ้าของกระทู้เป็นผู้ถูกกระทำทั้งๆที่ก็รู้ว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่มันผิดกฏหมาย
คนที่โดยปฏิเสธการให้เข้าเมืองที่รอส่งกลับ คนพวกนั้นยังไม่มีความผิดใดๆด้วยซ้ำก็ยังต้องถูกควบคุม แต่กรณีของเจ้าของกระทู้นี้มีความผิดฐานหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน และยังค้าประเวณีซึ่งเป็นความผิดรุนแรงในประเทศศาสนาอิสลามด้วย
คุณกระทำความผิด คุณคือผู้ต้องหา ตมกับตำรวจเขาทำหน้าที่ของเขาก็ถูกต้องแล้ว ขั้นตอนต่างๆก็ไม่ได้ต่างจากประเทศอื่นเลย แม้แต่ประเทศไทย การสอบสวนหลายๆชั่วโมง การใส่กุญแจมือ การขังรวม ก็เหมือนกันหมด แต่เจ้าของกระทู้เรียกคนที่ทำหน้าที่ของเขาว่ามันและโพสในลักษณะเหมือนตัวเองถูกกระทำ มันคืออะไร มันคือเจ้าของกระทู้ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองทำผิดหรือเปล่า ผลมันเกิดจากเหตุไม่ใช่หรือ
ตอนที่ประสบเจอบนเครื่องบิน ฉันก็ไม่คิดเหมารวมนะว่าจะเหมือนกันทุกคน แต่เจอทัศนคติและนิสัยที่เจ้าของกระทู้เผยออกมาล่าสุดนี่ ทำไมมันเหมือนกันจังเลย
มาโพสให้จบนะคะ แล้วเราจะเล่าบ้างว่าการร่วมทริปในเวลาสองชั่วโมงนิดๆกับคนไทยห้าคนที่นั่งแถวหลังและตรงข้างมันนรกขนาดไหนสำหรับเรา
ความคิดเห็นที่ 29
ผมติดตามที่คุณเล่านะ เพราะอยากรู้ว่าคุกในมาเลเซียเป็นยังไง กฎหมาย โทษ หรือเจ้าหน้าที่บ้านเค้าเป็นยังไง
แต่ที่ผมรู้สึกหน่อยนึงคือ จขกท. คุณเป็นคนพูดจาไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ คือพร้อมเหวี่ยง พร้อมด่าทุกคน
ที่นี่บอร์ดสาธารณะ การที่มีคนคิดเห็นต่างกันเข้ามาในกระทู้มันเป็นเรื่องปกติ
คุณสามารถตอบแบบ "ดีๆ" ได้นะครับ ไม่ต้องจิกต้องแขวะใคร
การตอบคอมเม้นของคุณบ่งบอกถึงอารมณ์ที่คุกรุ่นและดูก้าวร้าวมาก บอกตรงๆ
ป.ล.แต่ผมก็ยังรออ่านนะ เพราะเรื่องของคุณน่าสนใจ เป็นอุทธาหรณ์กับคนอื่นได้ดี ถ้าคุณตัดเรื่องความเกรี้ยวกราดออกบ้าง
แต่ที่ผมรู้สึกหน่อยนึงคือ จขกท. คุณเป็นคนพูดจาไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ คือพร้อมเหวี่ยง พร้อมด่าทุกคน
ที่นี่บอร์ดสาธารณะ การที่มีคนคิดเห็นต่างกันเข้ามาในกระทู้มันเป็นเรื่องปกติ
คุณสามารถตอบแบบ "ดีๆ" ได้นะครับ ไม่ต้องจิกต้องแขวะใคร
การตอบคอมเม้นของคุณบ่งบอกถึงอารมณ์ที่คุกรุ่นและดูก้าวร้าวมาก บอกตรงๆ
ป.ล.แต่ผมก็ยังรออ่านนะ เพราะเรื่องของคุณน่าสนใจ เป็นอุทธาหรณ์กับคนอื่นได้ดี ถ้าคุณตัดเรื่องความเกรี้ยวกราดออกบ้าง
ความคิดเห็นที่ 51
มาเล่าตามสัญญาค่ะขอโทษที่มาช้านะคะ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เดินทางแล้วเจอกับผู้โดยสารโดนส่งกลับนะคะ และเรื่องที่สองคือเรากับพี่น้องเวลคุยกันก็ใช่ภาษาพ่อขุนนะคะ และเราเดินทางด้วยโลคอสค่อนข้างบ่อยเจอประสบการณ์มาทุกรูปแบบที่สามารถเจอได้ในโลคอสมาหมดแล้วค่ะ
เราเดินทางจากมาเลเซียมาไทยด้วยสายการบินแอร์เอเชียไฟล์ทเกือบๆทุ่มที่โน่น ตอนเราขึ้นเครื่องมาก็เจอผู้โดยสารแถวหลังเรานั่งอยู่ห้าคนคือ A,B,C,D,E เรียงกันไปเลย ส่วนแถวอื่นๆยังว่าง เราขึ้นเครื่องมาเป็นกลุ่มแรกค่ะ
ตอนแรกไม่ได้สนใจอะไรค่ะ จนกระทั่งเข้าที่นั่งเรียบร้อยก็ได้ยินเขาคุยกัน เผอิญคนที่เป็นหัวหน้ากลุ่มนั่งข้างหลังเราพอดีเลยค่ะ จากที่เขาคุยกันก็ได้รู้ว่าเขาเพิ่งออกจากคุกและมีคนส่งเขามาขึ้นเครื่องเพื่อออกนอกประเทศ รายละเอียดจำไม่ได้มากแต่เขาคุยกันเรื่องติดคุก ก็ด่าเจ้าหน้าที่เหมือนกระทู้นี้เลย หลังจากนั้นก็โทรศัพท์หลายรอบโดยพูดภาษาไทยค่ะ
สิ่งที่บอกว่าเป็นนรกก็คือภาษาและการพูดจาของพวกเขามันหยาบมากค่ะและก็เป็นเรื่องใต้สะดือซะเป็นส่วนใหญ่ ใช้คำตรงๆเลย เขาพูดถึงรายได้ที่เสียไปเพราะติดคุก แล้วก็พูดถึงว่าได้เงินจากแขกที่สนใจเขามาเท่าไหร่
หลังจากนั้นเขาก็พูดถึงว่าถ้าไปถึงก่อนสี่ทุ่มก็ดีสิเพราะจะไปทันรถไปหาดใหญ่ ถ้าไม่ทันต้องหาที่นอนรอวันรุ่งขึ้น คือว่าเขาจะไปหาดใหญ่เพื่อหาทางกลับเข้าไปมาเลย์เซียอีก เขาพูดถึงบอสเหมือนกระทู้นี้เลย ประมาณว่าติดต่อให้มารับที่ด่านอะไรแบบนี้ สรุปว่าไฟล์ทนั้นดีเลย์ถึงกทมเกือบห้าทุ่มค่ะ
เราไม่ชอบมากๆคือเขาพูดกันตั้งแต่ก่อนเครื่องขึ้นยังเครื่องแลนดิ้ง เราหลับไม่ได้เลยแถมเราต้องฟังคำพูดที่มันหยาบคายระคายหูตลอดทาง คือว่ามันเป็นคำพูดที่เขาไม่พูดกันในที่สาธารณะค่ะ
ที่สำคัญ วันที่เดินทางคือ 25 ตุลาคม 2560 ค่ะ ตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่องที่ต้องทนฟังอยู่นั้นมันมีคำถามว่า คนพวกนี้เขารู้ไหมว่าวันรุ่งขึ้นวันอะไร วันนั้นไฟล์ทเต็มนะคะ เกินครึ่งของผู้โดยสารแต่งดำค่ะ คนไทยทั้งหมดแต่งดำ พวกเขาไม่ได้แต่งดำแต่ก็ไม่ได้แต่งตัวน่าเกลียดค่ะ
เราก็ไม่รู้ว่าทั้งห้าคนหาทางกลับเข้ามาเลย์เซียสำเร็จไหมนะคะ แต่เหตุการณ์นี้เราไม่ลืมเลยค่ะ มันนรกสำหรับเรามากสองชั่วโมงกว่าๆตรงนั้น จำความรู้สึกตัวเองได้แม่น ไฟล์ทนั้นผู้โดยสารอื่นๆเงียบกันหมดค่ะรอบๆเรา มันอึมครึมปนอึดอัดค่ะ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เดินทางแล้วเจอกับผู้โดยสารโดนส่งกลับนะคะ และเรื่องที่สองคือเรากับพี่น้องเวลคุยกันก็ใช่ภาษาพ่อขุนนะคะ และเราเดินทางด้วยโลคอสค่อนข้างบ่อยเจอประสบการณ์มาทุกรูปแบบที่สามารถเจอได้ในโลคอสมาหมดแล้วค่ะ
เราเดินทางจากมาเลเซียมาไทยด้วยสายการบินแอร์เอเชียไฟล์ทเกือบๆทุ่มที่โน่น ตอนเราขึ้นเครื่องมาก็เจอผู้โดยสารแถวหลังเรานั่งอยู่ห้าคนคือ A,B,C,D,E เรียงกันไปเลย ส่วนแถวอื่นๆยังว่าง เราขึ้นเครื่องมาเป็นกลุ่มแรกค่ะ
ตอนแรกไม่ได้สนใจอะไรค่ะ จนกระทั่งเข้าที่นั่งเรียบร้อยก็ได้ยินเขาคุยกัน เผอิญคนที่เป็นหัวหน้ากลุ่มนั่งข้างหลังเราพอดีเลยค่ะ จากที่เขาคุยกันก็ได้รู้ว่าเขาเพิ่งออกจากคุกและมีคนส่งเขามาขึ้นเครื่องเพื่อออกนอกประเทศ รายละเอียดจำไม่ได้มากแต่เขาคุยกันเรื่องติดคุก ก็ด่าเจ้าหน้าที่เหมือนกระทู้นี้เลย หลังจากนั้นก็โทรศัพท์หลายรอบโดยพูดภาษาไทยค่ะ
สิ่งที่บอกว่าเป็นนรกก็คือภาษาและการพูดจาของพวกเขามันหยาบมากค่ะและก็เป็นเรื่องใต้สะดือซะเป็นส่วนใหญ่ ใช้คำตรงๆเลย เขาพูดถึงรายได้ที่เสียไปเพราะติดคุก แล้วก็พูดถึงว่าได้เงินจากแขกที่สนใจเขามาเท่าไหร่
หลังจากนั้นเขาก็พูดถึงว่าถ้าไปถึงก่อนสี่ทุ่มก็ดีสิเพราะจะไปทันรถไปหาดใหญ่ ถ้าไม่ทันต้องหาที่นอนรอวันรุ่งขึ้น คือว่าเขาจะไปหาดใหญ่เพื่อหาทางกลับเข้าไปมาเลย์เซียอีก เขาพูดถึงบอสเหมือนกระทู้นี้เลย ประมาณว่าติดต่อให้มารับที่ด่านอะไรแบบนี้ สรุปว่าไฟล์ทนั้นดีเลย์ถึงกทมเกือบห้าทุ่มค่ะ
เราไม่ชอบมากๆคือเขาพูดกันตั้งแต่ก่อนเครื่องขึ้นยังเครื่องแลนดิ้ง เราหลับไม่ได้เลยแถมเราต้องฟังคำพูดที่มันหยาบคายระคายหูตลอดทาง คือว่ามันเป็นคำพูดที่เขาไม่พูดกันในที่สาธารณะค่ะ
ที่สำคัญ วันที่เดินทางคือ 25 ตุลาคม 2560 ค่ะ ตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่องที่ต้องทนฟังอยู่นั้นมันมีคำถามว่า คนพวกนี้เขารู้ไหมว่าวันรุ่งขึ้นวันอะไร วันนั้นไฟล์ทเต็มนะคะ เกินครึ่งของผู้โดยสารแต่งดำค่ะ คนไทยทั้งหมดแต่งดำ พวกเขาไม่ได้แต่งดำแต่ก็ไม่ได้แต่งตัวน่าเกลียดค่ะ
เราก็ไม่รู้ว่าทั้งห้าคนหาทางกลับเข้ามาเลย์เซียสำเร็จไหมนะคะ แต่เหตุการณ์นี้เราไม่ลืมเลยค่ะ มันนรกสำหรับเรามากสองชั่วโมงกว่าๆตรงนั้น จำความรู้สึกตัวเองได้แม่น ไฟล์ทนั้นผู้โดยสารอื่นๆเงียบกันหมดค่ะรอบๆเรา มันอึมครึมปนอึดอัดค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ประสบการณ์ติดคุกที่มาเลเซีย