สวัสดีครับ
วันนี้จะมาขอต่อจากกระทู้ที่แล้ว (
https://ppantip.com/topic/37875346 ) นะครับ
กระทู้นี้คาดว่า น่าจะรวบรีวิวประเทศโคโซโวและประเทศบัลกาเรียได้จบพอดี
ความเดิมต่อจากตอนที่แล้ว หลังจากกลับไปฐานที่มั่น คือ Budapest พักสองสามวัน
ตอนนี้จะนั่งสายการบิน wizz air ตรงไปยังจุดหมายถัดไป คือ Prishtinë (Pristina) ประเทศโคโซโวครับ
จะเริ่มนับวันเป็นวันที่ 1 ใหม่นะครับ เนื่องจากมีการตัดทริปออกเป็นสองท่อน ไม่ต่อเนื่องกัน
แผนการเดินทางเดิมที่วางแผนไว้แต่แรกจะเป็น
Pristina -> Skopje (Macedonia) -> Ohrid -> Skopje -> Sofia -> Plovdiv -> Sofia และบินจาก Sofia ไปประเทศ Cyprus ต่อไป
แต่ที่ไปมาจริงๆ เนื่องจากตัดประเทศ Macedonia ออก และเลือกบินอ้อมจาก Pristina (transit ที่ Istanbul) ไปยัง Sofia เลย ทำให้มีเวลาที่ทั้งประเทศ Kosovo และ Bulgaria เพิ่มขึ้น โปรแกรมที่ไปมาจึงเปลี่ยนเป็น
Pristina -> Prizren -> Pristina -> Sofia -> Rila Monastery -> Seven Rila Lakes (เนื่องจากดูพยากรณ์อากาศ มีพายุฝนจึงไม่ได้ไป) -> Plovdiv -> Sofia และบินออกครับ
เริ่มนะครับ วันที่ 1 บินจาก Budapest เย็นๆ ค่ำๆ ถึง Pristina, Kosovo ประมาณ 3 ทุ่ม
สนามบิน Pristina จะไม่มี public transport ใดๆ ทั้งสิ้นนะครับ จะเข้าเมืองต้องไป taxi เท่านั้น ซึ่งผมก็ได้บอกให้ทาง hostel คือ Prishtina Center Hostel ส่งแท็กซี่มารับเลย สนนราคา 15 ยูโรครับ ซึ่งตามเวบ wikitravel ก็บอกว่าราคานี้เป็นราคากลางครับ
ที่พัก : Prishtina Center Hostel (สะกด Pristina ต่างจากชื่อภาษาอังกฤษของเมือง แต่ตรงตามคำอ่านจริงครับ)
เป็น hostel ห้องถูกสุดคืนละ 10 Euros ต่อเตียง
มี locker ให้ และมีผ้าม่านปิดเตียงให้ความเป็นส่วนตัวด้วยครับ
ห้องน้ำ มีห้องนึงไม่ค่อยสะอาด อีกสองห้องสะอาดดีครับ มีเครื่องซักผ้าให้ใช้สำหรับคนเดินทางนานๆและต้องซักผ้า
ที่ตั้งของ hostel อยู่บนถนนคนเดินหลักของเมือง คือ Bulevardi Nënë Tereza ตั้งชื่อตามแม่ชีเทเรซ่าครับ
มีรูปปั้นแม่ชีเทเรซ่าอยู่บนถนนนี้
ท้าวความนิดทำไมต้องมีแม่ชีเทเรซ่าในประเทศนี้ ทั้งที่แม่ชีเทเรซ่าเกิดที่ประเทศ Macedonia
สาเหตุเพราะ ประเทศนี้ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชนชาติ Albania และแม่ชีเทเรซ่าก็เป็นคนเชื้อชาติ Albania (ผสมอินเดีย) เช่นกันครับ
วันที่ 1 เข้าที่พักก็นอนเลยครับ จบนะครับ
วันที่ 2 ไป join free walking tour หน้า theatre เยื้อง hostel ไปหน่อย เริ่ม 11 โมงเช้า เขาพอเดินไปดู landmark ต่างๆ
แต่อย่าคาดหวังมากครับ ประเทศ Balkans ไม่ได้มี old town และ monument ที่สวยน่าถ่ายรูปไปหมดเหมือนยุโรปกลางและยุโรปตะวันตก
ถ้าไม่คาดหวังมากก็จะไม่ผิดหวังครับ ก็จะพบว่ามีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปอยู่บ้างเหมือนกัน
หลังจากจบ walking tour ประมาณบ่ายโมง จริงๆผมจะไปดู monastery หรืออุทยานแห่งชาติต่างๆนอกเมืองก็ได้ แต่เนื่องจากไม่ได้สนใจมากนัก จึงเดินไปทานข้าวเที่ยงแล้วกลับไปนอนเล่นที่ hostel และ line คุยกับที่บ้านครับ
ร้านที่ไปทานข้าวเที่ยงคือ
Restaurant Liburnia ที่ทาง hostel แนะนำมาครับ และยังเป็นร้านที่ได้รับการโหวตเป็นอันดับ 2 บนเวบ tripadvisor ด้วย (ส่วนอันดับ 1 เป็นร้านอาหารกรีกครับ จึงแนะนำร้านนี้มากกว่าสำหรับอาหาร Kosovo)
อาหารกลางวันที่เลือกคือ Veal meat with potatoes เพราะพาลนึกไปถึงรสชาติไส้กรอกเนื้อลูกวัวของเยอรมันเลยนึกอยากกินเนื้อลูกวัวครับ
รูปครับ
ผลปรากฎว่า รสชาติออกงั้นๆครับ ออกจะฝืดคอและน่าเบื่อไปด้วย เพราะเนื้อลูกวัวมาแบบ well done และไม่ได้มีรสชาติอะไรพิเศษ มันฝรั่งก็เยอะจนกินไม่หมด แต่ยังดีที่ราคาแค่ 5.50 Euros ครับ
แต่ก็กลับไปให้โอกาสร้านนี้ใหม่ในเวลาอาหารเย็นครับ โดยเลือกสั่งเป็นเมนู minced meat เพราะมีประสบการณ์ที่ดีกับการกินเนื้อสับแถว Balkans มาก่อนครับ ว่าอร่อยมากๆ (เคยกิน Ćevapi ที่ Sarajevo อร่อยมากๆ)
ชื่อเมนูที่สั่งคือ Burger Liburnia
รูปครับ
เมนูนี้ราคาแค่ 7 Euros เท่านั้น และผลคือ เป็นมื้อที่อร่อยที่สุดของทริปเลยครับ เนื้อชุ่มฉ่ำมากๆ และมีซอสที่ให้รสอูมามิเพิ่มอีก อร่อยมากๆ
เสิร์ฟมาพร้อมกับมันฝรั่งและเส้น tagliatelle ที่ชุ่มซอส อร่อยสุดๆ
วันที่ 3 ไป Prizren โดยต้องนั่งรถไปจากสถานีรถบัส ซึ่งจะอยู่นอกเมืองนิดนึงครับ ถ้าเดินก็เหนื่อย แต่สามารถนั่งรถเมล์ (ถามสายรถเมล์จากที่พักเอานะครับ ผมลืมไปแล้ว) จากข้าง Bulavardi Nënë Tereza ไปยังบล็อคใกล้ๆได้ เดินไปอีกบล็อคหนึ่งก็จะถึงสถานีรถบัสครับ ถ้าเดินไม่ถูกทาง ถามคนแถวนั้นว่า Stacioni Autobusva ครับ ค่ารถเมล์ 40 cents ครับ
ค่ารถไป Prizren 3-4 Euros ครับ ขาไปผมจ่าย 3 Euros ขากลับ 4
เมือง Prizren ก็สวยดีครับ แต่ผมหลงทางก่อนจะไปเจอโซน tourist ที่สวยๆซะนาน เลยหมดอารมณ์ ถ่ายรูปไปนิดเดียว ไปนั่งจิบกาแฟแล้วกลับ 555
อาหารกลางวันที่เมือง Prizren คือ Börek (จำไม่ได้แล้วแถวนั้นสะกดคำนี้ยังไง) ซึ่งเป็นของอร่อยอีกอย่างของภูมิภาค Balkans และไม่ควรพลาดครับ
Börek คือแป้ง puff pastries ที่ใส่ใส้ชนิดต่างๆแล้วอบ แน่นอนว่าใส้ที่อร่อยที่สุดคือใส้เนื้อสับครับ
รูปครับ
มื้อนี้ 80 cents เท่านั้น จขร แถม Ayran (โยเกิร์ตผสมน้ำและเกลือสำหรับดื่ม) ให้ด้วย
ส่วนตอนเย็นไม่ได้ทานของอร่อยครับ เพราะฝนตก เลยไม่ได้เดินไปร้าน Liburnia แต่กินร้าน tourist trap แถวๆที่พัก รสชาติน่าผิดหวังมาก
วันที่ 4 ออกไปสนามบินแต่เช้า ค่า taxi 13 Euros โดยทาง hostel จองแท็กซี่ให้
อย่างที่บอก บินอ้อมไป Istanbul กว่าจะมาถึง Sofia, Bulgaria ก็เย็นๆครับ
อาหารกลางวัน ทานบนเครื่อง ส่วนอาหารเย็นเป็น Börek ร้านบ้านๆที่เดินผ่านครับ เนื่องจากขี้เกียจออกไปหาของกิน ไม่มีรูปนะครับ
ที่พักคือ The Eye/Top Center (ชื่อใน google maps เขียนตามนี้ครับ) เป็นห้องเดี่ยวที่ราคา 15 Euros ต่อคืนเท่านั้น ถูกมากๆ แต่ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมครับ ข้อเสียคือ พนักงานไม่ค่อยบริการเท่าไหร่ จะให้จอง day tour ให้ก็ไม่ยอมทำ
ข้อดีคือ อยู่ใกล้สถานี metro ใจกลางเมืองครับ คือสถานี Serdika ซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างสายรถ metro สองสาย
สามารถนั่งรถต่อเดียวมาจากสนามบินได้เลยครับ
วันที่ 5 ไป Rila Monastery ซึ่งตามข้อมูลที่หาได้บนเนท มีรถ bus ไปแค่วันละเที่ยว และกลับแค่วันละเที่ยวครับ
เนื่องจากมีรถแค่วันละเที่ยว มีความไม่แน่นอนสูง จึงตัดสินใจซื้อ day tour ของบริษัท traventuria ครับ ทัวร์ไป Rila Monastery + Boyana Church (มรดกโลก) มีออกทุกวันครับ และราคาทัวร์คือ 30 Euros (แต่ประเทศ Bulgaria ไม่ได้ใช้เงินยูโรนะครับ ใช้ Leva ซึ่งมีมูลค่าประมาณครึ่งยูโร)
ผลคือ ผิดหวังกับ Boyana church (เล็ก ผุๆพังๆ และห้ามถ่ายรูป) แต่สมหวังกับ Rila Monastery ครับ สวยเหมือนรูปใน google เลย
อาหารกลางวัน ทานที่ร้านที่ Rila Monastery เลย มีอยู่ร้านเดียวครับ
ทำตามคำแนะนำบนเวบ traventuria คือสั่งปลา trout
ซึ่งผมว่างั้นๆ และน้อยไปหน่อย จึงสั่งโยเกิร์ตใส่น้ำผึ้งและวอลนัท เพิ่มครับ ซึ่งโยเกิร์ตใส่น้ำผึ้งและวอลนัทนี้ ดูจะเป็นวิธีกินโยเกิร์ตแบบมาตรฐานของประเทศบัลกาเรียครับ เพราะเจอหลายร้าน (และอร่อยทุกร้าน) ครับ
อาหารเย็น ทานที่ร้าน Hadjidraganovite kashti (хаджидрагановите къщи)
เวบเมนูของร้านครับ
https://www.kashtite.com/en/menu
ร้านนี้อยู่ใกล้สถานี metro Lion's Bridge ซึ่งอยู่เหนือ Serdika ไปหนึ่งสถานีครับ และเป็นหนึ่งในร้านดังบน tripadvisor
ซึ่งราคาก็จะสูงนิดนึง สูงผิดกับราคาอาหารง่ายๆทั่วๆไปใน Bulgaria ราคาเทียบเท่า western Europe ครับ แต่ผมคิดว่าร้านนี้ใช้ได้ ถ้าเลือกเมนูสั่งดีๆ
สั่ง cold starter ที่เป็นมะเขือบดกับมะเขือเทศมาเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย อร่อยครับจานนี้
ส่วนจานหลักเป็น Lamb in oven on St George's way เป็นเนื้อแกะอบทั้งตัว ปกติจะเสิร์ฟกับเครื่องในแกะด้วย แต่ผมสั่งไม่เอา ก็ได้ผักสลัดมาแทน มากับข้าวและซอสที่เรียกว่าซอสนมแต่จริงๆเป็นโยเกิร์ตครับ
ซึ่งผมค่อนข้างเฉยๆครับกับจานนี้ แกะอบมันก็รสชาติเหมือน...แกะ ไม่ได้พิเศษอะไร
วันที่ 6 ตามโปรแกรมตั้งใจจะไป hiking ที่ Seven Rila Lakes ครับ ซึ่งไม่มีรถบัสตรง ต้องเปลี่ยนรถหลายต่อ เลยตัดสินใจจะซื้อทัวร์ไป แต่สุดท้ายตัดสินใจไม่ซื้อ เพราะดูพยากรณ์อากาศแล้วมันเป็นแบบนี้ครับ
วันนี้เลยเดินเที่ยวใน Sofia และนั่งๆนอนๆครับ
อาหารกลางวัน กินที่ร้านดังบน tripadvisor อีกร้าน คือร้าน Avtentichno อยู่ใกล้สถานี metro National Palace of Culture หรือ NDK ครับ ซึ่งอยู่ใต้จาก Serdika ไป 1 สถานี เมนูที่สั่งคือ Tarator (ซุปโยเกิร์ตและแตงกวา โรยผักชีลาว (dill)) และ beef meatball ครับ
Tarator
beaf meatball ซึ่งก็อร่อย แต่ความฉ่ำและรสชาติสู้ Burger Liburnia ในโคโซโวหรือ Ćevapi ในซาราเยโวไม่ได้เลย
อาหารเย็น กินร้าน kashti เหมือนเมื่อวานครับ คราวนี้เลือกสั่งเมนูหมูอบราดเห็ด porcini เสิร์ฟพร้อม hummus เมนูนี้อร่อยกว่าแกะเมื่อวานเยอะเลยครับ
วันที่ 7 เลือกซื้อทัวร์ไป Plovdiv และ Koprivshtitsa เนื่องจากเข้าใจผิด เข้าใจว่ารถบัสไป Plovdiv มีแค่ 2-3 เที่ยวต่อวัน และเวลาก็ไม่ดีมากๆ
แต่เร็วๆนี้มีกระทู้สมาชิกอีกท่านหนึ่ง บอกว่ารถบัสจริงๆมีทั้งวันครับ
Plovdiv ค่อนข้างผิดหวัง รูปบน google ดูเหมือนมีบ้านเก่าๆ สวยๆเยอะกว่านี้
แต่ Koprivshtitsa ทำให้รู้สึกคุ้มครับ เพราะเป็นเมืองที่มาเองยากมากๆ และเมืองนี้ก็สวยมาก เหมือนเป็น open air museum ทั้งเมืองเลย
แต่ราคาทัวร์ 45 Euros ก็ค่อนข้างสูงไปหน่อยครับ ถ้าไป Plovdiv เอง น่าจะถูกกว่านี้เยอะ
อาหารกลางวัน กินแค่สลัดและขนมปังเพราะเวลาไม่พอ
อาหารเย็น คราวนี้ไปลองร้าน Izbata Tavern ครับ ซึ่งอยู่ใกล้กับ Alexander Nevski Cathedral, landmark ของ Sofia
เมนูของร้านครับ
http://izbata.bg/mehana/en/menu/
โดยวันนี้เนื่องจากกลางวันกินน้อย (ส่วนเช้าปกติไม่กินอยู่แล้ว) เลยหิวครับ สั่งอาหารเย็นมา 4 อย่าง
ซุปเห็ด porcini ครับ
ใส่ข้าวมานิดหน่อยด้วย เลยเหมือนข้าวต้มเห็ด อร่อยดี
Stuffed eggplant
with white cheese, tomato sauce, seasoned with olive oil and garlic
อันนี้ไม่ค่อยชอบครับเพราะไม่ชอบซอสมะเขือเทศ
Boyar's Satch
เป็นเนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อลูกวัว อบใน sach ซึ่งเป็นภาชนะทำอาหารแบบ Bulgaria อร่อยดีครับ
และโยเกิร์ตใส่น้ำผึ้งและ walnut เช่นเคยครับ อร่อยเหมือนเดิม
วันที่ 8 วันนี้ว่างครับ มีโปรแกรมคือบินจากสนามบิน Sofia ตอนทุ่มนึง
กลางวันแวะไปกินที่ Izbata tavern เหมือนเมื่อวาน เพราะติดใจที่อร่อยและถูกกว่าร้าน kashti
eggplants dolmas หรือกะหล่ำปลีม้วน ยัดใส่ข้าวและหมูสับ อร่อยมากครับ
รีวิว (เกือบ) ไร้ภาพ โปรตุเกสใต้-Sevilla-Kosovo-Bulgaria-Cyprus-Malta (2) + ภาพอาหารพร้อมรีวิวและแนะนำร้านอาหาร
วันนี้จะมาขอต่อจากกระทู้ที่แล้ว ( https://ppantip.com/topic/37875346 ) นะครับ
กระทู้นี้คาดว่า น่าจะรวบรีวิวประเทศโคโซโวและประเทศบัลกาเรียได้จบพอดี
ความเดิมต่อจากตอนที่แล้ว หลังจากกลับไปฐานที่มั่น คือ Budapest พักสองสามวัน
ตอนนี้จะนั่งสายการบิน wizz air ตรงไปยังจุดหมายถัดไป คือ Prishtinë (Pristina) ประเทศโคโซโวครับ
จะเริ่มนับวันเป็นวันที่ 1 ใหม่นะครับ เนื่องจากมีการตัดทริปออกเป็นสองท่อน ไม่ต่อเนื่องกัน
แผนการเดินทางเดิมที่วางแผนไว้แต่แรกจะเป็น
Pristina -> Skopje (Macedonia) -> Ohrid -> Skopje -> Sofia -> Plovdiv -> Sofia และบินจาก Sofia ไปประเทศ Cyprus ต่อไป
แต่ที่ไปมาจริงๆ เนื่องจากตัดประเทศ Macedonia ออก และเลือกบินอ้อมจาก Pristina (transit ที่ Istanbul) ไปยัง Sofia เลย ทำให้มีเวลาที่ทั้งประเทศ Kosovo และ Bulgaria เพิ่มขึ้น โปรแกรมที่ไปมาจึงเปลี่ยนเป็น
Pristina -> Prizren -> Pristina -> Sofia -> Rila Monastery -> Seven Rila Lakes (เนื่องจากดูพยากรณ์อากาศ มีพายุฝนจึงไม่ได้ไป) -> Plovdiv -> Sofia และบินออกครับ
เริ่มนะครับ วันที่ 1 บินจาก Budapest เย็นๆ ค่ำๆ ถึง Pristina, Kosovo ประมาณ 3 ทุ่ม
สนามบิน Pristina จะไม่มี public transport ใดๆ ทั้งสิ้นนะครับ จะเข้าเมืองต้องไป taxi เท่านั้น ซึ่งผมก็ได้บอกให้ทาง hostel คือ Prishtina Center Hostel ส่งแท็กซี่มารับเลย สนนราคา 15 ยูโรครับ ซึ่งตามเวบ wikitravel ก็บอกว่าราคานี้เป็นราคากลางครับ
ที่พัก : Prishtina Center Hostel (สะกด Pristina ต่างจากชื่อภาษาอังกฤษของเมือง แต่ตรงตามคำอ่านจริงครับ)
เป็น hostel ห้องถูกสุดคืนละ 10 Euros ต่อเตียง
มี locker ให้ และมีผ้าม่านปิดเตียงให้ความเป็นส่วนตัวด้วยครับ
ห้องน้ำ มีห้องนึงไม่ค่อยสะอาด อีกสองห้องสะอาดดีครับ มีเครื่องซักผ้าให้ใช้สำหรับคนเดินทางนานๆและต้องซักผ้า
ที่ตั้งของ hostel อยู่บนถนนคนเดินหลักของเมือง คือ Bulevardi Nënë Tereza ตั้งชื่อตามแม่ชีเทเรซ่าครับ
มีรูปปั้นแม่ชีเทเรซ่าอยู่บนถนนนี้
ท้าวความนิดทำไมต้องมีแม่ชีเทเรซ่าในประเทศนี้ ทั้งที่แม่ชีเทเรซ่าเกิดที่ประเทศ Macedonia
สาเหตุเพราะ ประเทศนี้ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชนชาติ Albania และแม่ชีเทเรซ่าก็เป็นคนเชื้อชาติ Albania (ผสมอินเดีย) เช่นกันครับ
วันที่ 1 เข้าที่พักก็นอนเลยครับ จบนะครับ
วันที่ 2 ไป join free walking tour หน้า theatre เยื้อง hostel ไปหน่อย เริ่ม 11 โมงเช้า เขาพอเดินไปดู landmark ต่างๆ
แต่อย่าคาดหวังมากครับ ประเทศ Balkans ไม่ได้มี old town และ monument ที่สวยน่าถ่ายรูปไปหมดเหมือนยุโรปกลางและยุโรปตะวันตก
ถ้าไม่คาดหวังมากก็จะไม่ผิดหวังครับ ก็จะพบว่ามีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปอยู่บ้างเหมือนกัน
หลังจากจบ walking tour ประมาณบ่ายโมง จริงๆผมจะไปดู monastery หรืออุทยานแห่งชาติต่างๆนอกเมืองก็ได้ แต่เนื่องจากไม่ได้สนใจมากนัก จึงเดินไปทานข้าวเที่ยงแล้วกลับไปนอนเล่นที่ hostel และ line คุยกับที่บ้านครับ
ร้านที่ไปทานข้าวเที่ยงคือ Restaurant Liburnia ที่ทาง hostel แนะนำมาครับ และยังเป็นร้านที่ได้รับการโหวตเป็นอันดับ 2 บนเวบ tripadvisor ด้วย (ส่วนอันดับ 1 เป็นร้านอาหารกรีกครับ จึงแนะนำร้านนี้มากกว่าสำหรับอาหาร Kosovo)
อาหารกลางวันที่เลือกคือ Veal meat with potatoes เพราะพาลนึกไปถึงรสชาติไส้กรอกเนื้อลูกวัวของเยอรมันเลยนึกอยากกินเนื้อลูกวัวครับ
รูปครับ
ผลปรากฎว่า รสชาติออกงั้นๆครับ ออกจะฝืดคอและน่าเบื่อไปด้วย เพราะเนื้อลูกวัวมาแบบ well done และไม่ได้มีรสชาติอะไรพิเศษ มันฝรั่งก็เยอะจนกินไม่หมด แต่ยังดีที่ราคาแค่ 5.50 Euros ครับ
แต่ก็กลับไปให้โอกาสร้านนี้ใหม่ในเวลาอาหารเย็นครับ โดยเลือกสั่งเป็นเมนู minced meat เพราะมีประสบการณ์ที่ดีกับการกินเนื้อสับแถว Balkans มาก่อนครับ ว่าอร่อยมากๆ (เคยกิน Ćevapi ที่ Sarajevo อร่อยมากๆ)
ชื่อเมนูที่สั่งคือ Burger Liburnia
รูปครับ
เมนูนี้ราคาแค่ 7 Euros เท่านั้น และผลคือ เป็นมื้อที่อร่อยที่สุดของทริปเลยครับ เนื้อชุ่มฉ่ำมากๆ และมีซอสที่ให้รสอูมามิเพิ่มอีก อร่อยมากๆ
เสิร์ฟมาพร้อมกับมันฝรั่งและเส้น tagliatelle ที่ชุ่มซอส อร่อยสุดๆ
วันที่ 3 ไป Prizren โดยต้องนั่งรถไปจากสถานีรถบัส ซึ่งจะอยู่นอกเมืองนิดนึงครับ ถ้าเดินก็เหนื่อย แต่สามารถนั่งรถเมล์ (ถามสายรถเมล์จากที่พักเอานะครับ ผมลืมไปแล้ว) จากข้าง Bulavardi Nënë Tereza ไปยังบล็อคใกล้ๆได้ เดินไปอีกบล็อคหนึ่งก็จะถึงสถานีรถบัสครับ ถ้าเดินไม่ถูกทาง ถามคนแถวนั้นว่า Stacioni Autobusva ครับ ค่ารถเมล์ 40 cents ครับ
ค่ารถไป Prizren 3-4 Euros ครับ ขาไปผมจ่าย 3 Euros ขากลับ 4
เมือง Prizren ก็สวยดีครับ แต่ผมหลงทางก่อนจะไปเจอโซน tourist ที่สวยๆซะนาน เลยหมดอารมณ์ ถ่ายรูปไปนิดเดียว ไปนั่งจิบกาแฟแล้วกลับ 555
อาหารกลางวันที่เมือง Prizren คือ Börek (จำไม่ได้แล้วแถวนั้นสะกดคำนี้ยังไง) ซึ่งเป็นของอร่อยอีกอย่างของภูมิภาค Balkans และไม่ควรพลาดครับ
Börek คือแป้ง puff pastries ที่ใส่ใส้ชนิดต่างๆแล้วอบ แน่นอนว่าใส้ที่อร่อยที่สุดคือใส้เนื้อสับครับ
รูปครับ
มื้อนี้ 80 cents เท่านั้น จขร แถม Ayran (โยเกิร์ตผสมน้ำและเกลือสำหรับดื่ม) ให้ด้วย
ส่วนตอนเย็นไม่ได้ทานของอร่อยครับ เพราะฝนตก เลยไม่ได้เดินไปร้าน Liburnia แต่กินร้าน tourist trap แถวๆที่พัก รสชาติน่าผิดหวังมาก
วันที่ 4 ออกไปสนามบินแต่เช้า ค่า taxi 13 Euros โดยทาง hostel จองแท็กซี่ให้
อย่างที่บอก บินอ้อมไป Istanbul กว่าจะมาถึง Sofia, Bulgaria ก็เย็นๆครับ
อาหารกลางวัน ทานบนเครื่อง ส่วนอาหารเย็นเป็น Börek ร้านบ้านๆที่เดินผ่านครับ เนื่องจากขี้เกียจออกไปหาของกิน ไม่มีรูปนะครับ
ที่พักคือ The Eye/Top Center (ชื่อใน google maps เขียนตามนี้ครับ) เป็นห้องเดี่ยวที่ราคา 15 Euros ต่อคืนเท่านั้น ถูกมากๆ แต่ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมครับ ข้อเสียคือ พนักงานไม่ค่อยบริการเท่าไหร่ จะให้จอง day tour ให้ก็ไม่ยอมทำ
ข้อดีคือ อยู่ใกล้สถานี metro ใจกลางเมืองครับ คือสถานี Serdika ซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างสายรถ metro สองสาย
สามารถนั่งรถต่อเดียวมาจากสนามบินได้เลยครับ
วันที่ 5 ไป Rila Monastery ซึ่งตามข้อมูลที่หาได้บนเนท มีรถ bus ไปแค่วันละเที่ยว และกลับแค่วันละเที่ยวครับ
เนื่องจากมีรถแค่วันละเที่ยว มีความไม่แน่นอนสูง จึงตัดสินใจซื้อ day tour ของบริษัท traventuria ครับ ทัวร์ไป Rila Monastery + Boyana Church (มรดกโลก) มีออกทุกวันครับ และราคาทัวร์คือ 30 Euros (แต่ประเทศ Bulgaria ไม่ได้ใช้เงินยูโรนะครับ ใช้ Leva ซึ่งมีมูลค่าประมาณครึ่งยูโร)
ผลคือ ผิดหวังกับ Boyana church (เล็ก ผุๆพังๆ และห้ามถ่ายรูป) แต่สมหวังกับ Rila Monastery ครับ สวยเหมือนรูปใน google เลย
อาหารกลางวัน ทานที่ร้านที่ Rila Monastery เลย มีอยู่ร้านเดียวครับ
ทำตามคำแนะนำบนเวบ traventuria คือสั่งปลา trout
ซึ่งผมว่างั้นๆ และน้อยไปหน่อย จึงสั่งโยเกิร์ตใส่น้ำผึ้งและวอลนัท เพิ่มครับ ซึ่งโยเกิร์ตใส่น้ำผึ้งและวอลนัทนี้ ดูจะเป็นวิธีกินโยเกิร์ตแบบมาตรฐานของประเทศบัลกาเรียครับ เพราะเจอหลายร้าน (และอร่อยทุกร้าน) ครับ
อาหารเย็น ทานที่ร้าน Hadjidraganovite kashti (хаджидрагановите къщи)
เวบเมนูของร้านครับ https://www.kashtite.com/en/menu
ร้านนี้อยู่ใกล้สถานี metro Lion's Bridge ซึ่งอยู่เหนือ Serdika ไปหนึ่งสถานีครับ และเป็นหนึ่งในร้านดังบน tripadvisor
ซึ่งราคาก็จะสูงนิดนึง สูงผิดกับราคาอาหารง่ายๆทั่วๆไปใน Bulgaria ราคาเทียบเท่า western Europe ครับ แต่ผมคิดว่าร้านนี้ใช้ได้ ถ้าเลือกเมนูสั่งดีๆ
สั่ง cold starter ที่เป็นมะเขือบดกับมะเขือเทศมาเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย อร่อยครับจานนี้
ส่วนจานหลักเป็น Lamb in oven on St George's way เป็นเนื้อแกะอบทั้งตัว ปกติจะเสิร์ฟกับเครื่องในแกะด้วย แต่ผมสั่งไม่เอา ก็ได้ผักสลัดมาแทน มากับข้าวและซอสที่เรียกว่าซอสนมแต่จริงๆเป็นโยเกิร์ตครับ
ซึ่งผมค่อนข้างเฉยๆครับกับจานนี้ แกะอบมันก็รสชาติเหมือน...แกะ ไม่ได้พิเศษอะไร
วันที่ 6 ตามโปรแกรมตั้งใจจะไป hiking ที่ Seven Rila Lakes ครับ ซึ่งไม่มีรถบัสตรง ต้องเปลี่ยนรถหลายต่อ เลยตัดสินใจจะซื้อทัวร์ไป แต่สุดท้ายตัดสินใจไม่ซื้อ เพราะดูพยากรณ์อากาศแล้วมันเป็นแบบนี้ครับ
วันนี้เลยเดินเที่ยวใน Sofia และนั่งๆนอนๆครับ
อาหารกลางวัน กินที่ร้านดังบน tripadvisor อีกร้าน คือร้าน Avtentichno อยู่ใกล้สถานี metro National Palace of Culture หรือ NDK ครับ ซึ่งอยู่ใต้จาก Serdika ไป 1 สถานี เมนูที่สั่งคือ Tarator (ซุปโยเกิร์ตและแตงกวา โรยผักชีลาว (dill)) และ beef meatball ครับ
Tarator
beaf meatball ซึ่งก็อร่อย แต่ความฉ่ำและรสชาติสู้ Burger Liburnia ในโคโซโวหรือ Ćevapi ในซาราเยโวไม่ได้เลย
อาหารเย็น กินร้าน kashti เหมือนเมื่อวานครับ คราวนี้เลือกสั่งเมนูหมูอบราดเห็ด porcini เสิร์ฟพร้อม hummus เมนูนี้อร่อยกว่าแกะเมื่อวานเยอะเลยครับ
วันที่ 7 เลือกซื้อทัวร์ไป Plovdiv และ Koprivshtitsa เนื่องจากเข้าใจผิด เข้าใจว่ารถบัสไป Plovdiv มีแค่ 2-3 เที่ยวต่อวัน และเวลาก็ไม่ดีมากๆ
แต่เร็วๆนี้มีกระทู้สมาชิกอีกท่านหนึ่ง บอกว่ารถบัสจริงๆมีทั้งวันครับ
Plovdiv ค่อนข้างผิดหวัง รูปบน google ดูเหมือนมีบ้านเก่าๆ สวยๆเยอะกว่านี้
แต่ Koprivshtitsa ทำให้รู้สึกคุ้มครับ เพราะเป็นเมืองที่มาเองยากมากๆ และเมืองนี้ก็สวยมาก เหมือนเป็น open air museum ทั้งเมืองเลย
แต่ราคาทัวร์ 45 Euros ก็ค่อนข้างสูงไปหน่อยครับ ถ้าไป Plovdiv เอง น่าจะถูกกว่านี้เยอะ
อาหารกลางวัน กินแค่สลัดและขนมปังเพราะเวลาไม่พอ
อาหารเย็น คราวนี้ไปลองร้าน Izbata Tavern ครับ ซึ่งอยู่ใกล้กับ Alexander Nevski Cathedral, landmark ของ Sofia
เมนูของร้านครับ http://izbata.bg/mehana/en/menu/
โดยวันนี้เนื่องจากกลางวันกินน้อย (ส่วนเช้าปกติไม่กินอยู่แล้ว) เลยหิวครับ สั่งอาหารเย็นมา 4 อย่าง
ซุปเห็ด porcini ครับ
ใส่ข้าวมานิดหน่อยด้วย เลยเหมือนข้าวต้มเห็ด อร่อยดี
Stuffed eggplant
with white cheese, tomato sauce, seasoned with olive oil and garlic
อันนี้ไม่ค่อยชอบครับเพราะไม่ชอบซอสมะเขือเทศ
Boyar's Satch
เป็นเนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อลูกวัว อบใน sach ซึ่งเป็นภาชนะทำอาหารแบบ Bulgaria อร่อยดีครับ
และโยเกิร์ตใส่น้ำผึ้งและ walnut เช่นเคยครับ อร่อยเหมือนเดิม
วันที่ 8 วันนี้ว่างครับ มีโปรแกรมคือบินจากสนามบิน Sofia ตอนทุ่มนึง
กลางวันแวะไปกินที่ Izbata tavern เหมือนเมื่อวาน เพราะติดใจที่อร่อยและถูกกว่าร้าน kashti
eggplants dolmas หรือกะหล่ำปลีม้วน ยัดใส่ข้าวและหมูสับ อร่อยมากครับ