สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากแชร์ประสบการณ์โลกสวยของเรา เรื่อง ความรักในเกม ROV ค่ะ
ดูชื่อกระทู้เหมือนจะเป็นเรื่องแง่บวกใช่มั้ย แต่จริงๆ มันเลวร้ายมาก
ในสังคมที่เราอยู่เราไม่เคยเจอผู้ชายที่เลวร้ายได้ขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเพราะ เบญจเพสหรืออะไรถึงได้เจอแบบนี้

เริ่มเลยนะคะ หลังจากเรียนจบใหม่ๆ ช่วงนั้นพึ่งเริ่มทำงานค่ะ เวลาของเรากับแฟนไม่ค่อยตรงกันก็เลยเลิกกันไป
จากนั้นมาเราก็โสดมาตลอดสามปี ก็มีคนคุยแต่ก็เหมือนคุยเล่นเฉยๆ ไม่ได้จริงอะไร
เพราะตอนนั้นค่อนข้างตั้งกำแพงกับความรักครั้งใหม่ไว้สูงมาก เรียกได้ว่ากลัวความรักเลยแหละค่ะ

จนมาถึงช่วงปีที่แล้ว เกม ROV เปิดใหม่ๆ เราก็ไปลองเล่นค่ะ  
ช่วงนั้นวันๆเราก็ทำงาน เสร็จกลับมาก็เล่นเกม ส่วนตัวเราเป็นคนติดเกมค่ะ (แต่ไม่กระทบกับงานนะ)
เล่นแบบผู้ชายเลย ค่อนข้างจริงจังเกมมิ่งคือแบบตูจะเล่นเกม ไม่ค่อยมีใครรู้ค่ะว่าเราเป็นผู้หญิงไม่ชอบเปิดไมค์
เราเล่นคนเดียว เพื่อนในออฟฟิตก็มีนะที่เล่นแต่ตอนแรกๆ เราไม่เคยเล่นเกมแนวนี้ เลยไม่ได้บอกใคร กลัวไปเป็นภาระเค้า

ผ่านมาซักพักเราก็เจอผู้ชายคนนี้ค่ะ เค้าอายุน้อยกว่า 2 ปี ตานั้นเราพึ่งซื้ออะเลสเตอร์มา (แต่ก่อนชอบเล่นเมจมาก ส่วนตอนนี้เล่นแต่แทงค์กับโรมมิ่ง- -)
ก็เล่นกากแหละค่ะ ก็เลยโดนเค้าบ่น ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าเราคิดอะไร เลยเปิดไมค์ "ขอโทษนะคะ พอดีพึ่งซื้อตัวมา"
หลังจากจบเกม เค้าก็แอดเรามา เราก็รับก็พอเข้าไปเค้าก็ชวนเล่น เราก็เล่นเกมนี้สลับกับเกมบนPC
บางทีเราก็หายไปเลย 2-3 เดือน แต่พอกลับมาชวนเล่นค่ะ ส่วนมากจะกลับมาตอนมันรี SS แล้ว
ส่วนฝีมือเรา เราก็ไม่ค่อยเก่งค่ะมีตอนช่วงนาตาย่าที่พอได้อยู่ โซโล่บ้าง มีคนชวนบ้าง ไต่มาถึงไดสอง ก็เลิกไปเล่นเกมอื่น
มันมีความรู้สึกว่า เอ่อพอแค่นี้แหละ ขี้เกียจลงต่อละ

ก็เป็นอย่างงี้มาจนถึงช่วงเดือนธันวา เรากลับมาเล่นROV อีกครั้งนึง เค้าก็ชวนเราเล่นบ่อยขึ้นนะ จนเค้าทักแชทมาว่า
เค้าขอไลน์ได้มั้ย แรกๆเราก็ไม่ให้เพราะเรากลัว พอประมาณมกรา เค้าก็ขอมาอีก เค้าพูด ถ้าแกหายไปอีก เราจะไปตามแกได้ที่ไหนล่ะ
ตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไรนะ ก็เลยให้ๆไป (จริงๆถ้าเราไม่ให้ไป เรื่องมันคงไม่เป็นแบบนี้)

เราก็คุยปกติค่ะ มีหยอกบ้างไรบ้าง จนมาวันนึงเค้าบอกว่า เค้าชอบเราตั้งแต่ได้ยินเสียงแล้ว ไม่อยากให้หายไปไหน
เค้ารู้ว่าตอนไหนควรพูดอะไร ทำอะไร เหมือนเค้ารู้ใจเราทุกอย่าง เค้าเป็นห่วงเรา คอยถามนู่นนี่ โทรปลุกเราทุกเช้า โทรคุยกับเราทุกวัน
เราแพ้ผู้ชายขาวหน้าตี๋ นิสัยกวนๆ ทะเล้นๆ มันก็คล้ายๆเค้าเลย คือมันใช่
คนไม่มีแฟนมาสามปี ได้ฟังแบบนี้ก็ มันฟินแหละค่ะ ก็หลงคารมณ์เค้าไปเต็มๆ ไอกำแพงที่มันมีอยู่มันก็ค่อยๆลดลง
เคยถามเค้าว่าทำไมรู้ใจเราดีจัง เค้าบอกว่า เค้าชอบอ่านหนังสือ จิตวิทยา เลยรู้ว่าควรเข้ากับใครยังไง ภายนอกเค้าแตกต่างกับเรามาก
เค้าเป็นคนมีเพื่อนเยอะ เฟรนลี่ เข้ากับคนง่าย ส่วนเราเป็นคนเงียบๆ

เราก็คุยมาเรื่อยๆ มีวันนึงเราขอเฟสเค้า แต่เค้าบอกว่าเค้าไม่ได้เล่น ซึ่งเราว่ามันแปลก เซนส์ผู้หญิงมันรู้สึกได้ว่าต้องมีอะไร
ก็เลยแกล้งถามชื่อ นามสกุลเค้า แล้วมันก็เจอค่ะ เราเลยบอกเค้าว่าแอดไปได้มั้ย เค้าก็บอกว่าอย่าเลย ก็ซักเค้านานเลยแหละ
จนเค้ายอม พอเปิดเฟสขึ้นก็ได้รู้ความจริงค่ะ

เค้าแต่งงานแล้วและมีลูกแล้ว เอาจริงๆตอนนั้นเราช๊อคมากไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น และขอเลิกกับเค้าทันที เราไม่คุยกับเค้าเกือบอาทิตย์
จนเค้าทักมาบอกว่า เค้ากับผู้หญิงไม่ได้อะไรกันแล้ว ที่แต่งเพราะทำฝ่ายหญิงท้อง และไม่ได้จดทะเบียนกันนะ สถานะตอนนี้คือเลิกกันแล้วนะ
เค้าบอกว่าเค้าอยากพิสูจน์ เชื่อเค้าเถอะ เราก็เชื่อ ก็โง่จริงๆที่เชื่อเค้าทุกอย่างเลย
ตั้งแต่คุยมาไม่เคยได้ยินเสียงผู้หญิง หรือลูกเค้าเลย แม้จะอยู่ในที่นอนก็ตาม เราก็คิดว่าเค้าอาจจะพูดจริงก็ได้

พอเดือนมีนา เราก็เจอกันค่ะ ค่าเดินทางช่วยกันออกคนละครึ่ง เพราะตัวเค้าทำงานต่างจังหวัด เงินเดือนแตกต่างจากเราเกือบสามเท่า
เราก็กลัวว่าเค้าจะไม่พออะไรแบบนี้ด้วย ก็เลยหารคนละครึ่ง เรื่องดำเนินเรื่อยๆ ไม่มีอะไรแปลกเลย

จนเดือนเมษา มีน้องผู้หญิงแฟนของเค้าทักเรามา เค้าบอกว่ายังอยู่ด้วยกันนะ นอนด้วยกันทุกวัน เราก็เอ๋อเลยค่ะ ตึงทั้งวันเลย
ผู้หญิงก็ด่าเรามา แต่เราไม่ตอบโต้อะไรซักอย่าง เพราะผิดจริงๆ เราได้แต่ขอโทษเค้า เราไม่ได้ชอบการเป็นมือที่สามของใคร
ก็ขอเลิกกับผู้ชายทันที แต่มันไม่จบง่ายๆแบบนั้นค่ะ

ผู้ชายคนนั้นบอกเราว่า ที่ผู้หญิงทักมาเพราะต้องการจะปั่นเราผู้หญิงต้องการเงินสองแสน เป็นค่าเลี้ยงดูลูก  ฝ่ายหญิงทำงานรับจ้าง
และเค้ายังบอกว่าคนทำงานได้เงินเดือนแค่นี้ แถมต้องส่งให้ลูกดือนละ 4 พัน จะมีปัญญาที่ไหนเอาไปให้เค้าล่ะ สองแสนน
ผู้หญิงเลยพุ่งมาหาเราแทน ตอนนั้นก็เชื่อค่ะ พูดอะไรมาเราเชื่อเค้าหมดจริงๆ เค้าขอร้องค่ะว่าให้เชื่อเค้าเถอะ เพราะเราก็คุยกันทุกวันนี่
เธอคิดหรอว่าถ้ามีลูกหรือเมีย เค้าจะไม่ได้ยิน ตอนนั้นมันแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็ยังคุยกับเค้าต่อค่ะ

พอช่วงสงกรานต์เค้าบอกว่า เค้าโดนพี่ชายบ้านไล่ออกจากบ้าน เพราะเรื่องเงินสองแสนนั่น และขอมาอยู่กับเราที่กทมได้มั้ย
เราก็โอเคนะ สงสารเค้าด้วย เค้าบอกว่าไม่มีที่ไปแล้ว ตอนนี้เงินติดตัวเหลือแค่200
ไอเราก็ใจดีค่ะไปให้เงินค่ารถเค้ามาด้วย (สายเปย์จริงๆ- - ) และบอกว่าไม่เป็นไรนะ มาหางานที่กรงเทพแล้วค่อยส่งให้ลูกแล้วกัน

พอเค้าลงมาอยู่กับเรา เค้าสูบบุหรี่ค่อนข้างหนักเลยค่ะ ไม่เหมือนช่วงที่มาหาเราแรกๆ
จนเราไอแทบทุกวัน เรียกได้ว่า เงินก็เสีย สุขภาพก็เสีย ชีวิตค่อยพังมาเรื่อยๆ

ช่วงสมัครงาน เค้าก็ไม่มีตังเราก็ออกให้เค้า แล้วก็บอกว่า ถ้าได้เงินเดือนแล้วค่อยคืนนะ ไม่เป็นไร
เค้าใช้เงินค่อนข้างสุรุ่ยสุร่าย1000 สามวันหมด ซื้อขนมในเซเว่นบ้าง บุหรี่บ้าง น้ำอัดลม บางทีก็ต้องพาเค้าไปสัมภาษณ์งานอีก
ค่าเนตโทรศัพท์ด้วย เราออกให้ทั้งหมดเลยค่ะ โบนัสที่เราได้มาก็หมดไป จนต้องไปกดบัตรเงินสดมา
ซึ่งปกติ 1000 บาทของเรา เราอยู่ได้เป็นอาทิตย์
ตอนแรกเราก็คิดนะว่า เค้าทำงานเกี่ยวกับอนุมัติสินเชื่อ จัดไฟแนนซ์ คงน่าจะหางานได้ง่ายในกรุงเทพ แต่ในความจริงไม่เลยค่ะ
พึ่งมารู้ว่าวุฒิเค้า จบแค่ ม.หก เงิบไปอีกเรา
จนเดือนพค มีบริษัทแห่งนึงรับเค้าเข้าทำงาน และได้เริ่มงานกลางเดือน แล้วเค้าก็บอกเราว่า เค้าต้องกลับไปรายงานตัวที่บ้าน
เค้าติดคุมประพฤติ เมาแล้วขับ เราก็ไม่อะไรนะ กลับก็กลับ ค่อยขึ้นมาตอนจะเริ่มงานแล้วกัน

พอเค้ากลับไป เค้าก็สร้างเรื่องค่ะ ถ้าเป็นบทละคร คงได้รับรางวัลตุ๊กตาทองแล้วล่ะ
วันแรกเค้าบอกว่า พี่ชายแถวบ้านจะไล่ฆ่าเค้าเพราะ คิดว่าเค้าทิ้งลูกทิ้งเมียมาหาเรา
ตอนนั้นเราเป็นห่วงมากกกจริงๆ กลับไปที่บ้านก็โดนพ่อแม่ไล่ เค้าว่าตอนนี้เค้าต้องนอนข้างถนน
ผ่านไปสามวันเค้าบอกว่าเค้าไปทำงานโรงงานตัดไม้ ต้องทำตีห้า ถึง 5 ทุ่ม
ห่วงจนแบบไปขอคำปรึกษาเพื่อน แล้วก็โดนเพื่อนด่ามาค่ะ ว่าเมิงงงเชื่อได้ยังไง ไม่รู้หรอว่ามันหลอก
เราเลยลองทักไปถามผู้หญิงที่เป็นแฟนเค้าว่า ตอนนี้อยู่ด้วยกันมั้ย เค้าก็บอกว่า ก็อยู่ด้วยกันนี่แหละ
แต่ที่มันพูดแบบนั้นเพราะว่า มันไม่มีเงินคืนพี่

ตอนนั้นเราโกรธมันมาก เราขอทุกอย่างที่เคยซื้อให้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ รองเท้า เงินทั้งหมด คีย์การ์ดห้อง หรืออะไรก็แล้วแต่ ต้องคืนมาทั้งหมด
ไม่งั้นเราจะไม่ส่งเอกสาร เช่นใบวุฒิตัวจริงไปให้ และตั้งใจจะตัดขาดแล้วค่ะ ลาแล้วผู้ชายแบบนี้ไม่เอาแล้ว
ซึ่งเราก็เหมือนไปแฉเค้ากับครอบครัวเค้า พี่ชายเราก็กลัวว่าเราจะไม่ปลอดเลยให้ย้ายหอพัก
แต่ก็เหมือนผู้ชายรู้ว่าเราเป็นคนใจอ่อน โลกสวย เหมือนเกิดในทุ่งลาเวนเดอร์ เค้าพูดมาว่าไม่ได้ตั้งใจ เค้าพูดว่าเค้าไม่ได้รักฝั่งนี้และ
เค้ารักเรา แต่พ่อแม่บังคับเค้าไม่งั้นไม่ให้เค้าอยู่บ้าน และอยากจะกลับไป เราก็เชื่อค่ะ (โอยยย คนอะไรจะโง่ได้ขนาดนี้ )

และต้นเดือน มิย.เค้าก็กลับมาหาเราอีกครั้ง ครั้งนี้เรายอมรับว่าเราก็มีส่วนผิดด้วย ส่วนตัวเราก็งก และเราคิดว่าถ้าเค้ากลับมา
เราอาจจะได้เงินคืนทั้งหมด และเค้าก็จะมีเงินส่งให้ลูกใช้ด้วย เพราะเค้าอยู่บ้านเค้ารับจ้างได้วันละ100 ซึ่งมันเป็นความคิดที่โง่มากจริงๆ
แต่เหมือนอย่างที่เค้าว่าไว้ ความรักมันทำให้เราตาบอด
บอดจริงๆ บอดสนิทเลย เราไม่ฟังคำเตือนของใครซักคน เพราะเราเชื่อว่าเค้าพูดจริง และเค้าบอกว่าจะพิสูน์ให้เห็น ขอโอกาสอีกครั้งนะ
ช่วงแรกๆที่เค้ายังหางาน เพราะที่เก่ายกเลิกไปแล้ว เค้าก็กวาดห้อง ถูห้อง ซักผ้าให้ เราก็คิดนะว่า เค้าอาจจะเปลี่ยนไปจริงๆก็ได้
ลองเชื่ออีกครั้งละกัน
และเค้าก็ได้งานช่วงกลางเดือนมิถุนา เราก็ยินดีกับเค้า เอออย่างน้อยได้ทำงานซักทีนะ คงไม่ต้องมาพึ่งพาไรแล้วมั้ง
แต่เงินของเค้าที่ได้มันก็น้อยนิด เงินออกมาอาทิตย์นึงก็หมดละ -_-!
เอาจริงๆอยู่กันมาเราไม่ค่อยทะเลาะอะไรกัน ส่วนมากจะง๊องแง๊ง กันซะมากกว่า ชีวิตโดยรวมตอนนั้นก็สงบสุขดี
จนมาถึงเดือนนี้ วันศุกร์ ที่ 13 กค.
เรากับเค้าก็ลงแรงค์ROV กันปกติ แต่เราเมื่อย เลยออกมาก่อน โทรศัพท์ของเราแรงกว่าเค้า เลยสลับให้เค้าใช้เครื่องเรา
ส่วนเราก็เปิดyoutube อะไรไปเรื่อยเปื่อย แต่เหมือนมีอะไรมาดลใจ ให้เราเข้าfacebookเค้าใน chome ในนั้นแชทปกติมากเลย
เรากำลังจะกดปิดแล้วแหละ

แต่โทรศัพท์มันตกแล้วมือมันไปโดนที่ ลิ้งเก็บข้อความแชทถาวร แล้วก็ได้รู้ความจริง เพิ่มมาอีกหลายอย่างเลย
1.เค้าพูดว่าถ้าใช้หนี้ให้หมดก็จะตัดๆไปละ และขอโอกาสกับฝ่ายหญิงอีกครั้ง
2.เราเห็นข้อความของผู้หญิงส่งมาว่า รีบหาเงินมาหย่านะ อยากเป็นอิสระแล้ว ซึ่งเราเงิบอีกรอบเพราะตอนแรกเค้าบอกว่าไม่ได้จดทะเบียน
เค้าก็แก้ตัวว่าถ้าเค้าไม่ยอมจดทะเบียน ฝ่ายหญิงจะไม่ให้เจอลูก และก่อนจะลงมาเค้าได้เซนสัญญาแล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกัน
3.ช่วงเดือน พค มันเป็นแผนของเค้าทั้งหมด ซึ่งอ่านแล้วเราขยะแขยงความคิดของเค้ามากๆเลยค่ะ
4.ที่ผ่านมาที่เค้าบอกว่าเค้าเลิกคุยกันแต่แชทที่เราเห็นคือ เค้าคุยกันตลอด และหลังจากที่มาหาเราแรกๆ พอกลับไปเค้าก็ไปนอนกับภรรยาเค้า

วันนั้นเราร้องไห้และเคลียร์กับเค้ายันเช้า
เค้าขอโทษ และกอดเราแน่นมาก ไม่ให้เราไปไหน ขนาดไปห้องน้ำเค้ายังมายืนเฝ้า แต่ในใจรู้สึกมันไม่ใช่แบบสำนึก หรือรู้สึกผิด มันรู้สึกได้ว่าเค้าจิตๆ แบบแปลกๆ เราไล่เค้าค่ะให้กลับบ้านไป คืนเอกสารของทุกอย่าง เราบอกว่าเราไม่เอาอะไรแล้ว กลับไปเถอะ เรารับไม่ไหวแล้ว เราให้เค้าโทรหาทางบ้าน
ทางบ้านก็บอกว่าอย่าให้มันกลับมา และเค้าก็ร้องไห้ เราก็สงสารเลยบอกว่าอยู่ด้วยกันก่อนก็ได้ไม่เป็นนะ

แต่พอวันเสาร์เรารู้สึกว่ามันไม่ได้แล้วนะ เราจะไม่อยู่ในสถานะนี้อีก เราไม่โอเคเลยว่ะ
เราก็เลยไล่เค้าอีกครั้ง ซึ่งเราหาเรื่องทะเลาะค่ะ และเค้าก็ไปจริงๆ แต่เราก็บอกว่า เราขอบัตรatm ของเค้านะเพราะเป็นคนเปิดให้ แต่เค้าก็ใช้กำลังเอาไปค่ะ เค้าบอกว่าถ้าไม่มีเราจะกลับยังไง เราก็ไปส่งเค้าหน้าประตูหอพัก และบอกว่า อย่าได้เจอกันอีกเลย
ตอนนั้นเราโกรธมาก เลยทำอะไรบางอย่างลงไป เค้าโทรมาบอกว่าทำแบบนี้ก็ได้นะ ตายเป็นตาย
ปกติที่หอพักจะมียามตอน6โมง และประตูจะเป็นคีย์การ์ด แต่วันนั้นมีช่างมาซ่อมปะปาที่หอ เค้าเลยเปิดประตูทิ้งไว้
ตอนนั้นประมาณ 5 โมงเย็น เค้ามาเคาะประตูห้อง แรงมาก และทั้งกระแทกและผลัก เคาะอยู่ประมาณ20นาที บอกตามตรงตอนนั้นเรากลัวมาก
จนเราต้องแจ้งตำรวจ แต่เหมือนเค้าได้ยินมั้งคะ ว่าตำรวจกำลังจะมาเค้าเลยวิ่งหนีไปก่อน ตอนนั้นเราทำไรไม่ถูก เลยบอกให้ที่บ้านมารับ
เบื้องต้นหอพักได้แจ้งความไว้แล้วค่ะ  
และวันต่อมาเราพึ่งตั้งสติได้ ก็เลยไปแจ้งความไว้เพิ่ม แต่ก็คงเอาผิดอะไรไม่ได้ เพราะเค้ากลับไปต่างจังหวัดแล้ว
หรือถ้าใครรู้ว่าเอาผิดในข้อไหนได้บ้าง ช่วยแจ้งด้วยนะคะ

ตอนนี้เรากับเค้าก็ได้จบกันไปแล้ว ขอให้ชาติอย่าได้เจอผู้ชายแบบนี้อีก เราเข็ดจริง ชีวิตที่ผ่านมาด้านความรัก
เราไม่เคยเลวร้ายขนาดนี้มาก่อน เราก็ได้หวังค่ะว่า กรรมที่เค้าเคยทำอะไรกับเราไว้ มันจะตามสนอง ตอนนี้ก็ปลงแล้วค่ะ
รักในโลกออนไลน์มันก็มีหลายคู่ที่รักจริง แต่ที่เลวร้ายเช่นแบบเราก็มีเยอะ
ถ้าเขียนงงๆก็ขออภัยด้วยนะคะ ^_^