ถึงโครเอเชียจะเป็นที่ 2 ในฟุตบอลโลก แต่เชื่อว่าผลงานของพวกเค้า ทำให้แฟนๆ อย่างเราประทับใจ และอยากทำความรู้จัก 'โครเอเชีย' ในแง่มุมอื่นๆ อีกแน่นอน (โยงจนได้นะเรา แฮ่ )

ครั้งนี้ เราจะพาไปเที่ยวโครเอเชียในส่วนที่หลายๆ คนอาจไม่คุ้นเคย เพราะเราไม่ได้ไปเที่ยวเมืองชื่อดังอย่าง Dubrovnik, Split , Zagreb หรือ Plitvice Lake แต่ครั้งนี้ เราจะพาไปเที่ยวแหลมติ่งที่น้อยคนไทยจะรู้จัก ที่มีชื่อว่า ‘Istria’ ที่อยู่ตอนบนซ้ายของประเทศ ติดกับสโลวีเนียและตรงข้ามเฉียงๆ กับฝั่งเวนิซของอิตาลี


ภาพรวมของ Istria คือ เป็นแคว้นที่ทุกเมืองมีเสน่ห์สุดๆ ไม่แพ้เมืองไหนในประเทศนี้ มีกลิ่นอายความเป็น French Riviera บวกกับอิทธิพลทางสถาปัตยกรรมที่รับเอามาจากฝั่งอิตาลี รวมกันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่มีบ้านเรือนทรงสี่เหลี่ยมสีสันพาสเทลสดใส คลุมด้วยหลังคาสีส้มอิฐ ตัดกับท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีน้ำเงินเข้มและท้องฟ้าสีฟ้าสีสวยที่แทบไม่มีเมฆในฤดูร้อน มุมเล็กๆ น้อยๆ ตามช่องลมของบรรดาบ้านริมน้ำคือที่สุดของภาพเหมือนฝัน เป็นเมืองท่าที่แทบไม่เห็นคนเอเชียหัวดำ จนนักท่องเที่ยวอย่างเราอาจดูเป็นตัวประหลาด  และยังมีไอศครีมเจลาโต้ที่ทั้งหนึบทั้งข้นและโคตรอร่อยให้เลือกทานทั่วทุกพื้นที่ (อร่อยไม่แพ้อิตาเลียนเจลาโต้ เพราะเค้าอยู่ติดกัน!)


เราได้ไปเที่ยวทั้งหมด 4 เมืองในแคว้น Istria แห่งนี้ ซึ่งได้แก่ Pula, Porec, Rovinj และ Buzet ขาดไปหนึ่งตามที่ตั้งใจคือ Novigrad ค่ะ ทั้งหมดใช้เวลา 3 วัน 2 คืนค่ะ อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะตอนนั้นเราไปเรียนที่อังกฤษ การบินไปประเทศใกล้เคียง (ใช้เวลา 2.5 ชม.) จึงไม่ใช่เรื่องลำบากเกินไป โดยเราบินไปลงที่ Pula ค่ะ (จากไทยไม่มีบินตรงนะคะ แต่แอบเห็นเหมือนกันว่า บางที Pula เป็นเส้นทางที่ทัวร์โครเอเชียพามาผ่านค่ะ พามาทานอาหารเที่ยง เที่ยวโคโลเซียมและผ่านไป) หากใครอ่านรีวิวแล้วสนใจ สามารถใส่เข้าไปในแพลนรวมกับเมืองใหญ่อื่นๆ ได้ค่ะ

อันนี้เผื่อใครสนใจกระทู้ก่อนหน้าของเรา รีวิว สองพี่น้องขับรถเที่ยวเยอรมัน ออสเตรีย เชค ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี  ลิ้งค์นี้โล้ดดด >>>
https://ppantip.com/topic/35866243

ใครมีข้อมูลวีซ่าและการเดินทางอยู่แล้ว สามารถข้ามไปด้านล่างได้เลยค่ะ

ทำไมเลือกมา Istria?

เราเป็นคนนึงเลยที่ถูก influence จาก influencer ที่เราชื่นชมได้ง่ายมากๆ เพียงแค่เห็นภาพของพี่แพรี่พาย และน้องนท เดอะสตาร์โพสต์รูปดอกไม้สวยๆ ในช่วงยุโรปหน้าร้อน กับภาพมุมๆ นึงที่สวยเหมือนฝัน มุมที่เห็นปุ๊บต้องปักหมุดว่า ยังไงก็ต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองให้จงได้ ไหนจะเห็นเค้าไปล่าเห็ดทรัฟเฟิลกันอีก เราจึงไม่รอช้า รีบชักชวนลูกพี่ลูกน้องให้ซื้อตั๋วมาที่นี่เลยทันที ต้องบอกด้วยว่า การหาข้อมูลจากใน pantip นั้นมีไม่มากสำหรับที่นี่ อย่างที่บอกว่านี่เป็นส่วนเล็กๆ ของโครเอเชียที่นักท่องเที่ยวไม่มากนัก เราจึงต้องหาข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษซะส่วนใหญ่ หวังว่ากระทู้เล็กๆ ของเราจะเป็นประโยชน์กับคนที่เข้ามาอ่านไม่มากก็น้อยนะคะ : )  


วีซ่า

โครเอเชียใช้เชงเก้นนะคะ จากไทยสามารถขอผ่าน VFS ได้เลย (ที่เดียวกับของอิตาลี) ส่วนของเรา นี่เป็นการประเดิมเชงเก้นหลังจากได้แบบ 1 ปีมาค่ะ ตื่นเต้นมาก!

การเดินทางในโครเอเชีย

อาจฟังดูเว่อวัง แต่ด้วยเวลาอันน้อยนิด เราเลือกเช่ารถค่ะ เพราะแต่ละที่ๆ เราไปค่อนข้างห่างกัน หากเดินทางด้วยรถสาธารณะ (ซึ่งจริงๆ มีนะคะ) น่าจะไม่สามารถเก็บหลายๆ อย่างที่ตั้งใจได้ และลืมบอกไปว่าค่าใช้จ่ายในการเช่ารถ (และค่ากินอื่นๆ) ที่นี่แสนถูก เช่ารถเกียร์ออโต้ 3 วัน ราคา 2 พันกว่าบาทรวมประกันอุบัติเหตุแล้วด้วย ตกวันละ 700 นิดๆ ไม่รวมค่าน้ำมัน สบายมากค่ะ หารกันสองคนสวยๆ เราจองผ่านเว็บ rentalcars ค่ะ ใครจะเช่ารถขับไม่ต้องกังวลไป อาจมีวงเวียนที่ทำให้ต้องตื่นเต้นนิดนึง ส่วน GPS แนะนำให้เช่ามาด้วยค่ะ เพราะบางทีสัญญาณมือถืออาจไม่เสถียรบ้าง และที่สำคัญที่สุด อย่าลืมใบขับขี่สากลในตอนมารับรถนะคะ


อากาศ และค่าเงิน

เราเดินทางในหน้าร้อนช่วงปลายเดือนมิถุนา อากาศร้อนได้ใจ ใส่สายเดี่ยวเที่ยวได้ แต่ท้องฟ้าก็สวยมากกกกกก (ในวันที่แดดออก) เรียกได้ว่า เป็นยุโรปในฤดูร้อนครั้งแรกของเราเลยค่ะ ถึงกลางคืนจะแอบเย็นนิดๆ (นิดจริงๆ) ก็เถอะ

โครเอเชียใช้สกุลเงินที่มีชื่อเรียกว่า คูน่า (Kuna) ค่ะ คิดเป็นเงินไทยก็ x 5 เอานะคะ 1 คูน่าเท่ากับ 5 บาท จะแลกเป็นเงินยูโรเพื่อไปหาที่แลกก็ทำได้เช่นกัน เราเคยอ่านรีวิวมาด้วยว่า โครเอเชียถือเป็นยุโรปที่สามารถเที่ยวได้แบบไม่แพง เพราะฉะนั้น ลองดูรีวิวแล้วเก็บเป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากมายุโรปด้วยราคาที่น่าคบหาดูค่ะ


แพลนการเดินทาง

Day 1: ไปถึงปูลา (Pula) ตอนเที่ยง เที่ยวในใจกลางเมือง ชม Arena, Roman amphitheatre, Triumphan Arch of the Sergi (Arco dei Sergi), The Temple of Augustus และเดินเล่นริมทะเลที่ Harbour of Pula
Day 2: ไปเที่ยว Kamenjak national park ซึ่งเป็นแหลมส่วนปลาย, ต่อด้วย Safari Bar ช่วงเช้า ตอนบ่ายไปโพเรค (Porec) กะไปต่อที่ Novigrad แต่ฝนตกเลยไม่ได้ไป
Day 3: ไปเก็บเห็ดทรัฟเฟิลที่บูเซท (Buzet) จัดทรัฟเฟิลมื้อใหญ่ก่อนกลับมาที่โรวินจ์ (Rovinj) ตามล่าหามุมในฝัน นั่งเรือชมอ่าว และเดินทางกลับอังกฤษ

รวมเส้นทางขับรถคร่าวๆ รอบแหลม Istria (แบบรวม Novigrad) ให้ดูกันค่ะ


เอาละค่ะ เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็เดินทางตามมาดูโครเอเชียในมุมที่คุณอาจไม่เคยเห็นกันมาก่อนกันเลยยยย!!!