[CR] เปิดกรุสกินแคร์สาววัย 40 ใช้อะไรบ้าง ทำไมหนังหน้ายังไม่เหี่ยว!!!

คำถามโลกแตก “ไม่อยากหน้าเหี่ยวใช้สกินแคร์อะไรดี”

       สวัสดีค่า วันนี้จะมาเปิดกรุสกินแคร์น้อยของป้าเอง ขอแทนตัวเองว่าป้าไปเลยเนอะ เพราะอายุก็ปามาขนาดนี้แล้ว555 ต้องขอท้าวความเดิมก่อนว่าสมัยก่อน ไม่ค่อยเคยลงทุนกับสกินแคร์แพงๆ เพราะมีภาระผ่อนรถ แต่ตอนนี้งวดรถหมดแล้ว เลยพอมีเงินเหลือๆ ประกอบกับโบนัสออกเมื่อต้นปี พักหลังๆนี้ เลยมีโอกาสได้ลงทุนซื้อสกินแคร์ราคาดีๆ มาใช้มากขึ้น บวกกับพึ่งมาเริ่มสังเกตแบบจริงจัง ได้มองตัวเองในกระจกชัดๆ ว่าหน้าเหี่ยวมาก มีริ้วรอย ดูแก่ แก่จริงๆ สาวสวยคนเดิมหายไปไหน ก็เลยทำให้มีแรงผลักดัน ตื่นตัวมากขึ้น ที่จะลองหันมาลงทุนกับสกินแคร์แบบจริงจัง ว่าหนังหน้าจะกลับมาเด้งดังเดิมได้หรือไม่

       ยังไม่คิดพึ่งหมอ เพราะกลัวเจ็บตัว อยากที่จะกล้ายืนยันกับคนอื่นว่า เนี่ย หน้าชั้นไม่เคยผ่านเข็ม ผ่านมีดหมอต่างๆ


       ของส่วนใหญ่ในกระทู้ก็จะเน้นซื้อตามรีวิว มีโปรลดราคาเด็ดๆ หาอ่านตามเพจร้านต่างๆ ค่อยๆซื้อ ค่อยๆ ใช้จนเห็นผลเลยจะเอามาบอกบุญกันจ้า พร้อมแล้วก็ไปเริ่มกันเลยดีกว่า ว่ามีอะไรบ้างที่ทำให้ป้ายังอยู่ยงคงกระพัน หน้าเด้ง แต่หนังยังไม่เหนียวนะขอบอก

1. ทำความสะอาดผิวหน้า ล้างเครื่องสำอาง

       เริ่มที่ล้างเครื่องสำอางก่อนเลย ลองใช้คลีนซิ่งมาหลายยี่ห้อ ปรากฎว่าพักหลังๆ ไปอ่านเจอว่าแบบ ใช้น้ำมันมะพร้าวนี่แหละเลิศ ก็เลยลองดู พบว่าดีเลยนะ เช็ดได้ออกสะอาดเกลี้ยง แถมบำรุงไปในตัว ไม่ทำให้หน้าแห้งตึง และมีความลื่นๆ ช่วยลดการเสียดสีระหว่างหน้ากับสำลี ทำให้ไม่เกิดเป็นริ้วร้อย ไม่ทำให้หน้าเหี่ยว ตาเหี่ยว ต่างๆ ที่ใช้อยู่จะเป็นยี่ห้อ Nature Life น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 100 % เทียบราคากับคลีนซิ่งอื่นๆ ก็ถือว่าคุ้ม เพราะได้ในปริมาณที่มากกว่า พลพลอยได้นอกจากความสะอาด และการบำรุงต่างๆแล้วนั้น ก็ยังช่วยให้ขนตายาวขึ้นด้วย ใครไม่ชินอาจจะเหนอะๆนิดนึง ใช้ไปนานๆ เดี๋ยวก็ชินค่ะ หัดอดทนหน่อย ท่องไว้ ฉันจะสวยๆๆ แล้วเช็ดวนไป ตา แก้ม ปาก

2.น้ำตบ โทนเนอร์ เตรียมผิว
       ล้างหน้าเสร็จหมาดๆ ซับหน้าเบาๆ แล้วอย่าปล่อยให้ผิวหน้าแห้งเหือด ต้องรีบตามด้วย โลชั่น หรือน้ำตบเลยทันที ผิวจะได้ไม่เสียความชุ่มชื้นค่ะ ตอนนี้ที่ใช้อยู่เป็น La Mer The Treatment Lotion วิธีใช้มีสองแบบแล้วแต่วัน บางวันก็หยดให้มือ แล้วตบๆเบาๆ ให้เข้าผิว หรือบางวันก็จะหยดใส่สำลี เช็ดหน้าเบาๆ แต่ส่วนใหญ่จะเลือกใช้วิธีแรกเพราะไม่ค่อยเปลือง และพยายามหลีกเลี่ยงการใช้สำลี เพราะกลัวหน้าเหี่ยว หลักๆตัวนี้จะช่วยในเรื่องความชุ่มชื้น ชุ่มชื้นแบบล้ำลึก ใช้ประจำติดมาก ถ้าใครอยากลอง La Mer แนะนำให้ลองตัวนี้เป็นตัวแรกก่อน ราคาถูกสุดแล้วในบรรดาคุณหญิงคุณนายทั้งหลาย ใช้แล้วชอบใจแล้วค่อยไปต่อที่ตัวอื่น

   จากนั้นจะตามด้วย Vichy Mineral 89 งานเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุง ต้องอัดหนักๆกันนิดนึง ตัวนี้ก็เน้นความชุ่มชื้นเหมือนกัน แต่จะช่วยในเรื่องการเตรียมผิว ปรับสมดุลผิว ให้ครีมบำรุงที่จะทาเป็นตัวถัดไปทำงานได้ดีขึ้น  ตัวนี้มาแรงมากตอนนี้ ใครไม่เคยลองคือพลาดมาก ราคากลางๆ แต่รับรองว่าคุ้ม ขวดไม่ได้เล็กจนน่าใจหาย ใช้ได้นานพอสมควรอยู่ขวดนึง ใช้ไปซักพักรู้สึกว่าผิวหน้าเต็มขึ้น แบบเด้งขึ้นหน่อยๆ ติดมาก ก่อนจะลงตัวอื่น ยังไงก็ต้องลงตัวนี้ก่อน

3.ลดเลือนริ้วรอย
          หมวดนี้เราจะค่อนข้างจริงจังกันนิดนึง อายุ 40 แล้วเนี่ย เรื่องริ้วรอยนี่เป็นเรื่องใหญ่เลยนะ ใหญ่สุดในบรรดาทั้งหลายทั้งแหล่เลย เพราะพออายุเยอะ สิ่งที่แก้ไขยากที่สุดนั่นก็คือ ริ้วรอย ความเหี่ยว ตีนกาต่างๆ สาวๆเอ๋ย จงจำไว้เถิดว่าการกันดีกว่าแก้ แต่ตอนนี้ป้านั้นไม่ทันแล้ว มันมาอยู่บนใบหน้าแล้วเรียบร้อย ก็ต้องบำรุง รักษา ดูแลกันต่อไป

          ตอนนี้ที่ใช้อยู่คือ Minus 20 เซรั่มรากโสม เป็นแบรนด์นำเข้าจากเกาหลี เรื่องสกินแคร์นี่ยังไงก็ต้องยอมทางฝั่งเกาหลีเค้าจริงๆ ไปเจอมาตอนโปรลดราคา เลยสอยมาลอง พอได้ใช้แล้วไม่ผิดหวังเลย สอยมาทั้งหมด 2 ตัว ตัวแรกจะเป็น Serum Aging Corrector ใช้ลงตามจุดที่เกิด ริ้วรอยลึกๆ เช่น หน้าผาก ร่องแก้ม หางตาตรงตีนกา ใช้ปลายนิ้ว นวดวนๆ ในลักษณะยกกระชับขึ้น เนื้อครีมซึมไวมาก แบบซึมฉึบเลย ทาแล้วจะรู้สึกว่าร่องลึกๆแลดูตื้นขึ้น อารมณ์แบบไปช่วยเติมเต็มร่องลึกๆ ให้ดูตื้น เรียบเนียนมากขึ้น มีกลิ่นโสมหอมๆ เท่าที่อ่านดู สารสกัดคือดี ใครมีริ้วรอยลึกๆแนะนำให้ลอง

        ตัวถัดมาที่ใช้คู่กันก็จะเป็นครีมบำรุง MINUS20 Pink gold Collagen คอลลาเจนทองคำ ครีมเนื้อดีมาก นุ่มๆ เด้งๆ ไม่มีกลิ่นน้ำหอม กลิ่นจะออกแนวธรรมชาติเลย ไม่ได้ปรุงแต่ง ให้ความชุ่มชื้นได้ดี เหมือนเป็นตัวล็อคความชุมชื้นให้ผิว เน้นหลักๆ ในเรื่องลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวตึงกระชับ ผิวนุ่ม ชุ่มชื้นทำนองนี้ ส่วนตัวใช้คู่กันกับตัว Corrector แล้วเห็นผลดีเกินคาดนะ พวกรอยลึกๆ เริ่มดูจางลงจริงๆ แต่ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าริ้วรอยเป็นอะไรที่เกิดง่าย แต่แก้ไขยากมากๆ ซึ่งตัวนี้เห็นผลค่อนข้างดีริ้วรอยดูลดลงผิวดูกระชับขึ้น แต่ ก็หมั่นทาบำรุงไปเรื่อยๆ เห็นผลดีแน่นอน ใครที่เริ่มมีริ้วรอย หรืออยู่ในช่วงวัย 30-40 ปี ยิ่งถ้า45ขึ้นไป ตัวนี้แหละ คือตอบโจทย์ เพราะหาข้อมูลมาแล้วว่าแบรนด์นี้ เป็นครีมลดริ้วรอยที่ไม่ผสมกาว ต่างจากแบรนด์อื่นที่ผสมกาวให้ทาแล้วหน้าตึงๆ ตัวนี้จดเข้า wish list ไว้ได้เลย

4.บำรุงผิวกาย
       พออายุเยอะขึ้นเนี่ย ก็ไม่ใช่ว่าหน้าเหี่ยวอย่างเดียวนะ ผิวกายก็เหี่ยวด้วยจ้า ลองสังเกตดีๆ มันไม่ได้เต่วตึงเหมือนผิวเด็ก มันมีความหยาบกร้าน ดูเหี่ยวๆ ก็ต้องบำรุงกันด้วยนะ ปล่อยปะละเลยไม่ได้เลย ที่ใช้อยู่ก็จะมี Bio Oil ทาตอนตัวหมาดๆ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดรอยแผลเป็นรอยแตกลายได้ด้วย


       จากนั้นจะตามด้วยโลชั่น Jergens Skin Smoothing โบกๆ ชโลมๆ มันเข้าไป เดินผ่านขวดโลชั่นก็ทาบ่อยๆ ได้เลย ตัวนี้จะชุ่มชื้นมาก เหมาะกับทาแล้วอยู่ในห้องแอร์ ใครทำงานกล้างแจ้งไม่เหมาะเท่าไหร่นะ อาจจะต้องลองดูเป็นสูตรอื่น แต่ส่วนตัวชอบสูตรนี้มากๆ อารมณ์แบบยิ่งเหนียวยิ่งดี ผิวจะได้ไม่แห้ง เพราะโลชั่นปกติทั่วไปบางตัว ทาแล้วซึมไวเหลือเกิน บางทีไม่หลงเหลือความชุ่มชื้นแล้ว


จริงๆ มีอีกหลายตัวมากที่เคยลองใช้มา แต่ก็คัดมาแต่ตัวที่เด็ดๆ อยากแนะนำจริงๆเท่านั้น ส่วนตัว อายุเท่านี้แล้ว นอกจากลงทุนกับสกินแคร์ดีๆ ใช้เป็นประจำสม่ำเสมอ ก็ยังมีไปสปาผิวหน้า ขัดตัว ทานอาหารเสริมบ้าง อย่างว่าเนอะ แก่แล้ว อย่าปล่อยให้แก่เลย เป็นกำลังใจให้กับสาวๆ วัยยังแจ๋วทุกคน บำรุงกันต่อไป ออกกำลังกาย ทานอาหารดีๆ พักผ่อนให้เพียงพอ รับรองว่าผิวสวยในฝัน อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

อย่าปล่อยให้ใครๆ มาเรียกเราว่า “มนุษย์ป้า”

ไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้า
สวัสดีค่ะ
ชื่อสินค้า:   Nature Life,La Mer,Vichy,Minus 20,Bio Oil,Jergens
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่