มาดากัสการ์ประเทศที่อยู่ในมหาสมุทรอินเดีย เป็นเกาะใหญ่อันดับ 4 ของโลก อยู่ในทวีปแอฟริกา ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ประเทศนี้จะมีอะไรแปลก ๆ มากมาย เป็นเวลาหลายวันที่ต้องใช้ชีวิตของประเทศนี้เพื่อเดินทางสัญจรไปยังเมืองต่างจนสังเกตุได้ว่า ประเทศโลกที่ 3 ความเจริญมักกระจุกตัวอยู่แค่เมืองใหญ่ ๆ ประเทศมาดากัสการ์ก็เช่นกัน ยามที่เราเดินทางในเมืองหลวงที่ชื่อเรียกยากมาก(Antananarivo) เราใช้เวลาท่องจำอยู่นานกว่าจะเรียกได้อย่างคล่องปาก แต่เมื่อเราเริ่มเดินทางออกนอกเมืองสิ่งที่ได้พบคือหลุม บ่อ เล็ก ใหญ่ ถึงใหญ่มากกระจายอยู่ทั่วไปเกือบตลอดเส้นทางที่เราไป นี้คือจุดเริ่มต้นของ "มือน้อยๆ กับกระป๋องและพลั่ว"
ดังที่เกรินมาข้างต้นการเดินทางรวมถึงการขนส่งไปสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศนี้จึงจำเป็นต้องใช้ถนนเสียเป็นส่วนใหญ่ แน่นอนเมื่อใช้ถนนเยอะความเสียหายของพื้นผิวถนนย่อมเกิดขึ้นโดยไม่สามารถหลีกเลื่ยงได้ เส้นทางจากเมืองหลวงไปเมืองต่าง ๆ มีเพียงถนนไม่กี่สายและถนนทุกสายก็ถูกสร้างมานานมากแล้ว เส้นทางจากAntananarivo (อันทาอานาริโว)ไป เมือง Andasibe (แอนดาซิเบ) เมืองที่เป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติ Andasibe National Parkระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร เราใช้เวลาเดินทางประมาณไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง มีความสำคัญมากเนื่องจากถนนสายนี้ทอดยาวไปยังเมืองท่าทางตะวันออกของประเทศที่สำคัญมากของประเทศ ตลอดเส้นทางเราจึงวิ่งปะปนไปกับรถบรรทุกขนาดใหญ่ แน่นอนความเสียหายของถนนหลุมบ่อเล็ก ใหญ่ จำนวนมากจึงกระจายไปตลอดเส้นทางที่เราไป
ครั้งแรกที่เราเห็น เด็กตัวน้อย ๆ ยืนโบกไม้โบกมือ ข้างถนน เรามองผ่าน ๆ โดยคิดว่าพวกเด็ก ๆ คงวิ่งเล่นไม่ได้สังเกตุอะไรมาก แต่สักพักเราเริ่มสังเกตุว่าในมือของเด็กจะมีกระป๋องใส่ดิน ทราย หรือไม่ก็พลั่วอยู่ในมือ เด็กพวกนี้ทำอะไร? เมื่อความสงสัยจึงเริ่มต้นขึ้นเราจึงถามคนนำทางเรา คำตอบคือ "พวกเด็ก ๆ ซ่อมถนน" งงเป็นไก่ตาแตก คำถามต่อ ๆ มาพลั่งพรูมาเป็นชุด ๆ เด็กพวกนี้มาจากไหน? ใครจ้าง? ทำไปทำไม? ซ่อมอย่างงัย? ทุกคำตอบได้รับการตอบแบบง่าย ๆ คือเด็กพวกนี้มากลบหลุมเพื่อขอเงินบริจาคจากคนขับรถผ่านไปผ่านมา ความยากจนทำให้พวกเด็ก ๆ ต้องทำมาหากิน ดิ้นรนทำโน้นทำนี้เพื่อหาเงิน ได้เงินจากคนใช้ถนนที่เห็นใจบ้าง ไม่ได้บ้าง เศษเงินน้อยนิดก็ทำให้พวกเค้าจุลเจือครอบครัวไปได้ ทุกครั้งที่เราเห็นคนขับรถชลอแล้วยี่นเงิน หรือขนมให้เด็กเหล่านี้ เราเห็นรอยยิ้มใส ๆ จากเด็ก
มันช่างสะท้อนแง่มุมให้เรามานั่งคิด มือเล็ก ๆ ของเด็กเหล่านี้ก็มีพอมีคุณค่า ช่วยให้การเดินทางอย่างสบายขึ้นอีกนิด แม้จะไม่มาก แต่ก็มีหลุม บ่อน้อยลง ตลอดเส้นทางที่พวกเราผ่านและเจอพวกเด็ก ๆ เหล่านี้ เราก็จะโบกไม้โบกมือ หรือจอดรถเพื่อหยิบยื่นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่าที่พวกเรากระทำได้ บางครั้งเพียงแค่รอยยิ้มจากใจที่เราส่งถึงเค้าก็คงทำให้พวกเค้าอิ่มใจได้บ้างไม่มากก็น้อย
มือน้อย ๆ กับกระป๋องและพลั่ว
ดังที่เกรินมาข้างต้นการเดินทางรวมถึงการขนส่งไปสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศนี้จึงจำเป็นต้องใช้ถนนเสียเป็นส่วนใหญ่ แน่นอนเมื่อใช้ถนนเยอะความเสียหายของพื้นผิวถนนย่อมเกิดขึ้นโดยไม่สามารถหลีกเลื่ยงได้ เส้นทางจากเมืองหลวงไปเมืองต่าง ๆ มีเพียงถนนไม่กี่สายและถนนทุกสายก็ถูกสร้างมานานมากแล้ว เส้นทางจากAntananarivo (อันทาอานาริโว)ไป เมือง Andasibe (แอนดาซิเบ) เมืองที่เป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติ Andasibe National Parkระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร เราใช้เวลาเดินทางประมาณไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง มีความสำคัญมากเนื่องจากถนนสายนี้ทอดยาวไปยังเมืองท่าทางตะวันออกของประเทศที่สำคัญมากของประเทศ ตลอดเส้นทางเราจึงวิ่งปะปนไปกับรถบรรทุกขนาดใหญ่ แน่นอนความเสียหายของถนนหลุมบ่อเล็ก ใหญ่ จำนวนมากจึงกระจายไปตลอดเส้นทางที่เราไป
ครั้งแรกที่เราเห็น เด็กตัวน้อย ๆ ยืนโบกไม้โบกมือ ข้างถนน เรามองผ่าน ๆ โดยคิดว่าพวกเด็ก ๆ คงวิ่งเล่นไม่ได้สังเกตุอะไรมาก แต่สักพักเราเริ่มสังเกตุว่าในมือของเด็กจะมีกระป๋องใส่ดิน ทราย หรือไม่ก็พลั่วอยู่ในมือ เด็กพวกนี้ทำอะไร? เมื่อความสงสัยจึงเริ่มต้นขึ้นเราจึงถามคนนำทางเรา คำตอบคือ "พวกเด็ก ๆ ซ่อมถนน" งงเป็นไก่ตาแตก คำถามต่อ ๆ มาพลั่งพรูมาเป็นชุด ๆ เด็กพวกนี้มาจากไหน? ใครจ้าง? ทำไปทำไม? ซ่อมอย่างงัย? ทุกคำตอบได้รับการตอบแบบง่าย ๆ คือเด็กพวกนี้มากลบหลุมเพื่อขอเงินบริจาคจากคนขับรถผ่านไปผ่านมา ความยากจนทำให้พวกเด็ก ๆ ต้องทำมาหากิน ดิ้นรนทำโน้นทำนี้เพื่อหาเงิน ได้เงินจากคนใช้ถนนที่เห็นใจบ้าง ไม่ได้บ้าง เศษเงินน้อยนิดก็ทำให้พวกเค้าจุลเจือครอบครัวไปได้ ทุกครั้งที่เราเห็นคนขับรถชลอแล้วยี่นเงิน หรือขนมให้เด็กเหล่านี้ เราเห็นรอยยิ้มใส ๆ จากเด็ก
มันช่างสะท้อนแง่มุมให้เรามานั่งคิด มือเล็ก ๆ ของเด็กเหล่านี้ก็มีพอมีคุณค่า ช่วยให้การเดินทางอย่างสบายขึ้นอีกนิด แม้จะไม่มาก แต่ก็มีหลุม บ่อน้อยลง ตลอดเส้นทางที่พวกเราผ่านและเจอพวกเด็ก ๆ เหล่านี้ เราก็จะโบกไม้โบกมือ หรือจอดรถเพื่อหยิบยื่นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่าที่พวกเรากระทำได้ บางครั้งเพียงแค่รอยยิ้มจากใจที่เราส่งถึงเค้าก็คงทำให้พวกเค้าอิ่มใจได้บ้างไม่มากก็น้อย