หลินจื้อหลิง นักแสดง นางแบบเบอร์หนึ่งของไต้หวัน ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่มีข่าวกับพระเอกเจอร์รี่ F4 นานถึง 16 ปี ตอนนี้มาถึงจุดสิ้นสุดแล้วหรือ?
หลังรายการวาไรตี้หนึ่งของไต้หวันออนแอร์ไปเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2018 ที่ผ่านมาโดยมีหลินจื้อหลิง(Lin Zhiling) นักแสดง นางแบบที่ใครๆ ยอมรับว่าเธอนี่แหละนางแบบนัมเบอร์วันของไต้หวันเป็นแขกรับเชิญ แน่นอนว่าเรื่องที่ทุกคนให้ความสนใจก็คงหนีไม่พ้นเรื่องความรักของเธอที่ต่างรู้กันดีว่าหลินจื้อหลิงมีข่าวคราวรักๆ เลิกๆ ที่เรียกว่าเป็นมหากาพย์กับเจอร์รี่ เหยียน (Jerry Yan) หรือเจอร์รี่ F4 นักร้อง นักแสดงรุ่นน้องมานานกว่า 16 ปี แต่ล่าสุดหลินจื้อหลิงประกาศกลางรายการว่าตอนนี้เธอโสด! ทำเอาพิธิกรอึ้ง ส่วนสาเหตุนั้นเจ้าตัวบอกพร้อมน้ำตาคลอเบ้าว่าปัญหาน่าจะอยู่ที่ตัวเธอเองที่ชอบติดอยู่อดีตมากกว่าปัจจุบัน
พอได้เห็นหลินจื้อหลิงออกตัวแบบนี้ทำเอาชาวโซเชียลสับสนและคอมเม้นท์ไปต่างๆ นานา แถมยังนิยามเรื่องราวความรักของหลินจื้อหลิงและเจอร์รี่ F4 ว่าเป็นซีรี่ย์รักที่ยาวมากที่สุดของไต้หวัน เส้นทางรักของคู่นี้ว่ากันว่าเริ่มต้นเมื่อปี 2002 หลังจากมีมือดีแชะภาพขณะทั้งคู่ไปดูหนังด้วยกัน จากนั้นปี 2005 ก็มีภาพหลินจื้อหลิงนำโทรศัพท์มือถือที่เสียไปส่งซ่อมโดยมีเจอร์รี่อยู่ข้างกาย กลางปีเดียวกันนี้เองมีข่าวว่าหลินจื้อหลิงประสบอุบัติเหตุตกจากหลังม้าขณะถ่ายโฆษณา แต่ฝ่ายชายกลับไม่ได้ไปเยี่ยมเธอเนื่องจากเขาติดถ่ายทำซีรี่ย์ ด้วยความห่างและระยะเวลาทำให้ทั้งคู่เลิกกันในที่สุด
(เจอร์รี่ไปเยี่ยมค่ะ ตอนแรกมีรูปด้านหลังผู้ชายคนหนึ่งสะพายเป้ที่ รพ. ตอนนั้นนักข่าวและ fc ยังถกเถียงกันว่าใช่เจอร์รี่มั้ย แต่สุดท้ายมาชัดว่าใช่ เพราะเค้าเล่าใน photo book กว่าจะดั้นด้นไปเยี่ยมฝ่ายหญิงได้ ลำบากขนาดไหน เพราะช่วงนั้นถ่ายละครอยู่ที่ห่างไกล กว่าจะไปถึงต้องเปลี่ยนรถยนต์รถไฟไม่รู้กี่รอบ ที่สำคัญที่กองถ่ายวุ่นวายมาก เพื่อนร่วมงานบอกว่าข้างนอกนักข่าวก็จับจ้องการเคลื่อนไหวเค้า ถ้าเค้าออกไปตอนนี้เท่ากับพาตัวเองเข้าไปหากับดัก แต่สุดท้ายเค้าก็ไปเยี่ยมฝ่ายหญิงจนได้)
รูปที่ รพ.
ปี 2006 หลินจื้อหลิงและเจอร์รี่ เหยียนปรากฏตัวพร้อมกันครั้งแรกหลังมีข่าวเลิกรากันใน Asia-Pacific Film Festival โดยฝ่ายชายรับหน้าที่เป็นผู้ประกาศรางวัล บนเวทีทั้งคู่จับมือทักทายกันเพียงเท่านั้น แต่ก็มีหลายคนจับผิดสายตาของเจอรร์รี่ที่มองหลินจื้อหลิงว่ายังมีความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันอยู่ ส่วนสาเหตุที่เลิกกันก่อนหน้านี้นั้นสื่อคาดการณ์ว่าแม่ของฝ่ายหญิงก็อาจไม่ปลื้มเจอร์รี่เท่าไรนักเพราะตอนที่หลินจื้อหลิงตกหลังม้า เขาก็ไม่ได้ดูแลเธอดีเท่าที่ควร บ้างก็ให้ความเห็นว่าอาจยังไม่ถึงเวลาของทั้งคู่ก็ได้เพราะเจอร์รี่ก็ยังไม่รู้จักแสดงความรู้สึกออกมาเท่าที่ควร จื้อหลิงก็ยังไม่เข้าใจความห่วงใยของผู้ชายนิสัยสุขุมนุ่มลึกคนนี้
(ประเด็นตกม้า เจอร์รี่เคยให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่ง ประมาณนี้ค่ะ "ผมรู้สึกว่านิสัยของผมมีจุดหนึ่งที่ว่า....ผมยอมที่จะให้คนเข้าใจผิด แต่ผมไม่อยากจะชี้แจงกับใคร ว่าผมได้ทำอะไรเพื่อคุณบ้าง ก็คือว่า...เช่นตอนนั้น....เค้าอาจไม่สบาย ป่วยต้องการหมอ จริงๆแล้วในตอนนั้นผมร้อนใจมาก ผมก็เลยรีบ...ก็คือขอร้องพี่โหว(คุณหมอที่สนิทกับเจอร์รี่)ว่าสามารถช่วยหารพ.ที่ดีๆอย่างไถต้า แผนกที่ดีๆแล้วก็หมอที่เก่งๆ...จริงๆแล้วตอนนั้นผมยังรู้สึกว่าตัวเองหน้าหนามากเลย เพราะตอนนั้นยังไม่ค่อยสนิทกับพี่โหว แต่ผมรู้สึกว่ามีเรื่องต้องคอยรบกวนเขาอยู่ตลอด")
ตั้งแต่นั้นมาทุกๆ ปีจะมีข่าวคืนดี เลิกราออกมาให้แฟนๆ ลุ้นพร้อมกับสับสนไปด้วย เพราะแม้ข่าวออกมากี่ครั้งก็ไม่เคยได้รับการยืนยันใดๆ จากทั้งสองฝ่ายเลย ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2017 มีคนแอบถ่ายภาพของทั้งคู่ได้ที่ฟิตเนสแห่งหนึ่งในเมืองกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ซึ่งหลังจากรูปนั้นถูกเผยแพร่ออกไป ทุกคนเดากันว่าเจอร์รี่ เหยียน เดินทางไปที่นั่นเพื่อไปหาฝ่ายหญิงที่ถ่ายทำหนังของเธออยู่ที่มาเลเซียโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงสรุปกันว่าทั้งคู่น่าจะคืนดีกันแล้ว แต่ผ่านไปได้ไม่กี่วันต้นสังกัดเจอร์รี่ F4 และหลินจื้อหลิงเผยผ่านสื่อว่า ขอบคุณที่ความหวังดีของแฟนคลับ แต่ทางบริษัทขอให้ทุกคนรักษาพื้นที่ส่วนตัวของทั้งสองคนด้วย หากกลับมาคืนดีกันจริง หลินจื้อหลิงจะออกมาเปิดเผยเองแน่นอน
เมื่อต้นปี 2018 ก็มีข่าวลือหนาหูว่าเจอร์รี่ เหยียนและหลินจื้อหลิงเตรียมเข้าพิธีวิวาห์กันอย่างเงียบๆ ที่บาหลี แต่ไม่นานต้นสังกัดก็ออกมาเปิดเผยว่าหลินจื้อหลิงมีตารางคิวงานแน่นทุกวันจะมีเวลาที่ไหนไปแต่งงาน?! ข่าวจึงค่อยๆ เงียบหายไปเอง กระทั่งเมื่อไม่กี่วันนี้เองที่หลินจื้อหลิงประกาศตัวกลางรายการแล้วว่าตอนนี้เธอโสดสนิท อนาคตจะเป็นอย่างไรก็ขอให้เวลานำพาไปเองแล้วกันเนอะ #เรื่องเผือกเลือกสุดฯ
cr.นิตยสารสุดสัปดาห์ค่ะ
ในวงเล็บคือข้อมูลเพิ่มเติมที่ จขกท.ทราบมาจากการติดตามเจอร์รี่มา 10 กว่าปีนะคะ พราะรู้สึกข้อมูลบางอย่างจะคลาดเคลื่อนอยู่
อ่านแล้วเศร้า ลุ้นคู่นี้มาตลอด ตอนเห็นข่าวว่าไปเจอกันที่มาเลฯก็แอบดีใจ แต่ตอนนี้คดีพลิกซะงั้น
รูปเมื่อไม่นานมานี้ของทั้งคู่
เจอร์รี่ F4-หลินจื้อหลิง มหากาพย์รัก 16 ปีหรือจะจบลงแค่นี้
หลังรายการวาไรตี้หนึ่งของไต้หวันออนแอร์ไปเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2018 ที่ผ่านมาโดยมีหลินจื้อหลิง(Lin Zhiling) นักแสดง นางแบบที่ใครๆ ยอมรับว่าเธอนี่แหละนางแบบนัมเบอร์วันของไต้หวันเป็นแขกรับเชิญ แน่นอนว่าเรื่องที่ทุกคนให้ความสนใจก็คงหนีไม่พ้นเรื่องความรักของเธอที่ต่างรู้กันดีว่าหลินจื้อหลิงมีข่าวคราวรักๆ เลิกๆ ที่เรียกว่าเป็นมหากาพย์กับเจอร์รี่ เหยียน (Jerry Yan) หรือเจอร์รี่ F4 นักร้อง นักแสดงรุ่นน้องมานานกว่า 16 ปี แต่ล่าสุดหลินจื้อหลิงประกาศกลางรายการว่าตอนนี้เธอโสด! ทำเอาพิธิกรอึ้ง ส่วนสาเหตุนั้นเจ้าตัวบอกพร้อมน้ำตาคลอเบ้าว่าปัญหาน่าจะอยู่ที่ตัวเธอเองที่ชอบติดอยู่อดีตมากกว่าปัจจุบัน
พอได้เห็นหลินจื้อหลิงออกตัวแบบนี้ทำเอาชาวโซเชียลสับสนและคอมเม้นท์ไปต่างๆ นานา แถมยังนิยามเรื่องราวความรักของหลินจื้อหลิงและเจอร์รี่ F4 ว่าเป็นซีรี่ย์รักที่ยาวมากที่สุดของไต้หวัน เส้นทางรักของคู่นี้ว่ากันว่าเริ่มต้นเมื่อปี 2002 หลังจากมีมือดีแชะภาพขณะทั้งคู่ไปดูหนังด้วยกัน จากนั้นปี 2005 ก็มีภาพหลินจื้อหลิงนำโทรศัพท์มือถือที่เสียไปส่งซ่อมโดยมีเจอร์รี่อยู่ข้างกาย กลางปีเดียวกันนี้เองมีข่าวว่าหลินจื้อหลิงประสบอุบัติเหตุตกจากหลังม้าขณะถ่ายโฆษณา แต่ฝ่ายชายกลับไม่ได้ไปเยี่ยมเธอเนื่องจากเขาติดถ่ายทำซีรี่ย์ ด้วยความห่างและระยะเวลาทำให้ทั้งคู่เลิกกันในที่สุด
(เจอร์รี่ไปเยี่ยมค่ะ ตอนแรกมีรูปด้านหลังผู้ชายคนหนึ่งสะพายเป้ที่ รพ. ตอนนั้นนักข่าวและ fc ยังถกเถียงกันว่าใช่เจอร์รี่มั้ย แต่สุดท้ายมาชัดว่าใช่ เพราะเค้าเล่าใน photo book กว่าจะดั้นด้นไปเยี่ยมฝ่ายหญิงได้ ลำบากขนาดไหน เพราะช่วงนั้นถ่ายละครอยู่ที่ห่างไกล กว่าจะไปถึงต้องเปลี่ยนรถยนต์รถไฟไม่รู้กี่รอบ ที่สำคัญที่กองถ่ายวุ่นวายมาก เพื่อนร่วมงานบอกว่าข้างนอกนักข่าวก็จับจ้องการเคลื่อนไหวเค้า ถ้าเค้าออกไปตอนนี้เท่ากับพาตัวเองเข้าไปหากับดัก แต่สุดท้ายเค้าก็ไปเยี่ยมฝ่ายหญิงจนได้)
รูปที่ รพ.
ปี 2006 หลินจื้อหลิงและเจอร์รี่ เหยียนปรากฏตัวพร้อมกันครั้งแรกหลังมีข่าวเลิกรากันใน Asia-Pacific Film Festival โดยฝ่ายชายรับหน้าที่เป็นผู้ประกาศรางวัล บนเวทีทั้งคู่จับมือทักทายกันเพียงเท่านั้น แต่ก็มีหลายคนจับผิดสายตาของเจอรร์รี่ที่มองหลินจื้อหลิงว่ายังมีความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันอยู่ ส่วนสาเหตุที่เลิกกันก่อนหน้านี้นั้นสื่อคาดการณ์ว่าแม่ของฝ่ายหญิงก็อาจไม่ปลื้มเจอร์รี่เท่าไรนักเพราะตอนที่หลินจื้อหลิงตกหลังม้า เขาก็ไม่ได้ดูแลเธอดีเท่าที่ควร บ้างก็ให้ความเห็นว่าอาจยังไม่ถึงเวลาของทั้งคู่ก็ได้เพราะเจอร์รี่ก็ยังไม่รู้จักแสดงความรู้สึกออกมาเท่าที่ควร จื้อหลิงก็ยังไม่เข้าใจความห่วงใยของผู้ชายนิสัยสุขุมนุ่มลึกคนนี้
(ประเด็นตกม้า เจอร์รี่เคยให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่ง ประมาณนี้ค่ะ "ผมรู้สึกว่านิสัยของผมมีจุดหนึ่งที่ว่า....ผมยอมที่จะให้คนเข้าใจผิด แต่ผมไม่อยากจะชี้แจงกับใคร ว่าผมได้ทำอะไรเพื่อคุณบ้าง ก็คือว่า...เช่นตอนนั้น....เค้าอาจไม่สบาย ป่วยต้องการหมอ จริงๆแล้วในตอนนั้นผมร้อนใจมาก ผมก็เลยรีบ...ก็คือขอร้องพี่โหว(คุณหมอที่สนิทกับเจอร์รี่)ว่าสามารถช่วยหารพ.ที่ดีๆอย่างไถต้า แผนกที่ดีๆแล้วก็หมอที่เก่งๆ...จริงๆแล้วตอนนั้นผมยังรู้สึกว่าตัวเองหน้าหนามากเลย เพราะตอนนั้นยังไม่ค่อยสนิทกับพี่โหว แต่ผมรู้สึกว่ามีเรื่องต้องคอยรบกวนเขาอยู่ตลอด")
ตั้งแต่นั้นมาทุกๆ ปีจะมีข่าวคืนดี เลิกราออกมาให้แฟนๆ ลุ้นพร้อมกับสับสนไปด้วย เพราะแม้ข่าวออกมากี่ครั้งก็ไม่เคยได้รับการยืนยันใดๆ จากทั้งสองฝ่ายเลย ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2017 มีคนแอบถ่ายภาพของทั้งคู่ได้ที่ฟิตเนสแห่งหนึ่งในเมืองกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ซึ่งหลังจากรูปนั้นถูกเผยแพร่ออกไป ทุกคนเดากันว่าเจอร์รี่ เหยียน เดินทางไปที่นั่นเพื่อไปหาฝ่ายหญิงที่ถ่ายทำหนังของเธออยู่ที่มาเลเซียโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงสรุปกันว่าทั้งคู่น่าจะคืนดีกันแล้ว แต่ผ่านไปได้ไม่กี่วันต้นสังกัดเจอร์รี่ F4 และหลินจื้อหลิงเผยผ่านสื่อว่า ขอบคุณที่ความหวังดีของแฟนคลับ แต่ทางบริษัทขอให้ทุกคนรักษาพื้นที่ส่วนตัวของทั้งสองคนด้วย หากกลับมาคืนดีกันจริง หลินจื้อหลิงจะออกมาเปิดเผยเองแน่นอน
เมื่อต้นปี 2018 ก็มีข่าวลือหนาหูว่าเจอร์รี่ เหยียนและหลินจื้อหลิงเตรียมเข้าพิธีวิวาห์กันอย่างเงียบๆ ที่บาหลี แต่ไม่นานต้นสังกัดก็ออกมาเปิดเผยว่าหลินจื้อหลิงมีตารางคิวงานแน่นทุกวันจะมีเวลาที่ไหนไปแต่งงาน?! ข่าวจึงค่อยๆ เงียบหายไปเอง กระทั่งเมื่อไม่กี่วันนี้เองที่หลินจื้อหลิงประกาศตัวกลางรายการแล้วว่าตอนนี้เธอโสดสนิท อนาคตจะเป็นอย่างไรก็ขอให้เวลานำพาไปเองแล้วกันเนอะ #เรื่องเผือกเลือกสุดฯ
cr.นิตยสารสุดสัปดาห์ค่ะ
ในวงเล็บคือข้อมูลเพิ่มเติมที่ จขกท.ทราบมาจากการติดตามเจอร์รี่มา 10 กว่าปีนะคะ พราะรู้สึกข้อมูลบางอย่างจะคลาดเคลื่อนอยู่
อ่านแล้วเศร้า ลุ้นคู่นี้มาตลอด ตอนเห็นข่าวว่าไปเจอกันที่มาเลฯก็แอบดีใจ แต่ตอนนี้คดีพลิกซะงั้น
รูปเมื่อไม่นานมานี้ของทั้งคู่