รวบแล้วพระทำน้ำมนต์ให้สาววัย 18 ดื่มจนช็อกดับ หลังหนีไป 3 เดือน รับสิ้นไส้-เล่าหมดทุกขั้นตอน
วันที่ 17 กรกฎาคม 2561 - 16:38 น.
จากกรณีพ่อและแม่ของสาววัย 18 ปี แจ้งความกับตำรวจ สภ.แก้งคร้อ ว่าลูกสาวได้กินน้ำมนต์ของพระรูปหนึ่งที่อ้างว่าลูกสาวถูกคุณไสยมนต์ดำ จนช็อกเสียชีวิต เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา เหตุเกิดในวัดร้างแห่งหนึ่ง หมู่บ้านท่าเว่อ หมู่ 11 ต.เก่าย่าดี อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่หาข่าว จนพบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมด 5 ราย เป็นพระ 2 รูป และฆราวาส 3 คน พร้อมกับเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
ต่อมาเมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.วิญญู พื้นหินลาด สารวัตร (สอบสวน) สภ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ได้รับการติดต่อจากญาติๆ ของพระบุญปัน บุญโนนแต้ อายุ 66 ปี พระลูกวัดของสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งอยู่ที่ ต.ผานกเคา อ.ภูกระดึง จ.เลย ว่าจะนำตัวผู้ถูกกล่าวหา และลูกศิษย์ รวม 5 ราย ประกอบด้วย พระโอภาษ ศรีสง่า อายุ 43 ปี พระบุญปัน บุญโนนแต้ อายุ 66 ปี น.ส.กรรณิการ์ ไม้สังข์ อายุ 37 ปี น.ส.บุญหลาย จันลา อายุ 36 ปี และนายมงคล ใยแก้ว อายุ 33 ปี แต่พบว่ามาเพียง 4 คน ส่วนพระโอภาษ ได้หลบหนีไป โดยทั้ง 4 คน ให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงส่งตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดชัยภูมิ
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 17 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัว อดีตพระโอภาษ ศรีสง่า อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาคดีทำน้ำมนต์ให้สาววัย 18 ปี ดื่มจนเสียชีวิต ได้แล้ว ก่อนนำตัวมาสอบปากคำที่ กก.สส.ภ.จว.ชัยภูมิ โดยอดีตพระโอภาษ ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า หลังก่อเหตุตนพยายามหลบหนีการจับกุมนานกว่า 3 เดือน เพราะกลัวความผิดที่ก่อไว้ จึงได้สึกออกจากการเป็นพระที่ จ.หนองบัวลำภู เพื่อสะดวกแก่การหลบหนี แล้วเดินทางไปพื้นที่ภาคใต้ จนไปถึงที่ จ.กระบี่ จึงไปรับจ้างลงเรือทำงานอยู่ในทะเลอยู่ 3 เดือน
จนช่วงนี้เป็นช่วงมรสุมออกเดินเรือไม่ได้ใน ประกอบกับคิดถึงบ้านจึงเดินทางกลับมา ก่อนถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว นอกจากนี้ตนยอมรับว่า เป็นคนทำพิธีล้างคุณไสยมนต์ดำด้วยการให้สาววัย 18 ดื่มน้ำมนต์จนเสียชีวิตจริง แต่ไม่มีเจตนา ซึ่งตนบวชมาเกือบ 9 ปี ก็จะรับทำให้กับคนที่คิดว่าตัวเองถูกคุณไสยมนต์ดำเท่านั้น ไม่ได้เรียกร้องอะไร ค่าครูก็ตามแต่คนที่จะทำให้มา ส่วนน้ำมนต์นั้นก็ไม่ได้ใส่อะไร เป็นเพียงน้ำเปล่า กับน้ำตาเทียนเท่านั้นที่ใช้หยดลงไป แล้วก็สวดมนต์พิธีต่างๆ ตามที่ได้อ่านท่องจำจากหนังสือ” อดีตพระโอภาษ กล่าว
อดีตพระโอภาษ กล่าวต่อว่า ตนก็จะแจ้งตลอดว่าใครที่น้ำพิธีจะต้องดื่มน้ำมนต์จำนวนมาก บางรายอาจจะต้องถึงเต็ม 2 บาตรพระ และดื่มแล้วจะมีอาการอาเจียนออกมา หากใครที่มีโรคประจำตัว โรคลมชัก โรคหอบหืด ก็ขอให้แจ้งก่อนทำพิธีดื่มน้ำมนต์ทุกครั้ง ไม่ได้บังคับใคร คนส่วนใหญ่ที่มาให้ทำน้ำมนต์ให้ดื่มเพื่อเลิกเหล้า เลิกสูบบุหรี่ ซึ่งก็สำเร็จมาหลายคน กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว
ส่วนในกรณีของสาววัย 18 รายนี้ ตนเห็นว่ารอบคอดำน่าจะโดนคุณไสยมาหนัก จึงต้องดื่มน้ำมนต์จนอาเจียนมากกว่าใครๆ จนช็อกตนก็หยุด และให้คนพาส่งโรงพยาบาล ซึ่งตนยอมรับว่าไม่มีเจตนาที่ให้สาวรายนี้เสียชีวิตแต่อย่างใด และตนรู้สึกเสียใจกับครอบครัวของน้องด้วย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.แก้งคร้อ เพื่อดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันกระทำการโดยประมาท จนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณแหล่งข่าว..
ไม่สบายก็ไป โรงพยาบาล พระ ก็ยังไปโรงพยาบาล เรื่องน้ำมนต์รักษา เป็นเรื่องเหลวไหล
วันที่ 17 กรกฎาคม 2561 - 16:38 น.
จากกรณีพ่อและแม่ของสาววัย 18 ปี แจ้งความกับตำรวจ สภ.แก้งคร้อ ว่าลูกสาวได้กินน้ำมนต์ของพระรูปหนึ่งที่อ้างว่าลูกสาวถูกคุณไสยมนต์ดำ จนช็อกเสียชีวิต เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา เหตุเกิดในวัดร้างแห่งหนึ่ง หมู่บ้านท่าเว่อ หมู่ 11 ต.เก่าย่าดี อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่หาข่าว จนพบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมด 5 ราย เป็นพระ 2 รูป และฆราวาส 3 คน พร้อมกับเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
ต่อมาเมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.วิญญู พื้นหินลาด สารวัตร (สอบสวน) สภ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ได้รับการติดต่อจากญาติๆ ของพระบุญปัน บุญโนนแต้ อายุ 66 ปี พระลูกวัดของสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งอยู่ที่ ต.ผานกเคา อ.ภูกระดึง จ.เลย ว่าจะนำตัวผู้ถูกกล่าวหา และลูกศิษย์ รวม 5 ราย ประกอบด้วย พระโอภาษ ศรีสง่า อายุ 43 ปี พระบุญปัน บุญโนนแต้ อายุ 66 ปี น.ส.กรรณิการ์ ไม้สังข์ อายุ 37 ปี น.ส.บุญหลาย จันลา อายุ 36 ปี และนายมงคล ใยแก้ว อายุ 33 ปี แต่พบว่ามาเพียง 4 คน ส่วนพระโอภาษ ได้หลบหนีไป โดยทั้ง 4 คน ให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงส่งตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดชัยภูมิ
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 17 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัว อดีตพระโอภาษ ศรีสง่า อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาคดีทำน้ำมนต์ให้สาววัย 18 ปี ดื่มจนเสียชีวิต ได้แล้ว ก่อนนำตัวมาสอบปากคำที่ กก.สส.ภ.จว.ชัยภูมิ โดยอดีตพระโอภาษ ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า หลังก่อเหตุตนพยายามหลบหนีการจับกุมนานกว่า 3 เดือน เพราะกลัวความผิดที่ก่อไว้ จึงได้สึกออกจากการเป็นพระที่ จ.หนองบัวลำภู เพื่อสะดวกแก่การหลบหนี แล้วเดินทางไปพื้นที่ภาคใต้ จนไปถึงที่ จ.กระบี่ จึงไปรับจ้างลงเรือทำงานอยู่ในทะเลอยู่ 3 เดือน
จนช่วงนี้เป็นช่วงมรสุมออกเดินเรือไม่ได้ใน ประกอบกับคิดถึงบ้านจึงเดินทางกลับมา ก่อนถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว นอกจากนี้ตนยอมรับว่า เป็นคนทำพิธีล้างคุณไสยมนต์ดำด้วยการให้สาววัย 18 ดื่มน้ำมนต์จนเสียชีวิตจริง แต่ไม่มีเจตนา ซึ่งตนบวชมาเกือบ 9 ปี ก็จะรับทำให้กับคนที่คิดว่าตัวเองถูกคุณไสยมนต์ดำเท่านั้น ไม่ได้เรียกร้องอะไร ค่าครูก็ตามแต่คนที่จะทำให้มา ส่วนน้ำมนต์นั้นก็ไม่ได้ใส่อะไร เป็นเพียงน้ำเปล่า กับน้ำตาเทียนเท่านั้นที่ใช้หยดลงไป แล้วก็สวดมนต์พิธีต่างๆ ตามที่ได้อ่านท่องจำจากหนังสือ” อดีตพระโอภาษ กล่าว
อดีตพระโอภาษ กล่าวต่อว่า ตนก็จะแจ้งตลอดว่าใครที่น้ำพิธีจะต้องดื่มน้ำมนต์จำนวนมาก บางรายอาจจะต้องถึงเต็ม 2 บาตรพระ และดื่มแล้วจะมีอาการอาเจียนออกมา หากใครที่มีโรคประจำตัว โรคลมชัก โรคหอบหืด ก็ขอให้แจ้งก่อนทำพิธีดื่มน้ำมนต์ทุกครั้ง ไม่ได้บังคับใคร คนส่วนใหญ่ที่มาให้ทำน้ำมนต์ให้ดื่มเพื่อเลิกเหล้า เลิกสูบบุหรี่ ซึ่งก็สำเร็จมาหลายคน กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว
ส่วนในกรณีของสาววัย 18 รายนี้ ตนเห็นว่ารอบคอดำน่าจะโดนคุณไสยมาหนัก จึงต้องดื่มน้ำมนต์จนอาเจียนมากกว่าใครๆ จนช็อกตนก็หยุด และให้คนพาส่งโรงพยาบาล ซึ่งตนยอมรับว่าไม่มีเจตนาที่ให้สาวรายนี้เสียชีวิตแต่อย่างใด และตนรู้สึกเสียใจกับครอบครัวของน้องด้วย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.แก้งคร้อ เพื่อดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันกระทำการโดยประมาท จนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณแหล่งข่าว..