[CR] ประสบการณ์ CU-TEP ครั้งที่ 2

ขอรีวิวการสอบ CU-TEP ทั้งสองครั้งนะครับ

เป็นคนที่ผ่านการทดสอบภาษาอังกฤษมาหลายอย่าง ทั้ง TOEIC, TOEFL, IELTS

แต่มีความจำเป็นต้องสอบ CU-TEP ทั้งๆที่อายุก็มากแล้ว เนื่องจากที่ทำงานมีนโยบาย

เพิ่มเงินเดือนโดยต้องสอบภาษาอังกฤษ และกำหนดไว้ว่า ถ้าได้ CU-TEP ที่ 90+ จะได้เงินเดือนเพิ่มอีกหลายพัน

สาเหตุที่สอบ CU-TEP  1. เนื่องจากค่าสอบ 900 บาท 2. ไม่รับผล TOEIC

หัวข้อที่จะรีวิว มีดังนี้

1. วิธีการสมัครสอบ
2. ข้อสอบแบ่งเป็นกี่พาร์ท
3. แนวข้อสอบกว้างๆ
4. การแต่งตัวไปสอบ
5. การประกาศผล
6. เปรียบเทียบกับการทดสอบภาษาอังกฤษแบบอื่นๆ

1. วิธีการสมัครสอบ
    ต้องตรวจสอบตารางสอบในเว็บของศูนย์การทดสอบทางภาษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    ที่ www.atc.chula.ac.th จะบอกปฏิทินการสอบ และกำหนดวันสมัคร(สมัครทางเว็บของศูนย์ฯ)
    โดยเราต้องลงทะเบียนสมัคร โดยใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เลขบัตรประจำตัวประชาชน
    และรูปถ่าย

    **โดยปกติ ถ้าสอบแล้ว ต้องรอผลไปประมาณ 10-12 วันหลังสอบเสร็จ เช่นสอบวันอาทิตย์ วันพฤหัส ของสัปดาห์ที่2หลังสอบ
    คะแนนจะออก  แต่มีบางครั้งที่ผลสอบออกเร็วกว่าที่บอกไว้ แต่น้อยครั้งมาก
    **ควรจะสมัครรอบต่อไปเตรียมไว้เลย ถ้าคิดว่าทำคะแนนไม่ได้ตามที่ตั้งใจ

2. ข้อสอบแบ่งเป็น 3 ส่วน 1) listening 30 ข้อ 30 นาที มีเวลาฝนคำตอบในกระดาษคำตอบ อีก 10 นาที
                                  2) reading 60 ข้อ 70 นาที หมดเวลาเก็บกระดาษคำตอบทันที
                                  3) writing 30 ข้อ 30 นาที  หมดเวลาเก็บกระดาษคำตอบทันที
    
3. แนวข้อสอบกว้างๆ

     สอบครั้งที่ 1 สอบที่ตึกคณะพาณิชย์ฯ ชั้น 2  ตึกมหิตลาธิเบศวรฯ (ขออภัยถ้าสะกดผิด) ห้องสอบร้อน
                      listening สำหรับการสอบพาร์ทนี้ เสียงชัด ฟังรู้เรื่อง เอาข้อสอบเก่ามาทำได้เลย
                                   โน้ตลงไปในกระดาษข้อสอบได้ เป็นบทสนทนาตั้งแต่สั้นๆ ไปจนถึง ยาวมาก
                      reading  ข้อสอบออกเรื่อง สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี ข่าวบันเทิง  บทความเกี่ยวกับโรฮิงยา เรื่องเกี่ยวกับจีน เรื่องเกี่ยวกับอินเดีย
                                   แล้วก็ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับขนมครัวซอง ส่วนตัวคิดว่า อ่านแล้วต้องคิดลงไปอีก ถึงจะตอบข้อสอบได้
                                   คำถามก็จะประมาณ เรื่องนี้ main idea ว่าอะไร  implied อะไรได้บ้าง inferred อะไรได้บ้าง
                                   อันไหนถูก อันไหนผิด
                      writing เป็น error identification ทำไม่ทัน ถามทุกเรื่องที่แกรมม่าเกี่ยวข้อง  ทำไม่ทัน 8ข้อ ดิ่ง A ไป
       สอบครั้งแรก ไม่ได้เตรียมตัวไป ได้คะแนนต่ำกว่าที่คาดไว้มาก จริงๆคิดว่าน่าจะได้ 8X  แต่ผลสอบได้ 7X ปลายๆ

       ผลสอบ ออกหลังจากสอบ 9 วัน(รวมเสาร์-อาทิตย์)

       สอบครั้งที่ 2 สอบที่ตึกคณะนิติฯ ชั้น 5 ตึกพินิตประชานารถ ห้องสอบร้อนเช่นกัน
                        แถมลำโพงแตกด้วย เจ้าหน้าที่คุมสอบ แก้ปัญหาด้วยการหรี่เสียงลำโพง สรุปว่า ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง
                        ข้อสอบพาร์ท listening ก็คล้ายๆเดิม  แต่เรื่องของบทสนทนา ก็วนเวียนกับเรื่อง ชีวิตการเรียน
                        หรือมีบทสนทนาแล้วให้บอกว่า เขาพูดกันที่สถานที่อะไร   หรือ ต่อไปจะทำอะไรต่อ
                        
                        ข้อสอบพาร์ท reading ก็คล้ายๆเดิม คือ มี cloze test (เติมประโยคในช่องว่าง) 15 ข้อ
                        เนื้อเรื่องคราวนี้  ออกเรื่องบอลลีวู้ด bollywood ตั้งแต่ก่อนสงครามโลก จนถึงปัจจุบัน
                        สิ่งแวดล้อม เกี่ยวกับน้ำท่วมโลก global warming ที่จะทำให้เกาะมัลดีฟ และประเทศเกาะต่างๆจมทะเล
                        เรื่องอื่นๆ จำไม่ค่อยได้  นึกออกจะมาเขียนเพิ่ม
                        ข้อสอบพาร์ท writing ปกติจะตัดช้อยส์ได้  แต่คราวนี้ไม่แน่ใจ ตัดไม่ได้เยอะมาก

4. การแต่งตัวไปสอบ   ผู้หญิง เท่าที่เห็น ก็ชุดนิสิต/นักศึกษา/นักเรียน  คนวัยทำงาน ก็ใส่กระโปรง เสื้อเชิ้ตไปสอบกัน
                              ผู้ชาย ตามที่เว็บบอกให้แต่งตัว คือ เสื้อเชิ้ต กางเกงสแล็ค รองเท้าหุ้มส้น  แต่เห็นคนใส่เสื้อโปโล
                              กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ก็เข้าสอบได้หลายคน
                              ** ไม่ต้องเตรียม ปากกา ยางลบ ดินสอ2บี ไป เพราะในห้องสอบมีให้ แต่บัตรประชาชนกับพาสปอร์ตต้องเอาไป
                              ** นาฬิกา มือถือ ต้องใส่กระเป๋าวางไว้ข้างนอก  กระเป๋าสตางค์มีถุงพลาสติกใส ห่อให้ ถือเอาเข้าห้องสอบได้
                              ** กระดาษทิชชู่ กระดาษซับมัน เอาเข้าไม่ได้นะครับ   ถ้าจะสั่งขี้มูกยกมือบอกเจ้าหน้าที่ครับ

5. การประกาศผล  ปกติ ก็ 10-12 วันหลังสอบ (รวมเสาร์อาทิตย์) แล้วก็ปริ้นท์จากเว็บออกมาได้  ถ้าต้องการตัวจริง ก็ต้องติดต่อที่ศูนย์ฯ
                         อีกที

6. การเปรียบเทียบกับการสอบแบบอื่น
    **โดยส่วนตัว CU-TEP ถือว่ามีมาตรฐาน สำหรับการสอบภาษาอังกฤษเชิงวิชาการครับ เพราะข้อสอบถูกออกแบบมาเพื่อคนไทยครับ
        เพราะจุดที่ผมอ่อน ผลสอบก็บอกตรงกับจุดที่ผมอ่อนจริงๆ
    **จากประสบการณ์ที่เคยสอบ toeic มา3 ครั้ง ได้สูงสุด 890 โทอิค เป็นการวัดภาษาด้านการใช้งานจริงครับ ข้อสอบจะตรงไปตรงมา ไม่ต้องคิดเยอะ
        แต่ CU-TEP ต้องคิดก่อนถึงจะตอบได้
    **CU-TEP ใกล้เคียงกับ toefl ครับ ทำข้อสอบ toefl แล้ว ก็เอามาใช้กับ CU-TEP ได้ แต่เรื่อง writing toefl ยากกว่า
    **CU-TEP ยากกว่า IELTS สำหรับตัวผมนะครับ เพราะผมไม่แน่นแกรมม่า ในขณะที่ IELTS เน้นฟัง อ่าน มากกว่า
    ** จะบอกว่าอันไหนดีอันไหน คงตอบไม่ได้  เอาเป็นว่าถนัดอันไหน ก็ไปสอบอันไหนเถอะครับ  

อยากให้เพิ่มอะไรมาเม้นท์กันได้ครับ

ปล. ขิง(อวด)หน่อย เจอน้องเจนนิษฐ์ BNK48 ไปสอบวันเดียวกัน ตึกเดียวกันด้วย  น้องตัวจริงน่ารักโฮก หวีดมาก แต่ไม่อยากรบกวนน้อง
ชื่อสินค้า:   CU-TEP
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่