ข้อคิดสอนใจจากการใช้บัตรสะสมแต้มและร่วมโปรโมชั่นของเอสโซ่สมายล์


วันนี้มีเรื่องต้องหงุดหงิดใจ  เราได้รับsmsจากเอสโซ่เรื่องโปรโมชั่นเเลกคะเเนนสะสม

... เราขับรถไปธุระ ผ่านปั๊มพอดี ไม่ได้พกเงินสดไปเลย มีเเต่บัตรสมาชิกเอสโซ่สมายล์คลับ
ผ่านปั๊มเอสโซ่... เติมน้ำมันไปพันห้า กะว่าใช้คะเเนนในบัตรที่มีอยู่เหลือเฟือ ... ปรากฎเเคชเชียร์บอก เเลกได้สูงสุด 450 บาท .... ต้องจ่ายเพิ่มอัก 1050 บาท ... ยิ้มล่ะสิ

เรามั่นใจว่าเราอ่านเงื่อนไขไม่ผิด จึงโทรไปคอลเซ็นเตอร์ของเอสโซ่สมายล์ .... คอลเซ็นเตอร์ยืนยันว่าเเลกได้ทั้งหมด ขอคุยกับเเคชเชียร์ คุยกับผู้จัดการ ไปจนถึงเถ้าเเก่เจ้าของปั๊ม

เถ้าเเก่เป็นผู้หญิง ไม่รู้ไปกินรังแตนที่ไหน ยืนกรานว่า ไม่ให้รูด ไม่ให้ใช้เเต้ม พร้อมประโยคเด็ด แสบถึงทรวง บอก " คราวหลังถ้าจะใช้โปรโมชั่นแบบนี้ ให้ไปเติมปั๊มอื่น !!! "

เวลาผ่านไปนานยี่สิบกว่านาที  , เราจนแต้ม คุยกับคอลเซ็นเตอร์ คอลเซ็นเตอร์บอกแลกได้ทั้งหมด แต่เเคชเชียร์และเจ้าของปั๊มยืนกรานไม่ให้เเลก ... พลันนึกขึ้นได้ว่าเรามีมือถือที่มีเเอพscbสามารถกดเงินสดจากตู้ใกล้เคียงได้โดยไม่ต้องใช้บัตร .... เรายอมแพ้ ยอมจ่ายตามเงื่อนไขเจ้าของปั๊ม

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

1) ไม่ว่าจะเป็นบริษัทใหญ่โตระดับโลกเเค่ไหน  การเลือก การคัดคู่ค้ามีความสำคัญมากๆ ... การขายสินค้าควบคู่การบริการ ถ้าเจอคู่ค้าหรือผู้ซื้อแฟรนไชส์ที่ไม่มีใจรัก จะทำให้ธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จได้โดยง่าย

2)   เงินสดเเละบัตรเครดิตเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อย่าไว้ใจระบบ เพราะระบบออนไลน์อาจจะมีปัญหาหรือเกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกันแบบกรณีที่เกิดขึ้นกับเราได้ ... เรื้องนี้โทษใครไม่ได้ ต้องโทษตัวเราเอง

3) แอพ scb บนมือถือ สุดยอดจริงๆ.... ใช้งานง่ายมาก  แค่มีมืถือก็สามารถกดเงินสดออกจากตู้ได้ สมกับไทยเเลนด์4.0  เราโฆษณาให้ฟรีๆเลย

4) เราไม่น่าเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องเลย  เปลืองค่าโทรศัพท์ เสียเวลา เสียอารมณ์ ... เรื่องนี้ต้องโทษตัวเองที่มัวไปเสียเวลากับของแถมหรือโปรโมชั่นล่อใจเเค่ไม่กี่บาท
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่