ฉบับที่ ๓๒ วันจันทร์ที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
เรื่อง บอลโลกสะท้อนสังคม เขาว่าบอลโลก 2018 จัดดีที่สุดเท่าที่จัดมา ตัวชี้วัด? หลักธรรมใด?
ถ้าพูดถึงมหกรรมบอลโลก กับภาพลักษณ์ที่เริ่มจำความได้และค้างคาใจมาโดยตลอดเมื่อ 20 ปีที่แล้ว นั่นคือ ความโหดร้ายที่ได้ลอบสังหารนักฟุตบอลสกัดเข้าประตูตัวเองทำให้พ่ายแพ้และตกรอบไป
จากกีฬาที่สร้างมิตรภาพ สร้างความสัมพันธ์ทุกระดับ ตั้งแต่ ระหว่างโลก ประเทศชาติ สังคม ครอบครัว แม้กระทั่งเพื่อน ๆ ซึ่งความสัมพันธ์นี้ได้สร้างทั้งสุขภาพ ความบันเทิง และข้อคิด สะกิดใจมากมาย เช่น รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ไร้การพนัน แต่ก็เป็นเพียงเป้าหมายโดยวิธีการยังต้องปรับแก้อีกมากมาย
กว่า 20 ปี ได้เห็นพัฒนาการของกีฬายอดนิยมชนิดนี้ ที่ปรับเปลี่ยนกติกามากมาย รวมทั้งการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เพื่อแก้ปัญหาในหลายจุด และได้ทำให้เกิดสโลแกนอันโดดเด่นที่เรียกว่า “FairPlay“ เล่นอย่างยุติธรรม
กฏกติกา FairPlay ที่เห็นได้อย่างชัดเจน 2 เรื่อง ในมหกรรมระดับโลกครั้งนี้ คือ
1. การตัดสินเข้ารอบจากคะแนนที่เท่ากันโดยดูจากใบเหลืองใบแดง ซึ่งใบเหลืองใบแดงเป็นการลงโทษนักฟุตบอลที่เล่นอย่างน่าเกลียด ไม่สุภาพ ทั้งแทคติคทางกีฬาและการแสดงพฤติกรรมไม่พอใจ หรือกล่าวได้ว่าทำลายคู่แข่ง เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ แม้กระทั่งการระบายอารมณ์ ซึ่งการตัดสินจากใบเหลืองใบแดงนี้เอง ได้เกิดผลทำให้ญี่ปุ่นเข้ารอบ แม้มีคะแนนเท่ากับเซเนกัล แต่คะแนน FairPlay มากกว่า
2. กล้อง VAR เป็นกล้องที่ช่วยกรรมการตัดสินในจังหวะสำคัญที่ค้านสายตาของผู้เล่นและคนดูทั่วโลก ทั้งลูกที่เป็น/ไม่เป็นประตู จุดโทษ/ไม่จุดโทษ รวมทั้งการทำร้ายคู่แข่งที่กรรมการมองไม่เห็น
จากกติกา 2 ข้อสำคัญในฟุตบอลโลกหนนี้ จะเห็นได้ว่า ความมีน้ำใจนักกีฬาได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก น่าจะเกิดจากความยุติธรรม ที่เป็น FairPlay แม้จะมีการประท้วงบ้างแต่ก็ลดน้อยไปมากที่สำคัญคือ ปราศจากการลอบสังหารนักฟุตบอลในอดีตที่ผิดพลาด ทำเข้าประตูตัวเอง แม้ครั้งนี้มีการสกัดเข้าประตูตัวเองมากมายหลายครั้ง ผู้เขียนคิดว่าน่าจะเกิดจากการมีภาพที่ตัดสินชัดเจนว่านักกีฬา “ล้มบอล” แกล้งแพ้ เพื่อวัตถุประสงค์ผลประโยชน์ใดก็ตามนั้น เป็นที่ประจักษ์สู่สายตาแล้วว่า นักกีฬานั้น FairPlay
บทสรุปเรื่องการจัดฟุตบอลโลกครั้งนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม สิ่งหนึ่งก็เพราะกติกา เทคโนโลยีที่ยุติธรรม นำมาสู่น้ำใจนักกีฬา สู่คนดู และผู้เกี่ยวข้อง ได้สร้างความสุขทุกฝ่าย ที่สำคัญได้ให้ข้อคิดว่า การตัดสินที่ยุติธรรมนำมาสู่น้ำใจ ความเมตตาต่อกัน ซึ่งสามารถสะท้อนถึงบ้านเมืองได้ว่า อยากให้ปรองดองกัน ถ้าตัดสินไม่ยุติธรรม เล่นนอกเกมส์ ด้วยอคติ เกิดความลำเอียงเพราะความรัก, ความเกลียด, ความกลัวและความหลง ใครเขาจะยอมตกอยู่ภายใต้อำนาจที่ไม่เป็นธรรม จะมีเมตตาด้วย แต่ที่สุดแล้ว ผู้มีอำนาจตัดสินถ้าใช้ความเมตตาคงค้ำจุนโลกใบนี้ได้ อย่างน้อยการมีเมตตาก็ทำให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเอง พระพุทธองค์ตรัสว่า ได้อานิสงส์ 11 ประการ คือ
1. หลับเป็นสุข
2. ตื่นเป็นสุข
3. ไม่ฝันร้าย
4. เป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย
5. เป็นที่รักของอมนุษย์ทั้งหลาย
6. เทวดาย่อมรักษา
7. ไฟ ยาพิษ ศัสตรา ไม่ล่วงเกิน
8. จิตได้สมาธิเร็ว
9. สีหน้าผ่องใส
10. ไม่หลงตาย
11. เมื่อยังไม่บรรลุ ธรรม ย่อมเข้าถึงพรหมโลกชั้นสูง
ทุกท่านคิดเห็นอย่างไร แลกเปลี่ยนความความรู้กันใน Comment Facebook, YouTube, Blog, Line, IG, Twitter ...กันนะครับ ขอบคุณครับ
B.S.
16 ก.ค. 2561
ตอน เขาว่าบอลโลก 2018 จัดดีที่สุดเท่าที่จัดมา ตัวชี้วัด? หลักธรรมใด? เวลา 14.00-14.20 น.
https://youtu.be/aqOY_eoSopw
บอลโลกสะท้อนสังคม เขาว่าบอลโลก 2018 จัดดีที่สุดเท่าที่จัดมา ตัวชี้วัด? หลักธรรมใด?
เรื่อง บอลโลกสะท้อนสังคม เขาว่าบอลโลก 2018 จัดดีที่สุดเท่าที่จัดมา ตัวชี้วัด? หลักธรรมใด?
ถ้าพูดถึงมหกรรมบอลโลก กับภาพลักษณ์ที่เริ่มจำความได้และค้างคาใจมาโดยตลอดเมื่อ 20 ปีที่แล้ว นั่นคือ ความโหดร้ายที่ได้ลอบสังหารนักฟุตบอลสกัดเข้าประตูตัวเองทำให้พ่ายแพ้และตกรอบไป
จากกีฬาที่สร้างมิตรภาพ สร้างความสัมพันธ์ทุกระดับ ตั้งแต่ ระหว่างโลก ประเทศชาติ สังคม ครอบครัว แม้กระทั่งเพื่อน ๆ ซึ่งความสัมพันธ์นี้ได้สร้างทั้งสุขภาพ ความบันเทิง และข้อคิด สะกิดใจมากมาย เช่น รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ไร้การพนัน แต่ก็เป็นเพียงเป้าหมายโดยวิธีการยังต้องปรับแก้อีกมากมาย
กว่า 20 ปี ได้เห็นพัฒนาการของกีฬายอดนิยมชนิดนี้ ที่ปรับเปลี่ยนกติกามากมาย รวมทั้งการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เพื่อแก้ปัญหาในหลายจุด และได้ทำให้เกิดสโลแกนอันโดดเด่นที่เรียกว่า “FairPlay“ เล่นอย่างยุติธรรม
กฏกติกา FairPlay ที่เห็นได้อย่างชัดเจน 2 เรื่อง ในมหกรรมระดับโลกครั้งนี้ คือ
1. การตัดสินเข้ารอบจากคะแนนที่เท่ากันโดยดูจากใบเหลืองใบแดง ซึ่งใบเหลืองใบแดงเป็นการลงโทษนักฟุตบอลที่เล่นอย่างน่าเกลียด ไม่สุภาพ ทั้งแทคติคทางกีฬาและการแสดงพฤติกรรมไม่พอใจ หรือกล่าวได้ว่าทำลายคู่แข่ง เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ แม้กระทั่งการระบายอารมณ์ ซึ่งการตัดสินจากใบเหลืองใบแดงนี้เอง ได้เกิดผลทำให้ญี่ปุ่นเข้ารอบ แม้มีคะแนนเท่ากับเซเนกัล แต่คะแนน FairPlay มากกว่า
2. กล้อง VAR เป็นกล้องที่ช่วยกรรมการตัดสินในจังหวะสำคัญที่ค้านสายตาของผู้เล่นและคนดูทั่วโลก ทั้งลูกที่เป็น/ไม่เป็นประตู จุดโทษ/ไม่จุดโทษ รวมทั้งการทำร้ายคู่แข่งที่กรรมการมองไม่เห็น
จากกติกา 2 ข้อสำคัญในฟุตบอลโลกหนนี้ จะเห็นได้ว่า ความมีน้ำใจนักกีฬาได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก น่าจะเกิดจากความยุติธรรม ที่เป็น FairPlay แม้จะมีการประท้วงบ้างแต่ก็ลดน้อยไปมากที่สำคัญคือ ปราศจากการลอบสังหารนักฟุตบอลในอดีตที่ผิดพลาด ทำเข้าประตูตัวเอง แม้ครั้งนี้มีการสกัดเข้าประตูตัวเองมากมายหลายครั้ง ผู้เขียนคิดว่าน่าจะเกิดจากการมีภาพที่ตัดสินชัดเจนว่านักกีฬา “ล้มบอล” แกล้งแพ้ เพื่อวัตถุประสงค์ผลประโยชน์ใดก็ตามนั้น เป็นที่ประจักษ์สู่สายตาแล้วว่า นักกีฬานั้น FairPlay
บทสรุปเรื่องการจัดฟุตบอลโลกครั้งนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม สิ่งหนึ่งก็เพราะกติกา เทคโนโลยีที่ยุติธรรม นำมาสู่น้ำใจนักกีฬา สู่คนดู และผู้เกี่ยวข้อง ได้สร้างความสุขทุกฝ่าย ที่สำคัญได้ให้ข้อคิดว่า การตัดสินที่ยุติธรรมนำมาสู่น้ำใจ ความเมตตาต่อกัน ซึ่งสามารถสะท้อนถึงบ้านเมืองได้ว่า อยากให้ปรองดองกัน ถ้าตัดสินไม่ยุติธรรม เล่นนอกเกมส์ ด้วยอคติ เกิดความลำเอียงเพราะความรัก, ความเกลียด, ความกลัวและความหลง ใครเขาจะยอมตกอยู่ภายใต้อำนาจที่ไม่เป็นธรรม จะมีเมตตาด้วย แต่ที่สุดแล้ว ผู้มีอำนาจตัดสินถ้าใช้ความเมตตาคงค้ำจุนโลกใบนี้ได้ อย่างน้อยการมีเมตตาก็ทำให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเอง พระพุทธองค์ตรัสว่า ได้อานิสงส์ 11 ประการ คือ
1. หลับเป็นสุข
2. ตื่นเป็นสุข
3. ไม่ฝันร้าย
4. เป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย
5. เป็นที่รักของอมนุษย์ทั้งหลาย
6. เทวดาย่อมรักษา
7. ไฟ ยาพิษ ศัสตรา ไม่ล่วงเกิน
8. จิตได้สมาธิเร็ว
9. สีหน้าผ่องใส
10. ไม่หลงตาย
11. เมื่อยังไม่บรรลุ ธรรม ย่อมเข้าถึงพรหมโลกชั้นสูง
ทุกท่านคิดเห็นอย่างไร แลกเปลี่ยนความความรู้กันใน Comment Facebook, YouTube, Blog, Line, IG, Twitter ...กันนะครับ ขอบคุณครับ
B.S.
16 ก.ค. 2561
ตอน เขาว่าบอลโลก 2018 จัดดีที่สุดเท่าที่จัดมา ตัวชี้วัด? หลักธรรมใด? เวลา 14.00-14.20 น. https://youtu.be/aqOY_eoSopw