ชื่อตอนนี้มาจากบรรยากาศทั้ง 4 วันที่อยู่ในมอสโก มีหิมะตกทุกวันจนเจ้าหน้าที่ต้องกวาดกันทั้งวันโดยเฉพาะวันสุดท้ายตกหนักที่สุด และหลังจากเรากลับมาก็มีข่าวพายุหิมะหนักในมอสโก
Day 7 - 31/01/2018
วันนี้ออกเช้าอีกเช่นเคยลากกระเป๋าท่ามกลางความหนาวและหิมะโปรยๆ เพื่อมานั่งรถไฟ SAPSAN กลับเข้ากรุงมอสโก ขากลับได้เห็นวิวอีกด้านที่มีบ้านเรือนที่อยู่อาศัยตามสองข้างทาง
พอมาถึงเข้าสถานี Komsomolskaya ในจังหวะที่กำลังเดินลากกระเป๋าอยู่นั้น เราก็เจอตำรวจเรียกอีกแล้วค่ะ สงสัยหน้าตาเอเชียของเราคงดึงดูด แล้วก็ขอดูพาสปอร์ตกับใบลงทะเบียนเข้าพักโรงแรมอีกเหมือนเดิม และในใบวันสุดท้ายของการเข้าพักเป็นวันนี้ ยิ่งถามใหญ่เลยว่าจะไปสนามบินใช่ไหม ที่พักสิ้นสุดวันนี้ต้องกลับวันนี้ เราบอกไม่ใช่เราเพิ่งมาจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและจะพักในมอสโกอีกสามวัน ดูสักพักก็คืนพาสปอร์ตให้เราไปต่อได้
กว่าจะออกจากสถานีได้ลากกระเป๋าทุลักทุเลมาก เพราะต้องขึ้นบันไดหลายขั้น ใครที่จะมารัสเซียเตรียมกำลังแขนไว้เลยค่ะ รถไฟใต้ดินที่นี่ ไม่มีลิฟท์ ไม่มีทางลาดให้ลาก แถมมากับสามี ไม่มีหนุ่มรัสเซียคนไหนมาช่วย ในกระเป๋าก็มีของที่ช้อปปิ้งมาจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กอีก หนักกว่าเดิม ออกจากสถานีรถไฟได้ ก็ออกผิดด้านเพราะลืมมองป้ายทางเข้าทางออกภาษารัสเซีย ยังดีที่คนเฝ้าทางเข้ายอมให้เราออก เพราะเห็นสภาพแล้วคงสงสาร แต่ออกมาเดินไปได้ไม่เท่าไหร่เพิ่งรู้ว่าที่พักอยู่ฝั่งตรงข้าม ก็ต้องยกกระเป๋าลงไปทางใต้ดินใหม่เพื่อข้ามถนน
ที่มอสโกเราเลือกพักที่โรงแรม Veliy Hotel Mokhovaya Moscow ใกล้สถานี Biblioteka Imeni Lenina (Библиоте́ка и́мени Ле́нина) เราเลือกห้องที่หันหน้าออกริมถนนเช่นเคย เพราะได้แอบเปิดหน้าต่างเอาน้ำไปวางไว้ข้างนอก น้ำจะได้เหมือนแช่เย็นตลอดเวลา ที่รัสเซียหาน้ำแข็งกินยากมาก
ฝั่งตรงข้ามโรงแรมคือ Russian State Library ซึ่งเป็นหอสมุดแห่งชาติของรัสเซียที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลกโดยมีหนังสืออยู่ประมาณ 17.5 ล้านเล่ม เดิมมีชื่อว่า V. I. Lenin State Library of the USSR และถูกเปลี่ยนเป็น Russian State Library ในปี 1992
อีกทั้งโรงแรมยังใกล้กับสถานที่สำคัญอย่างจตุรัสแดงและเครมลินด้วย ทำให้เที่ยวในบริเวณนี้ได้สะดวก แล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะเพราะเครมลินอยู่ด้านหลังและสามารถเดินไปจตุรัสแดงเพื่อชมและถ่ายรูปกับ มหาวิหารเซนต์บาซิลสัญลักษณ์แห่งกรุงมอสโกได้ทุกวัน เข้าเช็คอินที่โรงแรมตอนบ่ายสองแต่ห้องยังไม่พร้อมต้องรออีกชั่วโมงกว่า ทางโรงแรมเลยชดเชยโดยให้สั่งกาแฟได้คนละถ้วย แต่ก็ทำให้แผนที่วางมาว่าจะไปโบสถ์ Christ the Saviour ต้องล้มไปเพราะกว่าจะเก็บของทำธุระส่วนตัวออกมาก็สี่โมงครึ่งแล้ว ตามภาพโบสถ์อยู่ใกล้แค่เอื้อม
เลยเปลี่ยนแผนเดินไปเที่ยวจตุรัสแดงและห้างกุมเท่านั้น แต่แล้ว google map ก็พาหลงทาง เนื่องจากบริเวณรอบยังมีการประดับงานปีใหม่เหลืออยู่ ทำให้เราเข้าใจผิดว่าทางเข้าจตุรัสแดงคือทางเข้าเครมลินต้องซื้อตั๋ว หลงวนอยู่เกือบชั่วโมง เดินไปจนถึงห้าง TSUM แล้ว แต่ย้อนกลับมาลองเดินตามคนอื่นไป จริงๆทางเข้าอยู่ตรงแถวห้าง Okhotny Ryad Shopping Center ที่มีโดมแก้ว
มีหลักกิโลเมตรที่ 0 อยู่ตรงทางเข้าจตุรัสแดง เพราะถนนสายสำคัญทุกสายของมอสโกวิ่งออกจากจตุรัสแดงดังนั้นกิโลเมตรที่ 0 จึงเริ่มต้นที่นี่สังเกตได้จากวงกลมวงใหญ่หน้าทางเข้าที่มีคนมุงอยู่เยอะๆ
ห้าง GUM หรือ ГУМ ในภาษารัสเซียจริงแล้วเป็นคำย่อมาจาก Главный универсальный магазин แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Main Universal Store เป็นห้างเก่าแก่ของรัสเซียที่เปิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1893 ก่อสร้างโดยสถาปัตยกรรมแบบ Russian Revival ซึ่งโครงสร้างทำจากเหล็กและหลังคาเป็นกระจกใส คล้ายกับสถานีรถไฟลอนดอนยุคศตวรรษที่ 19 อีกทั้งห้าง GUM ยังเป็นศูนย์กลางการจับจ่ายซื้อสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปในปลายศตวรรษ 19 ด้วย ต่อมาห้าง GUM ถูกปิดลงในยุคของสตาลินเพื่อใช้เป็นที่ทำการของคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติของสหภาพโซเวียต และกลับมาเปิดทำการใหม่อีกครั้งในวันที่ 24 ธันวาคม 1953 จนถึงปัจจุบัน
มาถึงห้าง GUM ก็แวะเข้าห้องน้ำซะหน่อย ห้องน้ำที่นี่มีสองมาตรฐานนะคะ มีห้องน้ำโบราณที่เสียค่าเข้าร้อยกว่าบาท จำไม่ได้ว่า 180 หรือ 150 รูเบิล กับห้องน้ำทั่วไปราคา 30 รูเบิล
สำหรับเราแล้วในห้าง GUM นั้นมีแต่ของแบรนด์เนมที่ราคาเกินความจำเป็น (จริงๆคือไม่มีเงินนั่นแหละ) แค่แวบดูรองเท้า new balance ราคาต่ำสุดก็คู่ละห้าพันกว่าบาทแล้ว ไม่ต้องบอกว่าแบรนด์แฟชั่นระดับบนจะราคาขนาดไหน
ก็เลยออกมาเดินช้อปปิ้งตามร้านข้างทางแทน หาซื้อรองเท้าบูทใหม่เพราะรองเท้าเก่าพื้นเริ่มร่อนและมีน้ำเข้าหลังจากเดินลุยหิมะมาหลายวันยางคงเสื่อม รองเท้าบูทกันหนาวที่นี่ราคาถูกมากแบบไม่มีแบรนด์คู่ละเจ็ดร้อยกว่าบาทเอง เราซื้อโคลัมเบียที่ไทยคู่ละตั้งห้าพันเก้า เห็นแล้วโดดเข้าใส่ แนะนำถ้าใครจะมารัสเซีย มาซื้อเสื้อหนาวหรือรองเท้าเพิ่มที่นี่ก็ได้ค่ะ มีแฟชั่นดี กันหนาวได้จริงๆ และราคาไม่แพงด้วยค่ะ
เราเดินตามทางมาทะลุถนนอีกฝั่งเห็นห้างอยู่ฝั่งตรงข้ามเลยแวะเข้าไปดูสักหน่อย ในนี้เหมือนห้างสำหรับเด็กมีของใช้ ขนม ของเล่นเด็กอยู่แทบทุกชั้น จนน่าอิจฉาเด็กรัสเซียที่ได้รับความสำคัญมีที่เล่นและเรียนรู้ในวัยเด็ก
ว่าจะเดินห้างเล่นเฉยๆ แต่เหลือบเห็นป้ายสัญลักษณ์ว่ามีศูนย์อาหารในห้างเลยขึ้นขชั้นบนตามป้ายไป ในศูนย์อาหารที่นี่มีฟาสฟู้ดหลายร้านที่สำคัญมีร้านอาหารจานร้อนแบบจีนเหมือนที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เลยเลือกกินร้านนี้ สงสัยที่รัสเซียจะชอบอาหารจีน แถมยังกินรสชาติเผ็ดได้ เพราะมีระดับความเผ็ดให้เลือก มีต้มยำกุ้งด้วย เลยจัดซักหน่อย รสชาติพอแก้ความคิดถึงอาหารไทยได้ กินเสร็จแล้วเดินกลับมาทางเดิม มาเดินเล่นจตุรัสแดงยามค่ำคืน
จัตุรัสแดง (Красная площадь) เป็นจัตุรัสกลางเมืองของกรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย จัตุรัสแดงมีขนาดกว้าง 70 เมตร ยาว 695 เมตร มีขนาดพื้นที่รวม 23,100 ตารางเมตร จัตุรัสแดงยังเป็นสถานที่ตั้งของมหาวิหารเซนต์เบซิล และสุสานวลาดิมีร์ เลนินอีกด้วย แท้จริงแล้วชื่อจัตุรัสแดง มาจากภาษารัสเซียคำว่า красный (krásnyj) ซึ่งในภาษารัสเซียดั้งเดิมมีความหมายว่า สวยงาม ในขณะที่ภาษารัสเซียสมัยใหม่ แปลว่าสีแดง ดังนั้นคำว่าจตุรัสแดง หรือ Red Square จึงไม่ได้มีความหมายเกี่ยวข้องกับการนองเลือดหรือสื่อถึงลัทธิคอมมิวนิสต์แต่อย่างใด
จัตุรัสแดงถูกตั้งขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 15 ภายใต้พระราชโองการของพระเจ้าอีวานมหาราช การสร้างจัตุรัสแดงนี้มีจุดประสงค์เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของพระราชวังเครมลิม จัตุรัสแดงในสมัยนั้นถือเป็นศูนย์กลางของการค้าขาย ต่อมาในสมัยของพระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 ได้มีคำสั่งให้สร้างมหาวิหารเซนต์บาซิลขึ้นและถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของจัตุรัสแดง ส่วนในยุคของสหภาพโซเวียต จัตุรัสแดงถูกใช้เป็นที่สำหรับการเดินสวนสนามแสดงแสนยานุภาพทางทหาร ปัจจุบันเป็นที่จัดงานคอนเสิร์ต การแสดง และงานรื่นเริงต่างๆ
และก็เป็นโชคดีของเรา ที่ขณะที่เราไปยังมีงานคาร์นิวัลฉลองเทศกาลปีใหม่อยู่ตรงลานจตุรัสแดงฝั่งหน้าห้าง เลยได้เห็นบรรยากาศงานรื่นเริงสไตล์ยุโรป มีม้าหมุน ลานเสก็ตน้ำแข็ง ขายอาหาร ตุ๊กตาหิมะจำลอง ประดับประดาทั้งลานเต็มไปด้วยไฟสี ตัดกับภาพหลังที่เป็นมหาวิหารเซนต์บาซิล และห้าง GUM สวยงามมากค่ะ เดินเล่นได้ไม่เบื่อและนี่คือชีวิตที่ฝันไว้จริงๆ เดินในงานคาร์นิวัลช่วงเทศกาลคริสมาตในยุโรปพร้อมหิมะโปรยๆ ถึงแม้ไม่ใช่วันคริสมาตจริงแต่บรรยากาศมันพาไป รื่นเริงใจสุดๆ ออกแนวเพ้อ และก็ถ่ายรูปทั่วไปหมด ก็แนะนำถ้าใครชอบบรรยากาศแบบนี้ก็มาในช่วงปลายปีถึงต้นปี
วันนี้กลับเข้าที่พักนอนหลับอย่างมีความสุขเตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้โปรแกรมก็คือพิพิธภัณฑ์อวกาศรัสเซีย
[CR] Travel Diary to Russia - มอสโก และการเดินทางบนหิมะแห่งฤดูหนาว Moscow and the journey on winter snow
ชื่อตอนนี้มาจากบรรยากาศทั้ง 4 วันที่อยู่ในมอสโก มีหิมะตกทุกวันจนเจ้าหน้าที่ต้องกวาดกันทั้งวันโดยเฉพาะวันสุดท้ายตกหนักที่สุด และหลังจากเรากลับมาก็มีข่าวพายุหิมะหนักในมอสโก
Day 7 - 31/01/2018
วันนี้ออกเช้าอีกเช่นเคยลากกระเป๋าท่ามกลางความหนาวและหิมะโปรยๆ เพื่อมานั่งรถไฟ SAPSAN กลับเข้ากรุงมอสโก ขากลับได้เห็นวิวอีกด้านที่มีบ้านเรือนที่อยู่อาศัยตามสองข้างทาง
พอมาถึงเข้าสถานี Komsomolskaya ในจังหวะที่กำลังเดินลากกระเป๋าอยู่นั้น เราก็เจอตำรวจเรียกอีกแล้วค่ะ สงสัยหน้าตาเอเชียของเราคงดึงดูด แล้วก็ขอดูพาสปอร์ตกับใบลงทะเบียนเข้าพักโรงแรมอีกเหมือนเดิม และในใบวันสุดท้ายของการเข้าพักเป็นวันนี้ ยิ่งถามใหญ่เลยว่าจะไปสนามบินใช่ไหม ที่พักสิ้นสุดวันนี้ต้องกลับวันนี้ เราบอกไม่ใช่เราเพิ่งมาจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและจะพักในมอสโกอีกสามวัน ดูสักพักก็คืนพาสปอร์ตให้เราไปต่อได้
กว่าจะออกจากสถานีได้ลากกระเป๋าทุลักทุเลมาก เพราะต้องขึ้นบันไดหลายขั้น ใครที่จะมารัสเซียเตรียมกำลังแขนไว้เลยค่ะ รถไฟใต้ดินที่นี่ ไม่มีลิฟท์ ไม่มีทางลาดให้ลาก แถมมากับสามี ไม่มีหนุ่มรัสเซียคนไหนมาช่วย ในกระเป๋าก็มีของที่ช้อปปิ้งมาจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กอีก หนักกว่าเดิม ออกจากสถานีรถไฟได้ ก็ออกผิดด้านเพราะลืมมองป้ายทางเข้าทางออกภาษารัสเซีย ยังดีที่คนเฝ้าทางเข้ายอมให้เราออก เพราะเห็นสภาพแล้วคงสงสาร แต่ออกมาเดินไปได้ไม่เท่าไหร่เพิ่งรู้ว่าที่พักอยู่ฝั่งตรงข้าม ก็ต้องยกกระเป๋าลงไปทางใต้ดินใหม่เพื่อข้ามถนน
ที่มอสโกเราเลือกพักที่โรงแรม Veliy Hotel Mokhovaya Moscow ใกล้สถานี Biblioteka Imeni Lenina (Библиоте́ка и́мени Ле́нина) เราเลือกห้องที่หันหน้าออกริมถนนเช่นเคย เพราะได้แอบเปิดหน้าต่างเอาน้ำไปวางไว้ข้างนอก น้ำจะได้เหมือนแช่เย็นตลอดเวลา ที่รัสเซียหาน้ำแข็งกินยากมาก
ฝั่งตรงข้ามโรงแรมคือ Russian State Library ซึ่งเป็นหอสมุดแห่งชาติของรัสเซียที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลกโดยมีหนังสืออยู่ประมาณ 17.5 ล้านเล่ม เดิมมีชื่อว่า V. I. Lenin State Library of the USSR และถูกเปลี่ยนเป็น Russian State Library ในปี 1992
อีกทั้งโรงแรมยังใกล้กับสถานที่สำคัญอย่างจตุรัสแดงและเครมลินด้วย ทำให้เที่ยวในบริเวณนี้ได้สะดวก แล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะเพราะเครมลินอยู่ด้านหลังและสามารถเดินไปจตุรัสแดงเพื่อชมและถ่ายรูปกับ มหาวิหารเซนต์บาซิลสัญลักษณ์แห่งกรุงมอสโกได้ทุกวัน เข้าเช็คอินที่โรงแรมตอนบ่ายสองแต่ห้องยังไม่พร้อมต้องรออีกชั่วโมงกว่า ทางโรงแรมเลยชดเชยโดยให้สั่งกาแฟได้คนละถ้วย แต่ก็ทำให้แผนที่วางมาว่าจะไปโบสถ์ Christ the Saviour ต้องล้มไปเพราะกว่าจะเก็บของทำธุระส่วนตัวออกมาก็สี่โมงครึ่งแล้ว ตามภาพโบสถ์อยู่ใกล้แค่เอื้อม
เลยเปลี่ยนแผนเดินไปเที่ยวจตุรัสแดงและห้างกุมเท่านั้น แต่แล้ว google map ก็พาหลงทาง เนื่องจากบริเวณรอบยังมีการประดับงานปีใหม่เหลืออยู่ ทำให้เราเข้าใจผิดว่าทางเข้าจตุรัสแดงคือทางเข้าเครมลินต้องซื้อตั๋ว หลงวนอยู่เกือบชั่วโมง เดินไปจนถึงห้าง TSUM แล้ว แต่ย้อนกลับมาลองเดินตามคนอื่นไป จริงๆทางเข้าอยู่ตรงแถวห้าง Okhotny Ryad Shopping Center ที่มีโดมแก้ว
มีหลักกิโลเมตรที่ 0 อยู่ตรงทางเข้าจตุรัสแดง เพราะถนนสายสำคัญทุกสายของมอสโกวิ่งออกจากจตุรัสแดงดังนั้นกิโลเมตรที่ 0 จึงเริ่มต้นที่นี่สังเกตได้จากวงกลมวงใหญ่หน้าทางเข้าที่มีคนมุงอยู่เยอะๆ
ห้าง GUM หรือ ГУМ ในภาษารัสเซียจริงแล้วเป็นคำย่อมาจาก Главный универсальный магазин แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Main Universal Store เป็นห้างเก่าแก่ของรัสเซียที่เปิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1893 ก่อสร้างโดยสถาปัตยกรรมแบบ Russian Revival ซึ่งโครงสร้างทำจากเหล็กและหลังคาเป็นกระจกใส คล้ายกับสถานีรถไฟลอนดอนยุคศตวรรษที่ 19 อีกทั้งห้าง GUM ยังเป็นศูนย์กลางการจับจ่ายซื้อสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปในปลายศตวรรษ 19 ด้วย ต่อมาห้าง GUM ถูกปิดลงในยุคของสตาลินเพื่อใช้เป็นที่ทำการของคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติของสหภาพโซเวียต และกลับมาเปิดทำการใหม่อีกครั้งในวันที่ 24 ธันวาคม 1953 จนถึงปัจจุบัน
มาถึงห้าง GUM ก็แวะเข้าห้องน้ำซะหน่อย ห้องน้ำที่นี่มีสองมาตรฐานนะคะ มีห้องน้ำโบราณที่เสียค่าเข้าร้อยกว่าบาท จำไม่ได้ว่า 180 หรือ 150 รูเบิล กับห้องน้ำทั่วไปราคา 30 รูเบิล
สำหรับเราแล้วในห้าง GUM นั้นมีแต่ของแบรนด์เนมที่ราคาเกินความจำเป็น (จริงๆคือไม่มีเงินนั่นแหละ) แค่แวบดูรองเท้า new balance ราคาต่ำสุดก็คู่ละห้าพันกว่าบาทแล้ว ไม่ต้องบอกว่าแบรนด์แฟชั่นระดับบนจะราคาขนาดไหน
ก็เลยออกมาเดินช้อปปิ้งตามร้านข้างทางแทน หาซื้อรองเท้าบูทใหม่เพราะรองเท้าเก่าพื้นเริ่มร่อนและมีน้ำเข้าหลังจากเดินลุยหิมะมาหลายวันยางคงเสื่อม รองเท้าบูทกันหนาวที่นี่ราคาถูกมากแบบไม่มีแบรนด์คู่ละเจ็ดร้อยกว่าบาทเอง เราซื้อโคลัมเบียที่ไทยคู่ละตั้งห้าพันเก้า เห็นแล้วโดดเข้าใส่ แนะนำถ้าใครจะมารัสเซีย มาซื้อเสื้อหนาวหรือรองเท้าเพิ่มที่นี่ก็ได้ค่ะ มีแฟชั่นดี กันหนาวได้จริงๆ และราคาไม่แพงด้วยค่ะ
เราเดินตามทางมาทะลุถนนอีกฝั่งเห็นห้างอยู่ฝั่งตรงข้ามเลยแวะเข้าไปดูสักหน่อย ในนี้เหมือนห้างสำหรับเด็กมีของใช้ ขนม ของเล่นเด็กอยู่แทบทุกชั้น จนน่าอิจฉาเด็กรัสเซียที่ได้รับความสำคัญมีที่เล่นและเรียนรู้ในวัยเด็ก
ว่าจะเดินห้างเล่นเฉยๆ แต่เหลือบเห็นป้ายสัญลักษณ์ว่ามีศูนย์อาหารในห้างเลยขึ้นขชั้นบนตามป้ายไป ในศูนย์อาหารที่นี่มีฟาสฟู้ดหลายร้านที่สำคัญมีร้านอาหารจานร้อนแบบจีนเหมือนที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เลยเลือกกินร้านนี้ สงสัยที่รัสเซียจะชอบอาหารจีน แถมยังกินรสชาติเผ็ดได้ เพราะมีระดับความเผ็ดให้เลือก มีต้มยำกุ้งด้วย เลยจัดซักหน่อย รสชาติพอแก้ความคิดถึงอาหารไทยได้ กินเสร็จแล้วเดินกลับมาทางเดิม มาเดินเล่นจตุรัสแดงยามค่ำคืน
จัตุรัสแดง (Красная площадь) เป็นจัตุรัสกลางเมืองของกรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย จัตุรัสแดงมีขนาดกว้าง 70 เมตร ยาว 695 เมตร มีขนาดพื้นที่รวม 23,100 ตารางเมตร จัตุรัสแดงยังเป็นสถานที่ตั้งของมหาวิหารเซนต์เบซิล และสุสานวลาดิมีร์ เลนินอีกด้วย แท้จริงแล้วชื่อจัตุรัสแดง มาจากภาษารัสเซียคำว่า красный (krásnyj) ซึ่งในภาษารัสเซียดั้งเดิมมีความหมายว่า สวยงาม ในขณะที่ภาษารัสเซียสมัยใหม่ แปลว่าสีแดง ดังนั้นคำว่าจตุรัสแดง หรือ Red Square จึงไม่ได้มีความหมายเกี่ยวข้องกับการนองเลือดหรือสื่อถึงลัทธิคอมมิวนิสต์แต่อย่างใด
จัตุรัสแดงถูกตั้งขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 15 ภายใต้พระราชโองการของพระเจ้าอีวานมหาราช การสร้างจัตุรัสแดงนี้มีจุดประสงค์เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของพระราชวังเครมลิม จัตุรัสแดงในสมัยนั้นถือเป็นศูนย์กลางของการค้าขาย ต่อมาในสมัยของพระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 ได้มีคำสั่งให้สร้างมหาวิหารเซนต์บาซิลขึ้นและถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของจัตุรัสแดง ส่วนในยุคของสหภาพโซเวียต จัตุรัสแดงถูกใช้เป็นที่สำหรับการเดินสวนสนามแสดงแสนยานุภาพทางทหาร ปัจจุบันเป็นที่จัดงานคอนเสิร์ต การแสดง และงานรื่นเริงต่างๆ
และก็เป็นโชคดีของเรา ที่ขณะที่เราไปยังมีงานคาร์นิวัลฉลองเทศกาลปีใหม่อยู่ตรงลานจตุรัสแดงฝั่งหน้าห้าง เลยได้เห็นบรรยากาศงานรื่นเริงสไตล์ยุโรป มีม้าหมุน ลานเสก็ตน้ำแข็ง ขายอาหาร ตุ๊กตาหิมะจำลอง ประดับประดาทั้งลานเต็มไปด้วยไฟสี ตัดกับภาพหลังที่เป็นมหาวิหารเซนต์บาซิล และห้าง GUM สวยงามมากค่ะ เดินเล่นได้ไม่เบื่อและนี่คือชีวิตที่ฝันไว้จริงๆ เดินในงานคาร์นิวัลช่วงเทศกาลคริสมาตในยุโรปพร้อมหิมะโปรยๆ ถึงแม้ไม่ใช่วันคริสมาตจริงแต่บรรยากาศมันพาไป รื่นเริงใจสุดๆ ออกแนวเพ้อ และก็ถ่ายรูปทั่วไปหมด ก็แนะนำถ้าใครชอบบรรยากาศแบบนี้ก็มาในช่วงปลายปีถึงต้นปี
วันนี้กลับเข้าที่พักนอนหลับอย่างมีความสุขเตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้โปรแกรมก็คือพิพิธภัณฑ์อวกาศรัสเซีย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น