คนนั้นก็สวย คนนี้ก็สวย คนโน้นก็สวย มองไปทางไหนก็มีแต่คนสวยๆ โอ๊ย! น้องหล่ะกลุ้มค่ะ แบบนี้จะทำยังไงดีหล่ะคะ ถึงแม้ว่าตอนนี้ตัวเองจะสวยอยู่แล้ว แต่ถ้าสวยขึ้นอีกมันก็น่าจะดีนะคะ ฮ่ะๆๆๆ
ยุคสมัยนี้วิทยาการก้าวไกล การศัลยกรรมจึงเป็นทางเลือกที่จะทำให้เราสามารถสวยได้อย่างที่เราอยากจะเป็นเลยค่ะ
แล้วถ้าจะศัลยกรรมซักครั้งนึงในชีวิตหล่ะก็ ใครๆก็อยากให้ออกมาสวยสมใจปรารถนาใช่มั้ยคะ เราก็เช่นกันค่ะ ดังนั้นจากการค้นหาข้อมูลมาอย่างโชกโชนแล้ว ผลลัพธ์ที่เราได้ก็คือ
ไปเกาหลีค่ะ
แล้วโอกาสดีๆในชีวิตน้องก็มาถึง ไปค่ะไปเกาหลีกัน ตามไปดูกันว่าเกาหลีที่เค้าว่าดี จะดีจริงรึเปล่า?
ก่อนจะตามเราไปศัลยกรรมที่เกาหลีนั้น เรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่า เราชื่อปังปอนด์ค่ะ เป็นคนน่ารัก สดใส ใจดี ฮ่ะๆๆๆ พอค่ะ พอๆ
เดี๋ยวให้ contact ไว้ก่อนดีกว่า เผื่อมีข้อสงสัยอะไรก็เข้ามาถามได้นะคะ
Facebook : The Pondest
IG: pondest
แปะลิ้งค์ให้นะคะ v
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Facebook: https://www.facebook.com/thepondest/?modal=admin_todo_tour
IG: https://www.instagram.com/pondest/?hl=th
Blog: http://thepondest.blogspot.com/2018/07/blog-post.html
ไปค่ะ Korea Calling Me ช่วงที่ปอนด์ไปเป็นช่วงที่เกาหลีหนาวมาก คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ค่ะ หนาวมากกกกกกกกกกกก อากาศติดลบทุกวัน บางวันอุณหภูมิลดต่ำลงถึง -15 องศา แนะนำว่าถ้าไปช่วงนี้เตรียมทุกพรอพที่คิดว่าจะกันหนาวได้ เตรียมไปเลยค่ะคุณ
อันนี้คือภาพหน้าก่อนไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีของปอนด์นะคะ หน้าก็จะประมาณนี้
มื้อแรกที่เกาหลี ก็จะอร่อยๆนิดนึง คือถ้าไปต้องได้ลองไก่เกาหลีค่ะ ดีมากกกก ใครเลิฟชีส ที่นี่คือสวรรค์เลยที่เดียวเชียว และอีกอย่างที่ไม่ควรพลาดคือกาแฟร้อนในคาเฟ่เก๋ๆ ที่จะช่วยให้ความอบอุ่นกับร่างกายเราท่ามกลางอุณหภูมิติดลบแบบนี้ ฟินค่ะ
จากนั้น เราก็ไปพบคุณหมอในวันรุ่งขึ้นค่ะ ครั้งนี้ปอนด์มาที่รพ.มาอิน(MINE)ค่ะ จากการหาข้อมูลมาอย่างหนักหน่วงก็พบว่าเค้าเป็นโรงพยาบาลที่ได้รับรางวัลมาเยอะเชียว ดังนั้นในเรื่องของคุณภาพ และความเชี่ยวชาญของแพทย์ก็ถือว่าเป็นที่น่าพึงพอใจค่ะ
ครั้งนี้ต้องขออภัยที่ไม่มีรูปบรรยากาศในรพ.มาให้ชมนะคะ เพราะกำลังให้ความสนใจกับรางวัลที่เค้าได้อยู่ ถ้ามีโอกาสอีก ครั้งหน้าจะเก็บภาพบรรยากาศมาให้เพื่อนๆได้ชมกันนะคะ
แต่ก็ยังมีอีกเรื่องที่อาจทำให้หลายๆคนกังวลใจในการมาศัลยกรรมที่เกาหลี นั่นก็คือเรื่องของภาษาค่ะ เพราะเอิ่ม…..เราพูดภาษาเกาหลีไม่ได้นี่นา แถมภาษาอังกฤษก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้นด้วย แต่เราสามารถตัดความกังวลใจเรื่องนี้ได้เลยค่ะ เพราะที่รพ. นี้มีล่ามชาวไทยที่จะคอยช่วยเหลือ บอกความต้องการของเรา ถ่ายทอดให้แพทย์เข้าใจได้อย่างถูกต้อง ชัดเจนแน่นอนค่ะ แนะนำให้รู้จักล่ามค่ะ ชื่อพี่จูมิน กับพี่เร เย้ๆๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทั้งสองคนน่ารักและใจดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก คอยให้ปรึกษาตลอด อำนวยความสะดวก แถมยังพาไปทานอาหารร้านอร่อยในเกาหลี และยังแนะนำที่เที่ยวเด็ดๆ Must go อีกด้วย รักนางทั้งคู่มากค่ะ
ในวันแรก เราได้มาปรึกษาคุณหมอค่ะ ถึงเรื่องการศัลยกรรมจมูก อ่อ! อยากบอกทริคดีๆนิดนึงง คือ ในการยมาศัลยกรรมถึงเกาหลีทั้งที อยากให้ทุกคน คิดถึงสิ่งที่ด้วยเองอยากจะได้ อยากได้หน้าแบบไหน จมูกทรงไหน อยากให้ออกมาเป็นยังไง ลองคิดก่อนที่จะมาคุยกับแพทย์นะคะ จดเอาไว้กันลืมก็ได้ แต่ถ้าจะให้ดี ควรหารูปประกอบที่ชัดเจนมาเลย เพื่อจะได้สื่อสารเข้าใจกันมากที่สุด และเราจะได้รับความพึงพอใจสูงสุดด้วย
ส่วนในครั้งนี้ปอนด์บอกกับคุณหมอว่า รู้สึกว่าจมูกของตัวเองที่เป็นอยู่ก็โอเคในระดับหนึ่ง แต่อยากให้โด่งขึ้นอีกนิด และอยากให้ดูธรรมชาติค่ะ คุณหมอเลยบอกว่า แบบนั้นทำเป็นทรง slope ปลายพุ่งดีกว่า เพราะมันน่าจะเข้ากับรูปหน้าของเรา และทรงนี้ยังดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย จากนั้นก็คุยกันว่าจะใช้อะไรมาเสริมจมูกดี ซึ่งสรุปก็คือปอนด์ใช้กระดูกซี่โครงตัวเองในการเสริมจมูกครั้งนี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ปล.เรื่องวิธีการในการเลือก prosthesis หรือ implant เสริมจมูกนั้น ปอนด์จะมาเขียนอีกทีนะคะ เพราะมันมีอยู่หลายวิธีเชียวค่ะ อยากให้ทุกคนได้รับความรู้ที่ถูกต้อง เพื่อนำไปใช้เป็นทางเลือกของตนเองค่ะ
อันนี้เป็ภาพมุมข้างก่อนทำศัลยกรรมนะคะ ดั้งน้อยๆของน้อง เอ็นดู
และนอกจาเสริมจมูกแล้วครั้งนี้คุณหมอแนะนำว่าควรจะฉีดไขมันด้วย เพราะว่าหน้าเราค่อนข้างตอบค่ะ ไม่มีความอิ่มเอิบใดๆ ซึ่งมันจะทำให้หน้าเราดูไม่ fresh ดูเหนื่อยล้า ไม่สดใสค่ะ แน่นอนค่ะ เมื่อคุณหมอแนะนำมาขนาดนี้ก็ต้องทำแล้วหล่ะค่ะ ครั้งนี้เราใช้ไขมันขอตัวเองเช่นกันโดยใช้ไขมันบริเวณต้นขาค่ะ คือทำหนึ่งได้ถึงสอง เพราะว่าได้เติมไขมันที่ใบหน้า และยังได้ลดไขมันยต้นขาลงไปอีก OMG!!!!! ดีงามค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในส่วนของเรืองการฉีดไขมัน ถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากรู้เพิ่มเติมก็ถามกันเข้ามาได้นะคะ เรื่องนี้ก็จะมาเขียนอีกที่ เป็นเรื่องยาวอีกเรื่องหนึ่งเลย
เห็นภาพนี้อย่าตกใจกลัวนะคะ เพราะต้องเปลือยหน้าสดให้คุณหมอ plan ว่าจะทำอะไรบ้าง จากภาพจะเห็นว่าเราต้องเติมไขมันหลายจุดมาก แทบจะไม่มีเนื้อที่ว่างบนใบหน้าแล้วค่ะคุณ แล้วหลังจากรูปนี้ชีวิตของปอนด์ในเเกาหลีก็จะมีแต่การเปลือยหน้าสดแบบนี้ไปทุกวันเลยค่ะ ต้องขออภัยทุกคนด้วย ฮ่ะๆๆๆ
และแล้ววันผ่าตัดก็มาถึง การเตรียมตัวที่เราต้องทำคือ งดน้ำงดอาหาร หรือ NPO ตั้งแต่เที่ยงคืนของคืนที่เราจะผ่าตัดค่ะ เพราะว่าในครั้งนี้เราจะใช้วิธีดมยาสลบด้วย GA (general anesthesia) โดยเราก็จะหลับไปเลยตื่นขึ้นมาอีกทีก็ผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว นี่เป็นอีกอย่างที่เกาหลีแตกต่างจากไทยค่ะ เพราะที่ไทยเวลาผ่าตัดศัลยกรรมจมูกมักจะใช้เวลาไม่นาน ถ้าเป็นเคสที่ไม่ยากแล้วก็ไม่มี complication อะไรก็มักจะไม่เกิน 1ชั่วโมงค่ะ ซึ่งที่ไทยก็มักจะใช้วิธี LA (local anesthesia) หรือการฉีดยาชาเฉพาะที่ ฉีดยาไปบริเวณที่จะผ่าตัดเท่านั้น เราไม่ได้หลับไป
แล้วก็มาที่โรงพยาบาลค่ะ เปลี่ยนชุด ใส่เป็นชุดของโรงพยาบาล แล้วเข้าห้องผาตัด….
ช่วงนี้ไม่มีรูปให้ดู ต้องขออภัยด้วยนะคะ เพราะมัวแต่ตื่นเต้นอยู่ ไม่ได้ถ่ายมาเลย
ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก….. แล้วเวลาก็ผ่านไปค่ะ 8 ชั่วโมง!!!!
นี่คือสภาพตอนออกมาจากห้องผ่าตัดค่ะ น้องเค้ายังมีชีวิตอยู่นะคะ ฮ่ะๆๆๆๆ
ช่วงที่ออกมาก็จะงงๆนิดหน่อย เราก็จะมานอนพักที่ห้องพักฟื้นค่ะ ที่นี่ก็จะนอนอยู่อีกซัก 30นาที ถึง1 ชั่วโมง เพื่อ observe อาการหลังผ่าตัดค่ะ ซึ่งทางโรงพยาบาลเองก็จะมี order ยาให้เราไปซื้อค่ะ อ๊ะๆๆๆ หลายๆคนอาจงงว่า ทำไมโรงพยาบาลไม่จ่ายยาเองมาเลย จะทำให้ยุ่งยากทำไม คำตอบคือ เรื่องนี้เป็นกฏหมายของปรเทศเค้าค่ะ เพื่อจัดระเบียบการใช้ยา ซึ่งเราก็ได้พี่ล่ามใจดีของเรานี่หล่ะค่ะที่ไปซื้อยามาให้ ซึ้งใจไปอีก…..
ซึ่งยาที่ได้มาจะจัดใส่package มาเรียบร้อยค่ะ ทานง่าย พกพาสะดวกมาก
แล้วถ้าถามว่าเจ็บมั้ย ตอบเลยค่ะ ว่าไม่เจ็บ ไม่เจ็บจริงๆนะคะ แค่รู้สึกตึงๆ ทั้งที่จมูกแล้วก็ตรงบริเวณที่เอากระดูกซี่โครงออกมา ถ้าถามเป็น pain score ก็ประมาณ 2/10 ค่ะ คือเตรียมด้วยเรื่องเจ็บปวดมาดีมาก ยาพร้อม อาหารก็พร้อม เพราะกลัวปวด ทานอะไรไม่ได้ เดี๋ยวร่างกายจะอ่อนแอลงไปอีก แต่ความจริงแล้วคือ ไม่เจ็บเลยค่ะ เดินกลับเข้าบ้านได้สบาย แล้วแถมทานอาหารได้ปกติ เหมือนไม่ได้ผาตตัดมา 8 ชั่วโมงอีกต่างหาก /แอบช็อคไปอีก อึดมากค่ะคุณ ฮ่ะๆๆๆๆ
รูปน่ากลัว ต้องขออภัยอีกทีนะคะ เราเตือนคุณแล้ว ฮ่ะๆๆๆๆๆๆ
จากนั้น ด้วยความที่เรียนมาว่า หลังผ่าตัดต้องรีบ early ambulate เราเลยตื่นเช้า พาตัวเองเดินทางฝ่าหิมะ และอากาศที่หนาว -13 องศา เดินทางไปรพ. มาอินเพื่อเข้าโปรมแกรมลดบวมค่ะ ซึ่งมันดีมากๆค่ะคุณ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นก็มาเอา gauze บริเวณหน้าผากออก และที่สำคัญคือเอา gauze ที่แพคจมูกออกค่ะเพราะว่าไม่มีเลือดไหลแล้ว ตอนนั้นดีใจมาก เหมือนได้กลับมาหายใจอีกครั้งหลังจากทำไม่ได้มานาน (ตอนแพค gauze ที่จมูกต้องหายใจทางปากค่ะ) แล้วหลังจากนั้นก็รู้สึกลั้ลลามาก พาตัวเองไปช็อปปิ้ง ฮ่ะๆๆๆๆๆ ด้วยหน้าแบบที่ทุกคนได้เห็นนี้หล่ะค่ะ ทั้งขึ้นรถไฟ ทั้งทานข้าว ทั้งเดินช็อป สบายมากค่ะ คือไม่มีใครสนใจเราเลย คุณพระ! มันกลายเป็นเรื่องธรรมดามากๆ ในเกาหลีค่ะ ที่จะเจอคนสถาพหน้าแบบเราเดินตามท้องถนน ฮ่ะๆๆๆๆๆ สบายใจค่ะคุณ ช็อปวนไป
ต้องบอกว่าเราชอบ street foods ที่นั่นมากค่ะ โดยเฉพาะที่เรียก ออมุก เพราะว่ามันหนาวค่ะ พอได้เจอน้ำซุปร้อนๆ รสชาดดีๆ เหมือนได้เจอสวรรรค์ค่ะคุณ ฟินมาก แถมพวกขนมก็ดีมากค่ะ ทานได้ทั้งวันเลย ทานไอศกรีมก็ไม่แปลกนะคะคุณ แถมอร่อยอีกต่างหาก
วันที่สาม วันนี้ก็มีนัดลดบวมแล้วก็ dressing แผลค่ะ ก็คือการทำแผลนี่หล่ะค่ะ เพื่อทำความสะอาดแผล และเช็คความเรียบร้อยของแผลด้วย
แล้วชีวิตทุกวันของเราก็เต็มไปด้วยการเดินทางออกจากบ้านแล้วไปเที่ยวในเกาหลีค่ะ ลืมไปเลยว่ามาทำหน้า ฮ่ะๆ ๆๆๆๆๆ
รูปนี้แสดงความล้มละลายของปอนด์ค่ะ
อุ้ย! ทานข้าวกับหนุ่มๆค่ะ
[CR] รีวิวศัลยกรรมเกาหลีแบบละเอียดข้อมูลแน่น! จากสวยอยู่แล้วก็สวยได้อีกค่ะคุณ
ยุคสมัยนี้วิทยาการก้าวไกล การศัลยกรรมจึงเป็นทางเลือกที่จะทำให้เราสามารถสวยได้อย่างที่เราอยากจะเป็นเลยค่ะ
แล้วถ้าจะศัลยกรรมซักครั้งนึงในชีวิตหล่ะก็ ใครๆก็อยากให้ออกมาสวยสมใจปรารถนาใช่มั้ยคะ เราก็เช่นกันค่ะ ดังนั้นจากการค้นหาข้อมูลมาอย่างโชกโชนแล้ว ผลลัพธ์ที่เราได้ก็คือ ไปเกาหลีค่ะ
แล้วโอกาสดีๆในชีวิตน้องก็มาถึง ไปค่ะไปเกาหลีกัน ตามไปดูกันว่าเกาหลีที่เค้าว่าดี จะดีจริงรึเปล่า?
ก่อนจะตามเราไปศัลยกรรมที่เกาหลีนั้น เรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่า เราชื่อปังปอนด์ค่ะ เป็นคนน่ารัก สดใส ใจดี ฮ่ะๆๆๆ พอค่ะ พอๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ไปค่ะ Korea Calling Me ช่วงที่ปอนด์ไปเป็นช่วงที่เกาหลีหนาวมาก คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ค่ะ หนาวมากกกกกกกกกกกก อากาศติดลบทุกวัน บางวันอุณหภูมิลดต่ำลงถึง -15 องศา แนะนำว่าถ้าไปช่วงนี้เตรียมทุกพรอพที่คิดว่าจะกันหนาวได้ เตรียมไปเลยค่ะคุณ
อันนี้คือภาพหน้าก่อนไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีของปอนด์นะคะ หน้าก็จะประมาณนี้
มื้อแรกที่เกาหลี ก็จะอร่อยๆนิดนึง คือถ้าไปต้องได้ลองไก่เกาหลีค่ะ ดีมากกกก ใครเลิฟชีส ที่นี่คือสวรรค์เลยที่เดียวเชียว และอีกอย่างที่ไม่ควรพลาดคือกาแฟร้อนในคาเฟ่เก๋ๆ ที่จะช่วยให้ความอบอุ่นกับร่างกายเราท่ามกลางอุณหภูมิติดลบแบบนี้ ฟินค่ะ
จากนั้น เราก็ไปพบคุณหมอในวันรุ่งขึ้นค่ะ ครั้งนี้ปอนด์มาที่รพ.มาอิน(MINE)ค่ะ จากการหาข้อมูลมาอย่างหนักหน่วงก็พบว่าเค้าเป็นโรงพยาบาลที่ได้รับรางวัลมาเยอะเชียว ดังนั้นในเรื่องของคุณภาพ และความเชี่ยวชาญของแพทย์ก็ถือว่าเป็นที่น่าพึงพอใจค่ะ
ครั้งนี้ต้องขออภัยที่ไม่มีรูปบรรยากาศในรพ.มาให้ชมนะคะ เพราะกำลังให้ความสนใจกับรางวัลที่เค้าได้อยู่ ถ้ามีโอกาสอีก ครั้งหน้าจะเก็บภาพบรรยากาศมาให้เพื่อนๆได้ชมกันนะคะ
แต่ก็ยังมีอีกเรื่องที่อาจทำให้หลายๆคนกังวลใจในการมาศัลยกรรมที่เกาหลี นั่นก็คือเรื่องของภาษาค่ะ เพราะเอิ่ม…..เราพูดภาษาเกาหลีไม่ได้นี่นา แถมภาษาอังกฤษก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้นด้วย แต่เราสามารถตัดความกังวลใจเรื่องนี้ได้เลยค่ะ เพราะที่รพ. นี้มีล่ามชาวไทยที่จะคอยช่วยเหลือ บอกความต้องการของเรา ถ่ายทอดให้แพทย์เข้าใจได้อย่างถูกต้อง ชัดเจนแน่นอนค่ะ แนะนำให้รู้จักล่ามค่ะ ชื่อพี่จูมิน กับพี่เร เย้ๆๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในวันแรก เราได้มาปรึกษาคุณหมอค่ะ ถึงเรื่องการศัลยกรรมจมูก อ่อ! อยากบอกทริคดีๆนิดนึงง คือ ในการยมาศัลยกรรมถึงเกาหลีทั้งที อยากให้ทุกคน คิดถึงสิ่งที่ด้วยเองอยากจะได้ อยากได้หน้าแบบไหน จมูกทรงไหน อยากให้ออกมาเป็นยังไง ลองคิดก่อนที่จะมาคุยกับแพทย์นะคะ จดเอาไว้กันลืมก็ได้ แต่ถ้าจะให้ดี ควรหารูปประกอบที่ชัดเจนมาเลย เพื่อจะได้สื่อสารเข้าใจกันมากที่สุด และเราจะได้รับความพึงพอใจสูงสุดด้วย
ส่วนในครั้งนี้ปอนด์บอกกับคุณหมอว่า รู้สึกว่าจมูกของตัวเองที่เป็นอยู่ก็โอเคในระดับหนึ่ง แต่อยากให้โด่งขึ้นอีกนิด และอยากให้ดูธรรมชาติค่ะ คุณหมอเลยบอกว่า แบบนั้นทำเป็นทรง slope ปลายพุ่งดีกว่า เพราะมันน่าจะเข้ากับรูปหน้าของเรา และทรงนี้ยังดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย จากนั้นก็คุยกันว่าจะใช้อะไรมาเสริมจมูกดี ซึ่งสรุปก็คือปอนด์ใช้กระดูกซี่โครงตัวเองในการเสริมจมูกครั้งนี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันนี้เป็ภาพมุมข้างก่อนทำศัลยกรรมนะคะ ดั้งน้อยๆของน้อง เอ็นดู
และนอกจาเสริมจมูกแล้วครั้งนี้คุณหมอแนะนำว่าควรจะฉีดไขมันด้วย เพราะว่าหน้าเราค่อนข้างตอบค่ะ ไม่มีความอิ่มเอิบใดๆ ซึ่งมันจะทำให้หน้าเราดูไม่ fresh ดูเหนื่อยล้า ไม่สดใสค่ะ แน่นอนค่ะ เมื่อคุณหมอแนะนำมาขนาดนี้ก็ต้องทำแล้วหล่ะค่ะ ครั้งนี้เราใช้ไขมันขอตัวเองเช่นกันโดยใช้ไขมันบริเวณต้นขาค่ะ คือทำหนึ่งได้ถึงสอง เพราะว่าได้เติมไขมันที่ใบหน้า และยังได้ลดไขมันยต้นขาลงไปอีก OMG!!!!! ดีงามค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เห็นภาพนี้อย่าตกใจกลัวนะคะ เพราะต้องเปลือยหน้าสดให้คุณหมอ plan ว่าจะทำอะไรบ้าง จากภาพจะเห็นว่าเราต้องเติมไขมันหลายจุดมาก แทบจะไม่มีเนื้อที่ว่างบนใบหน้าแล้วค่ะคุณ แล้วหลังจากรูปนี้ชีวิตของปอนด์ในเเกาหลีก็จะมีแต่การเปลือยหน้าสดแบบนี้ไปทุกวันเลยค่ะ ต้องขออภัยทุกคนด้วย ฮ่ะๆๆๆ
และแล้ววันผ่าตัดก็มาถึง การเตรียมตัวที่เราต้องทำคือ งดน้ำงดอาหาร หรือ NPO ตั้งแต่เที่ยงคืนของคืนที่เราจะผ่าตัดค่ะ เพราะว่าในครั้งนี้เราจะใช้วิธีดมยาสลบด้วย GA (general anesthesia) โดยเราก็จะหลับไปเลยตื่นขึ้นมาอีกทีก็ผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว นี่เป็นอีกอย่างที่เกาหลีแตกต่างจากไทยค่ะ เพราะที่ไทยเวลาผ่าตัดศัลยกรรมจมูกมักจะใช้เวลาไม่นาน ถ้าเป็นเคสที่ไม่ยากแล้วก็ไม่มี complication อะไรก็มักจะไม่เกิน 1ชั่วโมงค่ะ ซึ่งที่ไทยก็มักจะใช้วิธี LA (local anesthesia) หรือการฉีดยาชาเฉพาะที่ ฉีดยาไปบริเวณที่จะผ่าตัดเท่านั้น เราไม่ได้หลับไป
แล้วก็มาที่โรงพยาบาลค่ะ เปลี่ยนชุด ใส่เป็นชุดของโรงพยาบาล แล้วเข้าห้องผาตัด….
ช่วงนี้ไม่มีรูปให้ดู ต้องขออภัยด้วยนะคะ เพราะมัวแต่ตื่นเต้นอยู่ ไม่ได้ถ่ายมาเลย
ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก….. แล้วเวลาก็ผ่านไปค่ะ 8 ชั่วโมง!!!!
นี่คือสภาพตอนออกมาจากห้องผ่าตัดค่ะ น้องเค้ายังมีชีวิตอยู่นะคะ ฮ่ะๆๆๆๆ
ช่วงที่ออกมาก็จะงงๆนิดหน่อย เราก็จะมานอนพักที่ห้องพักฟื้นค่ะ ที่นี่ก็จะนอนอยู่อีกซัก 30นาที ถึง1 ชั่วโมง เพื่อ observe อาการหลังผ่าตัดค่ะ ซึ่งทางโรงพยาบาลเองก็จะมี order ยาให้เราไปซื้อค่ะ อ๊ะๆๆๆ หลายๆคนอาจงงว่า ทำไมโรงพยาบาลไม่จ่ายยาเองมาเลย จะทำให้ยุ่งยากทำไม คำตอบคือ เรื่องนี้เป็นกฏหมายของปรเทศเค้าค่ะ เพื่อจัดระเบียบการใช้ยา ซึ่งเราก็ได้พี่ล่ามใจดีของเรานี่หล่ะค่ะที่ไปซื้อยามาให้ ซึ้งใจไปอีก…..
ซึ่งยาที่ได้มาจะจัดใส่package มาเรียบร้อยค่ะ ทานง่าย พกพาสะดวกมาก
แล้วถ้าถามว่าเจ็บมั้ย ตอบเลยค่ะ ว่าไม่เจ็บ ไม่เจ็บจริงๆนะคะ แค่รู้สึกตึงๆ ทั้งที่จมูกแล้วก็ตรงบริเวณที่เอากระดูกซี่โครงออกมา ถ้าถามเป็น pain score ก็ประมาณ 2/10 ค่ะ คือเตรียมด้วยเรื่องเจ็บปวดมาดีมาก ยาพร้อม อาหารก็พร้อม เพราะกลัวปวด ทานอะไรไม่ได้ เดี๋ยวร่างกายจะอ่อนแอลงไปอีก แต่ความจริงแล้วคือ ไม่เจ็บเลยค่ะ เดินกลับเข้าบ้านได้สบาย แล้วแถมทานอาหารได้ปกติ เหมือนไม่ได้ผาตตัดมา 8 ชั่วโมงอีกต่างหาก /แอบช็อคไปอีก อึดมากค่ะคุณ ฮ่ะๆๆๆๆ
รูปน่ากลัว ต้องขออภัยอีกทีนะคะ เราเตือนคุณแล้ว ฮ่ะๆๆๆๆๆๆ
จากนั้น ด้วยความที่เรียนมาว่า หลังผ่าตัดต้องรีบ early ambulate เราเลยตื่นเช้า พาตัวเองเดินทางฝ่าหิมะ และอากาศที่หนาว -13 องศา เดินทางไปรพ. มาอินเพื่อเข้าโปรมแกรมลดบวมค่ะ ซึ่งมันดีมากๆค่ะคุณ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นก็มาเอา gauze บริเวณหน้าผากออก และที่สำคัญคือเอา gauze ที่แพคจมูกออกค่ะเพราะว่าไม่มีเลือดไหลแล้ว ตอนนั้นดีใจมาก เหมือนได้กลับมาหายใจอีกครั้งหลังจากทำไม่ได้มานาน (ตอนแพค gauze ที่จมูกต้องหายใจทางปากค่ะ) แล้วหลังจากนั้นก็รู้สึกลั้ลลามาก พาตัวเองไปช็อปปิ้ง ฮ่ะๆๆๆๆๆ ด้วยหน้าแบบที่ทุกคนได้เห็นนี้หล่ะค่ะ ทั้งขึ้นรถไฟ ทั้งทานข้าว ทั้งเดินช็อป สบายมากค่ะ คือไม่มีใครสนใจเราเลย คุณพระ! มันกลายเป็นเรื่องธรรมดามากๆ ในเกาหลีค่ะ ที่จะเจอคนสถาพหน้าแบบเราเดินตามท้องถนน ฮ่ะๆๆๆๆๆ สบายใจค่ะคุณ ช็อปวนไป
ต้องบอกว่าเราชอบ street foods ที่นั่นมากค่ะ โดยเฉพาะที่เรียก ออมุก เพราะว่ามันหนาวค่ะ พอได้เจอน้ำซุปร้อนๆ รสชาดดีๆ เหมือนได้เจอสวรรรค์ค่ะคุณ ฟินมาก แถมพวกขนมก็ดีมากค่ะ ทานได้ทั้งวันเลย ทานไอศกรีมก็ไม่แปลกนะคะคุณ แถมอร่อยอีกต่างหาก
วันที่สาม วันนี้ก็มีนัดลดบวมแล้วก็ dressing แผลค่ะ ก็คือการทำแผลนี่หล่ะค่ะ เพื่อทำความสะอาดแผล และเช็คความเรียบร้อยของแผลด้วย
แล้วชีวิตทุกวันของเราก็เต็มไปด้วยการเดินทางออกจากบ้านแล้วไปเที่ยวในเกาหลีค่ะ ลืมไปเลยว่ามาทำหน้า ฮ่ะๆ ๆๆๆๆๆ
รูปนี้แสดงความล้มละลายของปอนด์ค่ะ
อุ้ย! ทานข้าวกับหนุ่มๆค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น