{พลีชีพ} วิธีขัดปลวก!!! แชร์ประสบการณ์เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดูดีขึ้น!!!

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับ ชื่อรันครับ เป็นกระทู้แรกที่เขียน ถ้ามีข้อผิดพลาดอะไรแนะนำติชมได้นะครับ

ก่อนอื่นขอบอกว่าคิดอยู่นานมากว่าควรจะตั้งกระทู้ดีมั้ย แต่ทบทวนดูแล้ว อาจจะเป็นประโยชน์แก่คนที่กำลังคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง หรืออยากจะดูแลให้ตัวเองดูดีขึ้นได้บ้าง ก็เลยตัดสินใจเขียนเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้อ่านกันคร้าบบบบ


รูปเปรียบเทียบร่างเริ่มต้นกับร่างที่พัฒนาแล้ว รูปขวามีการแต่งแสง สีผิวเลยขาวเกินจริงไปหน่อยครับ


ย้อนความไปสมัยร่างที่หนึ่ง เราเป็นคนชอบร้องเพลงมาก เริ่มประกวดเวทีแรกตอนม.1 แล้วดันบังเอิญได้รางวัลชนะเลิศ ทีนี้ก็ยิ่งมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นไปอีก เลยเริ่มเดินสายออดิชั่นมาตั้งแต่ตอนนั้น

พอขึ้นม.ปลาย เราย้ายไปเรียนร.ร.ประจำจังหวัด นี่แหละคือจุดเปลี่ยนทางความคิดของเรา เพราะว่าพอเริ่มเข้าสังคมม.ปลาย หลายๆคนเริ่มให้ความสำคัญเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก กลายเป็นว่าเราขาดความมั่นใจ เป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยกล้าแสดงออก ซึ่งจริงๆ มีหลายกิจกรรมที่อยากทำมากๆ แต่ด้วยความที่ไม่มั่นใจในภาพลักษณ์ภายนอกของตัวเอง เลยตัดสินใจไม่ลงมือทำ ตอนนี้มานึกย้อนไปก็เสียดายมากๆ

แต่เรื่องที่เรารู้สึกแย่และรับไม่ได้ที่สุดในชีวิตก็คือช่วงม.6 เรามีเพื่อนสนิทที่สนิทกันมากๆ อยู่คนหนึ่ง ซึ่งในตอนนั้นก็นับว่าเขาเป็นคนหน้าตาดีอันดับต้นๆ ในโรงเรียน ป๊อปปูล่าชนิดที่แค่พูดชื่อทุกคนก็ร้องอ๋อ ความสนิทกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันนี่แหละที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง

วันนั้นเราสองคนเดินเข้าลิฟต์ของโรงเรียนพร้อมกับพนักงานธุรการผู้หญิง 2 คน ขณะที่ลิฟต์กำลังเลื่อนขึ้นชั้นบนไปเรื่อยๆ เราก็ได้ยินผู้หญิงสองคนนั้นกระซิบกันว่า “ดูดิ สองคนต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยเนอะ”

ยอมรับตรงๆว่าตอนที่ได้ยินคือช็อคมาก หัวแบบขาวโพลน ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องพูดกันถึงขนาดนี้ แล้วเราก็ยืนอยู่ตรงนั้น ถ้าจะนินทาทำไมไม่ทำตอนที่เราไม่อยู่ อย่างน้อยเราไม่ได้ยินก็น่าจะดีกว่ารึเปล่า

ตั้งแต่ตอนนั้นก็ตั้งใจเลยว่าจะต้องพัฒนาตัวเองให้ดูดีขึ้นให้ได้

แต่มันก็ไม่ง่ายขนาดนั้น

ด้วยความขี้เกียจและขาดแรงจูงใจ ทำให้เราไม่ได้พัฒนาไปไหนไกลสักเท่าไหร่ แถมถอยหลังกลับด้วยซ้ำ เพราะอะไรน่ะเหรอ

เพราะเราดันไปซื้อครีมตามอินเทอร์เน็ตมาใช้ไง

ตอนแรกๆ เราก็ใช้ครีมแบรนด์ท้องตลาดทั่วไปที่เห็นโฆษณากันในทีวีนั่นแหละ ใช้ทั้ง for men ทั้งรุ่นปกติที่ผู้หญิงเขาใช้กัน จนวันหนึ่งเห็นเพื่อนขายครีมในเน็ต ว่าหน้าใส หน้าขาว ได้รวดเร็วภายใน 7 วัน ตอนนั้นไม่คิดอะไรเลย เห็นว่าเป็นเพื่อนด้วยก็ซื้อเลยครับ แต่ใครจะรู้ ใช้ไปไม่ถึงอาทิตย์ไอ้หน้าที่ใสๆ ก็เริ่มมีสิว มีผื่นแดง ทีนี้ก็ยิ่งเครียด เสิร์ชหาในเน็ตก็คือแพ้ครีมแน่ๆ ไม่ได้คิดอย่างอื่นเลย หน้าเป็นสิว เป็นผื่นแดงเต็มทั้งหน้า คันและแสบมากกกก ทนไม่ไหวจนต้องไปหาหมอรักษาสิว

สรุปหมอบอกไม่ใช่สิว แต่เป็นอาการอักเสบของผิวที่เกิดอาการแพ้ อาจเพราะใช้ครีมที่มีสารอันตรายก็เลยทำให้ผิวบาง พอโดนอะไรนิดหน่อยทีนี้เลยไปกันใหญ่ ช่วงหนึ่งเป็นหนักถึงขนาดที่ว่า โดนแดดไม่ได้เลย โดนปุ๊บผิวขึ้นผื่นปั๊บ

หมอก็รักษาตามอาการให้ยาเสตียรอยด์มารักษา แต่พอหยุดยาก็กลับมาเป็นอีก เราเป็นๆ หายๆ แบบนี้อยู่ 2 ปีเต็มๆ

จนกระทั่งเข้ามหาลัย หลังจากครูพักลักจำจากคุณหมอมา 2 ปีเต็ม ก็ตัดสินใจเด็ดขาดคือหยุดหาหมอ แล้วตั้งใจรักษาด้วยด้วยเอง โดยการหาข้อมูลเอง แล้วใช้ธรรมชาติบำบัดร่วมกับซื้อยาที่ร้านขายยากินและทา (แต่ไม่ง่ายขนาดนั้น หลังจากหยุดหาหมอ ผลที่ได้ตอนแรกทรมานกว่าเดิมอีกสิบเท่า เพราะทุกอย่างแย่งกันผุดขึ้นบนหน้าจนแดงเถือก ร้องไห้หนักกว่าเดิม แต่ก็อดทนเพราะคิดว่าที่ผ่านมันคงถูกยากดเอาไว้)


รูปสมัยมหาลัยที่ยังพอหาได้


อ่ะทีนี้มาเริ่มขั้นตอนรักษาและฟื้นฟูผิวหน้ากัน เราเริ่มจากงดใช้ทุกอย่าง ทุกอย่างจริงๆ

เริ่มจากล้างหน้าเรางดใช้โฟมล้างหน้า หรือเจลล้างหน้า หรือใดๆ ที่เขาว่าช่วยรักษาสิว รักษาอาการอักเสบของผิวก็เลิกทั้งหมด ใช้แค่น้ำเปล่าๆ ล้างหน้า หลังจากนั้นก็ใช้น้ำเกลือเช็ดหน้า เสร็จแล้วก็ใช้เจลว่านหางจระเข้ยี่ห้อดังทาหนาๆ ให้ทั่วหน้า แล้วก็ลงกันแดด แต่กลางคืนก็ทาแค่นั้นเลย ถ้าช่วงไหนเป็นเยอะ มีอาการคันหรือแสบ เราจะกินยาแก้แพ้หรือไม่ก็ยาแก้อักเสบร่วมด้วย เราทำแบบนี้อยู่อีกเกือบสองปี ผิวหน้าถึงเริ่มดีขึ้น


อันนี้เป็นช่วงที่ผิวเริ่มดีขึ้น รูปจะมีแต่สไตล์นี้ เพราะเมื่อก่อนไม่กล้าถ่ายรูปด้วยกล้องสดเลย ใช้ฟิลเตอร์ตลอด เพื่อที่จะได้ไม่ให้เห็นรอยแดง รอยผื่นแพ้


ทีนี้ช่วงปีสองเป็นช่วงที่มีโอกาสได้เป็นพี่เลี้ยงให้กับนักศึกษาเกาหลีที่มาเรียนภาษาไทยที่ภาควิชา ก็เลยได้เห็นว่าคนเกาหลีนี่เขาดูแลตัวเองกันดีมากทีเดียว ทั้งเรื่องการบำรุงผิว การแต่งตัว รวมไปถึงการแต่งหน้า ตอนที่เห็นผู้ชายเกาหลีแต่งหน้าครั้งแรกก็ตกใจนิดนึง แต่ว่ามันช่วยให้ดูดีได้มากขึ้นจริงๆ


อันนี้เป็นช่วงที่เป็นพี่เลี้ยงให้นักศึกษาเกาหลี ยังเป็นปลวกร่างแรกที่เริ่มหัดเซ็ทผม ซึ่งเป็นทรงอะไรก็ไม่รู้ 5555



อันนี้เป็นช่วงที่เป็นพี่เลี้ยงให้นักศึกษาเกาหลี ยังเป็นปลวกร่างแรกที่เริ่มหัดเซ็ทผม ซึ่งเป็นทรงอะไรก็ไม่รู้ 5555


จุดเริ่มขัดปลวกอย่างจริงจังก็คือตอนนี้ อยากดูดีแบบพวกเขาบ้าง เลยเริ่มดูแลตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะตอนนี้ผิวหน้าดีขึ้นแล้ว เลยเริ่มหาครีมบำรุงมาทาเพิ่ม แต่ก็ยังเป็นครีมที่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองง่ายอยู่ เริ่มเรียนรู้วิธีเซ็ทผม วิธีแต่งหน้าแบบผู้ชายเกาหลี เพื่อเสริมบุคลิกภาพของเราเอง

ถามว่าได้ผลมาน้อยแค่ไหน ก็ทำให้เรามั่นใจขึ้นกล้าพูด กล้าทำอะไรมากขึ้น (แต่แรกๆ ก็ยังมีพลาดอยู่บ้าง ช่วงเริ่มฝึกแต่งหน้า ฝึกเซ็ทผมงี้)

รูปข้างล่างนี่เป็นวิวัฒนาการในการเซ็ทผม หลังจากฝึกบ่อยๆ มันก็ค่อยๆดีขึ้น 55555





หลังจากนั้นก็เริ่มมีไปพบแพทย์ ปรึกษาคุณหมอ ทำทรีทเมนต์ ฉีดเมโส ฉีดมาเด้ ทำเลเซอร์บ้างตามประสา เพราะใจก็อยากที่จะหล่อ อยากดูดีมากขึ้นไปอีก ซื้อคอร์สดูแลผิวหน้า ก็ทำอยู่หลายคลินิค หลายแบรนด์ มีทั้งราคาธรรมดา ไปจนถึงรู้สึกว่าแพงเกินไป มีทั้งที่ประทับใจจนกลายเป็นลูกค้าประจำ แล้วก็มีที่เฉยๆ ไม่ได้รู้สึกอะไร

ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีผิดเท่าไหร่ เพราะเราเคยพลาดเรื่องผิวหน้ามาก่อนเลยค่อนข้างระวังมาก ถ้าไม่มั่นใจที่ไหน หรือไม่มั่นใจครีมตัวไหนจริงๆ จะไม่ยอมเสียเงินให้เด็ดขาด


ผิวใสขึ้นจริงจนกล้าถ่ายรูปกล้องสดแล้ว


จนมาถึงช่วงปัจจุบัน 2 ปีให้หลังเราได้มีโอกาสไปอยู่ที่เกาหลี ด้วยความที่อยู่นานก็ได้ซึมซับวัฒนธรรมการดูแลตัวเองจากคนเกาหลี ทั้งเรื่องการแต่งตัว การเซ็ทผม การแต่งหน้า และอื่นๆ จากที่เคยศึกษาที่ไทย ตอนนี้ได้มาเห็นของจริง คือที่เกาหลีเขาค่อนข้างให้ความสำคัญเรื่องบุคลิกภาพมากๆ ดังนั้นใครมาเที่ยวก็คงเห็นผู้ชายบางคนไม่ได้หน้าตาดี แต่แต่งตัว แต่งหน้า ทำผม จึงเสริมให้บุคลิกดี ทำให้ดูรวมๆแล้วหล่อ ดูดีขึ้นมาได้ เราก็ได้แรงบันดาลใจจากที่นั่นอ่ะ แล้วตามร้านเสื้อผ้า ก็จะชอบจับเซ็ตเสื้อผ้าที่เข้ากันไว้แล้ว ใครที่แต่งตัวไม่เก่ง ก็สามาถเข้าร้านแล้วซื้อตามที่ร้านเซ็ทไว้แล้วได้เลย พอแต่งออกมาทุกคนก็เลยดูดีเหมือนกันหมด

เรื่องแต่งหน้า ทำผม ผู้ชายเขาก็ทำกันอย่างจริงจังมากกกกก มีคลิปสอนเยอะแยะไปหมด ชนิดที่ว่า ถ้าหน้าสดจะไม่ให้ใครเห็นเด็ดขาด เราก็เรียนรู้จากตรงนั้นมาด้วย มันก็ช่วยเสริมให้บุคลิกภาพดูดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนจริงๆ (มันอาจจะดูอวยตัวเองรึเปล่าไม่รู้ แต่เรารู้สึกว่าหลังจากดูแลตัวเอง ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น)









พอดูดีขึ้นแล้ว เราก็มั่นใจขึ้นใช่มั้ยล่ะ ทีนี้ทำอะไรก็ทำได้เต็มที่ แบบไม่ต้องกล้าๆกลัวๆอีกเลย

เราก็มาคิดๆ ดูแล้ว ว่าถ้าเราทำได้ ทุกคนก็ทำได้ อย่าอ้างเรื่องเวลาหรือเรื่องงบประมาณ เพราะเอาจริงๆ ครีมซองในเซเว่นเราก็ใช้ สลับๆ กันไป ช่วงไหนมีเงินเก็บนิดหน่อยก็ลงทุนครีมดีๆ มาใช้ ส่วนพวกทำทรีทเมนต์เราก็เก็บเงินไปทำเหมือนกัน ทุกอย่างมันต้องใช้เวลาอ่ะ ลองคำนวณดูก็ได้ว่าเราใช้เวลากี่ปีในการเปลี่ยนแปลงตัวเองขนาดนี้ เราอยากเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองนะ ทุกคนทำได้ ขอแค่มีความตั้งใจ อดทน และพยายาม ของพวกนี้มันต้องทำเป็นประจำทุกวัน แล้วผลมันจะออกมาดีเอง

“ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” ใช้ได้กับมนุษย์ทุกคนจริงๆ ไม่ใช่แค่ผู้หญิงนะ แต่ผู้ชายก็ด้วย

สุดท้ายนี้ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ ^___^

ปล. รูปสมัยผิวหน้าพังๆ เป็นสิวเยอะๆ เป็นผื่นแพ้แดงทั้งหน้า ไม่มีนะครับ เพราะลบทิ้งหมดแล้ว พยายามหาแล้วหาไม่เจอจริงๆครับ ตอนนั้นลบหมดจากทุกอุปกรณ์จริงๆ


{คลังกระทู้}
https://ppantip.com/topic/37871844 <<--- Skin Routine #DAY แชร์ขั้นตอนการดูแล & บำรุงผิวตอนเช้า {สำหรับช่วงเป็นสิว}
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่