สวัสดีค่ะ

กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของการเขียนแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว และการใช้ Pantip ของ จขกท. เอง ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยคร้าาาา

เมื่อวันที่ 5 - 7 ก.ค. 61 ที่ผ่าน จขกท. มีโอกาสได้ไปเชียงใหม่เพื่อไปนำเสนอผลงาน ทำให้มีโอกาสได้เที่ยวเชียงใหม่กับเพื่อนๆ ด้วย อันดับแรกก่อนไปก็ต้องมีการเตรียมตัว ดูรีวิวสถานที่เที่ยวในเชียงใหม่ ดูเรื่องการเดินทาง เพราะไม่ได้เอารถไปเอง จะนั่งเครื่องบินไป สรุป! เที่ยวตามใจละกันเพราะเวลาเราไม่เอื้ออำนวยมากนัก ว่างตอนไหนก็ไปเที่ยวตอนนั้นละกัน

เริ่มการเที่ยว ขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 5 ได้เที่ยวบ่ายวันที่ 6 เรื่องงานไม่พูดถึง เริ่มเรื่องเที่ยวกันเลยแล้วกัน

วันที่ 6 ก.ค. 61 เราจะเริ่มเที่ยวกันตั้งแต่บ่าย 2 โมง คุยกันว่าจะไปด้วยรถแดง รวมตัวกันได้ 4 คน เหมารถแดงเพื่อจะขึ้นไปดอยสุเทพ เพราะคงไปไกลกว่าดอยสุเทพไม่ได้ละ เวลาไม่พอ ค่าเหมารถแดงขึ้นดอยสุเทพ 700 บาท หาร 4 ตกคนละประมาณ 175 บาท (ไปเยอะก็คุ้มกว่า) พอเริ่มขึ้นเขาอากาศก็เริ่มจะเย็นๆ หน่อย รถขับขึ้นเขาแอบมึนๆ อยู่เหมือนกัน มีแวะจุดชมวิวก่อนถึงดอยสุเทพ มองภาพกว้างของตัวเมืองเชียงใหม่ สวยดีค่ะ บรรยากาศดี

ใช้เวลาขับขึ้นดอยสุเทพน่าจะประมาณ 30 - 40 นาที เห็นจะได้ (นั่งชมวิวไปเรื่อยๆ แป๊ปเดียวก็ถึงเลยไม่ได้ดูเวลา) เมื่อมาถึงต้องเดินขึ้นบันไดไปอีกเป็นร้อยขั้น (หอบเลยทีเดียว) วันนี้นักท่องเที่ยวไม่เยอะ อากาศดี พระธาตุสวยงามสีเหลืองทองอร่าม ครั้งแรกกับการไปดอยสุเทพ รวมทั้งมีจุดชมวิวอยู่รอบๆ พระธาตุ ถ้าไปหน้าหนาวคงจะสวยยิ่งกว่านี้



เดินเล่นบนดอยสุเทพสักพักใหญ่ ก็ลงมาแวะไหว้ครูบาศรีวิชัย ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับพระธาตุดอยสุเทพ หลังจากนั้นก็ให้รถไปส่งที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร แวะไหว้พระและชมความสวยงามของวัดที่เป็นสถาปัตยกรรมล้านนา สวยงามมาก


มีเด็กน้อยชาวต่างชาติ ที่ยืนมองพวกเราทำบุญถวายสังฆทานกันอยู่ พอพวกเราเสร็จ เด็กน้อยก็เดินมาขอให้หลวงพ่อผูกสายสิญจน์ให้บ้าง น่ารักเชียว
ภาพนี้ขออนุญาตผู้ปกครองเขาแล้ว เขาอนุญาตให้ถ่ายได้

หลังจากนั้นก็พากันเดินไปยังจุดหมายต่อไปคือ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดเชียงใหม่ สถาปัตยกรรมวัดแต่ละแห่งในเชียงใหม่คล้ายๆ กัน สวยงามหมดทุกที



นั่งกันอยู่ที่วัดเจีย์หลวงจนฟ้ามืด เพราะเงียบสงบจริงๆ ที่วัดเจดีย์หลวงยังมีศาลหลักเมืองตั้งอยู่ในนี้ด้วย มาที่เดียวได้ครบนะ มืดเริ่มหิวก็ไปหาอะไรกิน แล้วก็กลับเข้าที่พัก ครึ่งวันเที่ยวได้ 3 ที่ โอเคละ เราดื่มด่ำกับบรรยากาศเที่ยวแบบไม่รีบไม่ร้อน

อ๋อ! ลืมบอก ที่พัก พักที่ Nap in Chiangmai นอนห้องซูพีเรีย คืนละ 1080 บาท นอนกันสองคน ก็ตกคนละ 540 บาท ห้องกว้าง มีโต๊ะนั่งทำงาน ที่นอนเป็นแบบสไตด์ล้านนา ยกพื้นสูง ฟูกนิ่มๆ เป็นเตียงเดี่ยว (หาข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.napinchiangmai.com ได้เลย) ที่พักอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ ติดกับไนท์บาซ่า

วันที่ 7 ก.ค. 61 เที่ยวต่อค่ะ วันนี้มีเพื่อนขึ้นมาจากกรุงเทพเพิ่ม ก็เลยเช่ารถยนต์ขับกันเองไปกัน 6 คน ใช้รถ Civic (ค่าเช่าไม่รู้เท่าไรเพื่อนเช่า จ่ายช่วยเพื่อนไปแค่ 300 รวมค่าน้ำมัน 555+) เริ่มออกจากที่พัก 8.00 น.
ที่แรกคือร้านอาหาร กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ชื่อว่าร้านกูดมอนิ่งเชียงใหม่ การตกแต่งร้านเป็นแบบวินเทจ ผสมผสานระหว่างไทยกับสากล น่านัง อาหารเช้าจะเป็นแนวสากลสะมากกว่า ไม่มีอาหารไทยหนักๆ




กินกันอิ่มก็มุ่งหน้าสู่พระธาตุดอยคำ ไปไหว้หลวงพ่อทันใจ วันนี้เป็นวันหยุดคนมากันเยอะมาก เจ้าหน้าที่ไม่ให้เอารถส่วนตัวขึ้นไปเพราะไม่มีที่จอดรถ เลยต้องไปนั่งรถแดง คนละ 20 บาท ขึ้นไปข้างบน คนไม่ถึงกับแออัดนัก ไปไหว้หลวงพ่อทันใจด้วยดอกมะลิที่ซื้อมาจากปากทางเข้าพวกละ 5 บาท ซื้อมา 10 พวง ก็ไหว้ขอพรกันไป มีคนมาแก้บนกันมากมาย เพราะเป็นที่รู้กันว่าท่านศักดิ์สิทธิ์ เมื่อไหว้หลวงพ่อเสร็จแล้วก็เดินออกมาถ่ายรูปด้านนอก บรรยากาศดีอีกแล้ว อากาศไม่ถึงกับร้อนเพราะมีลมเย็นๆ พัดอยู่ แต่แดดนี่ถือว่าแสบตาลืมตาไม่ขึ้นกันเลยทีเดียว



ภาพบันไดที่ยืนถ่ายรูปนั่นหระ คือทางลงของเรา น่าจะประมาณ 1-2 กม. ได้ละมั้ง มีบางช่วงที่ชันๆ หน่อย เรียกเหงื่อได้เป็นโอ่งๆ

ที่ต่อไป หมู่บ้านแม่กำปอง ขับรถต่อไปยาวๆ หน่อย ไปดูวัฒนธรรมของเขากัน เป็นหมู่บ้านที่ยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นเมืองไว้อยู่ (แต่ก็เริ่มๆ มีความเจริญเข้ามาบ้าง) เมื่อมาถึงหมู่บ้าน เราขับรถขึ้นที่สูงก่อนแล้วค่อยแวะจากที่สูงลงมาข้างล่าง

น้ำตกแม่กำปอง น้ำน้อยไปหน่อย แต่บรรยากาศเย็นสบาย สำหรับเดินเล่นชิวๆ ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศ







หลังจากนั้นก็ลงมา แวะร้านนั่งชิว ชมนก ชมไม้ คนเยอะน่าดู น้ำอร่อยหรือวิวสวย?





สถานีต่อไป วัดคันธาพฤกษา (วัดแม่กำปอง) ที่มีโบสถ์อยู่กลางน้ำ ถ้าช่วงที่น้ำเยอะๆ คงสวยน่าดู ทางลงมีพืชสีเขียวตลอดทาง น่าถ่ายรูปมาก สวยๆ ไหว้พระขอพรให้เดินทางปลอดภัย




แวะผ่านร้านลุงปุ๊ด ป้าเป็ง ที่มีแต่คนรีวิวกันเยอะแยะ เพื่อนที่เคยมาแล้วเลยไล่เราลงจากรถให้ไปถ่ายรูปไว้หน่อย เอ้า! ลงก็ลง


ต่อๆ บ่ายโมงจะครึ่ง หิวข้าวแล้วเนี่ย หาร้านกินข้าวกันเถอะ ขึ้นลงเขาละมึนหัวจริงๆ ขออะไรเผ็ดๆ นะ เลยได้ร้านนี้ ร้านธารทอง (ไม่ใช่ธารทองลอด์จนะ)



หลังจากนั้นเราก็ออกจากหมู่บ้านแม่กำปอง เพื่อนๆ อีก 4 คนจะไปต่อกันที่ดอยอินทนนท์ แต่เรากับเพื่อนอีกคนหนึ่งจะต้องกลับ กทม. ด้วยเที่ยวบินตอน 21.10 น. ซึ่งตอนนี้พึ่งจะบ่าย 3 เมื่อแยกกับกลุ่มเพื่อนที่มีรถ เราสองคนก็ต้องมาหารถเองสิ รถแดงไม่มี ทำไง เรียก grab ละกัน .... มาภายใน 3 นาที เลยจ้า เราจะไปต่อกันที่วัดอุโมงค์ ใช้เวลาประมาณ 30 - 40 นาที ถึงวัดอุโมงค์ บรรยากาศเหมือนฝนจะตก คลึ้มๆ เชียว แต่ก็ยังเที่ยวอะ วัดอุโมงค์ ภายนอกอุโมงค์เราจะเห็นเป็นสีเขียวๆ ที่ธรรมชาติสร้างขึ้น ด้านในอุโมงค์ทุกเส้นเดินเชื่อมกันได้ สังเกตุดีๆ จะมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแต่ก็ดูเลือนลางมาก ด้านบนมีเจดีย์ใหญ่ที่เก่าแก่มาก สวยงาม ร่มเย็น สมกับที่อยากมาจริงๆ




เมื่อออกจากวัดอุโมงค์แล้ว ตอนนั่งรถผ่านเห็นมีหอศิลป์ เลยขอแวะเข้าไปดูหน่อย เป็นหอศิลป์ของอาจารย์วัฒนะ อาจารย์ที่มีผลงานด้านศิลปะและงานวิจัยมากมาย ที่นำงานของตนเองมาเปิดเป็นหอศิลป์ รูปที่สะดุดอารมณ์จนต้องถามอาจารย์คือรูปวาดผ้าพื้นเมืองชาวเหนือที่มันเป็นสีนูนขึ้นมาเหมือนเป็นผ้าจริงๆ อาจารย์เล่าว่า กว่าจะได้ภาพนี้อาจารย์ต้องไปเรียนถักผ้าแบบที่ชาวพื้นเมืองเขาทำกัน แล้วนำมาประยุกต์ใช้กับเทคนิคการวาดภาพ ภาพภายในหอศิลป์สวยจริงๆ แต่ว่าถ่ายรูปไม่ได้ เก็บไว้ได้แต่ความทรงจำ

หมดเวลาอีกแล้ว 1 วันกับการเที่ยวเชียงใหม่ ระยะสั้นๆ ยังมีอีกหลายที่ ที่อยากไป เอาไว้ค่อยหาเวลาเที่ยวอีก เก็บเงินแป๊ป

การรีวิวครั้งแรก สนุกดี และใช้เวลานานมาก