[CR] รีวิว พ่อแม่พาลูก 2 ขวบเที่ยวญี่ปุ่นเอง โตเกียว-ฮิโรซากิ-ฮอกไกโด โหด มัน ฮา

สวัสดีค่ะ ออกตัวก่อนว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้แรกนะคะ ส่วนตัวติดตามกระทู้ท่องเที่ยวตามประเทศต่างๆ ใน Pantip อยู่ประจำ รู้สึกว่ามีประโยชน์มาก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นกระทู้รูปสวย ตะลุยกิน เที่ยวคุ้ม ซึ่งในฐานะที่เป็นคุณแม่ลูก 1 ที่ชอบเที่ยวมาก (ก ไก่ล้านตัว) จขกท จึงอยากแบ่งปันประสบการณ์และการเตรียมตัว สิ่งที่คิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าระหว่างทริปพาลูกเที่ยวให้เพื่อนๆ ที่มีลูกเล็กแต่อยากไปเที่ยวบ้าง หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ

ทริปนี้เราเดินทางกัน 10 วัน 9 คืน (วันที่ 15-24 เมษายน 2561) ไปทั้งหมด 5 เมือง คือ โตเกียว ฮาโกดาเตะ ซัปโปโร โอตารุ และฮิโรซากิ เราซื้อตั๋วเครื่องบินของสายการบิน ANA ชั้นประหยัด ช่วงโปรโมชั่น ไปกลับกรุงเทพฯ-โตเกียว ได้ราคาพ่อ แม่ ลูก (อายุไม่ถึง 2 ขวบในวันเดินทาง) รวมทั้งหมด 37,580 บาทค่ะ

Lesson Learned: ไม่ต้องหาเรื่องไปหลายๆ เมืองหรอกเจ้า เมืองเดียวก็จะไม่รอดแล้ว ขอเตือนแม่ๆ ทุกคนว่า หากจะไปเที่ยวต่างประเทศแล้วไม่ได้ขับรถ เที่ยวทีละเมืองดีกว่าค่ะ เราต้องเจียมสังขารค่ะ เราแก่แล้ว เราไม่ไหว --‘

ส่วนการเดินทางระหว่างเมืองนั้น จขกทใช้ JR East-South Hokkaido Rail Pass ซึ่งใช้ได้ 6 วัน (นับเฉพาะวันที่ใช้) ครอบคลุมเส้นทางตั้งแต่โตเกียวไปถึงฮอกไกโก (รายละเอียดเส้นทางศึกษาได้ที่ http://www.jreasthokkaido.com/easthokkaido/e/ ค่ะ) ราคาคนละ 26,000 เยนค่ะ เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีไม่เสียเงินค่ะ

Lesson Learned: ศึกษาไปก็เท่านั้น ถึงเวลาจริงก็ลืม ไม่ได้ appreciate อะไรข้างทางทั้งนั้น นั่งลุ้นว่าลูกจะอ้วกเมื่อไหร่ตลอดทาง
วันเดินทางออกจากกรุงเทพฯ สำหรับผู้ที่เดินทางกับเด็กเล็ก หากเดินทางเพียง 2 คน (ผู้ใหญ่ 1 เด็ก 1) สามารถโทรไป call center ของสายการบินเพื่อให้ทำเรื่องเตรียมอำนวยความสะดวกที่สนามบินให้ เช่น มีคนช่วยพาไปเคาเตอร์ check-in พาไปที่ Gate เป็นต้น แต่ทริปนี้เรามีผู้ใหญ่ 2 คน จึงไม่สามารถใช้บริการได้ค่ะ แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้คือ จองที่นั่งล่วงหน้าและจองอาหารเด็กค่ะ

Lesson Learned: เด็กต่ำกว่า 2 ขวบ ซื้อที่นั่งแบบนั่งตักเรานั้น มันจองที่นั่งไม่ได้จ้า ฮ่วยยยย! จขกท ไม่ทราบ พอจะจอง จองไม่ได้จ้า ไปเลือกที่นั่งเอาตอน check-in ที่เคาเตอร์เลยค่ะ

จขกท เลือกที่นั่งที่เป็นแถวแรกของโซน จะกว้างพอให้เหยียดขาได้ประมาณนี้ค่ะ
อาหารที่เสิร์ฟ
วิธีการรับมือกับเด็กน้อยเวลาอยู่บนเครื่องบินนั้น มีหลายคำแนะนำมาก เช่น ของเล่นกับของกิน บางคนบอกว่าให้พยายามเล่นไปกับเขา ทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อที่เขาจะได้ไม่เบื่อ และหากเป็นไฟล์ทเช้า ลูกต้องตื่นเช้ากว่าปกติ เค้าจะง่วงและหลับบนเครื่องนานค่ะ เผลอแป๊ปเดียว เครื่องลงที่สนามบินแล้วค่ะ

Lesson Learned: ไม่มีกฎตายตัวอะไรทั้งนั้น ทุกอย่างอยู่ที่อารมณ์ของลูกสุดที่รักของเรา ณ วันนั้น ต่อให้นอนน้อยมาก แต่หากเธอจะไม่นอน เธอก็ไม่นอน ดังนั้น ก็รับมือกันไป ของเล่น ของกิน งัดมาใช้ให้หมด ไม่ต้องกั๊ก

ถึงสนามบินนาริตะแล้วค่ะ
จขกท ชอบ facility ของประเทศนี้มากเลย โดยเฉพาะห้องน้ำนี่เลิฟมากจริงๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นตามสถานีรถไฟ ตามห้าง ล้วนแต่มีอุปกรณ์เพรียบพร้อมให้เราค่ะ ถ่ายมาให้ดูเป็นตัวอย่างค่ะ

ไปเที่ยวกันต่อเลยค่ะ เราเปิดใช้ Pass ตั้งแต่วันแรก นั่ง NEX จากสนามบินเข้าโตเกียว ประหยัดค่ารถไฟเข้าเมืองไปค่ะ ไม่อย่างนั้นเราต้องซื้อตั๋ว Skyliner ซึ่งไม่สามารถใช้ Pass ได้ (แต่หากใครไม่ได้ซื้อ Pass ก็แนะนำให้นั่ง Skyliner ดีกว่าค่ะ) โดยไปแลก JR รวมทั้งจองที่นั่งได้ที่ JR EAST TRAVEL SERVICE CENTER (Terminal 1) ค่ะ

Lesson Learned: ไปถึงหน้างาน เค้าไม่รับจองที่นั่งทั้งทริปนะจ๊ะ เขาจะให้เราไปจองที่สถานีวันหลัง เพราะที่ SERVICE CENTER นี้คนค่อนข้างมาก แต่คราวนี้เราโชคดี เจ้าหน้าที่เดินมาถามว่ามากันกี่คน พอบอกว่า 3 คน (มีเด็กเล็ก) ก็ให้เราไปทำเรื่องจองกับเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ แต่คราวหน้าอาจไม่โชคดีเช่นนี้

ก่อนที่เราจะนั่งรถไฟเข้าเมือง แนะนำสำหรับครอบครัวที่มีสัมภาระเยอะ และมีการเดินทางหลายจังหวัด ให้ใช้บริการส่งกระเป๋าของแมวดำเลยค่ะ โดยเราส่งกระเป๋าที่มีเสื้อผ้าที่จะใส่ที่ฮอกไกโก (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเสื้อหนาว) ส่งตรงไปโรงแรมที่ฮอกไกโดเลยค่ะ เรียกบริการนี้ว่า airport TA-Q-BIN ซึ่งก็มีให้บริการในสนามบินเลยค่ะ ค่าเสียหายทั้งหมด 2,794 เยนค่ะ


Lesson Learned: แม้ลูกคุณจะโตแล้ว เดินได้แล้ว วิ่งได้แล้ว แต่........... เธอก็ยังอยากจะให้คุณอุ้ม ดังนั้น การเดินไปมาในสนามบินเพื่อหาเคาเตอร์แมวดำนั้น ไม่ใช่ 10 นาทีจะเจอนะฮะ เผื่อเวลาเยอะๆเลยค่ะ

ไปถึงโรงแรมก็เย็นแล้ว เราพักกันที่โรงแรม Richmond Premier Asakusa Hotel ค่ะ ห้องเล็กตามมาตรฐานโตเกียว แต่มีดีที่ทำเลและอาหารเช้า (ซึ่งเดี๋ยวเรามารีวิวกันค่ะ) ที่สะดุดตา สะดุดใจของโรงแรมนี้ก็คือ เขาให้เราจ่ายค่าห้องด้วยเครื่องค่ะ หากเราจ่ายแล้ว ก็จะได้รับ key card เข้าห้องได้ค่ะ เก๋ไก๋มากเลย

เดี๋ยวนี้ทุกโรงแรมจะมี smartphone ให้เรานะคะ เอาไปใช้ได้เลยค่ะ แต่ส่วนใหญ่เราก็จะเตรียม sim กันมาอยู่แล้ว สำหรับบ้านเราก็เลยไม่ได้ใช้ค่ะ


เนื่องจากดึกแล้ว และลมค่อนข้างแรงมาก เก็บกระเป๋าแล้วก็ออกมาหาของกินใกล้ๆ โรงแรมกินกันค่ะ

Lesson Learned: ชีวิตจริงไม่เหมือนในกระทู้คนอื่น ของอร่อยไม่ได้จะอยู่ใกล้ที่พักเราเสมอไป เดินวนรอบตึกแล้ว ก็อาจจะเจอแค่ร้านเล็กๆ ที่ที่นั่งไม่เอื้อกับเด็ก และรสชาติไม่ได้ว้าวพอจะมารีวิวอวดใครทั้งนั้น ดังนั้น หากอยากหลีกเลี่ยงปัญหานี้ อาจจะต้องหาร้านอาหารเตรียมไว้ในแผนการเดินทางเลยค่ะ

มื้อแรกของเราที่โตเกียวคือ ร้าน Sukiya ค่ะ ทานข้าวหน้าหมูกัน รสชาติทั่วๆ ไปมากค่ะ
กลับโรงแรมพักผ่อน พรุ่งนี้เช้าลุยกันค่ะ

วันที่ 2 เราแผนเราคือไปเที่ยว วันอาซากุสะ เสร็จแล้วเดินเลยไป Tokyo Sky Tree แล้วก็ไปสถานีโตเกียวค่ะ ก่อนออกเดินทาง ทานอาหารเช้าของโรงแรม ต้องเรียกว่าดีงามมากๆ ค่ะ ปกติกาแฟที่ญี่ปุ่นจะรสชาติค่อนข้างจืด เจือจางมาก แต่ที่โรงแรมนี้กาแฟสดอร่อยค่ะ อาหารก็หลายหลาย ตามรูปเลยค่ะ




อิ่มแล้วก็ออกเดินทางกัน ไปวัดอาซากุสะค่ะ
ใกล้ๆ วัดอาซากุสะมีร้านข้าวหน้าเทมปุระ 100 ปีอร่อยดีค่ะ
ช่วงบ่ายเราก็ไปโตเกียวสกายทรีต่อ
ช่วงที่เรามา โตเกียวอากาศยังเย็นค่อนไปหนาวนะคะ อุณหภูมิประมาณ 10 ต้นๆ

Lesson Learned 1: การเดินทางกับลูกนั้น ข้าวของมันเยอะไปหมด หากจะแบกทุกอย่างที่คิดว่าน่าจะใช้ หลังกับไหล่เราจะเดาะเอา ดังนั้น เลือกเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น
Lesson Learned 2: รถเข็นถึงแม้บางจังหวะที่หาลิฟต์ไม่เจอ ต้องพับรถเพื่อขึ้นรถบัส เราจะอยากโยนมันทิ้ง แต่เอาเข้าจริงๆ มันสำคัญมาก ลูกยังต้องนอนกลางวัน ให้เค้าหลับในรถ แล้วสวรรค์จะอยู่ตรงหน้าเรา อีกอย่าง เอาไว้วางของจุกจิกใต้รถได้ด้วยนะเออ

ตกค่ำเราก็ไปสถานีโตเกียว ดูวิวตอนกลางคืนกันค่ะ

พอเราเสร็จจากสถานีโตเกียว ก็ค่ำแล้ว ด้วยความกลัวว่าลูกจะหิว ก็เลยจบกันง่ายๆ ด้วยข้าวแกงกะหรี่ของ CoCo Ichiban ค่ะ รสชาติก็เหมือนของเมืองไทยเลย เสร็จแล้วกลับโรงแรมพักผ่อนค่ะ วันพรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางไปฮอกไกโดกัน

Lesson Learned: เวลากลับที่พักแล้ว ภาพมันไม่ได้ตัดไปพรุ่งนี้เช้าเลย เรายังต้อง deal กับลูกที่ยังตาสว่างและตื่นเต้นกับข้าวของในโรงแรม ดังนั้น อาจจะต้องยอมเที่ยวน้อยหน่อย แล้วกลับโรงแรมไม่ดึกมาก เพราะต้องเผื่อเวลาเอาลูกเข้านอนค่ะ

วันที่ 3 เรา check-out จากโรงแรมแต่เช้า ไปขึ้นรถไฟชินคันเซ็นกันที่สถานีโตเกียว สำหรับชินคันเซ็นเส้นทางนี้ เพิ่งจะเปิดให้บริการเมื่อปี 2016 ค่ะ เราก็ถือโอกาสมาลองของใหม่กัน จขกท นั่งขบวน Hasabuya 11 ใช้เวลา 4 ชั่วโมง 2 นาที เราก็ไปถึงฮาโกดาเตะค่ะ ระหว่างทางลูกหลับตลอด ทำบุญมาดีจริงๆ ค่ะ ส่วนสภาพรถไฟดีค่ะ สะอาด ใหม่

เราซื้อเบนโตะมากินบนรถไฟกันด้วยนะคะ แต่ด้วยความที่มันเย็น ไม่ได้อุ่นร้อน รสชาติก็จะชืดๆ ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ค่ะ

จากฮาโกดาเตะ เราแวะทานข้าวเที่ยง เดินยืดเส้นยืดสาย แล้วนั่ง JR Local ไปซัปโปโรกันค่ะ จากที่นั่งชินคันเซ็น smooth มากๆ มาเจอ JR หวานเย็นเข้าไป เวียนหัวเลยค่ะ 3 ชั่วโมงกว่าจะถึง โชคดีอีกแล้วที่ลูกหลับ พอไปถึง เดินไม่ไกลก็เจอโรงแรมที่เราจองแล้ว Sapporo Grand Hotel ค่ะ




ห้องกว้างขวางตามสไตล์โรงแรมเก่า สำหรับครอบครัวที่มากับเด็กเล็กอย่างจขกท ชอบนะคะ กว้างดี ^^
พอมาถึง กระเป๋าที่ฝากแมวดำมาส่ง ก็มารอที่โรงแรมแล้วค่ะ สะดวกมากๆ เลย (แต่ถ้าใครพักโรงแรมเล็กๆ หรือจำพวก Air bnb ก็อาจจะไม่ได้มาส่งถึงที่พักนะคะ อาจจะต้องไปรับที่ออฟฟิศของแมวดำละแวกนั้น หรืออาจจะเป็นร้านสะดวกซื้อแถวๆ นั้นค่ะ)

ช่วงที่เรามานี่ถือว่าซัปโปโรอากาศอุ่นกว่าที่ควรจะเป็นนะคะ ไม่หนาวมากเท่าไหร่ เรียกว่าหนาวกว่าโตเกียวไม่มากค่ะ
เย็นนี้เรามาทานซูชิกับซาซิมิกันค่ะ ลักษณะของซัปโปโร ส่วนใหญ่ตึกต่างๆ ใจกลางเมืองจะเชื่อมกันได้ด้วยทางเดินใต้ดินยาวตั้งแต่สถานี JR เลยค่ะ ร้านนี้ก็เป็นร้านใต้ดิน รสชาติอร่อย สด ราคาทั้งหมดประมาณ 7,xxx เยนค่ะ
Lesson Learned 1: ถ้าอยากกินซาซิมิแบบชิลๆ ค่อยๆ ใช้ลิ้นรับรสชาติความสด อย่ามากับลูก เพราะมันจะไม่มีโมเม้นท์นั้น ลูกจะชวนคุย ชวนเล่น แย่งของกิน และอาจทำลายความสุขในการกินของเราด้วยการตะโกนออกมาว่า “ปวดท้อง” อยากจะเข้าห้องน้ำ

Lesson Learned 2: การที่ลูกแสดงสีหน้าเจ็บปวดบ่งบอกว่าจะอึแล้วนั้น อาจจะเป็นแค่การแสดง(ความรัก)อย่างหนึ่ง พอไปถึงโถส้วมแล้ว เธออาจจะนั่งฮัมเพลงเบาๆ ยิ้มอ่อนๆ ให้เรารู้สึกเพลิดเพลินไปกับเธอ
ชื่อสินค้า:   รีวิว พ่อแม่พาลูก 2 ขวบเที่ยวญี่ปุ่นเอง โตเกียว-ฮิโรซากิ-ฮอกไกโด พร้อมค่าใช้จ่ายครบ
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่