สามีบอกว่า "น่าจะหมดแล้วล่ะความรักที่มีให้เรา" ...คำยอดฮิตของคนอยากไปใช่ไหม?

เรากับสามีคบกันตั้งแต่ปี 2552  เราอายุ 31 ปี สามีอายุ 24 ปี ก่อนจะคบกันเป็นแฟนและแต่งงานกัน เค้าพิสูจน์ให้เราเห็นว่าเค้าไม่แคร์ที่เราอายุมากกว่า เค้ารักเรา จากที่ผ่านมาเค้าไม่เคยคบคนอื่นเราคือแฟนคนแรกของเค้าค่ะ  นิสัยส่วนตัวเราเป็นคนที่ไม่ชอบไปวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวเค้า ไม่เคยตาม ไม่เคยค้นกระเป๋า ตรวจมือถือ หรือตามจิก เหตุผลเพราะเราไว้วางใจในตัวเค้ามาก เค้าเป็นผู้ชายที่ดีค่ะ ก็มีเซอร์ไพรส์ในวันพิเศษบ้าง ไม่หวานแหววเท่าไร จนผ่านมา 4 ปี

เหตุการณ์์ที่ 1 เค้าเริ่มมีอาการนอกกาย เค้าเล่น we chat และแอบไปมีสัมพันธ์กับคนอื่น 2 ครั้ง  และไม่ได้ติดต่อกันอีก  เราจับได้ทีหลังจากนั้น 1 เดือน เพราะปกติเค้าโกหกไม่เก่งเลยมีออกอาการให้เห็นผิดปกติ
นับจากเหตุการณ์นั้นมา ก็ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่มีปฏิกิริยาอะไรที่แกต่างไปจากเดิมเลย  จนผ่านมาอีก 3 ปี จึงได้แต่งงานกัน โดยผู้ใหญ่ฝ่ายชายเป็นผู้จัดงานให้ หาฤกษ์ให้เนื่องจากเห็นว่าคบกันมานานเกินไปแล้ว (แฟนไม่ได้ขอเราแต่งงาน) เราแต่งงานในเดือน พ.ย. 2558 จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ครั้งที่ 2 หลังแต่งงานได้ 2 เดือน

เหตุการณ์ที่ 2 เค้ามีอาการแปลกๆ เช่น มือถือติดตัวตลอดเวลา แม้กระทั่งเข้าห้องน้ำ ปิดเครื่องถ้าวางไว้ในบ้าน เป็นต้น (ขอย้ำคำเดิมว่าเราไม่เคยเช็คมือถือนะคะ จนกระทั่งพบว่าแปลกๆครั้งนี้)  เมื่อสบโอกาสจึงเปิดมือถือเค้าดู มี 1 คนที่เราเอะใจ เพราะบันทึกชื่อไว้เป็นชื่อหลาน (อายุ 4 ขวบ) มี line และโทรหากัน เมื่อเปิดข้อความ line ก็แจคพอตเลย เค้าคุยกับผู้หญิงคนนั้น (เจอกันผ่านทาง Bee talk คล้าย we chat เป็นผู้หญิงทำงานโรงแรมที่พัทยา) ทุกวันและแทบทั้งวัน ผู้หญิงส่งรูปที่เห็นหน้าอก ต้นขา และออดอ้อนมาก (แต่เค้าบอกว่ายังไม่เคยเจอกันนะ)  

ตอนนั้นโลกหมุนเคว้งมากๆ ร้องไห้ ไม่คิดว่าคนดีที่เราไว้วางใจจะเป็นอย่างนี้  เค้าบอกว่า "หมดรักเราแล้ว" เค้าต้องการจะไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้น เช่าห้องอยู่ (ปัจจุบันเราอยู่บ้านเดี่ยว แต่กำลังผ่อนกับธนาคาร สามีผ่อนบ้าน เราผ่อนรถ) ....เรานอนอยู่เตียงเดียวกัน โดยไม่แตะเนื้อต้องตัวกัน เค้าเล่นมือถือกับผู้หญิงคนนั้นข้างๆเรา  7 วันเต็มๆจนน้ำตาเราแห้งเหือด ขณะที่คุยกับผู้หญิงคนนั้นแบบหวานแหวว ผู้หญิงคนนั้น line มาด่าเราเยอะมากๆ เราเลยยื่นให้เค้าดูว่าผุ้หญิงแบบนี้เหรอที่ตัวเองชอบ เค้าก้เงียบ
เมื่อเห็นท่าทางเค้า เราจึงคิดทบทวนว่าจะทนร้องไห้กับคนที่ไม่เห็นคุณค่าเราขนาดนี้เพื่ออะไร จึงบอกเค้าว่า เรา OK แล้วนะ เดี๋ยวเราช่วยเก็บเสื้อผ้าของใช้ให้ พรุ่งนี้ให้เค้าไปได้เลย แล้วเราก็ลงมือเก็บเสื้อผ้าเค้าใส่กระเป๋า พับทีละชุดอย่างเรียบร้อย ลงไปปั่นผ้าที่เหลือพรุ่งนี้จะได้พับเก็บให้หมด...เมื่อข้ึ้นมาบน้านหลังจากลงไปปั่นผ้า เค้านั่งร้องไห้ บอกว่า "ขอโทษ" และต่อสายให้คุยกับผู้หญิคนนั้น เพื่อจบความสัมพันธ์ และสัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 3  ...ประกอบกับเรื่องนี้รู้ถึงพ่อแม่ของสามี (แต่พ่อแม่เรายังไม่รู้) พวกเค้ามาจาก ตจว. เพื่อขอโทษเราแทนลูกชาย  และไม่อยากให้รู้ถึงพ่อแม่เรา  เราจึงให้อภัยเหมือนเดิม เพราะเราคิดว่า เป็นเพราะเค้าไม่เคยเจอใคร ไม่เคยออกจากกรอบความเป็นคนดีที่ครอบครัวเค้าสอนมา ทำให้เมื่อเจอสิ่งเร้าที่น่าสนใจ เหมือนเด็กอยากได้ของเล่น เราจึงให้อภัย

เหมือนว่าเหตุการณ์จะเข้าสู่โหมดปกติ จนผ่านมาเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา เค้าสังสรรค์กับเพื่อนที่ทำงานบ่อยขึ้น บอกว่าทำโอที (เมื่อลองสืบ ก็เป็นไปตามที่เค้าบอก แปลว่า ไม่ได้โกหก) แต่สิ่งที่เปลี่ยนไป คือ เค้าไม่กอดเราเหมือนเดิม คุยน้อยลง ไม่สนใจว่าเราจะไปทำงานที่ไหนอย่างไร (เราทำงาน freelance ต้องบินไป ตจว. เดือนละ 2-3 ครั้ง) ...

เมื่อ 4 วันที่ผ่านมา เราฝากเค้าไปชำระเงิน กยศ และค่าบ้านที่ธนาคาร เราบอกว่าอย่าเลยนะเพราะต้องจ่ายวันที่ 5 ก.ค. ซึ่งวันนั้นเราติดงานทั้งวัน ไม่สะดวกไปเอง เค้าบอกว่าได้   แต่วันนั้นเรากลับบ้านเร็วจึงรีบโทรหาเค้าบอกว่าเจอกันที่บ้านนะแล้วไปธนาคารพร้อมกันเพราะเค้าเลิกงาน 16.00 น. ถึงบ้าน 17 น ธนาคารปิด 19.30 น. ทันแน่นอน  ..... 18.00 น ยังไม่ถึงบ้าน จึงโทรไปหา สามีบอกว่าแวะมางานวันเกิดพี่ที่ทำงานแป๊บนึง (ตรวจจากเพื่อนแล้วไปจริง ไม่โกหก) จึงรอต่อจนถึง 18.30 น. ก็ยังไม่ถึงบ้าน เลย line บอกว่า เราไปธนาคารก่อนนะ ซึ่ง 2 ธนาคารอยู่คนละห้าง เราไปธนาคารแรก ให้เค้าไปธนาคารที่ 2 เพราะแต่ละี่คิวยาวกลัวไม่ทัน  ด้วยความที่น้อยใจมากมาย จึงพิมพ์ไปว่า "ตัวเองเห็นคนอื่นๆสำคัญกว่าเค้าตลอดเลย ยังรักกันอยู่ไหม"  ...เมื่อกลับถึงบ้าน สามีบอกเราว่า "น่าจะหมดแล้วล่ะความรัก" ผ่อนบ้านเองได้ไหม สามีจะย้ายไปอยู่หอคนเดียว ถ้าผ่อนไม่ไหวให้ขายซะ

จากวันนั้น ถึงตอนนี้ สมองเรายังเป็นสูญญากาศ ไม่อยากคิด ไม่อยากทำอะไรเลย แต่ไม่มีน้ำตาสักหยด บอกพ่อแม่ตัวเองก็ยังไม่ได้(ท่านอายุมาก และหากรู้ว่าเราอยู่คนเดียว จะยิ่งคิดมาก) บอกพ่อแม่สามีก็ไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว สามีแค่เบื่อหน่ายกับภาระหนี้สินผ่อนบ้าน [ เค้าว่าเงินเค้าไม่เหลือในแต่ละเดือน ทั้งๆที่ราไม่เคยได้รับเงินเดือนจากเค้าเลยนะ แยกกระเป่ากันใช้ตั้งแต่แรก ..โชคดีที่เราไม่ใช่คนชอบเที่ยว หรือซื้อของ เช่น เสื้อผ้า เครื่องสำอาง] หรือ เพราะเค้าอยากหย่ากับเราจริงๆ   หากเค้าอยากหย่าจริงๆ เราบอกเค้าว่า เค้าต้องเป็นคนไปบอกพ่อแม่เรากับพ่อแม่เค้าด้วยตัวเอง  จนถึงวันนี้เค้าใช้ชีวิตในบ้านปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และก็ยังไม่กอดเราเหมือน 3 เดือนที่ผ่านมา เล่นเกมจนรอให้เรานอนก่อนทุกคืน...แต่ต่อหน้าเพื่อนๆ หรือคนอื่นๆ เค้าเทคแคร์เราปกติ จะเฉยชาเฉพาะเมื่ออยู่ด้วยกันแค่ 2 คนเท่านั้น

ที่มาตั้งกระทู้ในนี้เพื่ออยากระบาย ในสิ่งที่ไม่สามารถระบายให้คนรอบตัวฟังได้ค่ะ และอยากเปิดหัวใจกับสมองของตัวเองให้กว้างขึ้น เผื่อมีบางอย่างที่ผิดพลาดไปในการกระทำของเราจนทำให้เค้าเปลี่ยนไป

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่