เผลอเป็นไม่ได้ หาทะเลที่ชอบ เสาะแสวงหาไปเรื่อย สำหรับครั้งนี้ ตัดสินใจกลับไป มัลดีฟส์ อีกครั้ง เชคไปเชคมา ตกลงปลงใจที่ fihalhohi island resort (ฟิฮัลโฮฮี ไอส์แลนด์ รีสอร์ท) เป็นรีสอร์ท 4ดาว
ราคาจับต้องได้
สำหรับการเดินทางรอบนี้ ใช้เวลา 4วัน3คืน กำลังดี. เนื่องจากครั้งที่แล้ว ที่ไปมา ใช้เวลา 3วัน2คืน รู้สึกว่าไม่อิ่ม เหนื่อยกับการเดินทาง ครั้งนี้เลยจัดเพิ่มอีก1คืน เป็น 4วัน3คืน ซะหน่อย
สำหรับทริปนี้ ใช้เวลาจองล่วงหน้าประมาณ 2-3 อาทิตย์
-สายการบิน AirAsia ในราคา 7,900 ฿
-จองโรงแรมผ่าน Hotelopia (บอกเลยเป็น1ในตัวเลือกจอง รร. เพราะบางจังหวะ ถูกกว่าหลายที่ หลายพัน บาทมากมาย) สำหรับการจองโรงแรมในมัลดีฟส์ เพื่อป้องกันการผิดพลาด หลังจากได้ อีเมล์ยืนยันห้องพักแล้ว ให้ส่งอีเมล์ คอนเฟริมอีกครั้งไปยัง รีสอร์ท เพื่อนตรวจสอบ SpeedBoat & SeaPlane อีกครั้ง
เริ่มต้นการเดินทาง ที่ดอนเมือง เชคอิน รับบัตร เวลาเครื่องออก 09.30 ถึง สนามบินมาเล(มัลดีฟส์) 11.40โดยประมาณ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 2ชั่วโมง)
นั่งๆกินๆหลับๆ กัปตันแจ้งว่าใกล้ถึงสนามบินมาเล่ อีกครึ่งชั่วโมง สักพักเครื่องบินก็เริ่มไต่ระดับลง เริ่มมองเห็น เกาะรำไร สวยงามแล้ว
เมื่อมาถึงก็เข้าสู่ขั้นตอนปกติ จากนั้นผ่านขั้นตอน ต.ม ตามปกติ ไม่ยากเท่าไร อาจเป็นเพราะเคยมา หลายครั้งแล้ว ในระบบน่าจะมี Record. หลังจากออกมาแล้ว ก็สังเกตุเค้าเตอร์ ว่าโรงแรมของเราอยู่ เค้าเตอร์ไหน แค่ไปแจ้งชื่อของเราก็พอ จากนั้นก็รอเรือออก (สังเกตุจาก Booking Confirmed จะมีบอกให้เราไปติดต่อเค้าเตอร์ เบอร์อะไร)
อ่อ ลืมไปต้องซื้อ ซิมการ์ด นี่นา. จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เคยเช่าทั้งPocket Wifi และ ใช้Wifi ของรีสอร์ท พบว่า ไม่ได้เรื่องเท่าไร ครั้งนี้ตัดสินใจ ซื้อซิมการ์ดของที่นี่ แล้วใช้วิธีการ แชร์ฮอตปอร์ต ไวไฟ พบแล้วว่า เป็นทางออกที่ดีที่สุด. ซิมการ์ดที่นี่ ก็มีหลายโปร. ผมตัดสินใจซื้อซิมการ์ด 15GB / 7day ในราคา 22usd
จากนั้นไม่นาน จนท โรงแรมก็ตามเราไปขึ้นเรือ พนักงานเป็นมิตรมากมาย ทักทาย แนะนำข้อปฏิบัติ ขณะอยู่บนเรือ. และแจ้งว่า เรือเดินทางแค่ 45นาที เอง (ค่อยยังชั่ว)
นั่งไปเดี่ยวเดียว45นาที จริงๆ สวรรค์บนดิน เห็นอยู่รำไร สีน้ำเป็นสีเขียว สะท้อนแสงเข้าตา ซะแล้ว
** จะบอกว่า น้ำสีเขียวสะท้อนแสง เกิดจาก ซากปะการังที่ตายแล้ว นับล้านๆปี ที่ทับถมจนเกิดเป็นเกาะ หรือ บางเกาะเกิดจากการ ทลายตัวของภูเขา ก็แล้วแต่ จนทำให้เกิดซากปะการังที่กองทับถม เราจึงเห็นว่าทำไม น้ำที่นี่ตอนใกล้เกาะเป็นสีเขียวสะท้อนแสดง หรือที่เราเรียกว่า (อะทอล, เอโทล, Atol )
**สาระก็มี หน้าตาดี ก็ไม่อยากพูดถึง555**
ถึงแล้ว ฟิฮัลโฮฮี ไอส์แลนด์ รีสอร์ท fihalhohi island resort
เอาละมาถึงแล้ว ก็ทำการแจ้งชื่อ จากนั้นพนักงานก็จะพาเราไป พูดนู่นนี่นั่น เวลาอาหาร ยังไงเท่าไร กิจกรรมต่างๆนานา ว่าไป เข้าใจได้ อ้ออ!! ลืมบอก รีสอร์ทนี้ จ่ายค่าเรือSpeedBoat ตอนเชคอิน นะครับ สำหรับที่นี่ 140usdจ้า ( รีสอร์ท บางที่ จ่ายค่าเสียหายตอนเชคเอาท์)
รีสอร์ท ที่นี่เวลาของเข้า จะบวก+1 ชั่วโมง ของเวลาท้องถิ่น เช่นเวลา ในมาเล่ 12.00 แต่รีสอร์ทจะต้องเป็น 13.00 จากบ้านมาก็งง กับเวลา ยังต้องมปรับเวลาท้องถิ่น +เวลารีสอร์ทอีก ที่เราต้องปรับตามเขาเพราะมีผลต่อ กะเพราะของเรา ถ้าไม่ปรับ ตามเวลาอาหารไม่ทันอ่า เดี๋ยวจะผอมโซ
หลังจากฟังจนหูแฉะ ก็เตรียมตัวเข้าห้องพัก รีสอร์ทที่นี่ มีห้องพัก3แบบ คือ
1. คอมฟอร์ท (comfort room) เป็นเหมือนบ้าน2ชั้น บน-ล่าง
2. พรีเมี่ยม (Premium room) เป็นเหมือนกระต๊อบหลังเดี่ยว
3. บ้านกลางน้ำ (water ville)
สำหรับ ทริปนี้เลือกนอน comfort room จะบอกจากใจจริงๆนะ. ถ้าพอมีกำลัง อยากจะนอน บ้านกลางน้ำ ก็ลองดูซักคืนก็ได้ เข้าใจว่าเป็นภาพจำ ของคนที่มา มัลดีฟส์หลายๆคน
นี่คือ ห้องcomfort room ภายในห้องก็มี ของใช้ครบครัน แชมพู ยาสระผม bodylotion เหมือนโรงแรมทั่วไป
ในส่วนของ comfort room หรือ premium room ของที่น
[CR] ย่องเบา ไปมัลดีฟส์ ฟิฮัลโฮฮี ไอส์แลนด์ รีสอร์ท Fihalhohi island resort July-2018
สำหรับการเดินทางรอบนี้ ใช้เวลา 4วัน3คืน กำลังดี. เนื่องจากครั้งที่แล้ว ที่ไปมา ใช้เวลา 3วัน2คืน รู้สึกว่าไม่อิ่ม เหนื่อยกับการเดินทาง ครั้งนี้เลยจัดเพิ่มอีก1คืน เป็น 4วัน3คืน ซะหน่อย
สำหรับทริปนี้ ใช้เวลาจองล่วงหน้าประมาณ 2-3 อาทิตย์
-สายการบิน AirAsia ในราคา 7,900 ฿
-จองโรงแรมผ่าน Hotelopia (บอกเลยเป็น1ในตัวเลือกจอง รร. เพราะบางจังหวะ ถูกกว่าหลายที่ หลายพัน บาทมากมาย) สำหรับการจองโรงแรมในมัลดีฟส์ เพื่อป้องกันการผิดพลาด หลังจากได้ อีเมล์ยืนยันห้องพักแล้ว ให้ส่งอีเมล์ คอนเฟริมอีกครั้งไปยัง รีสอร์ท เพื่อนตรวจสอบ SpeedBoat & SeaPlane อีกครั้ง
เริ่มต้นการเดินทาง ที่ดอนเมือง เชคอิน รับบัตร เวลาเครื่องออก 09.30 ถึง สนามบินมาเล(มัลดีฟส์) 11.40โดยประมาณ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 2ชั่วโมง)
นั่งๆกินๆหลับๆ กัปตันแจ้งว่าใกล้ถึงสนามบินมาเล่ อีกครึ่งชั่วโมง สักพักเครื่องบินก็เริ่มไต่ระดับลง เริ่มมองเห็น เกาะรำไร สวยงามแล้ว
เมื่อมาถึงก็เข้าสู่ขั้นตอนปกติ จากนั้นผ่านขั้นตอน ต.ม ตามปกติ ไม่ยากเท่าไร อาจเป็นเพราะเคยมา หลายครั้งแล้ว ในระบบน่าจะมี Record. หลังจากออกมาแล้ว ก็สังเกตุเค้าเตอร์ ว่าโรงแรมของเราอยู่ เค้าเตอร์ไหน แค่ไปแจ้งชื่อของเราก็พอ จากนั้นก็รอเรือออก (สังเกตุจาก Booking Confirmed จะมีบอกให้เราไปติดต่อเค้าเตอร์ เบอร์อะไร)
อ่อ ลืมไปต้องซื้อ ซิมการ์ด นี่นา. จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เคยเช่าทั้งPocket Wifi และ ใช้Wifi ของรีสอร์ท พบว่า ไม่ได้เรื่องเท่าไร ครั้งนี้ตัดสินใจ ซื้อซิมการ์ดของที่นี่ แล้วใช้วิธีการ แชร์ฮอตปอร์ต ไวไฟ พบแล้วว่า เป็นทางออกที่ดีที่สุด. ซิมการ์ดที่นี่ ก็มีหลายโปร. ผมตัดสินใจซื้อซิมการ์ด 15GB / 7day ในราคา 22usd
จากนั้นไม่นาน จนท โรงแรมก็ตามเราไปขึ้นเรือ พนักงานเป็นมิตรมากมาย ทักทาย แนะนำข้อปฏิบัติ ขณะอยู่บนเรือ. และแจ้งว่า เรือเดินทางแค่ 45นาที เอง (ค่อยยังชั่ว)
นั่งไปเดี่ยวเดียว45นาที จริงๆ สวรรค์บนดิน เห็นอยู่รำไร สีน้ำเป็นสีเขียว สะท้อนแสงเข้าตา ซะแล้ว
** จะบอกว่า น้ำสีเขียวสะท้อนแสง เกิดจาก ซากปะการังที่ตายแล้ว นับล้านๆปี ที่ทับถมจนเกิดเป็นเกาะ หรือ บางเกาะเกิดจากการ ทลายตัวของภูเขา ก็แล้วแต่ จนทำให้เกิดซากปะการังที่กองทับถม เราจึงเห็นว่าทำไม น้ำที่นี่ตอนใกล้เกาะเป็นสีเขียวสะท้อนแสดง หรือที่เราเรียกว่า (อะทอล, เอโทล, Atol )
**สาระก็มี หน้าตาดี ก็ไม่อยากพูดถึง555**
ถึงแล้ว ฟิฮัลโฮฮี ไอส์แลนด์ รีสอร์ท fihalhohi island resort
เอาละมาถึงแล้ว ก็ทำการแจ้งชื่อ จากนั้นพนักงานก็จะพาเราไป พูดนู่นนี่นั่น เวลาอาหาร ยังไงเท่าไร กิจกรรมต่างๆนานา ว่าไป เข้าใจได้ อ้ออ!! ลืมบอก รีสอร์ทนี้ จ่ายค่าเรือSpeedBoat ตอนเชคอิน นะครับ สำหรับที่นี่ 140usdจ้า ( รีสอร์ท บางที่ จ่ายค่าเสียหายตอนเชคเอาท์)
รีสอร์ท ที่นี่เวลาของเข้า จะบวก+1 ชั่วโมง ของเวลาท้องถิ่น เช่นเวลา ในมาเล่ 12.00 แต่รีสอร์ทจะต้องเป็น 13.00 จากบ้านมาก็งง กับเวลา ยังต้องมปรับเวลาท้องถิ่น +เวลารีสอร์ทอีก ที่เราต้องปรับตามเขาเพราะมีผลต่อ กะเพราะของเรา ถ้าไม่ปรับ ตามเวลาอาหารไม่ทันอ่า เดี๋ยวจะผอมโซ
หลังจากฟังจนหูแฉะ ก็เตรียมตัวเข้าห้องพัก รีสอร์ทที่นี่ มีห้องพัก3แบบ คือ
1. คอมฟอร์ท (comfort room) เป็นเหมือนบ้าน2ชั้น บน-ล่าง
2. พรีเมี่ยม (Premium room) เป็นเหมือนกระต๊อบหลังเดี่ยว
3. บ้านกลางน้ำ (water ville)
สำหรับ ทริปนี้เลือกนอน comfort room จะบอกจากใจจริงๆนะ. ถ้าพอมีกำลัง อยากจะนอน บ้านกลางน้ำ ก็ลองดูซักคืนก็ได้ เข้าใจว่าเป็นภาพจำ ของคนที่มา มัลดีฟส์หลายๆคน
นี่คือ ห้องcomfort room ภายในห้องก็มี ของใช้ครบครัน แชมพู ยาสระผม bodylotion เหมือนโรงแรมทั่วไป
ในส่วนของ comfort room หรือ premium room ของที่น
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น