ก่อนอื่นเลยเราไม่เคยเขียนกระทู้เลย แต่ครั้งนี้อยากมาลองแชร์ประสบการณ์ดูนะคะ
เอาละค่ะ ! มาเริ่มกันเลย Fanmeeting in Korea ครั้งนี้เราไปดูวงที่เราชื่นชอบค่ะ นั่นก็คือ SEVENTEEN ค่ะ
เราเข้าใจแล้วว่าการที่ได้ไปดูแฟนมีตหรือว่าจะเป็นคอนที่เกาหลีมันคุ้มยังไง ฮือออ อยากให้ทุกคนได้ลองสักครั้งนะคะ!
แฟนมีตติ้งครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 แล้วค่ะ เป็นงานแฟนมีตติ้งสำหรับแฟนคลับของเซเว่นทีนโดยเฉพาะ ดูจากชื่อก็รู้แล้วเนอะ 55555
งานแฟนมีตติ้งชื่องานคือ CARAT LAND ค่ะ งานจัด 2 วัน แต่มีด้วยกัน 3 รอบค่ะ
ในปีแรกงานจัดวันที่ 13 - 15 กุมภาค่ะ ส่วนในปีนี้จัดวันที่ 2-3 กุมภาค่ะ
งานในวันที่ 2 คือ 19:00 จัดเพียง 1 รอบค่ะ
ส่วนวันที่ 3 คือ 13:30 และ 19:00 ค่ะ จัด 2 รอบ
!!! บอกเลยว่างานแฟนมีตนี้แย่งชิงบัตรกันอย่างบ้าคลั่งในทุกๆปีค่ะ TOT
*** ลืมบอกไปค่ะ ว่าช่วงวันเวลา เดือนที่จัดงานนี้คือ หนาวมากๆ หนาวโคตรๆ ***
เราก็มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ
อันนี้คือหน้าเว็บค่ะ กดบัตรในเว็บของ Melon ticket ค่ะ พอกดเข้าไปก็จะหน้าตาประมาณนี้ บัตรราคา 55000 วอนค่ะ แต่จะมีราคาพิเศษสำหรับบัตรกะรัตออฟฟิเชียลค่ะก็คือ 34000 วอน ค่ะ (บัตรกะรัต1 ใบ ใช้กดบัตรได้แค่ 1 ครั้งค่ะ) และจะกดก่อนด้วย 1 วัน (ซึ่งส่วนมากบัตรก็จะหมดตั้งแต่รอบนี้ละค่ะ)!บัตรเปิดขาย เวลา 18.00 น. (ไทย) อาศัยความเร็วของเน็ตและดวงล้วนๆเลยค่ะ ว่าเข้าไปแล้วจะได้คิวเท่าไหร่ในการจองบัตร และตัวของเราเองฝากพี่กดในรอบนี้เพราะว่าเราติดงานค่ะ และตอนนั้นลำบากนิดหน่อยค่ะเพราะต้องยืมบัตรกะรัตของคนอื่นมากด แต่!! พี่เราก็กดมาได้ค่ะ กดมาได้ในรอบแรกค่ะ
พอเรากดมาได้แล้วมันจะขึ้นแบบนี้มาหลังจากจ่ายเงินเสร็จค่ะ เราก็ปริ้นเอกสารส่วนี้มาเตรียมเก็บไว้ยืนยันเวลาเข้าตม.แล้วเขาถามนะคะ
หลังจากที่เราจองบัตรเสร็จแล้วซึ่งได้รอบเดียวเรามองว่าไม่คุ้มเลยไปคุ้ยๆในแท็กหาเอาค่ะซึ่งมีคนเกาหลีมาปล่อยขายต่อ(แต่จริงๆหน้างานก็พอมีขายนะคะแต่น้อยมากๆคนไปรอต่อคิวกันข้าววันเลยค่ะกลัวแล้ว) ซึ่งเราก็กลัวการโดนโกงค่ะแต่ต้องเสียง แนะนำนะคะถ้าเวลาจะซื้อต่อขอนัดรับหรือหลักฐานต่างๆให้ดีค่า และสุดท้ายความกลัวของเราก็หายไปหลังจากที่เจ้าของบัตรที่ขายต่อเรามาเขาส่งบัตรมาให้พี่สาวเราเรียบร้อย(โดนอัพไปเยอะค่ะ55555555)
สรุปก็คือเราได้บัตร 2 รอบค่ะ ได้แค่ รอบแรกและรอบสองค่ะ คราวนี้มีบัตรแล้วก็จองตั๋วเครื่องบิน+ที่พัก แล้วบินกันเลยยยยยยยย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอเราถึงเกาหลีอากาศที่นั่นก็ต้อนรับเราด้วยอุณหภูมิสุดน่ารักค่ะ -1 กันเลยทีเดียว เรายังพอไหวว (อันนี้คือในสนามบินนะคะ) แล้วเราก็ผ่านตม.อย่างสบายใจ คือทุกครั้งที่ไปก็แอบกังวลตลอดแต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากนั้นเราก็เดินทางไปที่พักค่ะ พอก้าวออกจากสนามบินอากาศที่นั่นก็ลดลงอย่างน่ารักค่ะ อยู่ที่ -9 กันเลยทีเดียวเรากับพี่ที่ไปด้วยกันพักอยู่แถวฮงแด ซึ่งใกล้รถไฟใต้ดินที่จะสามารถเดินทางไปสถานที่จัดงานได้อย่างง่ายๆไม่ต้องเปลี่ยนเส้นทางค่ะ
วันที่ 1 ที่เราไปถึงก็ไปไล่Shopping ร้านเครื่องสำอางค์ที่SEVENTEEN เป็นพรีเซนเตอร์อยู่ ก็หมดไปจนหน้ามืดค่ะ5555555555 เลยได้โปสมา 4 อัน
วันแรกก็เดินเที่ยวเล่นค่ะไม่มีอะไรเพราะต้องรีบกลับไปนอน ในวันพรุ่งนี้ต้องรีบไปต่อแถวซื้อของหน้างานค่ะ!!
........................................................................................................................................................................................................วันที่ 2 เราวางแผนว่าจะออกสักตี 4 (เวลาเกาหลีนะคะ) แต่ไปๆมาๆออกกัน 6โมงค่ะ และตื่นมาพบว่า อากาศต้อนรับด้วย - 10 ค่ะพันตัวเป็นมัมมี่ไปกันเลยค่ะ สถานที่จัดงานที่เราจะไปกันเลยค่ะ "Jamsil indoor stadium" ค่ะ พอไปถึงคนก็ยังดูไม่เยอะมากนะคะบริเวณที่จัดงานเราเลยคิดว่าคนคงยังไม่เยอะเท่าไหร่เลยเดินชิวๆเก็บภาพมาฝาก
อันนี้เป็นธงที่เพลดิสเตรียมไว้ค่ะ เดินตามเก็บถ่ายทุกเสาค่ะ ข้ามฝั่งไปมาเป็นว่าเล่น555555555555555
ต่อมาก็จะมาเจอBackdrop เค้าเรียกงี้ไหมอะ ที่เอาไว้ใช้ถ่ายรูปกันแต่เราถ่ายมาได้ไม่ครบทุกคนเท่าไหร่ค่ะไม่ไหวจริงๆมือชา หน้าชาไปหมด
หลังจากถ่ายรูปเล่นเสร็จก็เลยเดินหาที่ที่เขาต่อแถวซื้อของกันซึ่ง...บอกเลยว่าที่ไม่เห็นคนเค้ามาถ่ายรูปเล่นกันเพราะ...เพราะเค้าไปต่อแถวกันแล้วค่ะ แล้วคือแถวยาวมากๆๆๆๆๆๆ ขนาดตั้งเป็น 6 แถวได้มั้งคะ แล้วคือตอนเราไปบริเวณที่เค้าติดตั้งฮีทเตอร์ไว้คือเต็มค่ะ ต้องมานั่งแถวที่ยาวออกมาได้แต่นั่งภาวนาให้พระอาทิตย์ขึ้นสักทีค่ะเผื่อจะหายหนาว..แต่ไม่เลยค่ะ อากาศตอนนั้นคือ -4 ค่ะ บวกกับลมที่โชยไปมา Feel like -20 เลยค่ะตอนนั้นเหมือนจะตาย
หลังจากไปประมาณ 5 ชม. ได้ก็เริ่มยืนตั้งแถวกันแล้วค่ะเพราะกำลังจะเปิดขายของ สตาฟก็จะเดินแจกใบให้ติ๊กค่ะว่าจะสั่งซื้ออะไรบ้าง แถวยังไม่ทันถึงไหนเลยค่ะ เสื้อฮู๊ดสีเขียวที่SEVENTEENใส่ในงานหมดเกลี้ยงก่อนใครในทุกๆวันค่ะ หมดแบบใจหายมากจนเราคิดว่ามันทำมาแค่ 20 ตัวรึเปล่า... และหลังจากรอแถวจนได้ซื้อของเราก็กลับหอค่ะ ไปเก็บของที่หิ้วมาอย่างเยอะ และนอนพักกันค่ะ นอนไปได้ 2-3 ชม.ก็ตื่นและกลับมาที่งานใหม่ค่ะ พอตอนมาถึงคนเค้าก็เริ่มแจกของกันค่ะ บอกเลยว่าล่าสนุกมากแต่ส่วนใหญ่จะต้องมีอะไรไปยืนยันค่ะ เช่นการสตรีมเพลง แท่งไฟ บัตรในรอบนั้นๆ การฟอลโล่ในทวิตเตอร์ เป็นต้นค่ะ
คราวนี้พอถึงเวลาประมาณ 18.30น. ก็เริ่มเปิดประตูให้เข้าข้างในแล้วค่ะ และบอกเลยว่าเราคิดถูกค่ะที่เอาของไปเก็บก่อนเพราะว่าที่นั่งและทางเดินแคบมาก!!! และชันมากๆค่ะ เสียวหัวทิ่มเป็นที่สุด ในรอบแรกเรานั่งที่ชั้น 3 ค่ะ ซึ่งมันก็ไกลนะคะ แต่พอเอาจริงๆก็ไม่เท่าไหร่ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
พอใกล้เริ่มคอนก็จะเปิดวิดิโอเพลงCALP ก่อนเริ่มทุกคนในที่นั้นแฟนชานท์กันอย่างสนุกสนาน เราชอบความรู้สึกนั้นมากเลยค่ะได้แหกปากตะโกนร้องแฟนชานท์ และพองานเริ่มเราปริ่มใจงานมีตครั้งนี้อยู่หลายอย่างแต่ที่มากๆคือมี 2 อย่างเลยคือ 1. ได้เจอหมิงฮ่าว(ดิเอท)ครั้งแรกหลังจากที่น้องหายไปสักพักนึงเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่หลัง และ 2.คือตอนที่เซเว่นทีนประกาศคัมแบคโคมับตาและจะแสดงเพลงนี้ที่กะรัตแลนด์เป็นที่แรก เรารู้สึกแบบโคตรดีที่ตัดสินใจมาดู แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการได้เจอเซเว่นทีนคือสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้วจริงๆ ภายในงานการ์ดตรวจเข้มมากๆในเรื่องการถ่ายภาพ ชั้นหนึ่งนี่เดินเวรยามมากยอมใจแฟนไซต์ต่างๆที่ถ่ายกันออกมาได้ บางคนก็โดนพาออกจากงานก็มีเพราะถูกจับได้ ที่เกาหลีเขาไม่ตรวจกล้องค่ะคือคุณเอาเข้าก็เข้าไปแต่ถ้าคุณถ่ายเราจับได้คุณต้องออก ไม่เหมือนที่ไทยค่ะแอบเนียนเอาเข้าได้ถ้าจับได้ให้ลบรูปแล้วเข้ามาดูต่อไปแต่ที่เกาลหลีไม่ได้เลยค่ะออกคือออก ชั้นสองก็เข้มค่ะแต่ไม่มากเท่าชั้นแรก ส่วนชั้น 3 ก็คุมค่ะแต่ไม่เข้มมาก เราก็ได้แต่แอบถ่ายจากจอมอนิเตอร์มาบ้างประปรายและเราก็ลงในทวิตเตอร์ไปเกือบหมดแล้ว5555555555555555555 งั้นเอาภาพบางส่วนมากให้ดูกันก่อนในวันแรก
อันนี้เป็นภาพตอนเปิดVCR แรกเลยค่ะ กรี๊ดกันคอแทบแตก..
อันนี้คือภาพบรรยากาศนะคะ และเราประทับใจเซเว่นทีนมากๆที่ในแต่ละวันทั้ง 3 วันจะมีการเปลี่ยนคนเป็นMC ค่ะ
ในรอบแรกเป็นจองฮัน - โวคอล
รอบที่สองเป็น มินกยู - ฮฮ
รอบสุดท้ายจะเป็น ดิเอท - เพิร์ฟ
และในแต่ละวันวิดิโอการเลือกการเป็นMC ก็จะแตกต่างกันค่ะ เกมส์ที่เซเว่นทีนนำมาเล่นในงานก็แตกต่างกันทั้ง 3 วันเช่นกันและยังมีเสต็จพิเศษๆอีกเยอะเช่น การร้องเพลงของอีกทีม เช่น ฮฮร้องของเพิร์ฟ เพิร์ฟร้องเพลงของโวคอล และโวคอลแรปแบบฮฮค่ะ สนุกมากๆและยิ่งไปกว่านั้น ในรอบแรกเป็นการเปิดตัวยูนิตที่มีมานานแสนนานจนในที่สุดก็เป็นจริง คือยูนิต บูซอกซูนค่ะ ตอนนั้นคือทุกคนตกใจ ดีใจ กรี๊ดกันสนั่นเลย และช่วงก่อนสุดท้ายเซบก็แสดงเพลงคัมแบคค่ะคือโคมับตา ตอนนั้นยังร้องกันไม่ได้แต่ทึ่งที่สุดคือ ท่าเต้น คือ สุดยอดมากๆ ตอนนั้นเองเรานี่อยากให้ทุกคนได้ดูกันเร็วๆมากๆเลยว่ามันเจ๋งและสุดยอดแค่ไหน และจากนั้นยังไม่หมดค่ะ นั่นคือส่วนที่เซเว่นทีนเตรียมมา พอมาถึงในส่วนที่กะรัตเตรียมมาในแต่ละวันก็คือกะรัตจะเตรียมโปรเจ็คไว้ชูตอนเพลงก่อนจบค่ะ และเตรียมโปรเจคร้องเพลงไว้ระหว่างจะตะโกนเอนกอร์จบค่ะ ทั้ง 3 วันก็แตกต่างกันไปค่ะ ส่วนรูปข้างล่างนี้คือโปรเจ็คของวันแรกค่ะ
และพอถึงเพลงสุดท้ายก่อนจากก็คือเพลงมันเซค่ะ อ่อ! อีกอย่างคือที่ตื่นเต้นสำหรับงานนี้คือการที่เพลดิสได้ทดลองควบคุมระบบแท่งไฟด้วยบลูทูธค่ะ ซึ่งสวยมากๆจะเปลี่ยนไปเองตามการควบคุมและเพลวนั้นๆค่ะซึ่งเพลงสุดท้ายมันเซนั้นแท่งไฟเปลี่ยนบ่อยสุดประหนึ่งอยู่ในผับค่ะ
หลังจากจบงานก็จะได้รับกำไรของกะรัตแลนด์ค่ะซึ่งปีนี้คุณภาพเยี่ยมกว่าปีแรกหลังจากที่กะรัตบ่นค่ะว่าขาดง่าย เซเว่นทีนเลยเตรียมให้เป็นแบบใหม่ไฉไลกว่าเดิมมากๆ 55555555 และเป็นการออกแบบโดยคิมมินกยู นั่นเอง!!! และช่วงที่เซเว่นทีนคัมแบคก็ใส่กำไรนี้ก็โปรโมทด้วยนั่นเอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-------------------------- จบ ในส่วนของกะรัตแลนด์ในวันแรกค่ะ -----------------------------------
** ไว้เรามาเขียนต่อในส่วนของวันที่ 2 นะคะที่เหลืออีก 2 รอบ **
[SEVENTTEN] รีวิวการไปดูFanmeeting ที่เกาหลีครั้งแรก!!! "CARAT LAND"
เอาละค่ะ ! มาเริ่มกันเลย Fanmeeting in Korea ครั้งนี้เราไปดูวงที่เราชื่นชอบค่ะ นั่นก็คือ SEVENTEEN ค่ะ
เราเข้าใจแล้วว่าการที่ได้ไปดูแฟนมีตหรือว่าจะเป็นคอนที่เกาหลีมันคุ้มยังไง ฮือออ อยากให้ทุกคนได้ลองสักครั้งนะคะ!
แฟนมีตติ้งครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 แล้วค่ะ เป็นงานแฟนมีตติ้งสำหรับแฟนคลับของเซเว่นทีนโดยเฉพาะ ดูจากชื่อก็รู้แล้วเนอะ 55555
งานแฟนมีตติ้งชื่องานคือ CARAT LAND ค่ะ งานจัด 2 วัน แต่มีด้วยกัน 3 รอบค่ะ
ในปีแรกงานจัดวันที่ 13 - 15 กุมภาค่ะ ส่วนในปีนี้จัดวันที่ 2-3 กุมภาค่ะ
งานในวันที่ 2 คือ 19:00 จัดเพียง 1 รอบค่ะ
ส่วนวันที่ 3 คือ 13:30 และ 19:00 ค่ะ จัด 2 รอบ
!!! บอกเลยว่างานแฟนมีตนี้แย่งชิงบัตรกันอย่างบ้าคลั่งในทุกๆปีค่ะ TOT
*** ลืมบอกไปค่ะ ว่าช่วงวันเวลา เดือนที่จัดงานนี้คือ หนาวมากๆ หนาวโคตรๆ ***
เราก็มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ
อันนี้คือหน้าเว็บค่ะ กดบัตรในเว็บของ Melon ticket ค่ะ พอกดเข้าไปก็จะหน้าตาประมาณนี้ บัตรราคา 55000 วอนค่ะ แต่จะมีราคาพิเศษสำหรับบัตรกะรัตออฟฟิเชียลค่ะก็คือ 34000 วอน ค่ะ (บัตรกะรัต1 ใบ ใช้กดบัตรได้แค่ 1 ครั้งค่ะ) และจะกดก่อนด้วย 1 วัน (ซึ่งส่วนมากบัตรก็จะหมดตั้งแต่รอบนี้ละค่ะ)!บัตรเปิดขาย เวลา 18.00 น. (ไทย) อาศัยความเร็วของเน็ตและดวงล้วนๆเลยค่ะ ว่าเข้าไปแล้วจะได้คิวเท่าไหร่ในการจองบัตร และตัวของเราเองฝากพี่กดในรอบนี้เพราะว่าเราติดงานค่ะ และตอนนั้นลำบากนิดหน่อยค่ะเพราะต้องยืมบัตรกะรัตของคนอื่นมากด แต่!! พี่เราก็กดมาได้ค่ะ กดมาได้ในรอบแรกค่ะ
พอเรากดมาได้แล้วมันจะขึ้นแบบนี้มาหลังจากจ่ายเงินเสร็จค่ะ เราก็ปริ้นเอกสารส่วนี้มาเตรียมเก็บไว้ยืนยันเวลาเข้าตม.แล้วเขาถามนะคะ
หลังจากที่เราจองบัตรเสร็จแล้วซึ่งได้รอบเดียวเรามองว่าไม่คุ้มเลยไปคุ้ยๆในแท็กหาเอาค่ะซึ่งมีคนเกาหลีมาปล่อยขายต่อ(แต่จริงๆหน้างานก็พอมีขายนะคะแต่น้อยมากๆคนไปรอต่อคิวกันข้าววันเลยค่ะกลัวแล้ว) ซึ่งเราก็กลัวการโดนโกงค่ะแต่ต้องเสียง แนะนำนะคะถ้าเวลาจะซื้อต่อขอนัดรับหรือหลักฐานต่างๆให้ดีค่า และสุดท้ายความกลัวของเราก็หายไปหลังจากที่เจ้าของบัตรที่ขายต่อเรามาเขาส่งบัตรมาให้พี่สาวเราเรียบร้อย(โดนอัพไปเยอะค่ะ55555555)
สรุปก็คือเราได้บัตร 2 รอบค่ะ ได้แค่ รอบแรกและรอบสองค่ะ คราวนี้มีบัตรแล้วก็จองตั๋วเครื่องบิน+ที่พัก แล้วบินกันเลยยยยยยยย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอเราถึงเกาหลีอากาศที่นั่นก็ต้อนรับเราด้วยอุณหภูมิสุดน่ารักค่ะ -1 กันเลยทีเดียว เรายังพอไหวว (อันนี้คือในสนามบินนะคะ) แล้วเราก็ผ่านตม.อย่างสบายใจ คือทุกครั้งที่ไปก็แอบกังวลตลอดแต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากนั้นเราก็เดินทางไปที่พักค่ะ พอก้าวออกจากสนามบินอากาศที่นั่นก็ลดลงอย่างน่ารักค่ะ อยู่ที่ -9 กันเลยทีเดียวเรากับพี่ที่ไปด้วยกันพักอยู่แถวฮงแด ซึ่งใกล้รถไฟใต้ดินที่จะสามารถเดินทางไปสถานที่จัดงานได้อย่างง่ายๆไม่ต้องเปลี่ยนเส้นทางค่ะ
วันที่ 1 ที่เราไปถึงก็ไปไล่Shopping ร้านเครื่องสำอางค์ที่SEVENTEEN เป็นพรีเซนเตอร์อยู่ ก็หมดไปจนหน้ามืดค่ะ5555555555 เลยได้โปสมา 4 อัน
วันแรกก็เดินเที่ยวเล่นค่ะไม่มีอะไรเพราะต้องรีบกลับไปนอน ในวันพรุ่งนี้ต้องรีบไปต่อแถวซื้อของหน้างานค่ะ!!
........................................................................................................................................................................................................วันที่ 2 เราวางแผนว่าจะออกสักตี 4 (เวลาเกาหลีนะคะ) แต่ไปๆมาๆออกกัน 6โมงค่ะ และตื่นมาพบว่า อากาศต้อนรับด้วย - 10 ค่ะพันตัวเป็นมัมมี่ไปกันเลยค่ะ สถานที่จัดงานที่เราจะไปกันเลยค่ะ "Jamsil indoor stadium" ค่ะ พอไปถึงคนก็ยังดูไม่เยอะมากนะคะบริเวณที่จัดงานเราเลยคิดว่าคนคงยังไม่เยอะเท่าไหร่เลยเดินชิวๆเก็บภาพมาฝาก
อันนี้เป็นธงที่เพลดิสเตรียมไว้ค่ะ เดินตามเก็บถ่ายทุกเสาค่ะ ข้ามฝั่งไปมาเป็นว่าเล่น555555555555555
ต่อมาก็จะมาเจอBackdrop เค้าเรียกงี้ไหมอะ ที่เอาไว้ใช้ถ่ายรูปกันแต่เราถ่ายมาได้ไม่ครบทุกคนเท่าไหร่ค่ะไม่ไหวจริงๆมือชา หน้าชาไปหมด
หลังจากถ่ายรูปเล่นเสร็จก็เลยเดินหาที่ที่เขาต่อแถวซื้อของกันซึ่ง...บอกเลยว่าที่ไม่เห็นคนเค้ามาถ่ายรูปเล่นกันเพราะ...เพราะเค้าไปต่อแถวกันแล้วค่ะ แล้วคือแถวยาวมากๆๆๆๆๆๆ ขนาดตั้งเป็น 6 แถวได้มั้งคะ แล้วคือตอนเราไปบริเวณที่เค้าติดตั้งฮีทเตอร์ไว้คือเต็มค่ะ ต้องมานั่งแถวที่ยาวออกมาได้แต่นั่งภาวนาให้พระอาทิตย์ขึ้นสักทีค่ะเผื่อจะหายหนาว..แต่ไม่เลยค่ะ อากาศตอนนั้นคือ -4 ค่ะ บวกกับลมที่โชยไปมา Feel like -20 เลยค่ะตอนนั้นเหมือนจะตาย
หลังจากไปประมาณ 5 ชม. ได้ก็เริ่มยืนตั้งแถวกันแล้วค่ะเพราะกำลังจะเปิดขายของ สตาฟก็จะเดินแจกใบให้ติ๊กค่ะว่าจะสั่งซื้ออะไรบ้าง แถวยังไม่ทันถึงไหนเลยค่ะ เสื้อฮู๊ดสีเขียวที่SEVENTEENใส่ในงานหมดเกลี้ยงก่อนใครในทุกๆวันค่ะ หมดแบบใจหายมากจนเราคิดว่ามันทำมาแค่ 20 ตัวรึเปล่า... และหลังจากรอแถวจนได้ซื้อของเราก็กลับหอค่ะ ไปเก็บของที่หิ้วมาอย่างเยอะ และนอนพักกันค่ะ นอนไปได้ 2-3 ชม.ก็ตื่นและกลับมาที่งานใหม่ค่ะ พอตอนมาถึงคนเค้าก็เริ่มแจกของกันค่ะ บอกเลยว่าล่าสนุกมากแต่ส่วนใหญ่จะต้องมีอะไรไปยืนยันค่ะ เช่นการสตรีมเพลง แท่งไฟ บัตรในรอบนั้นๆ การฟอลโล่ในทวิตเตอร์ เป็นต้นค่ะ
คราวนี้พอถึงเวลาประมาณ 18.30น. ก็เริ่มเปิดประตูให้เข้าข้างในแล้วค่ะ และบอกเลยว่าเราคิดถูกค่ะที่เอาของไปเก็บก่อนเพราะว่าที่นั่งและทางเดินแคบมาก!!! และชันมากๆค่ะ เสียวหัวทิ่มเป็นที่สุด ในรอบแรกเรานั่งที่ชั้น 3 ค่ะ ซึ่งมันก็ไกลนะคะ แต่พอเอาจริงๆก็ไม่เท่าไหร่ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
พอใกล้เริ่มคอนก็จะเปิดวิดิโอเพลงCALP ก่อนเริ่มทุกคนในที่นั้นแฟนชานท์กันอย่างสนุกสนาน เราชอบความรู้สึกนั้นมากเลยค่ะได้แหกปากตะโกนร้องแฟนชานท์ และพองานเริ่มเราปริ่มใจงานมีตครั้งนี้อยู่หลายอย่างแต่ที่มากๆคือมี 2 อย่างเลยคือ 1. ได้เจอหมิงฮ่าว(ดิเอท)ครั้งแรกหลังจากที่น้องหายไปสักพักนึงเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่หลัง และ 2.คือตอนที่เซเว่นทีนประกาศคัมแบคโคมับตาและจะแสดงเพลงนี้ที่กะรัตแลนด์เป็นที่แรก เรารู้สึกแบบโคตรดีที่ตัดสินใจมาดู แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการได้เจอเซเว่นทีนคือสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้วจริงๆ ภายในงานการ์ดตรวจเข้มมากๆในเรื่องการถ่ายภาพ ชั้นหนึ่งนี่เดินเวรยามมากยอมใจแฟนไซต์ต่างๆที่ถ่ายกันออกมาได้ บางคนก็โดนพาออกจากงานก็มีเพราะถูกจับได้ ที่เกาหลีเขาไม่ตรวจกล้องค่ะคือคุณเอาเข้าก็เข้าไปแต่ถ้าคุณถ่ายเราจับได้คุณต้องออก ไม่เหมือนที่ไทยค่ะแอบเนียนเอาเข้าได้ถ้าจับได้ให้ลบรูปแล้วเข้ามาดูต่อไปแต่ที่เกาลหลีไม่ได้เลยค่ะออกคือออก ชั้นสองก็เข้มค่ะแต่ไม่มากเท่าชั้นแรก ส่วนชั้น 3 ก็คุมค่ะแต่ไม่เข้มมาก เราก็ได้แต่แอบถ่ายจากจอมอนิเตอร์มาบ้างประปรายและเราก็ลงในทวิตเตอร์ไปเกือบหมดแล้ว5555555555555555555 งั้นเอาภาพบางส่วนมากให้ดูกันก่อนในวันแรก
อันนี้เป็นภาพตอนเปิดVCR แรกเลยค่ะ กรี๊ดกันคอแทบแตก..
อันนี้คือภาพบรรยากาศนะคะ และเราประทับใจเซเว่นทีนมากๆที่ในแต่ละวันทั้ง 3 วันจะมีการเปลี่ยนคนเป็นMC ค่ะ
ในรอบแรกเป็นจองฮัน - โวคอล
รอบที่สองเป็น มินกยู - ฮฮ
รอบสุดท้ายจะเป็น ดิเอท - เพิร์ฟ
และในแต่ละวันวิดิโอการเลือกการเป็นMC ก็จะแตกต่างกันค่ะ เกมส์ที่เซเว่นทีนนำมาเล่นในงานก็แตกต่างกันทั้ง 3 วันเช่นกันและยังมีเสต็จพิเศษๆอีกเยอะเช่น การร้องเพลงของอีกทีม เช่น ฮฮร้องของเพิร์ฟ เพิร์ฟร้องเพลงของโวคอล และโวคอลแรปแบบฮฮค่ะ สนุกมากๆและยิ่งไปกว่านั้น ในรอบแรกเป็นการเปิดตัวยูนิตที่มีมานานแสนนานจนในที่สุดก็เป็นจริง คือยูนิต บูซอกซูนค่ะ ตอนนั้นคือทุกคนตกใจ ดีใจ กรี๊ดกันสนั่นเลย และช่วงก่อนสุดท้ายเซบก็แสดงเพลงคัมแบคค่ะคือโคมับตา ตอนนั้นยังร้องกันไม่ได้แต่ทึ่งที่สุดคือ ท่าเต้น คือ สุดยอดมากๆ ตอนนั้นเองเรานี่อยากให้ทุกคนได้ดูกันเร็วๆมากๆเลยว่ามันเจ๋งและสุดยอดแค่ไหน และจากนั้นยังไม่หมดค่ะ นั่นคือส่วนที่เซเว่นทีนเตรียมมา พอมาถึงในส่วนที่กะรัตเตรียมมาในแต่ละวันก็คือกะรัตจะเตรียมโปรเจ็คไว้ชูตอนเพลงก่อนจบค่ะ และเตรียมโปรเจคร้องเพลงไว้ระหว่างจะตะโกนเอนกอร์จบค่ะ ทั้ง 3 วันก็แตกต่างกันไปค่ะ ส่วนรูปข้างล่างนี้คือโปรเจ็คของวันแรกค่ะ
และพอถึงเพลงสุดท้ายก่อนจากก็คือเพลงมันเซค่ะ อ่อ! อีกอย่างคือที่ตื่นเต้นสำหรับงานนี้คือการที่เพลดิสได้ทดลองควบคุมระบบแท่งไฟด้วยบลูทูธค่ะ ซึ่งสวยมากๆจะเปลี่ยนไปเองตามการควบคุมและเพลวนั้นๆค่ะซึ่งเพลงสุดท้ายมันเซนั้นแท่งไฟเปลี่ยนบ่อยสุดประหนึ่งอยู่ในผับค่ะ
หลังจากจบงานก็จะได้รับกำไรของกะรัตแลนด์ค่ะซึ่งปีนี้คุณภาพเยี่ยมกว่าปีแรกหลังจากที่กะรัตบ่นค่ะว่าขาดง่าย เซเว่นทีนเลยเตรียมให้เป็นแบบใหม่ไฉไลกว่าเดิมมากๆ 55555555 และเป็นการออกแบบโดยคิมมินกยู นั่นเอง!!! และช่วงที่เซเว่นทีนคัมแบคก็ใส่กำไรนี้ก็โปรโมทด้วยนั่นเอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-------------------------- จบ ในส่วนของกะรัตแลนด์ในวันแรกค่ะ -----------------------------------
** ไว้เรามาเขียนต่อในส่วนของวันที่ 2 นะคะที่เหลืออีก 2 รอบ **