ปฏิเสษไม่ได้จริงๆครับว่า เว็บไซต์สำหรับฟรีแลนซ์ ที่ดีที่สุดในประเทศไทยตอนนี้คือ Fastwork.co ไม่ว่าจะเรื่องความไวในการให้บริการระหว่างเจ้าหน้าที่กับฟรีแลนซ์ หรือผู้ว่าจ้าง รวมไปถึงการทำการตลาดต่างๆ ที่ทำให้ผู้ว่าจ้างสนใจจ้างงานกับฟรีแลนซ์หลายๆท่านในเว็บไซต์แห่งนี้ และตัวผมเองก็คือฟรีแลนซ์คนหนึ่งที่ลงงานกับฟาสเวิร์คได้ไม่นาน แต่ผลการตอบรับจากการได้รับงานนั้นถือว่าไปได้สวยเลยทีเดียว มีคนเห็นงานของเรา มีการจ้างงานมากขึ้นเรื่อยๆ และผมเองก็ได้อะไรหลายๆอย่างจากเว็บไซต์นี้มากๆเช่นกัน
ก่อนจะอ่านเนื้อหาด้านล่างต่อไปนี้ ขอให้ผู้อ่านทำความเข้าใจก่อนว่า ทั้งหมดเป็นเพียง
ความคิดเห็นจากประสบการณ์ของผมเท่านั้น นะครับ ประเภทงานของผมคือ Web Application ส่วนประเภทงานของฟรีแลนซ์ท่านอื่นก็อาจมีประสบการณ์ที่ต่างกันไป อย่างไรก็ตาม ก็สามารถคอมเมนท์แชร์ประสบการณ์กันได้ครับ
ตามกระทู้นะครับ ทำไมเราจำเป็นต้องปฏิเสษงานจากผู้ว่าจ้าง สำหรับผมมีด้วยกัน 3 กรณีดังนี้ครับ
1. กำลังปฏิบัติงานให้กับลูกค้าท่านหนึ่งอยู่ ไม่สามารถทำสองงานพร้อมกันได้
2. เสนอราคาไปแล้วตามสโคปงาน และระยะเวลา+ทรัพยากรณ์พอใช้ตลอดการทำงาน แต่กลับถูกต่อราคา
3. เคสพิเศษ งานหนึ่งจบไปแล้ว (Work Done, Everything Perfect) ขอจ้างต่อ แต่ในราคาลูกจ้าง
ถ้าผมกำลังเจอกับปัญหากับกรณีที่ 2 และ 3 ผมจะปฏิเสษผู้ที่คาดว่าจะว่าจ้างในทันทีด้วยเหตุผลตามข้อที่ 1
สำหรับข้อแรก ผมเคยเจอประสบการณ์นี้ครับ งานหนึ่งยังไม่เสร็จ มีลูกค้าอีกท่านหนึ่ง มาขอให้เราทำ เราก็รับ เพราะดีใจว่า จะมีรายได้เพิ่ม แต่ปัญหาคือ มันทำให้เรามีเวลาพักผ่อนน้อยลง กินอาหารไม่เป็นเวลา ทำให้สุขภาพแย่จนทำให้งานนั้นยังออกมาไม่สมบูรณ์แบบเท่าที่ควร โชคดีที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี และก็เป็นประสบการณ์ให้กับผมเองว่า จะรับงานแค่
งาน ต่อ งาน เท่านั้น
สำหรับข้อสอง เราทุกคนต่างเข้าใจกันดีครับว่า การบริหารทรัพยากรณ์ในองค์กรทุกแห่ง ต้องทำให้เกิดมูลค่าสูงที่สุดด้วยการใช้ต้นทุนที่ต่ำที่สุด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ แต่ผู้ว่าจ้างส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจว่า ฟรีแลนซ์นั้นจริงๆแล้ว มันไม่ได้ฟรีอย่างที่ใครๆคิด
(ซึ่งถ้าเราได้ลองเข้ามาทำจริงๆ จะบอกว่า ตารางเวลาในปฏิทินนั้นแน่นเอี๊ยด แทบจะไม่ได้พักผ่อนเลย ยิ่งถ้าวันไหนลูกค้าที่อยู่ในระยะรับประกันเกิดปัญหาเรื่องการใช้งาน เช่น Bug ขอบอกเลยครับว่าคืนนั้นไม่ได้นอนแน่ๆ) และบางครั้ง การทำงานก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ตกลงกันในใบเสนอราคาที่ส่งให้ผู้ว่าจ้างทำการชำระเงิน ซึ่งตรงนี้ต้องยอมรับครับว่า ถ้าผู้ว่าจ้างยังไม่พอใจในเนื้องาน และกดปฏิเสษงานพร้อมบอกให้เราแก้จุดที่เกินกว่าที่ตกลงกันไว้ เมื่อเราเสนอราคาเพิ่ม แน่นอนว่า ผู้ว่าจ้างส่วนใหญ่จะไม่พอใจ มีความเป็นไปได้ที่จะถูกยกเลิกออเดอร์ ซึ่งเราก็ต้องยอมทำให้จนกว่าจะพอใจและให้รับงาน ถึงจะได้รับค่าจ้าง (เยี่ยมไปเลย ว่ามั้ยครับ ทำงานมาทั้งเดือนมีสิทธิ์กินแกรบ)
อยากฝากไปถึงผู้ที่กำลังจะว่าจ้างงานฟรีแลนซ์ในฟาสเวิร์คด้วยครับว่า ฟรีแลนซ์ ต้องกินต้องใช้ไม่ต่างจาก พนง.ประจำ มีครอบครัวต้องเลี้ยงดูเหมือนกับเราๆทุกคน หากคุณต่อรองราคาเขา กรณีที่เป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียดสูงมากๆ เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะไม่ได้งานที่สมบูรณ์แบบตามที่คุณต้องการ และจะมาว่าฟรีแลนซ์ว่าทำงานไม่ดี มันก็ไม่ถูกต้อง
โอเค!! ผมจะไม่กล่าวว่าสิ่งเหล่านี้คือความผิดของผู้ว่าจ้าง 100 % บางครั้งก็ต้องมาย้อนมองที่ฟรีแลนซ์ด้วยเช่นกัน
หากคุณเจอฟรีแลนซ์ที่เสนอราคางานให้คุณในราคาที่ถูก และระยะเวลาอันสั้น (Oh my God, this is what I want) สิ่งที่ผมอยากจะเตือนผู้ว่าจ้างคือ คุณควรถามฟรีแลนซ์ว่า เขาใช้ทรัพยากรณ์ที่เหมาะสมกับเนื้องานที่คุณต้องการหรือไม่ โดยเฉพาะงานด้านซอฟแวร์ หรือระบบอินเตอร์เน็ต คุณได้ราคาถูกก็อาจเป็นเพราะว่า เขาเอาตัว Crack ให้คุณใช้ หรือใช้ Free Licence มาดัดแปลง แน่นอนครับว่า 2 อย่างนี้ สิ่งที่คุณได้รับจะไม่ใช่ของแท้ 100% เมื่อฟรีแลนซ์ผู้นั้นไม่ได้ให้บริการคุณต่อไปแล้ว หากจะแก้อะไรตามหลังก็แทบจะทำไม่ได้เลย จบลงท้ายที่เริ่มทำใหม่ทั้งหมด สิ่งที่ผมแนะนำคือ ถ้าฟรีแลนซ์บอกว่ามีค่า License ด้วยนะครับ แต่ Licence นี้จะเป็นของแท้พรีเมี่ยม 100% ก็จ่ายให้เขาไปเถอะครับ แต่ต้องดูด้วยนะครับว่ามีการดูแลระยะยาวหรือเปล่า
ย้ำ
"คุณใช้ทรัพยากรณ์อะไรในการพัฒนาบริการของผม" ถามเขาอย่างละเอียดก่อนทำการตัดสินใจ
สำหรับข้อสาม Work Done, Everything Perfect เมื่องานเสร็จแล้ว ผมแนะนำว่าฟรีแลนซ์ควรทำ Manual ให้กับลูกค้าไปเลยครับ ทำไมเดี๋ยวผมจะบอก แน่นอนครับว่าผู้ว่าจ้าง เมื่อจบงานหนึ่งไปแล้ว ผู้ว่าจ้างก็อาจจะพึงพอใจในบริการหลังการขาย หรืออะไรก็ตามแต่ที่ฟรีแลนซ์ได้เสนอไปในตอนแรก หากอยากจะได้อะไรเพิ่ม บางครั้งก็ลืมไปว่า "มันหมดระยะเวลารับประกันงานแล้วนะครับ" เมื่อฟรีแลนซ์เสนอค่าบริการเพิ่ม ให้พอดีกับระยะเวลา ก็จะมีปัญหาตามมาต่างๆนาๆ (ผมจะไม่เจาะ Details) ถ้าผมเจออะไรแบบนี้ ผมจะตัดปัญหาคือ เอา Manual ที่ทำไว้อย่างเต็มรูปแบบให้ไปเลยครับและเสนอว่า
"ตามสโคปงานของลูกค้าผมทำไม่ได้ครับ ไม่มีความรู้ในด้านนี้เลย ผมแนะนำให้นำคู่มือฉบับนี้ลองให้นักพัฒนาท่านอื่นตรวจสอบดูว่าทำได้หรือเปล่า หากนักพัฒนาติดปัญหาอะไรก็ให้สอบถามผมมาได้เลยครับ"
บอกเขาไปแบบนี้เลยครับ อาจจะดูโง่ในสายตาผู้ว่าจ้าง แต่ดีกว่าเสียเวลาทั้งเดือนกับค่าจ้างที่ไม่คุ้มกับระยะเวลา ไม่ได้แนะนำให้เห็นแก่ตัวกับลูกค้านะครับ ถ้าคุณคิดว่าลูกค้าคือพระเจ้า และถ้าคุณเจอพระเจ้า 100 คนพร้อมกันคุณจะปรนนิบัติ ให้พวกเขายังไงหมด "ไม่มีทาง!!" เพียงแต่ผมกำลังจะบอกว่า ผู้ว่าจ้างไม่ได้เป็นคนดีทุกคน เหมือนๆกันกับ ฟรีแลนซ์ก็ไม่ได้เป็นคนดีทุกคน แต่นี่คือประเด็นที่ผมกำลังจะบอกว่า เราควรปฏิเสษงานเพราะผู้ว่าจ้าง หรือ เนื้องานกันแน่
ผมยอมรับครับว่า ผมเป็นฟรีแลนซ์ที่เน้นความละเอียดในเนื้องานมากกว่า การตามใจลูกค้า แน่นอนว่าการจ้างงานกับผม ผมจะโควตราคาให้กับผู้ว่าจ้างโหดมากๆ แต่รับประกันว่า ตรงไปตรงมา ไม่เน้นเอาใจลูกค้า แต่เน้นว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดที่ลูกค้าควรได้รับ หากสโคปงานที่ลูกค้าให้มา มันเป็นขอบเขตเดียวกับวงโคจรของดาวอังคาร ผมจะบอกลูกค้าเลยครับว่า อะไรจะเป็นผลเสียกับตัวเขาเองตามมา จริงอยู่หน้าที่ของผมคือต้องแก้ปัญหาให้กับผลเสียต่างๆ แต่เมื่อผมเสนอราคาเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น ผู้ว่าจ้างโอเคไหมกับราคาและระยะเวลาที่เสนอไป ถ้าโอเค ก็ Start it Now
สุดท้ายนี้ ผมเองในฐานะฟรีแลนซ์ อยากจะฝากไปถึงผู้ว่าจ้างทุกท่านเลยครับว่า
ให้ใตร่ตรองกับข้อเสนอที่ได้รับจากฟรีแลนซ์ ทำไมเขาถึงเสนอราคาให้คุณแบบนั้น และหากคุณกดราคาเขาเกินไป คุณอาจจะไม่ได้รับในสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ และจบลงที่รีวิว 5 ดาวแบบขี้โม้ๆ มโนกันเองระหว่างฟรีแลนซ์และผู้ว่าจ้าง พร้อมกับปัญหาระยะยาว
สำหรับฟรีแลนซ์ท่านใดยังไม่ได้มีงานเข้ามาก็อย่าพึ่งท้อใจไปครับ พี่ๆฟาสเวิร์คเขาใจดี เขาโปรโมทให้คุณตลอดจนคุณได้งานแน่นอน แต่ก็ฝากเรื่องราวของผมไว้พิจารณาก่อนตัดสินใจรับงานนั้นไป เมื่อสร้าง
ดีมานด์แล้ว ก็
ให้ How to ที่เหมาะสม
ตอบโจทย์ด้วยโปรดักท์ (บริการที่คุณมี)
สแกนผู้ว่าจ้าง ว่าควรพูดคุยแบบไหนให้เขาไม่รู้สึกว่าเราไม่ได้ไปเอาเปรียบเขา เมื่อเขาโอเค ก็
บิวท์ด้วยอารมณ์นิดหน่อย พร้อมกับ
จบด้วยเหตุผลว่า อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของเขา เพื่อไม่เป็นปัญหาในระยะยาว เหมือนกับที่ผมเคยเจอ
เพื่อนๆฟรีแลนซ์ท่านใดที่มีประสบการณ์ที่ดีและไม่ดีกับผู้ว่าจ้าง สามารถเข้ามาแชร์ประสบการณ์ได้นะครับ เรื่องราวทั้งหมดนี้มันเป็นเพียง คหสต. เท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมดทั้งมวลของแก่นธรรมชาติ ในตลาดฟาสเวิร์ค ขอให้ผู้อ่านทุกท่านโชคดีครับ
ด้วยความเคารพ
[Fastwork - Freelance] ทำไมเราจำเป็นต้องปฏิเสษงานจากผู้ว่าจ้าง เป็นเพราะเนื้องาน หรือ ตัวผู้ว่าจ้างกันแน่
ก่อนจะอ่านเนื้อหาด้านล่างต่อไปนี้ ขอให้ผู้อ่านทำความเข้าใจก่อนว่า ทั้งหมดเป็นเพียง ความคิดเห็นจากประสบการณ์ของผมเท่านั้น นะครับ ประเภทงานของผมคือ Web Application ส่วนประเภทงานของฟรีแลนซ์ท่านอื่นก็อาจมีประสบการณ์ที่ต่างกันไป อย่างไรก็ตาม ก็สามารถคอมเมนท์แชร์ประสบการณ์กันได้ครับ
ตามกระทู้นะครับ ทำไมเราจำเป็นต้องปฏิเสษงานจากผู้ว่าจ้าง สำหรับผมมีด้วยกัน 3 กรณีดังนี้ครับ
1. กำลังปฏิบัติงานให้กับลูกค้าท่านหนึ่งอยู่ ไม่สามารถทำสองงานพร้อมกันได้
2. เสนอราคาไปแล้วตามสโคปงาน และระยะเวลา+ทรัพยากรณ์พอใช้ตลอดการทำงาน แต่กลับถูกต่อราคา
3. เคสพิเศษ งานหนึ่งจบไปแล้ว (Work Done, Everything Perfect) ขอจ้างต่อ แต่ในราคาลูกจ้าง
ถ้าผมกำลังเจอกับปัญหากับกรณีที่ 2 และ 3 ผมจะปฏิเสษผู้ที่คาดว่าจะว่าจ้างในทันทีด้วยเหตุผลตามข้อที่ 1
สำหรับข้อแรก ผมเคยเจอประสบการณ์นี้ครับ งานหนึ่งยังไม่เสร็จ มีลูกค้าอีกท่านหนึ่ง มาขอให้เราทำ เราก็รับ เพราะดีใจว่า จะมีรายได้เพิ่ม แต่ปัญหาคือ มันทำให้เรามีเวลาพักผ่อนน้อยลง กินอาหารไม่เป็นเวลา ทำให้สุขภาพแย่จนทำให้งานนั้นยังออกมาไม่สมบูรณ์แบบเท่าที่ควร โชคดีที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี และก็เป็นประสบการณ์ให้กับผมเองว่า จะรับงานแค่ งาน ต่อ งาน เท่านั้น
สำหรับข้อสอง เราทุกคนต่างเข้าใจกันดีครับว่า การบริหารทรัพยากรณ์ในองค์กรทุกแห่ง ต้องทำให้เกิดมูลค่าสูงที่สุดด้วยการใช้ต้นทุนที่ต่ำที่สุด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ แต่ผู้ว่าจ้างส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจว่า ฟรีแลนซ์นั้นจริงๆแล้ว มันไม่ได้ฟรีอย่างที่ใครๆคิด (ซึ่งถ้าเราได้ลองเข้ามาทำจริงๆ จะบอกว่า ตารางเวลาในปฏิทินนั้นแน่นเอี๊ยด แทบจะไม่ได้พักผ่อนเลย ยิ่งถ้าวันไหนลูกค้าที่อยู่ในระยะรับประกันเกิดปัญหาเรื่องการใช้งาน เช่น Bug ขอบอกเลยครับว่าคืนนั้นไม่ได้นอนแน่ๆ) และบางครั้ง การทำงานก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ตกลงกันในใบเสนอราคาที่ส่งให้ผู้ว่าจ้างทำการชำระเงิน ซึ่งตรงนี้ต้องยอมรับครับว่า ถ้าผู้ว่าจ้างยังไม่พอใจในเนื้องาน และกดปฏิเสษงานพร้อมบอกให้เราแก้จุดที่เกินกว่าที่ตกลงกันไว้ เมื่อเราเสนอราคาเพิ่ม แน่นอนว่า ผู้ว่าจ้างส่วนใหญ่จะไม่พอใจ มีความเป็นไปได้ที่จะถูกยกเลิกออเดอร์ ซึ่งเราก็ต้องยอมทำให้จนกว่าจะพอใจและให้รับงาน ถึงจะได้รับค่าจ้าง (เยี่ยมไปเลย ว่ามั้ยครับ ทำงานมาทั้งเดือนมีสิทธิ์กินแกรบ)
อยากฝากไปถึงผู้ที่กำลังจะว่าจ้างงานฟรีแลนซ์ในฟาสเวิร์คด้วยครับว่า ฟรีแลนซ์ ต้องกินต้องใช้ไม่ต่างจาก พนง.ประจำ มีครอบครัวต้องเลี้ยงดูเหมือนกับเราๆทุกคน หากคุณต่อรองราคาเขา กรณีที่เป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียดสูงมากๆ เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะไม่ได้งานที่สมบูรณ์แบบตามที่คุณต้องการ และจะมาว่าฟรีแลนซ์ว่าทำงานไม่ดี มันก็ไม่ถูกต้อง
โอเค!! ผมจะไม่กล่าวว่าสิ่งเหล่านี้คือความผิดของผู้ว่าจ้าง 100 % บางครั้งก็ต้องมาย้อนมองที่ฟรีแลนซ์ด้วยเช่นกัน
หากคุณเจอฟรีแลนซ์ที่เสนอราคางานให้คุณในราคาที่ถูก และระยะเวลาอันสั้น (Oh my God, this is what I want) สิ่งที่ผมอยากจะเตือนผู้ว่าจ้างคือ คุณควรถามฟรีแลนซ์ว่า เขาใช้ทรัพยากรณ์ที่เหมาะสมกับเนื้องานที่คุณต้องการหรือไม่ โดยเฉพาะงานด้านซอฟแวร์ หรือระบบอินเตอร์เน็ต คุณได้ราคาถูกก็อาจเป็นเพราะว่า เขาเอาตัว Crack ให้คุณใช้ หรือใช้ Free Licence มาดัดแปลง แน่นอนครับว่า 2 อย่างนี้ สิ่งที่คุณได้รับจะไม่ใช่ของแท้ 100% เมื่อฟรีแลนซ์ผู้นั้นไม่ได้ให้บริการคุณต่อไปแล้ว หากจะแก้อะไรตามหลังก็แทบจะทำไม่ได้เลย จบลงท้ายที่เริ่มทำใหม่ทั้งหมด สิ่งที่ผมแนะนำคือ ถ้าฟรีแลนซ์บอกว่ามีค่า License ด้วยนะครับ แต่ Licence นี้จะเป็นของแท้พรีเมี่ยม 100% ก็จ่ายให้เขาไปเถอะครับ แต่ต้องดูด้วยนะครับว่ามีการดูแลระยะยาวหรือเปล่า
ย้ำ "คุณใช้ทรัพยากรณ์อะไรในการพัฒนาบริการของผม" ถามเขาอย่างละเอียดก่อนทำการตัดสินใจ
สำหรับข้อสาม Work Done, Everything Perfect เมื่องานเสร็จแล้ว ผมแนะนำว่าฟรีแลนซ์ควรทำ Manual ให้กับลูกค้าไปเลยครับ ทำไมเดี๋ยวผมจะบอก แน่นอนครับว่าผู้ว่าจ้าง เมื่อจบงานหนึ่งไปแล้ว ผู้ว่าจ้างก็อาจจะพึงพอใจในบริการหลังการขาย หรืออะไรก็ตามแต่ที่ฟรีแลนซ์ได้เสนอไปในตอนแรก หากอยากจะได้อะไรเพิ่ม บางครั้งก็ลืมไปว่า "มันหมดระยะเวลารับประกันงานแล้วนะครับ" เมื่อฟรีแลนซ์เสนอค่าบริการเพิ่ม ให้พอดีกับระยะเวลา ก็จะมีปัญหาตามมาต่างๆนาๆ (ผมจะไม่เจาะ Details) ถ้าผมเจออะไรแบบนี้ ผมจะตัดปัญหาคือ เอา Manual ที่ทำไว้อย่างเต็มรูปแบบให้ไปเลยครับและเสนอว่า
ผมยอมรับครับว่า ผมเป็นฟรีแลนซ์ที่เน้นความละเอียดในเนื้องานมากกว่า การตามใจลูกค้า แน่นอนว่าการจ้างงานกับผม ผมจะโควตราคาให้กับผู้ว่าจ้างโหดมากๆ แต่รับประกันว่า ตรงไปตรงมา ไม่เน้นเอาใจลูกค้า แต่เน้นว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดที่ลูกค้าควรได้รับ หากสโคปงานที่ลูกค้าให้มา มันเป็นขอบเขตเดียวกับวงโคจรของดาวอังคาร ผมจะบอกลูกค้าเลยครับว่า อะไรจะเป็นผลเสียกับตัวเขาเองตามมา จริงอยู่หน้าที่ของผมคือต้องแก้ปัญหาให้กับผลเสียต่างๆ แต่เมื่อผมเสนอราคาเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น ผู้ว่าจ้างโอเคไหมกับราคาและระยะเวลาที่เสนอไป ถ้าโอเค ก็ Start it Now
สุดท้ายนี้ ผมเองในฐานะฟรีแลนซ์ อยากจะฝากไปถึงผู้ว่าจ้างทุกท่านเลยครับว่า ให้ใตร่ตรองกับข้อเสนอที่ได้รับจากฟรีแลนซ์ ทำไมเขาถึงเสนอราคาให้คุณแบบนั้น และหากคุณกดราคาเขาเกินไป คุณอาจจะไม่ได้รับในสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ และจบลงที่รีวิว 5 ดาวแบบขี้โม้ๆ มโนกันเองระหว่างฟรีแลนซ์และผู้ว่าจ้าง พร้อมกับปัญหาระยะยาว
สำหรับฟรีแลนซ์ท่านใดยังไม่ได้มีงานเข้ามาก็อย่าพึ่งท้อใจไปครับ พี่ๆฟาสเวิร์คเขาใจดี เขาโปรโมทให้คุณตลอดจนคุณได้งานแน่นอน แต่ก็ฝากเรื่องราวของผมไว้พิจารณาก่อนตัดสินใจรับงานนั้นไป เมื่อสร้างดีมานด์แล้ว ก็ให้ How to ที่เหมาะสม ตอบโจทย์ด้วยโปรดักท์ (บริการที่คุณมี) สแกนผู้ว่าจ้าง ว่าควรพูดคุยแบบไหนให้เขาไม่รู้สึกว่าเราไม่ได้ไปเอาเปรียบเขา เมื่อเขาโอเค ก็บิวท์ด้วยอารมณ์นิดหน่อย พร้อมกับจบด้วยเหตุผลว่า อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของเขา เพื่อไม่เป็นปัญหาในระยะยาว เหมือนกับที่ผมเคยเจอ
เพื่อนๆฟรีแลนซ์ท่านใดที่มีประสบการณ์ที่ดีและไม่ดีกับผู้ว่าจ้าง สามารถเข้ามาแชร์ประสบการณ์ได้นะครับ เรื่องราวทั้งหมดนี้มันเป็นเพียง คหสต. เท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมดทั้งมวลของแก่นธรรมชาติ ในตลาดฟาสเวิร์ค ขอให้ผู้อ่านทุกท่านโชคดีครับ
ด้วยความเคารพ