เรื่องก็มีอยู่ว่า เมื่อไม่นานมานี้เราไปลงคอร์สเรียนโยคะมาค่ะ  
ก็มีทั้งคลาสเย็นหลังเลิกงานและคลาสเช้าเสาร์-อาทิตย์  
ตอนเย็นนี่ไม่เท่าไหร่เพราะแต่งหน้าไป แต่ตอนเช้าๆ จะหน้าสดมันก็ยังไง ยังไงอยู่เหมือนกัน
เพราะในห้องเรียนโยคะมีกระจกติดผนังทุกด้าน
ถึงคนอื่นจะไม่ได้มองเรา เราก็รู้สึกเขินอายในความ 'หน้าสดเกินไป' ของตัวเอง
ก็เลยจำเป็นยิ่งที่จะต้องแต่งหน้าบางๆ ไปเรียน อย่างน้อยก็เพิ่อความสบายใจ  


ปกติเวลาแต่งหน้าเราใช้รองพื้น L’OREAL Lucent Magiquet  
แต่พอต้องแต่งบางๆ นี่รองพื้นกลายเป็นแต่งหนักจัดเต็มไปเลย
ครั้นจะจัดเต็มเกินไปก็อายเพื่อนร่วมคลาส (เป็นผู้หญิงมันยากนะคะว่ามั้ย 555)
ก็เลยไปสรรหารองพื้นเบาบางต่างๆ มาลอง

แล้วก็ได้ KA UV Baby Face มา
ตัวนี้จะเป็นกันแดดครีมสีเนื้อ  ถามว่าตอบโจทย์ไหม
ด้วยเนื้อสีมันก็ตอบโจทย์ค่ะ แต่เวลาเรียนโยคะมันก็ไม่จำเป็นจะต้องโดนแดดอะไรนี่นา..  
เพื่อน (เพื่อนหญิงพลังหญิงในคลาสเรียนโยคะที่เข้าใจปัญหาเรา) ก็เลยแนะนำให้ใช้คุชชั่นแทน  เพราะนอกจากบางเบาแล้ว ยังประหยัดขั้นตอนการแต่งหน้าอีก พอได้ลองใช้แล้วรู้สึกหลงรักทันที

แล้วนี่ก็เป็นการใช้คุชชั่นครั้งแรกในชีวิตเลยค่ะ
ก่อนนี้ทำไมไม่มีใครจับยัดใส่มือคะ ถ้ารู้ว่าดีขนาดนี้เลิกใช้รองพื้นไปนานแล๊ววว!!  

หลังจากที่ได้ใช้ทั้งรองพื้น กันแดดสีเนื้อและคุชชั่นแล้ว
วันนี้เลยจับน้องๆ มาแนะนำให้รู้จัก


เริ่มจากกันแดดสีเนื้อก็ใช้ของ KA UV Protection Baby Face  
รองพื้นที่เราใช้อยู่คือ L'OREAL Lucent Magique เบอร์ G4 นะคะ
ส่วนคุชชั่นใช้ DD Cushion Perfect Cover Natural Beige ของ DR.WU
เป็นเวชสำอางอันดับ 1 จากใต้หวัน (เพื่อนชาวใต้หวันแนะนำอีกแล้ว)
นี่ไม่มีข้อมูล ไม่เคยใช้คุชชั่นมาก่อนบวกกับช่วงนี้ที่ไทยเป็นหน้าฝนก็เลยลองดู

อ่ะมาดูกันค่ะ  


อันนี้เป็นรอยแผลเป็นที่ข้อมือเราที่โดนแมวกัดตอนป้อนยา
เราจะมาทดสอบการปกปิดก่อนว่า แต่ละตัวปกปิดได้มากแค่ไหน  


เริ่มจาก KA UV Protection Baby Face ก่อนเลย  


เนื่องจากเป็นกันแดดก็เลยจะปกปิดได้น้อยกว่า เอาจริงๆ แผลเราลึกด้วยแหละ ถ้าทาที่หน้าก็โอเคถือว่าปกปิดจุดด่างดำได้ระดับนึง ใช้งานง่าย กลิ่นหอมละมุน ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่แสบผิว แต่เราก็คิดว่าไม่เหมาะกับการทาไปเล่นโยคะในตอนเช้า  


ส่วนรองพื้นจาก L'OREAL Lucent Magique สีเข้มไปหน่อย
ใช้แล้วดูจัดเต็มไปนิดค่ะ  ขอปัดตก  


และมาที่คุชชั่นเลย ขออบอกว่ารักตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลย
DD Cusion เนี่ย เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ DR.WU
ซึ่งตัวที่เราใช้คือตลับสีชมพู DD Cusion Perfect Cover สี Natural Beige สำหรับผิวสองสี
ในแพคเก็จจะมีแบบ refill แถมมาให้ด้วย  


ไหนๆ เราก็เกริ่นมาซะขนาดนี้  ขอแบ่งปันความประทับใจหน่อยนะคะ  หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่ยังไม่เคยใช้คุชชั่นมาก่อน
และเป็นประโยชน์สำหรับคนที่มองหาสิ่งดีๆ ให้ผิวหน้าตัวเองเนอะ    



เนื้อคุชชั่นเกลี่ยง่าย ใช้ง่าย ลดขั้นตอนการแต่งหน้าสุด


ตอนใช้แค่เกลี่ยๆ ให้ทั่วหน้า ก็เป็นอันเสร็จแล้ว


หลังจากเกลี่ยคุชชั่นเสร็จแล้ว ฉ่ำวาว หน้าวิ้งสุดๆ
อาจจะดูวอกไปหน่อย สำหรับเรา เราชอบให้ผิวโกลวๆ แทนๆ
ก็เลยเติมแป้งฝุ่นสีที่เข้มกว่าผิวไปอีกเพื่อไม่ให้หน้าลอยค่ะ



จากนั้นก็คอมพลีทลุคด้วยเมคอัพอื่นๆ ได้เลย

สำหรับความประทับใจในการใช้ DD Cushion ในวันแรกที่ใช้คือ แต่งหน้าไปคาเฟ่ตอนกลางวัน ตกตอนเย็นเพื่อนชวนไปคราฟต์เบียร์ที่ข้าวสาร เวลาผ่านไปจะ 10 ชั่วโมงแล้วยังหน้าเด้งอยู่เลย

เช้าวันต่อมาก็เลยใช้แทนรองพื้นและแต่งหน้าไปเรียนโยคะเลย  
พอจบคลาสโยคะร้อน ซับเหงื่อที่ตัวที่หน้าเสร็จ
ทั้งครูและเพื่อนร่วมคลาสแซวว่านี้ไปเติมหน้ามาใช่มั้ย หน้าวิ้งเชียวว ตอนแรกไม่ได้คิดอะไรแต่เดินกลับเข้าไปส่องกระจกในห้องโยคะแล้วมันวิ้งจริงๆ ค่ะ รักมากๆๆ รักจนอยากบอกต่อ  ขอบอกว่าเราซื้อคุชชั่นตอนลดราคาจาก 1,700 บาทเหลือ 850 บาท [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(แต่ต้องซื้อจากไลน์ @drwuthailand เท่านั้นนะค่ะ)


อีกหนึ่งเหตุผลที่เราเลือกคุชชั่นตัวนี้เพราะ เราเป็นคนผิวแห้งมาก
ไม่อยากทำร้ายผิวด้วยการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เลย  
และ DD Cushion ตัวนี้เค้าก็ตอบโจทย์เรามากๆ  เป็นคุชชั่นตัวแรกเลยที่ช่วยบำรุงผิว
ช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ควบคุมความมัน ปกปิดดี
ไม่อุดตันและที่สำคัญช่วยให้หน้าฉ่ำวาว ดูผิวหน้าเด้งมากๆ  

ยิ่งกับคนที่ต้องแต่งหน้าไปออกอกกำลังกายแล้ว จากประสบการณ์ส่วนตัวแล้วอยากแนะนำ
อย่างตอนเล่นโยคะร้อนเหงื่อออก หน้าก็ไม่เป็นคราบ ตอนที่ซับเหงื่อหน้าก็ยังติดทนดี
แถมตอนเล่นโยคะเสร็จ ซับเหงื่อจนแห้งแล้วหน้ายังเด้ง ฉ่ำจนครูสอนโยคะกับเพื่อนในคลาสทักอีก  

มันดีมากจริงๆ ต้องลองนะคะ <3