คนเดียว
ข้อแตกต่างระหว่างผุ้บริหาร คุณตัน ichi คุณต๊อบ tkn ในมุมมองของผม
เริ่มคุณตัน เริ่มต้นเป็นพ่อค้า ขายหนังสือพิมพ์ ต่อมาก็ขยับขยายไปทำร้านถ่ายรูป และขยับต่อไปทำร้านอาหาร
เป็นลักษณะเติบโต ต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป สุดแต่ขณะนั้นๆ มีช่องทางอย่างไร ก็ค่อยๆไปทางนั้น
เติบโตมาในรูปแบบพ่อค้า แต่เติบโตไปด้วยความต่อเนื่องของธุรกิจที่ทำ
คุณตันเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้เองว่า ตอนที่ทำภัตตาคารโออิชิ มีแถมน้ำชาเขียวในร้านให้ทานฟรี แต่ลูกค้าชื่นชอบและขอซื้อกลับไปกินต่อที่บ้าน เป็นจำนวนมาก จึงเริ่มบรรจุขวดธรรมดาขาย และ เพิ่มจนผลิตลงขวดมาตรฐานเพื่อขาย
อันนี้ผมมองว่าเป็นดีมานด์ วิ่งมาชน ไมได้เป็นความคิดสร้างสรรค์อะไร
แต่ตรงนี้คือจุดเปลี่ยนจากแค่พ่อค้า กลายเป็นนักธุรกิจ จากคนขายอาหาร ขายเฉพาะลูกค้า ที่มากินหน้าร้าน นิชมาเก็ต
กลายเป็นขายแมส มาเก็ต ไม่ได้เฉพาะลูกค้าหน้าร้านแคบๆอีกต่อไป
ก็เติบโต ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ เติบใหญ๋ จนเป็นที่ต้องใจของเสี่ยเจริญ มาซื้อธุรกิจพร้อมตัวแกไป ทำให้แกขึ้นทำเนียบเศรษฐี คนนึงจากการขายหุ้นให้เสี่ยเจริญในครั้งนั้น
แต่หลังจากนั้น ไม่นาน แกก็ลาออกมารวบรวมลูกน้องเก่า ตั้งบริษัท น้ำชาเชียว ขึ่นมาแข่งกับ คุณเจริญที่เแกเพิ่งขายกิจการ น้ำชาเขียวไป โดยมารยาท เมื่อขายกิจการไปแล้ว ก็ไม่ควรจะย้อนกลับไป ทำกิจการ(ด้วยเงินของผู้ซื้อ) มาแข่งกับผู้ซื้อ อันนี้แสดงว่าแกตัน แม้คุณตันจะตั้งชื่อบริษัทว่า"ไม่ตัน" แต่ความจริงตัน
ผมจำได้ว่าตอนแรก แกก็พยายามทำน้ำอย่างอื่นที่ไม่ใช่ชาเขียวออกมาขาย แต่ไม่รอด สุดท้าย เลยทำผิดมารยาท
ผิดความถูกต้อง เพราะแกตัน หาทางไปเส้นทางอื่นไม่ได้จริงๆ (วิจารณ์แค่นี้พอ เดี่ยวกระทู้ถูกลบ )
ผมเคยไปตอบกระทู้ คนที่โพสถามว่า ทำไม หุ้น ichi วิ่งขึ้นวันที่ 10/11/2560 ว่า " ไม่มีอะไรราคาขึ้นมาตอบรับ การให้สัมภาษณ์ของคุณตันเท่านั้นเอง (เดี่ยวก็ลง ) ปรากฏว่า ไม่นานกระทู้นั้น ก็ถูกลบ แสดงว่าคุณตัน สนใจการโพสในโซเชียล พอสมควร
วิจารณ์ในเชิงลบไปแล้ว ขอพูดในเชิงบวกบ้าง คุณตัน เป็นพ่อค้า เป็นนักธุรกิจ ที่มีไหวพริบ
แม้จะไม่ค่อยมีความคิดสร้างสรรค์ เกียวกับตัวสินค้า ยังต้องอาศัยสถานการณ์พาไป ไม่สามารถมองหาโอกาสใหม่ๆด้วยตัวเอง
แต่ก็ถือว่ามีการพัฒนา ให้เติบโตไปได้ ค่อนข้างดี จุดที่แก นำมาเล่นคือมุข ชิงโชค จากเดิม แค่แจกล้าน ต่อมาก็แจก สิบล้าน ตอนหลังก็แจก ยี่สิบกว่าล้าน ผมเชือว่าแกมอง วิธีนี้จะใช้ได้ตลอดไป
แต่ตลาดตอบกลับมาแล้ว ว่า คนเริ่มเบื่อ จะแจกเพิ่มเป็น 30ล่านต่อคน หรือ 50ล้านต่อคน ก็ไม่ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้มากนัก
ตอนนี้แกตันแท้จริง สมชื่อไปแล้ว ต้องรอดูว่าแก จะหาทางออกจากทางตัน ได้เมื่อไหร่ ผมว่าสุดท้าย แก จะคิดตก แก้ปัญหาออก
ต้องให้เวลาแกสักพัก คนที่ประสพความสำเร็จมากๆ จะติดกับดับตัวเอง ต้องรอจนกว่าจะหลุดกับดับตัวเอง ซึ่งแก จะต้องหลุดออกมาได้แน่ๆสักวันหนึ่งข้างหน้า
จุดดี ที่สุดจุดเดียวที่ผมเห็นในวิธีการของคุณตันคือ แกเป็นคนใจกว้าง แบ่งปันโอกาสในการเป็นเจ้าของกิจการให้ลูกน้อง ตรงนี้เป็นทีเด็ดที่แก ขยายกิจการ จากเล็กมาใหญ่ได้ ใครก็ตาม ถ้าคิดจะค้าขายให้เติบโต แบบคุณตัน
อย่าลืมเอาความใจกว้าง แบบนี้มาใช้ด้วย ไปย้อนดูคนรุ่นเก่าที่ประสพความสำเร็จทุกคน ล้วนแค่ใช้วิธีนี้ ยกตัวอย่าง คุณเทียม โชควัฒนา (ต้นแบบของคุณตัน ) ก็เป็นคนใจกว้างแบบนี้ ถ้าอยากจะเติบใหญ่ ต้องใจกว้าง ต้องแบ่งปัน อย่ากินโอเลี้ยงคนเดียว แบ่งคนอื่นกิน และแบ่งความเสี่ยงให้คนอื่นไปด้วย ในคราวเดียวกัน
แหมเขียนไปเขียนมายาว เอาคุณตันก่อน เดียวมาเขียน ถึงคุณต๊อป คนหนุ่มที่น่าทึ่ง อีกที ทีหลัง
"----------------- คุณตัน ichi กับคุณต๊อบ tkn สองผู้บริหารกับความแตกต่าง........."
ข้อแตกต่างระหว่างผุ้บริหาร คุณตัน ichi คุณต๊อบ tkn ในมุมมองของผม
เริ่มคุณตัน เริ่มต้นเป็นพ่อค้า ขายหนังสือพิมพ์ ต่อมาก็ขยับขยายไปทำร้านถ่ายรูป และขยับต่อไปทำร้านอาหาร
เป็นลักษณะเติบโต ต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป สุดแต่ขณะนั้นๆ มีช่องทางอย่างไร ก็ค่อยๆไปทางนั้น
เติบโตมาในรูปแบบพ่อค้า แต่เติบโตไปด้วยความต่อเนื่องของธุรกิจที่ทำ
คุณตันเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้เองว่า ตอนที่ทำภัตตาคารโออิชิ มีแถมน้ำชาเขียวในร้านให้ทานฟรี แต่ลูกค้าชื่นชอบและขอซื้อกลับไปกินต่อที่บ้าน เป็นจำนวนมาก จึงเริ่มบรรจุขวดธรรมดาขาย และ เพิ่มจนผลิตลงขวดมาตรฐานเพื่อขาย
อันนี้ผมมองว่าเป็นดีมานด์ วิ่งมาชน ไมได้เป็นความคิดสร้างสรรค์อะไร
แต่ตรงนี้คือจุดเปลี่ยนจากแค่พ่อค้า กลายเป็นนักธุรกิจ จากคนขายอาหาร ขายเฉพาะลูกค้า ที่มากินหน้าร้าน นิชมาเก็ต
กลายเป็นขายแมส มาเก็ต ไม่ได้เฉพาะลูกค้าหน้าร้านแคบๆอีกต่อไป
ก็เติบโต ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ เติบใหญ๋ จนเป็นที่ต้องใจของเสี่ยเจริญ มาซื้อธุรกิจพร้อมตัวแกไป ทำให้แกขึ้นทำเนียบเศรษฐี คนนึงจากการขายหุ้นให้เสี่ยเจริญในครั้งนั้น
แต่หลังจากนั้น ไม่นาน แกก็ลาออกมารวบรวมลูกน้องเก่า ตั้งบริษัท น้ำชาเชียว ขึ่นมาแข่งกับ คุณเจริญที่เแกเพิ่งขายกิจการ น้ำชาเขียวไป โดยมารยาท เมื่อขายกิจการไปแล้ว ก็ไม่ควรจะย้อนกลับไป ทำกิจการ(ด้วยเงินของผู้ซื้อ) มาแข่งกับผู้ซื้อ อันนี้แสดงว่าแกตัน แม้คุณตันจะตั้งชื่อบริษัทว่า"ไม่ตัน" แต่ความจริงตัน
ผมจำได้ว่าตอนแรก แกก็พยายามทำน้ำอย่างอื่นที่ไม่ใช่ชาเขียวออกมาขาย แต่ไม่รอด สุดท้าย เลยทำผิดมารยาท
ผิดความถูกต้อง เพราะแกตัน หาทางไปเส้นทางอื่นไม่ได้จริงๆ (วิจารณ์แค่นี้พอ เดี่ยวกระทู้ถูกลบ )
ผมเคยไปตอบกระทู้ คนที่โพสถามว่า ทำไม หุ้น ichi วิ่งขึ้นวันที่ 10/11/2560 ว่า " ไม่มีอะไรราคาขึ้นมาตอบรับ การให้สัมภาษณ์ของคุณตันเท่านั้นเอง (เดี่ยวก็ลง ) ปรากฏว่า ไม่นานกระทู้นั้น ก็ถูกลบ แสดงว่าคุณตัน สนใจการโพสในโซเชียล พอสมควร
วิจารณ์ในเชิงลบไปแล้ว ขอพูดในเชิงบวกบ้าง คุณตัน เป็นพ่อค้า เป็นนักธุรกิจ ที่มีไหวพริบ
แม้จะไม่ค่อยมีความคิดสร้างสรรค์ เกียวกับตัวสินค้า ยังต้องอาศัยสถานการณ์พาไป ไม่สามารถมองหาโอกาสใหม่ๆด้วยตัวเอง
แต่ก็ถือว่ามีการพัฒนา ให้เติบโตไปได้ ค่อนข้างดี จุดที่แก นำมาเล่นคือมุข ชิงโชค จากเดิม แค่แจกล้าน ต่อมาก็แจก สิบล้าน ตอนหลังก็แจก ยี่สิบกว่าล้าน ผมเชือว่าแกมอง วิธีนี้จะใช้ได้ตลอดไป
แต่ตลาดตอบกลับมาแล้ว ว่า คนเริ่มเบื่อ จะแจกเพิ่มเป็น 30ล่านต่อคน หรือ 50ล้านต่อคน ก็ไม่ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้มากนัก
ตอนนี้แกตันแท้จริง สมชื่อไปแล้ว ต้องรอดูว่าแก จะหาทางออกจากทางตัน ได้เมื่อไหร่ ผมว่าสุดท้าย แก จะคิดตก แก้ปัญหาออก
ต้องให้เวลาแกสักพัก คนที่ประสพความสำเร็จมากๆ จะติดกับดับตัวเอง ต้องรอจนกว่าจะหลุดกับดับตัวเอง ซึ่งแก จะต้องหลุดออกมาได้แน่ๆสักวันหนึ่งข้างหน้า
จุดดี ที่สุดจุดเดียวที่ผมเห็นในวิธีการของคุณตันคือ แกเป็นคนใจกว้าง แบ่งปันโอกาสในการเป็นเจ้าของกิจการให้ลูกน้อง ตรงนี้เป็นทีเด็ดที่แก ขยายกิจการ จากเล็กมาใหญ่ได้ ใครก็ตาม ถ้าคิดจะค้าขายให้เติบโต แบบคุณตัน
อย่าลืมเอาความใจกว้าง แบบนี้มาใช้ด้วย ไปย้อนดูคนรุ่นเก่าที่ประสพความสำเร็จทุกคน ล้วนแค่ใช้วิธีนี้ ยกตัวอย่าง คุณเทียม โชควัฒนา (ต้นแบบของคุณตัน ) ก็เป็นคนใจกว้างแบบนี้ ถ้าอยากจะเติบใหญ่ ต้องใจกว้าง ต้องแบ่งปัน อย่ากินโอเลี้ยงคนเดียว แบ่งคนอื่นกิน และแบ่งความเสี่ยงให้คนอื่นไปด้วย ในคราวเดียวกัน
แหมเขียนไปเขียนมายาว เอาคุณตันก่อน เดียวมาเขียน ถึงคุณต๊อป คนหนุ่มที่น่าทึ่ง อีกที ทีหลัง