Ant-Man and the Wasp (2018)
กำกับโดย Peyton Reed (Bring It On, Down with Love, Yes Man)
7/10
หลายคำชม Ant-Man ภาคแรกเป็นอะไรที่ผมเห็นด้วยในคอนเซ็ปต์ (พล๊อตภารกิจติดดินมากขึ้นสำหรับหนังซูเปอฮีโร่, ไม่มีระเบิดตู้มต้ามโลกจะถล่ม, โทนหนังเป็น heist comedy เบาขึ้น) แต่ไม่ค่อยรู้สึกตามในหนังจริงเท่าไรนัก (เพราะรู้สึกว่าการเปลี่ยนผู้กำกับทำให้ช่วงปูเรื่องสององค์แรกจืดมาก) พอดู Ant-Man and the Wasp จบ เลยดีใจที่ได้รู้สึกอินตามคำชมแนวนั้นหน่อยกับภาคนี้
บางปัญหาก็ยังหลงเหลืออยู่หน่อยสำหรับผม จนอาจต้องยอมรับว่าเป็นความติดขัดส่วนตัวสำหรับโลก Ant-Man เวอชั่นนี้ในตอนนี้ เช่น ยังรู้สึกว่า สไตล์กับโทนหนังของผู้กำกับ เพย์ตัน รีด ยังมีความครึ่งๆกลางๆไม่เข้ากับหนังซูเปอฮีโร่อยู่ และ ในจักรวาล MCU ที่ทุกฮีโร่มีบุคลิกเสน่ห์เด่นชัดในตัวเอง พระเอก Ant-Man อย่าง สก็อตต์ แลง ยังรู้สึกเป็น “ตัวเอก” ที่ราบเรียบไปหน่อย โดยเฉพาะเมื่อเราได้เห็นว่าเขาสามารถเป็น “ตัวเสริม” ที่มีสีสันได้เหมาะมากๆใน Civil War มาแล้ว (แต่ภาคนี้เหมือนรู้ปัญหาจุดนี้อยู่ เลยยกให้นางเอก โฮป เป็นคู่หูเต็มตัว ขึ้นมามีบทเด่นและเส้นเรื่องร่วมกับพระเอกตามชื่อหนัง จนเผลอๆอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ)
แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว ภาคนี้ดีกว่าภาคก่อนไม่น้อย (ภาคที่แล้วผมให้ 6/10 พร้อมเคย
รีวิวไว้) หนังมีชีวิตชีวากว่าและคิดออกแบบส่วนประกอบต่างๆมาดีขึ้นในทุกด้าน ทั้งมุกเฮฮาเรียงกันมาเรื่อยๆไม่หยุดหย่อนแต่ไม่ท่วมเรื่อง ส่วนเส้นเรื่องแต่ละอันก็สานต่อกันได้ดี จนดราม่าไม่รู้สึกละครแบบภาคก่อน (ชอบการโยงใยธีม “บาป/ภาระติดค้าง ของคนเป็นพ่อ” ในสามเส้นเรื่อง สามกลุ่มตัวละครมาก) และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาคนี้อัพเกรดส่วนแอ็คชั่นดีซะจนสร้างความหลากหลาย คงความสนุกได้เรื่อยๆ ไม่โครมครามจนชวนด้านชาอย่างที่บางครั้งหนัง MCU ที่ดีกว่าเรื่องนี้ก็ยังเป็นตอนเข้าช่วงปลายในองค์สาม โดยหนังเอาพลังการย่อขยายของชุดมาใช้บ่อยขึ้น มีลูกเล่นหลายมุมมองมากขึ้น และด้วยความรู้สึกสนุกสนานกว่าภาคก่อนมาก จนฉากสู้กลายเป็นสนามประลองแอ็คชั่นที่เปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อยๆ เปี่ยมการแก้ไขปัญหาเฉพาะอย่างหน้าอย่างฉับไวพร้อมมุกแพรวพราว ดังนั้น เรื่องนี้อาจไม่ใช่ซูเปอฮีโร่ MCU หรือเป็นหนัง MCU ที่ดีที่สุด แต่สำหรับผม มันคงเป็นหนัง MCU ที่สำรวจและคิดต่อยอดคอนเซ็ปต์พลังซูเปอฮีโร่ของตัวมันเองได้ดีที่สุดแล้ว
ติดตามรีวิวหนังและข่าวน่าสนใจในโลกภาพยนตร์อื่นๆของผมได้ที่
www.facebook.com/themoviemood ครับ
[SR] [Movie Review] Ant-Man and the Wasp (7/10) ..คั่นพักช่วงหนัก MCU ด้วยภาคต่อเบาๆ ที่ดีกว่าภาคแรกพร้อมแอ็คชั่นลูกเล่นเยอะ
กำกับโดย Peyton Reed (Bring It On, Down with Love, Yes Man)
7/10
หลายคำชม Ant-Man ภาคแรกเป็นอะไรที่ผมเห็นด้วยในคอนเซ็ปต์ (พล๊อตภารกิจติดดินมากขึ้นสำหรับหนังซูเปอฮีโร่, ไม่มีระเบิดตู้มต้ามโลกจะถล่ม, โทนหนังเป็น heist comedy เบาขึ้น) แต่ไม่ค่อยรู้สึกตามในหนังจริงเท่าไรนัก (เพราะรู้สึกว่าการเปลี่ยนผู้กำกับทำให้ช่วงปูเรื่องสององค์แรกจืดมาก) พอดู Ant-Man and the Wasp จบ เลยดีใจที่ได้รู้สึกอินตามคำชมแนวนั้นหน่อยกับภาคนี้
บางปัญหาก็ยังหลงเหลืออยู่หน่อยสำหรับผม จนอาจต้องยอมรับว่าเป็นความติดขัดส่วนตัวสำหรับโลก Ant-Man เวอชั่นนี้ในตอนนี้ เช่น ยังรู้สึกว่า สไตล์กับโทนหนังของผู้กำกับ เพย์ตัน รีด ยังมีความครึ่งๆกลางๆไม่เข้ากับหนังซูเปอฮีโร่อยู่ และ ในจักรวาล MCU ที่ทุกฮีโร่มีบุคลิกเสน่ห์เด่นชัดในตัวเอง พระเอก Ant-Man อย่าง สก็อตต์ แลง ยังรู้สึกเป็น “ตัวเอก” ที่ราบเรียบไปหน่อย โดยเฉพาะเมื่อเราได้เห็นว่าเขาสามารถเป็น “ตัวเสริม” ที่มีสีสันได้เหมาะมากๆใน Civil War มาแล้ว (แต่ภาคนี้เหมือนรู้ปัญหาจุดนี้อยู่ เลยยกให้นางเอก โฮป เป็นคู่หูเต็มตัว ขึ้นมามีบทเด่นและเส้นเรื่องร่วมกับพระเอกตามชื่อหนัง จนเผลอๆอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ)
แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว ภาคนี้ดีกว่าภาคก่อนไม่น้อย (ภาคที่แล้วผมให้ 6/10 พร้อมเคยรีวิวไว้) หนังมีชีวิตชีวากว่าและคิดออกแบบส่วนประกอบต่างๆมาดีขึ้นในทุกด้าน ทั้งมุกเฮฮาเรียงกันมาเรื่อยๆไม่หยุดหย่อนแต่ไม่ท่วมเรื่อง ส่วนเส้นเรื่องแต่ละอันก็สานต่อกันได้ดี จนดราม่าไม่รู้สึกละครแบบภาคก่อน (ชอบการโยงใยธีม “บาป/ภาระติดค้าง ของคนเป็นพ่อ” ในสามเส้นเรื่อง สามกลุ่มตัวละครมาก) และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาคนี้อัพเกรดส่วนแอ็คชั่นดีซะจนสร้างความหลากหลาย คงความสนุกได้เรื่อยๆ ไม่โครมครามจนชวนด้านชาอย่างที่บางครั้งหนัง MCU ที่ดีกว่าเรื่องนี้ก็ยังเป็นตอนเข้าช่วงปลายในองค์สาม โดยหนังเอาพลังการย่อขยายของชุดมาใช้บ่อยขึ้น มีลูกเล่นหลายมุมมองมากขึ้น และด้วยความรู้สึกสนุกสนานกว่าภาคก่อนมาก จนฉากสู้กลายเป็นสนามประลองแอ็คชั่นที่เปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อยๆ เปี่ยมการแก้ไขปัญหาเฉพาะอย่างหน้าอย่างฉับไวพร้อมมุกแพรวพราว ดังนั้น เรื่องนี้อาจไม่ใช่ซูเปอฮีโร่ MCU หรือเป็นหนัง MCU ที่ดีที่สุด แต่สำหรับผม มันคงเป็นหนัง MCU ที่สำรวจและคิดต่อยอดคอนเซ็ปต์พลังซูเปอฮีโร่ของตัวมันเองได้ดีที่สุดแล้ว
ติดตามรีวิวหนังและข่าวน่าสนใจในโลกภาพยนตร์อื่นๆของผมได้ที่ www.facebook.com/themoviemood ครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้