สืบเนื่องมาจากโพสที่ร้อนแรงอยู่ ณ ตอนนี้ใน FB
ขอนำเสนอมุมมองของตัวเองบ้าง ยาวหน่อย แต่นี่คือความเป็นจริงที่อยากให้ทุกคนที่คิดจะเลี้ยงหมาได้ลองอ่านดู
เลี้ยงปอมซักตัว ต้องรู้อะไรบ้าง คร่าวๆ พอเนอะ
อายุเฉลี่ยปอม 10 ปี (เลี้ยงดีๆ อยู่ได้นานกว่านั้นอีก)
ราคาซื้อ x,xxx - x,xxx,xxx บาท
ทีนี้มาถึงค่าใช้จ่ายบ้าง ต่อไปนี้เป็นราคาโดยประมาณต่อปอม 1 ตัว(ราคาคูณจำนวนเดือนคูณจำนวนปี)
ค่าวัคซีนรวมประจำปี(คิดแบบมีวัคซีนพิษสุนัขบ้ารวมไว้แล้วนะ) 300 x 10 = 3,000 บาท
ค่าอาหารเดือนละ 300 x 12 x 10 = 36,000 บาท
ค่าแชมพูอาบน้ำกรณีอาบเองอาทิตย์ละครั้ง แชมพูขวดนึงใช้ได้ครึ่งปี(นี่ไม่รวมครีมนวด เซรั่มบำรุงขนนะ) 500 x 2 x 10 = 10,000 บาท
ยาป้องกันเห็บหมัดพยาธิ 750 x 12 x 10 = 90,000 บาท
ราคาข้างต้นเป็นการเลี้ยงแบบไม่มีเจ็บป่วย ไม่มีออปชั่นเสริม ไม่มีของเล่น ไม่มีวิตามินบำรุง เลี้ยงแบบหมาจริงๆ ไม่มีของเกินจำเป็นที่หมาต้องใช้รวมๆ 10 ปี ต้องจ่ายประมาณ 139,000 บาท
และต่อไปนี้คือความเป็นจริงที่หลายๆ บ้านที่เลี้ยงอยู่จะต้องเจอและเข้าใจเป็นอย่างดี (เหมือนเดิมราคาคูณจำนวนเดือนคูณจำนวนปี)
ค่าวัคซีนรวมประจำปี(คิดแบบมีวัคซีนพิษสุนัขบ้ารวมไว้แล้วนะ) 300 x 10 = 3,000 บาท
ค่าอาหารเดือนละ 1,000 x 12 x 10 = 120,000 บาท (ขึ้นอยู่กับความวาไรตี้ของลูกที่เลี้ยง ถ้าขี้เบื่อก็เปลืองหน่อย)
ค่าแชมพูอาบน้ำกรณีอาบเองอาทิตย์ละครั้ง แชมพู ครีมนวด เซรั่มบำรุงขนขวดนึงใช้ได้ครึ่งปี 1,500 x 2 x 10 = 30,000 บาท
ค่าอาบน้ำที่ร้านเดือนละครั้ง 400 x 12 x 10 = 48,000 บาท
ยาป้องกันเห็บหมัดพยาธิ 750 x 12 x 10 = 90,000 บาท
ค่าขนมเดือนละ 500 x 12 x 10 = 60,000 บาท
ค่าเสื้อผ้าเดือนละ 500 x 12 x 10 = 60,000 บาท
ค่าของเล่นเดือนละ 500 x 12 x 10 = 60,000 บาท
ค่าหวี แปรง อุปกรณ์แต่งขน 5,000 บาท
มาถึงตรงนี้ค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายตลอดอายุปอมตัวนึงรวม 10 ปี ค่าใช้จ่ายประมาณ 476,000 บาท
แต่ๆๆๆๆ ไฮไลท์อยู่ตรงนี้
ค่ารักษาพยาบาล (ตีกลมๆ ให้คิดง่าย อาจมากหรือน้อยกว่านี้ และแต่ละโรคไม่ได้รักษาจบในครั้งเดียว)
หลอดลมตีบ ค่ารักษาต่อครั้ง 10,000 บาท
ข้อสะบ้าเคลื่อน ค่ารักษาต่อครั้ง 25,000 บาท
นิ่ว ค่ารักษาต่อครั้ง 30,000 บาท
ลิ้นหัวใจรั่ว ค่ารักษาต่อครั้ง 50,000 บาท
โรคไต ค่ารักษาต่อครั้ง 50,000 บาท
เชื้อรา ค่ารักษาต่อครั้ง 5,000 บาท
ท้องร่วงท้องเสีย ค่ารักษาต่อครั้ง 2,000 บาท
ขาหัก ค่ารักษาต่อครั้ง 20,000 บาท
ลมชัก ค่ารักษาต่อครั้ง 5,000 บาท
โรคอื่นๆ อีกเพียบ (แต่ปอมตัวนึงก็ไม่ได้ต้องเป็นทุกโรคเนอะ) บ้านใครเป็นโรคไหนลองบวกลบคูณหารค่าใช้จ่ายส่วนนี้ดูได้ ว่าจะงอกมาอีกขนาดไหน
เรามองในมุมผู้เลี้ยงว่าเลี้ยงหมาตัวนึงจะมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นขนาดไหน พูดกันตามความจริงเพราะเมื่อยามเราไม่มี หมาก็ไม่ได้มานั่งกัดก้อนเกลือกินกับเราได้ (เอาจริงๆ คนยังไม่กัดก้อนเกลือกินเลย)
ทีนี้ลองมาดูมุมผู้เพาะพันธุ์คร่าวๆ ว่ากว่าจะเกิดปอมซักตัวต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
หาคู่ให้ถ้าไม่ได้มีพ่อแม่พันธุ์ของตัวเอง ค่าผสมต่อครั้ง 5,000 บาท
ค่าผ่าคลอดกรณีคลอดเองไม่ได้ 5,000 ต่อครั้ง
ส่วนใหญ่จะติดลูก 1-5 ตัว โดยประมาณขึ้นกับขนาดตัวพ่อแม่พันธุ์ ถ้าแท้งก็นับ 1 ใหม่อีก(ค่าใช้จ่ายก่อนแท้งนี่ก็ถือเป็นต้นทุนนะ มองในมุมธุรกิจการลงทุนนี้ถือว่าติดลบ ก็ต้องเอาทุนนี้ไปคิดกับคอกอื่นๆ เพิ่มเพื่อให้ธุรกิจอยู่ได้)
ค่านม(ส่วนใหญ่จะเลี้ยงก่อนขายกัน 2-3 เดือน) เดือนละ 1,000 x 3 = 3,000 บาท
ค่าอาหาร 1,000 บาท
ค่าวัคซีน 2 เข็ม ต่อตัว 300 x 2 = 600 บาท
ค่าฝากอนุบาล กรณีไม่สามารถดูแลเองได้ต่อเดือน 5,000 x 2 = 10,000 บาท
ค่ากรง ขวดน้ำ แผ่นรองฉี่ในการขนส่งต่อตัว 1,000 บาท
ค่าเลี้ยงดูพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ (ตีราคาแบบนี้อาจโดนฟาร์มต่อว่าได้นะเนี่ยเรา 😂) 5,000 บาท
ค่าสายเลือดดี ฟอร์มดี(ก็หน้าหมี หน้าตุ๊กตา ตัวเล็กๆ พกพาง่าย โตมาแล้วไม่กลายร่างนั่นแหละ) นี่ตีต่ำๆ อีกเหมือนกัน 10,000 บาท
ค่าตัวคนเลี้ยง/ฟาร์ม ทำธุรกิจก็ต้องมีเงินเดือนเนอะคิดตามเรทค่าแรงขั้นต่ำแล้วกัน 15,000 บาท
ค่าความมีชื่อเสียงของฟาร์มตีต่ำๆ อีกเหมือนกัน 10,000 บาท
จากตัวเลขข้างต้นแล้วคนเพาะพันธุ์ เค้าต้องขายหมาขั้นต่ำเท่าไหร่ ถึงจะอยู่ได้
ถ้าคิดหยาบๆ เอาค่าใช้จ่ายของคนเพาะพันธุ์มาบวกรวมกันหารจำนวนลูกหมาที่ได้ในคอกนั้นสมมติว่า 5 ตัว ต่ำๆ ก็จะต้องขายที่ 15,xxx บาท
ทีนี้คงเข้าใจหัวอกคนขายแล้วนะเวลาที่เจอเรียกหาปอมหน้าหมีราคาหลักพัน ทำไมเค้าถึงร้องกัน
อ่านมาถึงตรงนี้หวังว่าคงเข้าใจมุมของคนเพาะพันธุ์ที่เค้าต้องทำมาหากิน กว่าจะเกิดหมาซักตัวมันมีค่าใช้จ่ายทั้งนั้น
และเราเอาไปเลี้ยงก็มีค่าใช้จ่ายเหมือนกัน
จะเลี้ยงแบบหมา หรือเลี้ยงแบบสมาชิกในครอบครัว ก็ต่างมีค่าใช้จ่าย มากน้อยขึ้นกับความพร้อม(เปย์)ของคนเลี้ยง
อันนี้ความเห็นส่วนตัว ก่อนที่ตัวเองจะเลี้ยงปอมก็ได้เฝ้าดูตามเพจ พันทิป ตามเนต และศึกษาทำความรู้จักกับปอมมา 2 ปีกว่าๆ รอจนคิดว่าตัวเองน่าจะพร้อมแล้วนะ(สะสมกำลังทรัพย์และความรู้ในการเลี้ยงหมา) ถึงได้เลี้ยง
หาดูปอมจากฟาร์มที่เชื่อถือได้ ไปดูตัวพ่อ ตัวแม่ ตัวปู่ย่าตายาย ทุกตัวในสายนั่นถ้าฟาร์มมีตัวเป็นๆ ให้ดู เห็นตัวจริงเป็นๆ เลย ไม่ได้ดูจากปอมโฟโต้ช้อป พอได้เห็นตัวจริงตั้งแต่ต้นตระกูลจนถึงตัวที่ถูกใจ อยากอุ้มมาอยู่ด้วย ก็พอจะจินตนาการได้ว่าปอมตัวนี้โตมาจะหน้าตาประมาณไหน
พอเลี้ยงแล้วมันก็มีจิปาถะมากมายที่ต้องมาคอยปรับคอยจูนกันไป
เรื่องค่าใช้จ่ายนั้นยอมรับว่าตอนนี้มีไม่พอหรอกถ้าป่วยหนักๆ ที่ต้องใช้เงินรักษาในหลักครึ่งแสนทำได้แค่ดูแลกันให้ดีที่สุดเท่าที่ความสามารถเรามี เพราะเราก็แค่คนชนชั้นกลาง มีหนี้สิน มีภาระที่ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน เลยพยายามเลี้ยงให้เค้าแข็งแรงมากๆ พาวิ่งเล่น ว่ายน้ำ เข้าสังคม เที่ยว ใช้เวลาร่วมกันให้มีความสุขที่สุด ซึ่งค่าใช้จ่ายมันก็จะบานๆ หน่อยตามความอยากเปย์ของเรา แต่ก็แลกมาด้วยความสุขที่ได้เลี้ยง ได้รัก ได้ดูแล
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะฝ่ายคนขาย หรือฝ่ายคนซื้อ
เลี้ยงหมาแล้วก็รักกันทั้งนั้น (ถึงแม้บางคนจะได้มาไม่ตรงสเป็กก็ตาม)
อย่าเลี้ยงแล้วทิ้ง
อย่าเลี้ยงตามกระแส
อย่าเลี้ยงตามมีตามเกิด
ไม่พร้อมไม่เลี้ยง อาศัยไปหาดูหาเล่นเอาตามงานหมา ตามคาเฟ่หมาเดี๋ยวนี้มีเยอะแยะ (จะเล่นกะหมาใครเค้าขอเจ้าของก่อนนะ เพราะบางตัวหน้าแบ๊วๆ แต่โหดสาดนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน)
สุดท้ายท้ายสุดไม่อยากให้ปอมตัวน้อยๆ ต้องโดนทอดทิ้ง
เครดิต Chattrabhorn Maneechote
บทความดีๆ สำหรับผู้สนใจปอมเมอเรเนียน
ขอนำเสนอมุมมองของตัวเองบ้าง ยาวหน่อย แต่นี่คือความเป็นจริงที่อยากให้ทุกคนที่คิดจะเลี้ยงหมาได้ลองอ่านดู
เลี้ยงปอมซักตัว ต้องรู้อะไรบ้าง คร่าวๆ พอเนอะ
อายุเฉลี่ยปอม 10 ปี (เลี้ยงดีๆ อยู่ได้นานกว่านั้นอีก)
ราคาซื้อ x,xxx - x,xxx,xxx บาท
ทีนี้มาถึงค่าใช้จ่ายบ้าง ต่อไปนี้เป็นราคาโดยประมาณต่อปอม 1 ตัว(ราคาคูณจำนวนเดือนคูณจำนวนปี)
ค่าวัคซีนรวมประจำปี(คิดแบบมีวัคซีนพิษสุนัขบ้ารวมไว้แล้วนะ) 300 x 10 = 3,000 บาท
ค่าอาหารเดือนละ 300 x 12 x 10 = 36,000 บาท
ค่าแชมพูอาบน้ำกรณีอาบเองอาทิตย์ละครั้ง แชมพูขวดนึงใช้ได้ครึ่งปี(นี่ไม่รวมครีมนวด เซรั่มบำรุงขนนะ) 500 x 2 x 10 = 10,000 บาท
ยาป้องกันเห็บหมัดพยาธิ 750 x 12 x 10 = 90,000 บาท
ราคาข้างต้นเป็นการเลี้ยงแบบไม่มีเจ็บป่วย ไม่มีออปชั่นเสริม ไม่มีของเล่น ไม่มีวิตามินบำรุง เลี้ยงแบบหมาจริงๆ ไม่มีของเกินจำเป็นที่หมาต้องใช้รวมๆ 10 ปี ต้องจ่ายประมาณ 139,000 บาท
และต่อไปนี้คือความเป็นจริงที่หลายๆ บ้านที่เลี้ยงอยู่จะต้องเจอและเข้าใจเป็นอย่างดี (เหมือนเดิมราคาคูณจำนวนเดือนคูณจำนวนปี)
ค่าวัคซีนรวมประจำปี(คิดแบบมีวัคซีนพิษสุนัขบ้ารวมไว้แล้วนะ) 300 x 10 = 3,000 บาท
ค่าอาหารเดือนละ 1,000 x 12 x 10 = 120,000 บาท (ขึ้นอยู่กับความวาไรตี้ของลูกที่เลี้ยง ถ้าขี้เบื่อก็เปลืองหน่อย)
ค่าแชมพูอาบน้ำกรณีอาบเองอาทิตย์ละครั้ง แชมพู ครีมนวด เซรั่มบำรุงขนขวดนึงใช้ได้ครึ่งปี 1,500 x 2 x 10 = 30,000 บาท
ค่าอาบน้ำที่ร้านเดือนละครั้ง 400 x 12 x 10 = 48,000 บาท
ยาป้องกันเห็บหมัดพยาธิ 750 x 12 x 10 = 90,000 บาท
ค่าขนมเดือนละ 500 x 12 x 10 = 60,000 บาท
ค่าเสื้อผ้าเดือนละ 500 x 12 x 10 = 60,000 บาท
ค่าของเล่นเดือนละ 500 x 12 x 10 = 60,000 บาท
ค่าหวี แปรง อุปกรณ์แต่งขน 5,000 บาท
มาถึงตรงนี้ค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายตลอดอายุปอมตัวนึงรวม 10 ปี ค่าใช้จ่ายประมาณ 476,000 บาท
แต่ๆๆๆๆ ไฮไลท์อยู่ตรงนี้
ค่ารักษาพยาบาล (ตีกลมๆ ให้คิดง่าย อาจมากหรือน้อยกว่านี้ และแต่ละโรคไม่ได้รักษาจบในครั้งเดียว)
หลอดลมตีบ ค่ารักษาต่อครั้ง 10,000 บาท
ข้อสะบ้าเคลื่อน ค่ารักษาต่อครั้ง 25,000 บาท
นิ่ว ค่ารักษาต่อครั้ง 30,000 บาท
ลิ้นหัวใจรั่ว ค่ารักษาต่อครั้ง 50,000 บาท
โรคไต ค่ารักษาต่อครั้ง 50,000 บาท
เชื้อรา ค่ารักษาต่อครั้ง 5,000 บาท
ท้องร่วงท้องเสีย ค่ารักษาต่อครั้ง 2,000 บาท
ขาหัก ค่ารักษาต่อครั้ง 20,000 บาท
ลมชัก ค่ารักษาต่อครั้ง 5,000 บาท
โรคอื่นๆ อีกเพียบ (แต่ปอมตัวนึงก็ไม่ได้ต้องเป็นทุกโรคเนอะ) บ้านใครเป็นโรคไหนลองบวกลบคูณหารค่าใช้จ่ายส่วนนี้ดูได้ ว่าจะงอกมาอีกขนาดไหน
เรามองในมุมผู้เลี้ยงว่าเลี้ยงหมาตัวนึงจะมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นขนาดไหน พูดกันตามความจริงเพราะเมื่อยามเราไม่มี หมาก็ไม่ได้มานั่งกัดก้อนเกลือกินกับเราได้ (เอาจริงๆ คนยังไม่กัดก้อนเกลือกินเลย)
ทีนี้ลองมาดูมุมผู้เพาะพันธุ์คร่าวๆ ว่ากว่าจะเกิดปอมซักตัวต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
หาคู่ให้ถ้าไม่ได้มีพ่อแม่พันธุ์ของตัวเอง ค่าผสมต่อครั้ง 5,000 บาท
ค่าผ่าคลอดกรณีคลอดเองไม่ได้ 5,000 ต่อครั้ง
ส่วนใหญ่จะติดลูก 1-5 ตัว โดยประมาณขึ้นกับขนาดตัวพ่อแม่พันธุ์ ถ้าแท้งก็นับ 1 ใหม่อีก(ค่าใช้จ่ายก่อนแท้งนี่ก็ถือเป็นต้นทุนนะ มองในมุมธุรกิจการลงทุนนี้ถือว่าติดลบ ก็ต้องเอาทุนนี้ไปคิดกับคอกอื่นๆ เพิ่มเพื่อให้ธุรกิจอยู่ได้)
ค่านม(ส่วนใหญ่จะเลี้ยงก่อนขายกัน 2-3 เดือน) เดือนละ 1,000 x 3 = 3,000 บาท
ค่าอาหาร 1,000 บาท
ค่าวัคซีน 2 เข็ม ต่อตัว 300 x 2 = 600 บาท
ค่าฝากอนุบาล กรณีไม่สามารถดูแลเองได้ต่อเดือน 5,000 x 2 = 10,000 บาท
ค่ากรง ขวดน้ำ แผ่นรองฉี่ในการขนส่งต่อตัว 1,000 บาท
ค่าเลี้ยงดูพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ (ตีราคาแบบนี้อาจโดนฟาร์มต่อว่าได้นะเนี่ยเรา 😂) 5,000 บาท
ค่าสายเลือดดี ฟอร์มดี(ก็หน้าหมี หน้าตุ๊กตา ตัวเล็กๆ พกพาง่าย โตมาแล้วไม่กลายร่างนั่นแหละ) นี่ตีต่ำๆ อีกเหมือนกัน 10,000 บาท
ค่าตัวคนเลี้ยง/ฟาร์ม ทำธุรกิจก็ต้องมีเงินเดือนเนอะคิดตามเรทค่าแรงขั้นต่ำแล้วกัน 15,000 บาท
ค่าความมีชื่อเสียงของฟาร์มตีต่ำๆ อีกเหมือนกัน 10,000 บาท
จากตัวเลขข้างต้นแล้วคนเพาะพันธุ์ เค้าต้องขายหมาขั้นต่ำเท่าไหร่ ถึงจะอยู่ได้
ถ้าคิดหยาบๆ เอาค่าใช้จ่ายของคนเพาะพันธุ์มาบวกรวมกันหารจำนวนลูกหมาที่ได้ในคอกนั้นสมมติว่า 5 ตัว ต่ำๆ ก็จะต้องขายที่ 15,xxx บาท
ทีนี้คงเข้าใจหัวอกคนขายแล้วนะเวลาที่เจอเรียกหาปอมหน้าหมีราคาหลักพัน ทำไมเค้าถึงร้องกัน
อ่านมาถึงตรงนี้หวังว่าคงเข้าใจมุมของคนเพาะพันธุ์ที่เค้าต้องทำมาหากิน กว่าจะเกิดหมาซักตัวมันมีค่าใช้จ่ายทั้งนั้น
และเราเอาไปเลี้ยงก็มีค่าใช้จ่ายเหมือนกัน
จะเลี้ยงแบบหมา หรือเลี้ยงแบบสมาชิกในครอบครัว ก็ต่างมีค่าใช้จ่าย มากน้อยขึ้นกับความพร้อม(เปย์)ของคนเลี้ยง
อันนี้ความเห็นส่วนตัว ก่อนที่ตัวเองจะเลี้ยงปอมก็ได้เฝ้าดูตามเพจ พันทิป ตามเนต และศึกษาทำความรู้จักกับปอมมา 2 ปีกว่าๆ รอจนคิดว่าตัวเองน่าจะพร้อมแล้วนะ(สะสมกำลังทรัพย์และความรู้ในการเลี้ยงหมา) ถึงได้เลี้ยง
หาดูปอมจากฟาร์มที่เชื่อถือได้ ไปดูตัวพ่อ ตัวแม่ ตัวปู่ย่าตายาย ทุกตัวในสายนั่นถ้าฟาร์มมีตัวเป็นๆ ให้ดู เห็นตัวจริงเป็นๆ เลย ไม่ได้ดูจากปอมโฟโต้ช้อป พอได้เห็นตัวจริงตั้งแต่ต้นตระกูลจนถึงตัวที่ถูกใจ อยากอุ้มมาอยู่ด้วย ก็พอจะจินตนาการได้ว่าปอมตัวนี้โตมาจะหน้าตาประมาณไหน
พอเลี้ยงแล้วมันก็มีจิปาถะมากมายที่ต้องมาคอยปรับคอยจูนกันไป
เรื่องค่าใช้จ่ายนั้นยอมรับว่าตอนนี้มีไม่พอหรอกถ้าป่วยหนักๆ ที่ต้องใช้เงินรักษาในหลักครึ่งแสนทำได้แค่ดูแลกันให้ดีที่สุดเท่าที่ความสามารถเรามี เพราะเราก็แค่คนชนชั้นกลาง มีหนี้สิน มีภาระที่ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน เลยพยายามเลี้ยงให้เค้าแข็งแรงมากๆ พาวิ่งเล่น ว่ายน้ำ เข้าสังคม เที่ยว ใช้เวลาร่วมกันให้มีความสุขที่สุด ซึ่งค่าใช้จ่ายมันก็จะบานๆ หน่อยตามความอยากเปย์ของเรา แต่ก็แลกมาด้วยความสุขที่ได้เลี้ยง ได้รัก ได้ดูแล
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะฝ่ายคนขาย หรือฝ่ายคนซื้อ
เลี้ยงหมาแล้วก็รักกันทั้งนั้น (ถึงแม้บางคนจะได้มาไม่ตรงสเป็กก็ตาม)
อย่าเลี้ยงแล้วทิ้ง
อย่าเลี้ยงตามกระแส
อย่าเลี้ยงตามมีตามเกิด
ไม่พร้อมไม่เลี้ยง อาศัยไปหาดูหาเล่นเอาตามงานหมา ตามคาเฟ่หมาเดี๋ยวนี้มีเยอะแยะ (จะเล่นกะหมาใครเค้าขอเจ้าของก่อนนะ เพราะบางตัวหน้าแบ๊วๆ แต่โหดสาดนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน)
สุดท้ายท้ายสุดไม่อยากให้ปอมตัวน้อยๆ ต้องโดนทอดทิ้ง
เครดิต Chattrabhorn Maneechote