[CR] รีวิว เปรียบเทียบสูทผู้ชาย 3 แบรนด์ดัง แบรนด์ไหนเป็นยังไงมาดูกันครับ

หนุ่มๆแบบพวกเราเคยเป็นกันมั้ยครับเวลาจะซื้อเสื้อสูทซักตัวมักจะเกิดคำถาม “ซื้อที่ร้านไหนดีวะ?” ขึ้นมาเป็นคำถามแรก เพราะจริงๆแล้วร้านขายสูทก็มีอยู่ไม่น้อยตามท้องตลาด ซึ่งพวกผู้ชายแบบเราๆก็มักจะขี้เกียจไปเดินสำรวจกันแน่ๆ และที่สำคัญถ้าเป็นผู้ชายสายหมี มีพุง แบบผมแล้ว (สูง 170 cm หนัก 75 kg เป็นหมีระยะเริ่มต้น) จะรู้สึกโคตรขี้เกียจมาเดินไล่หาสูทเอามากๆ เพราะหุ่นแบบนี้คงหาที่ใส่ออกมาแล้วดูหล่อได้ยาก (แต่ไม่ยอมลดน้ำหนัก =_=’)
แต่วันนี้ผมดันมีฤกษ์ให้ต้องเสียทรัพย์ เพราะต้องหาสูทใหม่ตัวใหม่ไปงานแต่งเพื่อนสนิท
เลยถือโอกาสรีวิวไปเลยแล้วกัน เผื่อจะมีประโยชน์ให้ เพื่อนๆที่ยังไม่รู้จะซื้อสูทร้านไหน ได้พิจารณากันดู
โดยจะขอเปรียบเทียบระหว่าง 1. Zara 2. Suitcube 3. Suitselect
ที่เป็น 3 แบรนด์นี้เพราะเกิดจากการถามคนรอบๆตัว จนได้ 3 choice นี้มา เพราะเป็น 3 choice ที่คนเชียร์เยอะที่สุด

อ้อ!! ต้องขอบอกก่อนว่าผมไม่มีความรู้เรื่องสูทมาก่อนนะครับเพราะฉะนั้นรีวิวนี้เป็นความรู้สึก + ข้อมูลหน้าร้านล้วนๆ
หากตรงไหนผมให้ข้อมูลผิดไปก็ ท้วงติงกันได้นะครับ

โจทย์ของวันนี้คือ อยากได้สูทที่เป็นทางการนิดนึง ใส่แล้วดูไม่แก่ สามารถใส่ไปงานแต่ง ไปประชุมงานได้

เอาล่ะครับ! เกริ่นมานานพอแล้ว เรามาตะลุยดูแต่ละแบรนด์​กันดีกันเลยดีกว่า

Zara

Zara ค่อนข้างคุ้นเคยกับร้านนี้ดีเพราะเดินบ่อย ฮาๆ อีกทั้งสูทตัวเดิมที่มีอยู่ก็ซื้อจากที่นี่ครับ ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก พอมีเพื่อนแนะนำก็เดินตรงดิ่งเข้าไปซื้อที่ Zara ไม่ได้ไปเดินดูแบรนด์อื่นเพราะขี้เกียจเดิน ฮาๆ
เอาล่ะ วันนี้ผมจะไม่ใจง่ายกับ Zara เหมือนเดิมอีกแล้ว ไปดูกันเลยดีกว่า


ข้อดีของ Zara อย่างแรกคือ มีหลายสาขาตามห้างครับ ใครใกล้ตรงไหนก็เดินทางสะดวกแน่นอน

สูทของ Zara มีอยู่หลายราคาเหมือนกัน ถ้าแค่เฉพาะเสื้อสูทอย่างเดียว เริ่มตั้งแต่ 2,xxx-4,xxx บาท
ส่วนกางเกง ก็บวกเพิ่มไปอีก 2,xxx  บาท

บรรยากาศการตกแต่งร้านของ Zara เนื่องจาก เป็นแบรนด์แฟชั่น ไม่ใช่สูทโดยเฉพาะ เพราะงั้นต้องเสียเวลาเดินวนในการดูสูท ที่ไม่ได้แขวนไว้ใกล้กัน (หรืออาจจะเป็นแค่สาขานี้)

ส่วนความหลากหลายของสูท ก็ถือว่ามีพอประมาณ แบบนึงน่าจะมีประมาณ 2-3 สี



ที่ประทับใจมากๆของ Zara คือ ดูเป็นสูทแฟชั่น มีดีเทล ใส่แล้วไม่รู้สึกแก่ 55
ไม่ว่าจะ pin รูปร่างต่างๆที่ติดตรงปกเสื้อ และ กระเป๋าหน้าอกที่ทำเหมือนมีผ้าเช็ดหน้าใส่อยู่  
ถ้าอยากได้สูทที่ดูมีสไตล์ แฟชั่นหน่อยๆ ที่นี่ตอบโจทย์อยู่นะครับ

แต่!! ถ้าอยากได้ลูกเล่นแบบนี้ราคาก็จะสูงหน่อยนะ ถ้าเสื้อสูทอย่างเดียว ราคาประมาณ 3,xxx บาท หากราคาต่ำกว่านั้น ผ้าดูเป็นเหมือนใส่ลำลองซะมากกว่าเห็นแล้วไม่ค่อยประทับใจ + ไม่มีพวกลูกเล่นที่บอกมาด้วย


เอาล่ะ สูทดูแต่ตาไม่ได้ ต้องลองใส่ด้วย ยิ้ม


สิ่งแรกที่รู้สึกดีหลังจากใส่คือ รู้สึกดูไม่เชย ไม่แก่ แต่แอบรู้สึกผิดโจทย์ไปนิดเพราะอยากได้สูทที่ใส่แล้วดูจริงจังกว่านี้
ส่วนทรงของสูทรู้สึกโอเคนะ ซึ่งคงต้องไปแก้ทรงเพิ่มเหมือนสูทสำเร็จรูปทั่วไป
แต่!!!! ข้อเสียที่ผมรู้สึกไม่โอเคคือ มันดันแก้ทรงได้แค่เฉพาะส่วนแขนนี่สิ ทำให้คนรูปร่างไม่ได้สูงโปร่งและผอม น่าจะใส่ให้สวยๆแบบพอดีๆ ได้ยาก

Suitcube

ร้านนี้เคยเห็นโฆษณาตามเฟสบุคและมีเพื่อนๆหลายคนแนะนำมา เลยตัดสินใจแวะมาลองดู
เท่าที่ถามพนักงานมาก็ดูมีสาขากระจายอยู่ตามที่ต่างๆพอสมควร (ตอนแรกคิดว่ามีสาขาเดียว)
สิ่งแรกที่ผมประทับใจคือ ร้านตกแต่งได้สวยมาก ดูโมเดิร์น หรูหรา เดินเข้ามาแล้วเหมือนเป็นร้านสูทราคาแพง


ด้วยความที่ขนาดของร้านไม่ได้ใหญ่ ทำให้เดินดูสินค้าได้ง่าย (ผมเป็นคนที่ถ้าไปร้านใหญ่ๆมากแล้วจะงงๆ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อน 55)


พนักงานที่นี่ดูมีความต้อนรับกว่า Zara มีการสอบถามว่าเราอยากได้สูทประมาณไหน ใส่ไปงานอะไร ต้องใช้วันไหน

ความพิเศษของที่นี่ที่พนักงานที่ร้านบอกมาคือ จะมีสูท 3 ทรง สำหรับหนุ่มไทยที่มีรูปร่างแตกต่างกันคือ
1. เสื้อสูทสำหรับผู้ชายรูปร่างปกติ    
2. เสื้อสูทสำหรับผู้ชายอ้วน(สายหมีแบบผมเอง 55)    
3. เสื้อสูทสำหรับผู้ชายสายนายแบบ

พอทราบแบบนี้ผู้ชายสายหมีแบบผมก็เริ่มอยากลองขึ้นมาทันทีคิดว่าผู้ชายสายหมีหลายคนน่าจะเข้าใจนะ ว่าการมีหุ่นแบบหมีๆ จะแต่งตัวแต่ละครั้งให้ใส่ออกมาดูดีเป็นเรื่องยากเหมือนกัน มาดูกันเลยดีกว่าครับ


อย่างแรกที่รู้สึกเลยคือ เสื้อสูททรงดูเข้ากับหุ่นหมีๆแบบที่เค้าบอกจริงๆด้วย
ดูๆแล้วอาจจะได้ประหยัดเงิน เพราะแก้แค่ปลายแขนเสื้อ ไม่ต้องแก้ทรงอะไรมาก หัวเราะ

ใส่ออกมาแล้วรู้สึกว่าเป็นสูทที่โอเค ดูมีราคา อาจจะไม่ได้เนี้ยบเว่อร์เลย แต่คิดว่าสามารถใส่ไปงานแต่ง งานประชุมที่ต้องการความเป็นทางการ ได้เลย
แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องตะลึง ก็เกิดขึ้นหลังจากถามราคา
เพราะว่าเสื้อสูท + กางเกง รวมราคาแล้วเป็นเงิน 3,900 บาทถ้วน เท่านั้น!!

ถูกกว่าที่คิดไว้เยอะ ตอนแรกคิดว่าราคาประมาณ 5-6 พัน ถ้าคิดถึงความคุ้มค่า ที่นี่ตอบโจทย์!!

อ้อๆ ที่นี่เค้าก็มีบริการตัดสูทใหม่เลย ราคาเสื้อสูท+กางเกง รวมกันแค่ 6 พัน เท่านั้น (ถ้าไม่รีบใช้ สั่งตัดไปเลย คุ้ม!)

แถมให้สำหรับ gimmick เล็กน้อยของที่นี่ คือเราสามารถ customize ชื่อเป็น Lapel Pin กลัดตรงปกสูทได้ด้วย


Suitselect

ร้านนี้เคยเล็งๆเอาไว้นานแล้วเพราะทุกครั้งที่เดินผ่านจะรู้สึกประทับใจกับการตัวร้าน การวางสินค้าได้ดูแพง
ร้านก็ดูที่มีพื้นที่กว้างขวาง


แต่เพราะพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้าง พอเข้ามาแล้วแอบรู้สึกงงๆเล็กน้อยเพราะด้วยขนาดของร้าน เลยไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อน
แต่หลังจากนั้นไม่นานพนักงานก็รีบเข้ามาบริการ ก่อนอื่นขอชมก่อนเลยว่าที่นี่พนักงานให้บริการดีมากๆ เหมือนถูกส่งตรงมาจากญี่ปุ่น ทุกคนดูเป็นมืออาชีพและมีความนอบน้อม ให้เกียรติลูกค้ามากๆ


สูทของที่นี่ให้ความรู้สึกค่อนข้างเป็นทางการกว่า 2 แบรนด์แรก  
หลังจากลองใส่ ส่องกระจกแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหนุ่มออฟฟิศญี่ปุ่นขึ้นมาทันที เข้ามาดูเข้ามาดู
ส่วนทรงสูทของที่นี่ จากที่ลองใส่เป็นรุ่น skinny ก็คือเล็กที่สุดแล้ว แต่ใส่แล้วก็ยังไม่ได้เข้ารูปมาก อาจเป็นเพราะที่นี่เป็นสูทที่ดูเป็นทางการขึ้นมาอีก
แต่ไม่ต้องห่วงที่นี่สามารถแก้ทรงได้ทั้งตัวเช่นกัน


ราคาสูทเฉพาะเสื้อสูทอย่างเดียวอยู่ที่ 6,990 บาท แต่ถ้าราคาทั้งเสื้อสูท+กางเกง จะอยู่ที่  11,990 บาท ถามว่าแพงมั้ย...ก็คงต้องตอบว่าแพง 555
แต่ถ้าหากมองสูทที่เนี้ยบขึ้นมาอีกระดับ ก็ถือว่าคุ้มค่าที่จะจ่ายเลย แต่! ที่ไม่ชอบคือ ไม่รู้เพราะเนื้อผ้าดีเกินไปรึป่าว รู้สึกว่ามันสากๆ
ไม่ค่อยนิ่มเหมือน 2 แบรนด์แรกและแน่นอนที่นี่มีบริการรับตัดสูทเหมือนกัน ราคา 19,990 บาท (ราคากระโดดไปไกลมาก 55)

อีกอย่างที่ประทับใจของร้านนี้คือ เจ้ารองเท้าหนังที่จริงๆแล้วเป็นรองเท้าแตะ ทำให้สะดวกมากๆเลยระหว่างลองชุด


เอาล่ะ เดินมาครบ 3 ร้านแล้ว บอกเลยครับว่าเหนื่อย 555

ในที่สุดก็ได้เวลาตัดสินใจ ก่อนอื่นต้องตัด Zara ออกก่อน (จริงๆชอบนะใส่แล้วดูแฟชั่นดี) แต่ยังดูไม่เป็นทางการ มีแบบให้เลือกน้อย และที่สำคัญคือแก้ทรงได้แค่ความยาวแขน

คราวนี้เหลือ choice ที่ต้องเลือกระหว่าง Suitcube และ Suitselect
ร้านที่ได้เงินของผมไป ก็คือ…..

Suitcube นั่นเอง !!


ทำไมถึงเลือก Suitcube ปัจจัยแรกเลยเพราะรู้สึกถึงความคุ้มค่าคุ้มราคา กับคุณภาพของสูทที่ได้มา ตอนที่พนักงานบอกราคามาคืออึ้งไปเลย และปัจจัยที่สองก็คือ ทรงของสูท ด้วยความที่เป็นสูทสำเร็จหากต้องแก้ทรงเยอะ ส่วนตัวผมแอบกลัวว่าทรงจะเสีย Suitcube ก็เลยชนะตรงนี้เพราะทำทรงมาให้เหมาะกับชายไทยหุ่นหมีแบบผมนั่นเอง

จบแล้วนะครับสำหรับรีวิวแบบบ้านๆ
จริงๆผมชอบทั้ง 3 แบรนด์นะ ทุกแบรนด์มีจุดเด่นเป็นของตัวเอง เพียงแต่โจทย์วันนี้ Suitcube อาจจะตอบผมได้ดีที่สุดแค่นั้นเอง ใครมีประสบการณ์หรือเห็นผมให้ข้อมูลส่วนไหนผิดไปก็ช่วยบอกกันได้นะครับ
ชื่อสินค้า:   สูทผู้ชาย
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่