คือตอนนี้ผมกำลังศึกษาอยู่ระดับปริญญาตรี ปี 2 (เพิ่งเปิดเทอมได้อาทิตย์กว่า) เรียนสาขาภาษาจีนครับ ซึ่งผมก็เรียนภาษาจีนมาตั้งแต่ม.4 แล้ว เกรดภาษาจีนก็ได้ 4 มาตลอด (อันนี้ยอมรับเลยว่าที่โรงเรียนปล่อยเกรด เพราะตอนเรียนได้ศัพท์น้อยมาก สอนแต่HSK) พอมาถึงปี 1 เทอม 1 ปรากฎว่าเกรดผมตก ปี 1 ผมได้เรียนภาษาจีน 3 ตัว ได้เกรด D+ C ละก็ B ผมเครียดมากเลยไปปรึกษาพ่อกับแม่ (แม่เลี้ยงนะครับไม่ใช่แม่แท้ๆ) ว่าอยากซิ่ว อยากเรียนออกแบบสื่อสาร เพราะผมถนัดออกแบบด้วย แต่พ่อแม่ด่าว่าผมโง่เองรึเปล่า ไม่ตั้งใจล่ะสิ เขาไม่ให้ผมซิ่วและบอกว่าเทอมนี้ลองดูอีกเทอม พอเกรดเทอม 2 ออก ผมเรียนภาษาจีน 3 ตัวเหมือนเทอม 1 ผมได้ B D+ และอีกตัวผมดรอปไว้เพราะเรียนไม่ไหว มันเป็นรายวิชาการอ่านภาษาจีนครับ คือยากมาก ให้อ่านนิทานภาษาจีนเป็นหน้าๆและเวาลาสอบก็ต้องจำทั้งหมดไปสอบ ข้องสอบก็ไม่มีข้อกาเป็นข้อเขียนทั้งหมด ผมกลัวติด F เลยไปดรอปไว้ก่อน แต่วิชาทั่วไปวิชาของมหาลัยฯ (พวก อังกฤษ ไทย วิทย์ ) ผมไม่มีปัญหาครับก็ได้ B B+ ไป และระหว่าเรียนมา 2 เทอมนี้ผมก็ได้ค้นพบว่าจริงๆแล้วผมไม่ได้ชอบการเรียนภาษาจีนแต่ที่ชอบจริงๆคือศิลปะและวัฒนธรรมของจีน ผมเลยไปคุยกับพ่อแม่อีกครั้งว่าผมเรียนจีนไม่ไหวนะ ผมไม่ได้ชอบ ผมชอบศิลปะและวัฒนะธรรมของเขามากกว่า พ่อกับแม่ก็ด่ากลับมาเหมือนเดิมว่าไม่ตั้งใจ พอช่วงปิดเทอมผมก็เลยแอบไปสอบมหาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ผมลงสาขาเทคโนโลยีการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ไป อ้อผมลืมบอกว่าผมเรียนที่ราชภัฏเชียงใหม่ ผมลงสมัครไปในรอบ TCAS3 และผมก็ติด ที่ไปแอบสอบผมก็กะว่าพอสอบติดแล้วจะเอาผลสอบไปให้พ่อแม่ดูว่าเราอยากเรียนตรงนี้จริงๆนะ เราถึงได้ติด เพราะว่ารอบสัมภาษณ์ทางมหาลัยเขาให้ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้เขาดูพร้อมพรีเซนต์ให้เขาฟังด้วย ก็ผมสอบออกมาก็คือผมติดแล้ว และผมก็เอาผลสอบไปให้พ่อแม่ดู สิ่งที่ผมได้มาคือคำด่าทอครับ ไปสอบทำไมไม่บอกกัน ไปสอบทำไม คิดอะไรอยู่ ทำไมทำอะไรโง่ๆแบบนี้ จุดนี้ผมเสียความรู้สึกมากครับ ผมเฟล การที่ลูกสอบติดมหาลัยได้พ่อแม่ควรดีใจสิ ใช่ไหมครับ แต่นี่คือผมพูดไม่ออกเลย และพ่อกับแม่ก็บังคับให้ผมเรียนภาษาจีนให้จบ เท่านี้แหละครับ ผมเลยอยากจะถามคนเป็นพ่อเป็นแม่คนอื่นดูว่าถ้าลูกของท่านมีปัญญาแบบนี้แล้วท่านจะยอมให้ซิ่วไหม
ถามคนเป็นพ่อเป็นแม่นะครับ ถ้าลูกบอกว่าอยากซิ่ว คนเป็นพ่อแม่จะยอมให้ลูกซิ่วไหม ขอเหตุผลด้วยครับ