วันนี้ได้คุยกับพระ หลวงพี่ซึ่งเป็นญาติกัน ได้บวชเรียนมา กว่า20 ปี เป็นดร. ไปต่างประเทศก็บ่อย ท่านไม่เคยแต่งงาน ได้คุยถึงเรื่อง เด็ก 13 คนที่หายไป
ไม่อยากเชื่อเลยว่า พระที่บวชเรียนมานาน จะเชื่อเรื่องลี้ลับ อะไรแบบนี้ เราก็แย้งท่านไปว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเรื่อง มนตร์บังตา อะไรพวกนี้
แต่หลวงพี่เชื่อสนิทใจ และบอกว่ามีจริงแน่นอน หลวงพี่ยังบอกเลยว่า พระหรือคนที่นั่งสมาธิสวดมนต์อยู่ในศีลเป็นประจำ จะเชื่อเรื่องแบบนี้
จะเห็นสิ่งที่คนปกติมองไม่เห็น หลวงพี่ก็ยังคงยืนยันอีกเช่นเคยว่า เชื่อแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ สรุป พระก็เชื่อเรื่องลี้ลับ เมืองลับแล แบบนี้ด้วย???
แถมยังเตือนเราว่า ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
แต่มันก็ขัดแข้งกับความคิดเราอยู่ดี ระหว่างวิทยาศาสตร์กับไสยศาสตร์ เพราะเราคิดว่า เรื่องลับแล ลี้ลับ ไม่น่าจะมีจริง แล้วยิ่งหลวงพี่บอก มนต์บังตา ยิ่งไม่น่าเป็นไปได้เลย ส่วนมากพระต่างจังหวัดจะเชื่อเรื่องแบบนี้ เรื่องลี้ลับ ลับแล มนต์บังตา ฯลฯ
ขนาดพระยังเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น เรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ แล้วชาวบ้านธรรมดา จะไม่เชื่อได้อย่างไร
แต่เราคิดว่า ถ้ามันพิสูจน์ไม่ได้ ก็ไม่น่าจะมีจริงมั้งเรื่อง ลี้ลับ เมืองลับแล มนต์บังตา อะไรพวกนี้
พระยังเชื่อว่าเด็ก13คนที่หายไป ต้องมีมนต์บังตา ทำให้มองไม่เห็น
ไม่อยากเชื่อเลยว่า พระที่บวชเรียนมานาน จะเชื่อเรื่องลี้ลับ อะไรแบบนี้ เราก็แย้งท่านไปว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเรื่อง มนตร์บังตา อะไรพวกนี้
แต่หลวงพี่เชื่อสนิทใจ และบอกว่ามีจริงแน่นอน หลวงพี่ยังบอกเลยว่า พระหรือคนที่นั่งสมาธิสวดมนต์อยู่ในศีลเป็นประจำ จะเชื่อเรื่องแบบนี้
จะเห็นสิ่งที่คนปกติมองไม่เห็น หลวงพี่ก็ยังคงยืนยันอีกเช่นเคยว่า เชื่อแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ สรุป พระก็เชื่อเรื่องลี้ลับ เมืองลับแล แบบนี้ด้วย???
แถมยังเตือนเราว่า ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
แต่มันก็ขัดแข้งกับความคิดเราอยู่ดี ระหว่างวิทยาศาสตร์กับไสยศาสตร์ เพราะเราคิดว่า เรื่องลับแล ลี้ลับ ไม่น่าจะมีจริง แล้วยิ่งหลวงพี่บอก มนต์บังตา ยิ่งไม่น่าเป็นไปได้เลย ส่วนมากพระต่างจังหวัดจะเชื่อเรื่องแบบนี้ เรื่องลี้ลับ ลับแล มนต์บังตา ฯลฯ
ขนาดพระยังเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น เรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ แล้วชาวบ้านธรรมดา จะไม่เชื่อได้อย่างไร
แต่เราคิดว่า ถ้ามันพิสูจน์ไม่ได้ ก็ไม่น่าจะมีจริงมั้งเรื่อง ลี้ลับ เมืองลับแล มนต์บังตา อะไรพวกนี้